รัฐสภา 26 ธ.ค.-กมธ.ฟอกเงินฯ เสนอกฎหมายปราบอาชญากรรมไซเบอร์ ให้บริษัทเจ้าของซิมและธนาคารร่วมรับผิดชอบ หยุดปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชนในภายภาคหน้า
นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และยาเสพติดแถลงความคืบหน้าตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา ในการตรวจสอบการฟอกเงินและยาเสพติด ซึ่งทราบดีว่าประชาชนได้รับความเดือดร้อนมาตลอด ว่า ทราบถึงมาตรการการปราบปรามอาจไม่ครบคลุมมากเท่าที่ควร ซึ่งจากผลสำรวจช่วงปี 2565-2567 ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากอาชญกรรมทางเทคโนโลยี พบว่ามาตรการในปัจจุบันไม่สามารถ ปราบปรามทำให้จำนวนคดีลดลงได้ สรุปได้ว่าคดีออนไลน์ทั้งหมดจำนวนกว่า 7 แสนคดีรวมมูลค่า 7 หมื่นล้านบาทและคดีการโจรกรรมทางออนไลน์ขณะนี้ ถือว่ากำลังกลายเป็นภัยคุกคามทางเศรษฐกิจระดับประเทศ เพราะมีประชาชนได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้เป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหลายรายที่ได้รับผลกระทบ
นายสุภกร ตันติไพบูลย์ธนะ คณะกมธ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด และอนุกรรมาธิการศึกษาการบังคับใช้และแก้ไขกฎหมายว่าด้วยการป้องกันปราบปรามอาชญกรรมทางเทคโนโลยี กล่าวว่าคณะกรรมาธิการจึงได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมาธิการเพื่อศึกษาและหาแนวทางแก้ไขพระราชกำหนดมาตรการในการป้องกันและปราบปรามเทคโนโลยี ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งอนุกรรมธิการได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว เห็นว่าควรยกร่างกฎหมายขึ้นมาใหม่ เป็นพระราชบัญญัติและยกเลิกพระราชกำหนดฉบับเดิม ซึ่งจะทำให้การบังคับใช้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุมการกระทำความผิดทางเทคโนโลยี
โดยร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่เสนอ มีสาระสำคัญอันเป็นผลดีในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนตลอดจนแก้ไขปัญหาต่อเนื่องคือ กำหนดองค์ประกอบของการกระทำที่เป็นความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและกำหนดความหมายของสถาบันการเงิน ผู้ประกอบธุรกิจ ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการติดต่อสื่อสารให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เพื่อให้เกิดความร่วมมือกันมากยิ่งขึ้นในการปฏิบัติตามกฎหมาย
กำหนดให้มีบัญชีที่ถูกกำหนด (บัญชีที่ถูกใช้โอนหรือรับโอนเงิน) เพื่อให้สถาบันการเงิน ผู้ประกอบธุรกิจ และผู้ให้บริการ มีความชัดเจนในการระงับการทำธุรกรรมทางการเงินกับบัญชีที่ถูกกำหนดดังกล่าวได้ทันที่ การกำหนดมาตรการในกรณีที่สถาบันการเงิน ผู้ประกอบธุรกิจ หรือผู้ให้บริการพบเหตุอันควรสงสัย หรือในกรณีที่ได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย สามารถปฏิเสธ ระงับ หรือยุติการทำธุรกรรมกับบัญชีที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และกรณีที่ถือว่าเป็นบัญชีที่ถูกกำหนด ก็จะสามารถโอนเงินจากบัญชีที่ถูกกำหนดกลับคืนไปยังบัญชีของผู้เสียหายได้อย่างทันท่วงที่
กำหนดให้มีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี มีหน้าที่และอำนาจในการกำหนดนโยบาย และแนวทางที่เกี่ยวข้องในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และให้มีสำนักงานตรวจสอบการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเพื่อทำหน้าที่ในการคืนเงิน หรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีให้กับผู้เสียหาย และกำหนดกระบวนงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงิหรือทรัพย์สินเพื่อคุ้มครองสิทธิ์ คืนเงิน หรือทรัพย์สินให้กับผู้เสียหาย ทำให้เกิดผลดีในการคืนเงิหรือทรัพย์สิน ให้กับผู้เสียหายได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
นายเลิศศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่าอยากให้สื่อถ่ายทอดไปยังประชาชนเพราะมีผู้เดือดร้อนจำนวนมากในเรื่องนี้ และตนเชื่อว่ากฎหมายฉบับนี้ที่กรรมาธิการ เตรียมจะยื่นนั้น จะสามารถช่วยหยุดเรื่องนี้ได้ไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนในภายภาคหน้า.-314.-สำนักข่าวไทย