“นพดล” ยัน MOU44 ไม่ใช่ยอมรับเส้นไหล่ทวีปของกัมพูชา

รัฐสภา 25 ธ.ค.- “นพดล” โต้ “สนธิ” รัฐบาลไม่กังวลการลงถนน เชื่อ ตอบข้อคำถามได้ทุกข้อ ยัน MOU 44 ไม่ใช่ยอมรับเส้นไหล่ทวีปของกัมพูชา เชื่อไม่ซ้ำรอยเขาพระวิหาร ชี้ต้องผ่านประตู 5 บาน แอบทำไม่ได้แน่นอน


นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้แถลงถึงกรณี เมื่อวานนี้ (24 ธ.ค.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ไปทวงคำตอบจากรัฐบาล ในประเด็นที่ได้เรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อนกัน หรือเอ็มโอยู 44 ว่า ในฐานะที่ตนเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ อยากให้ความชัดเจนกับพี่น้องประชาชน

ในเรื่องนี้นั้นประเด็นแรก คือ การเคลื่อนไหวของนายสนธิไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวล รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยไม่ได้กังวล แต่เราขอให้ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ อย่าใช้เฮทสปีชหรือวาทกรรมสร้างความเกลียดชัง และที่สำคัญอย่าใช้ความเท็จสร้างกระแสปลถกความเกลียดชังในชาติ รัฐบาลไม่ได้กังวล ถ้าลงถนนก็อาจจะรถติดนิดหน่อย


ประเด็นที่สอง ตนอยากชี้แจงว่ารัฐบาลชี้แจงได้ทุกประเด็น ในข้อห่วงใยทั้ง 6 ข้อที่ได้ยื่นไปให้รัฐบาลนั้น รัฐบาลกำลังทำคำตอบอยู่และชี้แจงได้ทุกข้อ ตนอยากจะเรียนไว้เบื้องต้นว่า รัฐบาลได้ดำเนินการเรืาองเจรจาอ้างสิทธิทั้บซ้อนบนไหล่ทวีปทับซ้อนกันต่อเนื่องจากรัฐบาลที่ผ่านๆมา ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หรือรัฐบาลพลเอกประยุทธ จันทร์โอชาก็ใช้เอ็มโอยู 44 นายกษิต ภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ก็ได้ยืนยันว่าชัดเจนว่าเอ็มโอยู 44 ไม่ได้มีปัญหาอะไร ไม่ได้ทำให้ไทยเสียดินแดนใดๆทั้งสิ้น แม้ว่ารัฐบาลนายอภิสิทธิ์จะมีมติครม.ว่าควรจะยกเลิกเอ็มโอยู 44 แต่ก็ไม่ได้มีหนังสือแจ้งไปยังรัฐบาลกัมพูชาเพื่อยกเลิก เพราะดังนั้นในแง่เนื้อหา เอ็มโอยู 44 ไม่ได้มีอะไรที่น่ารังเกียจ

ประเด็นที่สาม ข้อห่วงใยที่บอกว่าซึ่งเป็นข้อเห็นต่างระหว่างนายสนธิกับฝ่ายรัฐบาล เป็นไคลแม็กซ์นั้นคือ นายสนธิกับพรรคพวกบอกว่าเอ็มโอยู 44 จะทำให้ประเทศไทยเสียดินแดน เพราะไปยอมรับเส้นไหล่ทวีปของกัมพูชา แต่ความจริงแล้วฝ่ายรัฐบาลและกรมสนธิสัญญาและกฎหมายยืนยันชัดเจนว่าเอ็มโอยู 44 ไม่ได้เป็นการยอมรับเส้นไหล่ทวีปของกัมพูชา ท่านจะเชื่อใครระหว่าง กลุ่มพันธมิตรและกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย ตนขอเชื่อกรมสนธิสัญญาและกฎหมายและหน่วยงานของรัฐ

ประเด็นที่สี่ ฝ่ายที่คัดค้านเอ็มโอยู 44 ตอนนี้พยายามยกข้อกฎหมายให้ดูน่าเชื่อถือ เปิดประเด็นใหม่ไปเรื่อย ตั้งแต่เกาะกูดไม่เสียก็เปิดประเด็นใหม่อีก โดยอ้างว่าการเจรจาด้วยเอ็มโอยู 44 จะทำให้ไทยเสียเขตแดนเพราะเป็นการไปยอมรับเส้นของกัมพูช่ แล้วกัมพูชาจะอ้างสิทธิ์ทางประวัติศาสตร์ของกัมพูชาหรือมีสถานะการณ์พิเศษอื่นๆ ตามข้อ 15 ของอนุสัญญากฎหมายทะเล 1982 ตนยืนยัน ชัดเจนว่า ได้สอบถาม จากกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย ในเวทีของคณะกรรมาธิการการต่างประเทศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เอ็มโอยู 44 จะไม่ทำให้เกิดสิทธิ์ของกัมพูชา ที่จะอ้างสิทธิ์ทางประวัติศาสตร์ของกัมพูชาหรือมีสถานะการณ์พิเศษอื่นๆใดๆทั้งสิ้น


อย่างไรก็ตามเชื่อมั่นว่าจะไม่ซ้ำรอยกรณีของประสาทพระวิหารในอดีต เอ็มโอยู 44 ไม่ได้ทำให้กัมพูชามีสิทธิพิเศษเหนือไทย ในขณะเดียวกัน เมื่อปีพ.ศ. 2505 หรือคือ 62 ปีที่แล้ว ประเทศไทยแพ้คดีในศาสตร์โลกเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2505 โดยศาลโลกตัดสินว่าประสาทพระวิหารตั้งอยู่ใต้ดินแดนภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา โดยอ้างหลักกฎหมายปิดปากหรือ estoppel law นั่นคือใครก็ตาม ถ้ายอมรับข้อเท็จจริงไม่ปฏิเสธ ก็ถือว่าเป็นการยอมรับข้อเท็จจริงนั้น เขานำเอาแผนที่ระวาง 1:200,000 หรือแผนที่ annex 1 มาปิดปากประเทศไทย ทำให้ไทยแพ้คดีเมื่อ 62 ปีที่แล้ว ไม่ใช่ในสมัยของตน บางคนยังคิดว่าตนเป็นผู้เซ็นมอบเขาพระวิหารให้กัมพูชาซึ่งไม่จริง อันนั้นเกิดขึ้นในสมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ หากถามว่าเรื่องนี้จะซ้ำรอยกรณีเขาพระวิหารหรือไม่ ยืนยันว่าไม่เหมือนกัน และตนมองว่าประวัติศาสตร์ไม่ซ้ำรอย และในข้อ 5 ของเอ็มโอยู 44 นั้นระบุชัดเจน เนื้อหาและการดำเนินการของเอ็มโอยู 44 นั้นจะไม่กระทบสิทธิของแต่ละฝ่าย

ประเด็นที่ห้า ที่ให้ยกเลิก JC 44 ด้วยนั้น ซึ่งเป็นการแถลงร่วมระหว่างสมเด็จฮุนเซ็นกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น ไม่มีซื้อหาใดใดกระทบสิทธิทางด้านเขตแดนของไทย ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอาณาเขตใดๆ เป็นเพียงการตระหนักว่ามีการลงนามเอ็มโอยู 44 เท่านั้น เพราะฉะนั้นทั้ง JC 44 และเอ็มโอยู 44 ไม่มีพิษมีภัยกับประเทศไทยอย่างแน่นอน

ประเด็นที่หก หากท่านเป็นคนบริหารประเทศ จะเลือกเชื่อใครระหว่างม็อบกลุ่มคนที่บอกว่าไม่เห็นด้วย หรือหน่วยงานของรัฐ ในเรื่องนี้นั้นเรามีกองทัพเรือ มีกรมอุทกศาสตร์ กระทรวงการต่างประเทศ กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กรมเอเชียตะวันออก เพราะฉะนั้นท่าทีของหน่วยงานของรัฐนั้นชัดเจนว่า เอ็มโอยู 44 ไม่ได้ทำให้ไทยเสียสิทธิ์ในด้านเขตแดนใดๆทั้งสิ้น เป็นเพียงกรอบในการเจรจา ไม่ได้ยอมรับสิทธิ์เขตแดนใดๆเลย เป็นเพียงแค่การตกลงมาคุยกัน ส่วนคุยกันรู้เรื่องหรือไม่รู้เรื่องนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ย้ำอีกทีนึงว่าไม่มีรัฐบาลไทยชุดไหนไปยอมรับเส้นไหล่ทวีปของกัมพูชา ซึ่งเราเห็นตรงกันกับฝ่ายคัดค้านว่าเราไม่เห็นด้วยกับเส้นไหล่ทวีปของกัมพูชา

“ขีดเส้นใต้ 500 เส้นครับ เราไม่ยอมรับเส้นไหล่ทวีปของกัมพูชา เพราะไม่ได้ลากตามกฎหมายระหว่างประเทศ” นายนพดล กล่าว

ประเด็นสุดท้าย หากถามว่าเรื่องนี้จะงุบงิบแอบทำได้หรือไม่ นายทักษิณจะยกหูโทรศัพท์หาสมเด็จฮุนเซ็น แล้วบอกว่าตกลงกันตามนี้ได้หรือไม่ หรือน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โทร นายฮุนมาเหน็ด นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ว่าตกลงเอาอย่างนี้ได้หรือไม่ ยืนยันว่าทำไม่ได้ เอ็มโอยู 44 จะต้องเจรจาโดย JTC เท่านั้น ซึ่งประกอบไปด้วย ข้าราชการระดับสูง ปลัดกระทรวง เจ้ากรม กระทรวงพลังงาน รัฐมนตรีต่างๆ ดังนั้นแอบทำไม่ได้เด็ดขาด ล้านเปอร์เซนต์ จะลงนามได้นั้นต้องผ่านประตูถึง 5 บาน ผ่านคณะทำงาน ผ่านคณะอนุJTC คณะกรรมการJTC ผ่านคณะรัฐมนตรี และยังต้องมาผ่านสภาผู้แทนราษฎร และรัฐสภาเห็นชอบ โปร่งใสตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน

นายนพดล กล่าวว่า อยากให้พี่น้องประชาชนได้สบายใจว่าในโลกของข้อมูลข่าวสาร ไหลเวียนวันหนึ่งมหาศาล ต้นขอใช้คำพูดของแกนนำกลุ่มที่คัดค้านว่า ความจริงมีหนึ่งเดียว และความจริงอยู่ที่นี่ อยู่ที่สภา อยู่ที่กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย อยู่ที่พรรคเพื่อไทย .314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

กู้ซากคานสะพานลอยคนข้ามพังถล่ม เปิดการจราจรแล้ว

23 ส.ค. – เจ้าหน้าที่เร่งหาสาเหตุคานสะพานลอยคนข้ามขนาดใหญ่ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง มูลค่าเกือบ 7 ล้านบาท พังถล่มลงมากีดขวางถนน สาย 317 จันทบุรี–สระแก้ว ล่าสุดกู้ซากคานสะพานลอย ออกจากถนน และเปิดการจราจรได้ตามปกติแล้ว เหตุคานสะพานลอยถล่ม บริเวณพื้นที่ก่อสร้างสะพานลอยข้ามถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ระหว่างฝั่งขาเข้าเมือง บ้านมะทาย ต.ปัถวี ข้ามไปยังตลาดกลางเทศบาลตำบลมะขามเมืองใหม่ อ.มะขาม จ.จันทบุรี เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 22.20 น. ที่ผ่านมา เหตุดังกล่าวทำให้เกิดผลกระทบ สภาพการจราจรติดขัด ตลอดช่วงสายและบ่าย เป็นระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ได้ พยายามเร่งกู้ซากสะพานลอย ประสาน นำเครื่องจักรกลหนักทั้ง รถแบ็กโฮ 3 คัน รถแบ็กโฮหัวขุดเจาะ 2 คันและรถเครนใหญ่อีก 1 คัน ระดมลงพื้นที่เกิดเหตุ โดยบริษัทผู้รับเหมา ต้องใช้รถหัวขุดเจาะ 2 คัน ทำการขุดเจาะกระแทกแผ่นคอนกรีตให้แตก จนเหลือแต่เส้นเหล็กจากนั้นได้ใช้ชุดเชื่อมทำการใช้ไฟแก๊สตัดเหล็ก แยกชิ้นส่วนของคานคอนกรีตออก […]

ตามล่านักโทษชายหลบหนีเรือนจำนนทบุรี

นนทบุรี 23 ส.ค. – นักโทษเรือนจำนนทบุรีหลบหนี ขณะออกมาทำงานนอกเรือนจำ เจ้าหน้าที่พบชุดนักโทษ ถอดทิ้งไว้ใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ อยู่ระหว่างไล่ติดตาม กล้องวงจรปิด บันทึกเหตุการณ์ ช่วงบ่ายวันนี้ หลังตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ได้รับเเจ้งว่ามีนักโทษชายหลบหนีจากร้านหับเผย อ.เมือง จ.นนทบุรี ตรวจสอบเบื้องต้นทราบชื่อ นช.อนุชิต อายุ 29 ปี เป็นผู้ต้องขังกองนอกประจำร้านหับเผย ของเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ชุดที่หลบหนีสวมชุดสีส้มของเรือนจำ ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อเรมเบสต้า สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร หลบหนี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พบชุดที่นักโทษสวมใส่ถอดทิ้งไว้ใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ อยู่ระหว่างไล่ติดตาม สำหรับ นช.อนุชิต สุขสด ถูกตำรวจ สภ.บางบัวทอง จับกุมเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2567 ข้อหาพยายามลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น โดยใช้ยานพาหนะในการกระทำผิด หลังจับกุม สภ.บางบัวทอง นำตัวส่งเรือนจำกลางจังหวัดนนทบุรี วันที่ 27 ธันวาคม 2567 ศาลตัดสินโทษจำคุก 1 ปี โดยจะพ้นโทษในวันที่ในวันที่ […]

ผบ.ทบ. ตรวจฐานภูมะเขือ ขอบคุณกำลังพลทุ่มเทปฏิบัติงาน

23 ส.ค.- ผบ.ทบ. ตรวจเยี่ยมฐานปฏิบัติการภูมะเขือ ย้ำกำลังพลปฏิบัติงานเต็มความสามารถ ตั้งอยู่บนความปลอดภัย เมื่อวันที่ 23 ส.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปก.ทบ.) พร้อม พล.ท.ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสนาธิการทหารบก พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พล.ต.ธีรนันท์ นันทขว้าง ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรองทางทหาร เดินทางมาตรวจเยี่ยม และรับฟังบรรยายสรุปการปฏิบัติงานของฐานการภูมะเขือ โดยมี พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พร้อมด้วยฝ่ายเสนาธิการกองกำลังสุรนารี, ผู้บังคับหน่วย และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ให้การต้อนรับ และร่วมปฏิบัติภารกิจ ผู้บัญชาการทหารบก รับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์ และการปฏิบัติงาน ณ ฐานปฏิบัติการภูมะเขือกลาง พร้อมทั้งมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ฐานปฏิบัติการภูมะเขือ ผู้บัญชาการทหารทัพบก กล่าวขอบคุณกำลังพลทุกนายที่ทุ่มเทปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ ให้ปฏิบัติภารกิจอย่างปลอดภัย จากนั้นได้เดินดูบริเวณฐานธุรการและพื้นที่ต่างๆ บนภูมะเขือ -สำนักข่าวไทย

เร่งเคลียร์ซากสะพานลอยถล่ม ขวางถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว

จันทบุรี 23 ส.ค.- เร่งเคลียร์ซาก! เหตุสะพานลอยคอนกรีตที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง พังถล่มขวางถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ส่งผลเช้านี้การจราจรติดขัดสะสม คาดเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท เมื่อเวลาประมาณ 22.20 น. ที่ผ่านมา พื้นที่ก่อสร้างสะพานลอยข้ามถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ระหว่างฝั่งขาเข้าเมือง บ้านมะทาย ต.ปัถวี ข้ามไปยังตลาดกลางเทศบาลตำบลมะขามเมืองใหม่ อ.มะขาม จ.จันทบุรี กล้องวจรปิดร้านขายของชำบันทึกภาพวินาทีระทึก  ขณะคานสะพานพังถล่ม โดยยังมีคนงานเดินอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุหลายสิบคน โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ จากการตรวจสอบความเสียหายในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบรถเทรลเลอร์ 1 คัน และรถเครนของบริษัทรับเหมาเอกชนอีก 1 คัน ถูกคานสะพาน คอนกรีตที่หนักรวมกว่า 116 ตัน ถล่มลงมาทับพังเสียหาย กีดขวางการจราจรทั้งขาเข้าและขาออก เบื้องต้นกรมทางหลวงซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้รับเหมา เร่งดำเนินการใช้แยกคอนกรีตตัดคานสะพานออก เพื่อง่ายต่อการเคลียร์เส้นทาง เนื่องจากเป็นถนนสายหลัก ส่วนมูลค่าความเสียหายคาดไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท สอบถามเจ้าหน้าที่กรมทางหลวง ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่าสะพานลอยแห่งนี้ มีรูปแบบการก่อสร้างประกอบด้วย เสาเตาหม้อคอนกรีตเสริมเหล็กจำนวน 2 ต้น มีความกว้างของทางเดินบนสะพาน 2.4 เมตร พร้อมราวจับและหลังคายาวตลอดทางเดินราว 36 เมตร ซึ่งครอบคลุมบันไดทั้งขาขึ้นและลง […]