“สว.นันทนา” รับหนังสือกลุ่มผู้เสียหายแชร์ AIMC Global

รัฐสภา 24 ธ.ค.-“สว.นันทนา” รับหนังสือกลุ่มผู้เสียหายแชร์ AIMC Global มูลค่ากว่า 241 ล้านบาท หลังยื่นเรื่องต่อดีเอสไอเงียบเกือบ 3 ปี คดีไม่คืบหน้า

กลุ่มผู้เสียหายแชร์ AIMC Global เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อนางสาวนันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา ขอให้ติดตามทวงถามคดี กรณีกลุ่มผู้เสียหายได้เข้าร้องทุกข์ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอลไอ) ตั้งแต่ปี 2565 เพื่อให้ดำเนินคดี บริษัท AIMC Global หลังถูก
หลอกชักชวนร่วมลงทุนสกุลเงินดิจิทัลต่างๆ แต่ไม่สามารถจ่ายผลตอบแทนได้ตามที่โฆษณาไว้ ทำให้สมาชิกได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก และปัจจุบันยังมีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง พร้อมเรียกร้องเงินเยียวยาเงินคืนแก่ผู้เสียหายต่อไป โดยขอให้ช่วยตรวจสอบ ติดตามการทำงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในเรื่องที่เกี่ยวกับการดำเนินคดีต่อบริษัทดังกล่าว ซึ่งสมาชิกวุฒิสภาสามารถใช้อำนาจหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาตรา 150 ร่วมตรวจสอบในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติอีกทางหนึ่งด้วย


สว.นันทนา กล่าวว่า คดีนี้สืบเนื่องจาก SCG CORPORATION หรือ AIMC GLOBAL หรือ MAXNA INFINITY ชักชวนให้ประชาชนร่วมลงทนในสกุลเงินดิจิตอลเหรียญคริปโต (USDT) ผ่านเอ็กเช้น โดยโฆษณาจูงใจด้วยผลตอบแทนสูงอ้างว่าจะนำไปลงทุนในธุรกิจที่มีกำไรดี แต่สุดท้ายเราไม่สามารถจ่ายผลตอบแทนได้ตามที่โฆษณาไว้ ทำให้สมาชิกได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก โดยเมื่อวันที่ 12 ม.ค.65 กลุ่มผู้เสียหายรวมตัวกันไปร้องเรียนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นครั้งแรก ต่อมาในวันที่ 17 ม.ค. 65 ทางดีเอสไอ มีหนังสืบแจ้งกลับว่า แจ้งรับเรื่องไว้แล้วอยู่ในระหว่างการพิจารณาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเบื้องต้น ในวันที่ 26 ม.ค.65 ทางดีเอสไอ มีหนังสือแจ้งกลับตัวแทนกลุ่มผู้เสียหายว่า อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้พิจารณากรณีดังกล่าว และมอบหมายให้กองบริหารคดีพิเศษดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยในระหว่างนี้ทางแอดมินได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอตลอด เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่เจ้าหน้าที่ เช่น การรวบรวมหลักฐาน และสรุปความเสียหายให้แก่เจ้าหน้าที่ เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของดีเอสไอ คือ 100 ล้านบาท หรือ ผู้เสียหายเกิน 300 คน จนกระทั้งในวันที่ 18 มี.ค.65 ทางดีเอสไอมีหนังสือแจ้งกลับว่า กรณีดังกล่าวไม่เข้าข่ายความผิดแต่เพื่อเป็นยุติธรรรมทางดีเอสไอจะส่งเรื่องร้องทุกข์ของประชาชนผู้เสียหายทั้งหมดไปที่ 3 หน่วยงาน คือ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และกรมสรรพากร โดยในระหว่างที่เรื่องถูกส่งไปยังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ทางแอดมินยังคงติดต่อกับทางตำรวจสอบสวนกลางอยู่ และส่งข้อมูลพร้อมทั้งติดต่อประสานงานกันกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งกองตำรวจสอบสวนกลางพิจารณาเห็นว่า การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดเข้าข่ายเกณฑ์ที่ทางดีเอสไอกำหนด และสามารถรับเรื่องไว้ได้ ต่อมาในวันที่ 17 พ.ค.65 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จึงมีหนังสือแจ้งส่งเรื่องกลับไปที่ดีเอสไอให้ทำคดีต่อไปไปได้ จนกระทั่งในวันที่ 31 ส.ค.65 ทางดีเอสไอจึงมีหนังสือเสียหายทยอยให้ไปถ้อยคำตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน 2565 โดยในวันนั้นมีผู้เสียหายจำนวนหนึ่งเดินทางไปดีเอสไอและให้ถ้อยคำกับเจ้าหน้าที่ จึงเป็นที่มาของเอกสารเส้นทางการเงิน ซึ่งเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเป็นคนให้ผู้เสียหายมากรอกรายละเอียด และรีบส่งก่อนวันที่ 31 ต.ค.65 ทั้งนี้ จนถึงปัจจุบันมูลค่าความเสีย 41,688,437.48 ล้านบาท ผู้เสียหายเบื้องต้น 319 คน ซึ่งกลุ่มผู้เสียหายไม่ทราบว่าในปัจจุบัน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ยังคงดำเนินการสืบสวนสอบสวนคดีอยู่หรือไม่อย่างไร เพราะไม่ทราบผลการดำเนินงาน และล่วงเลยระยะเวลามาจะครบ 3 ปี ในวันที่ 12 ม.ค.2568 นี้แล้ว และหลังจากยื่น สว.นันทนา แล้ว กลุ่มผู้เสียหายจะไปยื่นหนังสือทวงถามความคืบหน้าการทำงานที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ด้วย จึงขอให้ สว.นันทนา ในฐานะสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งมีบทบาทในการตรวจสอบความโปร่งใสของหน่วยงานรัฐ ช่วยดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีนี้และติดตามทวงถามไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยเร่งด่วน เพื่อบรรเทาและเยียวยาความเดือดร้อนของกลุ่มผู้เสียหายต่อไป

ขณะเดียวกัน หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ในกลุ่มไลน์แชร์นี้ มีคนอยู่ในห้องนั้นกว่า 6,000 คน คาดการณ์ว่า มีมูลค่าความเสียหายเกือบ 10,000 ล้านบาท ซึ่งในวงแชร์นี้ก็มีกลุ่มผู้มีชื่อเสียง ดาราอยู่ด้วย และกลุ่มเราที่เสียหายกว่า 300 ราย ได้ร้องไปยังดีเอสไอมาสองปีกว่าแล้ว แต่คดีไม่มีความคืบหน้า ทุกครั้งที่ทวงถามเจ้าหน้าที่ก็จะบอกว่า ออกต่างจังหวัด และจะติดต่อกลับมา แต่ไม่ได้รับการติดต่อ ไม่ว่าจะโทรศัพท์กี่ครั้ง ก็ได้รับคำตอบเช่นนี้เหมือนเดิม จึงได้มาร้องเรียนต่อวุฒิสภา ทั้งนี้ พบว่า มีแม่ทีมบางคนขู่ว่า ไม่ให้ฟ้องร้องเรื่องนี้ เพราะเขารู้จักผู้ใหญ่ในดีเอสไอ จึงเป็นประเด็นสำคัญที่มาร้องเรียนกับทาง สว. และมีแม่ทีมบางคน ถึงขั้นขู่ว่า จะอุ้มฆ่าผู้เสียหายที่มาร้องเรียนด้วย ขณะเดียวกัน ผู้เสียหายยังเปิดเผยด้วยว่า ปัจจุบันแชร์วงนี้ ยังมีการเปิดวงดำเนินกิจการอยู่.-312.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ศาล รธน.ขยายเวลา นายกฯ ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหารอบ 2

ศาล รธน. 30 ก.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมากขยายเวลา นายกฯ ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหารอบ 2 คลิปสนทนา “ฮุนเซน” ถึง 4 ส.ค.นี้ ชี้อนุญาตเป็นครั้งสุดท้าย ไม่ยื่นแจงถือว่าไม่ติดใจ ศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ครั้งที่ 2 ของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้องในคดีที่ประธานวุฒิสภาส่งความเห็นของสมาชิกวุฒิสภา 36 คน ที่เข้าชื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ จากกรณีปรากฏคลิปเสียงการสนทนาระหว่างนางสาวแพทองธาร ผู้ถูกร้อง กับสมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา เผยแพร่ทางสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 68 และนางสาวแพทองธาร […]

โรงงานพลุระเบิด เสียชีวิต 9 ราย เจ็บสาหัสอีกจำนวนหนึ่ง

สุพรรณบุรี 30 ก.ค. – เหตุโรงงานพลุระเบิด ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี พบผู้เสียชีวิต 9 ราย และบาดเจ็บสาหัสอีกจำนวนหนึ่ง ความคืบหน้าเหตุโรงงานพลุระเบิด ที่บ้านหลังหนึ่ง พื้นที่บ้านโพธิ์ทราย ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิต 9 ราย และผู้บาดเจ็บสาหัสอีกจำนวนหนึ่ง บ้านเรือนเสียหาย 2 หลัง รถยนต์ 1 คัน เบื้องต้นไม่พบใบอนุญาตทำพลุ เจ้าหน้าที่ EOD และพิสูจน์หลักฐานเร่งดำเนินการตรวจสอบ ขณะที่ดินปืนยังปะทุไม่หยุด ลูกสาวของคนงานรายหนึ่งที่เข้าไปทำงานในบ้านหลังดังกล่าว เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า แม่ของตนปกติทำงานที่ไร่แตงโม เพิ่งมารับจ้างทำพลุลูกนกได้ประมาณ 2 วัน ตอนนี้พยายามโทรติดต่อแม่ แต่ติดต่อไม่ได้ ภาวนาขอให้แม่ปลอดภัย สำหรับเหตุการณ์พลุระเบิดในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี เกิดขึ้นหลายครั้ง แต่เฉพาะที่ ต.บ้านโพธิ์ เกิดขึ้นมาแล้ว 2 ครั้ง ปี 2549 ปี 2558 รวมครั้งนี้เป็นครั้งที่ […]

“พล.อ.ณัฐพล” สั่ง ทบ.เชิญ ผช.ทูตทหารต่างชาติ ลงชายแดน

กลาโหม 30 ก.ค.- “พล.อ.ณัฐพล” สั่ง ทบ.เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ ลงพื้นที่ดูความเสียหายประชาชนจากการปฏิบัติของกัมพูชา พร้อมยืนยันประท้วงแน่ ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ต้องบอกนานาชาติ ชี้เป็นธรรมชาติ “กัมพูชา” บิดเบือน แต่ไทยมีหลักฐานหมด ทั้งภาพถ่ายทางอากาศ-เทคโนโลยี เข้าสู่กระบวนการเจรจา ยอมรับทำงานภายใต้แรงกดดัน วอนสื่อทำความเข้าใจ ชี้แจง ปชช. (30 ก.ค.68) เวลา 08.15 น. พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนเป็นประธานการประชุมสภากลาโหม ถึงกรณีฝ่ายไทยเตรียมให้กองทัพบกประสานผู้ช่วยทูตทหารนานาประเทศ ประจำประเทศไทยลงพื้นที่ชายแดนว่า จะพาไปดูความสูญเสียของพลเรือนที่ได้รับการปฏิบัติจากฝ่ายทหารกัมพูชา ซึ่งเพิ่งได้สั่งการไปที่กองทัพบกเมื่อคืนนี้ ขณะนี้ยังไม่ทราบว่า จะมีประเทศใดบ้างเข้าร่วม ทั้งนี้พยายามประสานงานกับประเทศมาเลเซียให้มาดูเรื่องของสถานการณ์ในพื้นที่ด้วย ส่วนกรณีเรื่องการละเมิดข้อตกลงของกัมพูชาที่มีการยิงตามแนวชายแดน เรื่องนี้ต้องมีการประท้วง และสื่อสารให้นานาชาติรับทราบ โดยได้ย้ำกับกองทัพบกให้สื่อสารทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ซึ่งโฆษกทุกเหล่าทัพต้องช่วยกัน รวมทั้งของศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา หรือ ศบ.ทก. พร้อมย้ำว่า หลักของการหยุดยิงตามข้อตกลงคือ ทุกหน่วยต้องหยุด อยู่กับที่ และรอจนกว่า จะมีผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา หรือ จีบีซี ส่วนที่ฝ่ายกัมพูชาปฏิเสธการละเมิดข้อตกลงการหยุดยิงนั้น […]

สภาฯ ยืนไว้อาลัยแด่ผู้เสียชีวิตจากเหตุสู้รบชายแดน

รัฐสภา 30 ก.ค.- “สภาฯ” ยืนไว้อาลัย ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน “ครูมานิตย์” ชื่นชมทหารกล้า ลั่นถ้าไม่มีอาวุธที่ทันสมัยคนสุรินทร์ตายเป็นเบือ ดีไม่ดีรวมตัวเอง เผย ไปนั่งเฝ้าที่ศูนย์อพยพ มีทั้งจิตตก ซึมเศร้า กินข้าวไม่ได้ ต้องกินกาแฟแทน เพราะคิดถึงบ้าน พร้อมเสนอลดค่าน้ำ ค่าไฟ บ้านที่ผู้อพยพไปอยู่ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม โดยในช่วงหารือ นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย หารือถึงปัญหาการสู่รายแดนไทย กัมพูชา ว่า ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.จนถึงปัจจุบัน ที่เกิดเหตุรุนแรงการสู่รบในหลายจังหวัด ซึ่ง จังหวัดที่โดนรุนแรงมากที่สุดคือจ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นเป้าหมายเพราะมีประสาทต่างๆแและอันดับสองคือจังหวัดศรีสะเกษซึ่งมีหลายมิติ แต่มิติแรกที่จบไปโดยตัวมันเองว่าทหารมีไว้ทำไม ถ้าไม่มีทหารไม่มีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยคนสุรินทร์ตายเป็นเบือ ดีไม่ดีรวมตนด้วย เพระายุทธวิธีในวันนั้นเห็นได้ชัด ก่อนที่จะชะลอการหยุดยิง เพราะตนยังไม่เชื่อว่าจะยุติโดยสิ้นเชิง เพราะตนอยู่ในพื้นที่ แต่ทหารเรามีความกล้าหาญและมียุทธวิธีที่ดีประคับประคองคิดพื้นที่ไม่ให้พี่น้องเราเดือดร้อนไปมากกว่านี้ “เสียใจกับ 15 วีรบุรุษ จึงขอฝากทางราชการว่าอะไรที่มอบให้เขาได้ใหญ่ก็มอบให้เถอะไม่ว่าจะเป็นการชดเชยให้กับครอบครัว หรือเพิ่มยศให้กับเขาให้โอกาสลูกของเขา ผมเกิดมาก็เพิ่งเห็นเที่ยวนี้ว่าเอฟ […]