“หญิงหน่อย” ถาม นายกฯ อิ๊งค์ เตรียมรับมือเศรษฐกิจ ปี 68 หรือยัง

รัฐสภา 20 ธ.ค.-“หญิงหน่อย” ถาม นายกฯ อิ๊งค์ เตรียมรับมือเศรษฐกิจ ปี 68 หรือยัง ประเทศไทยเจอศึก 3 ด้าน ทั้งนโยบายทรัมป์-จีน-ยุโรป หวั่น ไทยกระทบหนักกว่านี้แน่

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงเศรษฐกิจประเทศไทยภายใต้รัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่าในปี 2568 เศรษฐกิจไทยมีปัญหาอยู่แล้ว คือหนี้ภาคครัวเรือนที่มีสูงถึง 92% ที่ยังไม่ได้รับ การแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม แต่ก็ยังดีที่รัฐบาลมีมาตรการเรื่องการแก้หนี้เสียออกมา แต่หนี้เสียก็เป็นเพียงส่วนหนึ่ง


อย่างไรก็ตาม อยากให้รัฐบาลมองภาพรวม ว่าการแก้หนี้ภาคครัวเรือนจะต้องทำอย่างไร สิ่งที่สำคัญ คือ สิ่งที่รัฐบาลโดยพรรคแกนนำพูดไว้เสมอคือ การเร่งสร้างรายได้และลดค่าใช้จ่าย ซึ่งการเร่งสร้างรายได้ เรายังไม่เห็นเป็นรูปธรรม เพราะการแจกเงิน ขุดโคลนขาย ไม่ใช่การเร่งสร้างรายได้ แต่ต้องเร่งสร้างรายได้ด้วยการให้ทุน อาจจะช่วยสนับสนุน กฎหมายของพรรคไทยสร้างไทยก็ได้ คือ กฎหมายกองทุนเครดิตประชาชน ที่จะให้ทุนกับประชาชนดอกเบี้ยต่ำร้อยละ 1 ต่อเดือน โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เพื่อให้ประชาชนสามารถตั้งตัวได้ รวมถึงการเพิ่มทักษะและการหาตลาด

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของการลดรายจ่าย จะเห็นว่าวันนี้ของแพงทั้งแผ่นดิน ซึ่งเกิดจากต้นทุนพลังงานที่สูง ทั้งค่าน้ำมันและค่าไฟ ซึ่งสูงเกินความจำเป็น รัฐบาลต้องกล้าหาญที่จะปรับโครงสร้าง ซึ่งตนสนับสนุนนโยบายของนางสาวแพทองธาร ที่บอกว่าจะทลายทุนผูกขาด และโอกาสที่จะทำให้กับประชาชน


“ถ้าสามารถปฏิรูปโครงสร้างพลังงานได้ จะทำให้น้ำมันลดทันที 5 บาท ค่าไฟลดทันที 1 บาท ไม่ใช่ของขวัญประชาชนที่ลดค่าไฟให้ จาก 4.18 บาท เหลือ 4.15 บาท อย่างนี้มันไม่ได้”คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลต้องช่วยเรื่องของเงินทุน เพื่อให้คนตั้งตัวได้ ก็จะสามารถแก้หนี้ได้ถาวร โดยเฉพาะหนี้นอกระบบ ซึ่งหนี้คือปัญหาภายในที่ประเทศไทยต้องเผชิญและ ยังมีอีกหลายเรื่อง เช่น เราไม่มีศักยภาพในการแข่งขันกับประเทศอื่น ผลิตสินค้าที่ล้าสมัย ที่โลกเขาไม่ต้องการแล้ว ดังนั้นการปฏิรูปโครงสร้างการศึกษาและการพัฒนาฝีมือ และความรู้ในการผลิตสินค้า จึงเป็นเรื่องสำคัญ

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ปีหน้าอยากจะให้ นางสาวแพทองธาร ได้เตรียมรับมือและมีมาตรการโดยเร็ว แม้การท่องเที่ยวจะสามารถหาเงินมาชดเชยได้ แต่ก็ไม่เท่ากับการส่งออก เพราะเราจะเจอศึก 3 ด้าน คือ 1. ศึกทรัมป์ 2.0 เพราะเขาประกาศเรียบร้อยแล้วว่า อย่างไรก็ต้องขึ้นภาษีแน่ กับประเทศที่ได้ดุลการค้าเขา ซึ่งประเทศไทยเป็นหนึ่งในนั้น แต่ของไทยโดนหนักเพราะลูกค้าอันดับหนึ่ง คือสหรัฐ ดังนั้นสินค้าของเราที่ไปสหรัฐมากที่สุดจะถูกขึ้นภาษี ทำให้การส่งออกทำได้ยาก อย่างนี้นายกฯ ได้เตรียมตัวเจรจากับสหรัฐอย่างไร เพราะโดนัลด์ ทรัมป์ จะรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 และเขาจะทำนโยบายนี้ทันที 2. ตลาดใหญ่ที่เราส่งออกคือจีน แต่ทรัมป์จะขึ้นภาษีจีน ซึ่งจะทำให้สินค้าจีนไปสหรัฐยาก เขาก็ต้องส่งมาประเทศเพื่อนบ้านคือประเทศไทย ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยเจอปัญหา สินค้าต่างประเทศทะลักเข้าไทยจำนวนมาก ถ้าเราไม่มีมาตรการที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการให้เกิดความเท่าเทียมทางการแข่งขัน ระหว่างสินค้าต่างชาติที่ราคาถูกกับสินค้าไทย เราก็ต้องช่วยให้มีความสมดุลในการแข่งขัน และเราจะเจอสินค้าไทยไปจีนยากขึ้น 3. เราเจอยุโรป ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องพลังงาน แต่วันนี้ตนยังไม่เห็นอย่างชัดเจนในเรื่องนโยบายพลังงานทดแทน พลังงานสีเขียว ซึ่งมีความสำคัญมาก ถ้าเรายังผลิตพลังงาน โดยใช้ พลังงานฟอสซิล นอกจากราคาสูงแล้วเขาจะขึ้นกำแพงภาษีเรา ทำให้เราส่งออกไม่ได้อีก จึงอยากถามว่านางสาวแพทองธาร ได้เตรียมการเหล่านี้เพื่อสร้างความมั่นใจ ให้ผู้ประกอบการชาวไทย โดยเฉพาะเอสเอ็มอีให้เขามั่นใจได้อย่างไรว่า ปีหน้าเขาจะเดินต่อได้ ไม่อย่างนั้นเศรษฐกิจจะหนักกว่านี้


เมื่อถามว่าในฐานะ พรรคไทยสร้างไทยเป็นฝ่ายค้าน ในการอภิปรายในปี 68 ได้จองกฐินกระทรวงไหนไว้หรือยัง คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ต้นเดือนมกราคม 68 เราจะมีการหารือร่วมกัน แม้จะมีการหารือกันไปแล้วเมื่อ 18 ธ.ค. แต่เวลาพูดคุยกันน้อย จึงจะต้องมีการหารือกันหลังปีใหม่อีกครั้งหนึ่ง แต่ตนขออนุญาตที่จะไม่เสียมารยาทพูดก่อน ขอพูดพร้อมกันหลังจากที่มีมติของฝ่ายค้านแล้ว.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สื่อเกาะติด! นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก ถกผลประชุม JBC

บ้านพิษณุโลก 16 มิ.ย.- นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก เรียกถกหน่วยงานความมั่นคง หารือผลประชุม JBC กำหนดแนวทางแก้ปัญหาข้อพิพาทพื้นที่ชายแดน ท่ามกลางสื่อมวลชนเกาะติดสถานการณ์ใกล้ชิด ความเคลื่อนไหวของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เช้าวันนี้ (16 มิ.ย.) ได้แจ้งเลื่อนภารกิจการให้ นางสาวสุชาตา ช่วงศรี Miss World 2025 และคณะ Miss World เข้าคาราวะ ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 10.00 น. ไปเป็นวันพรุ่งนี้ (17 มิ.ย. 68) โดยนายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมด่วนหน่วยงานด้านความมั่นคง ถึงกรณีผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 หรือ The Sixth Meeting of The Cambodian-Thai Joint Commission on Demarcation for […]

‘รองแม่ทัพภาค 2’ โพสต์ 5 หมายเหตุ สะท้อนปมชายแดน

16 มิ.ย.- ‘รองแม่ทัพภาค 2’ โพสต์หมายเหตุ 5 ข้อ สะท้อนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจรจา JBC พร้อมตั้งคำถาม “คุยกันดีๆ แล้วทำไมต้องฟ้องศาลโลก?” พลตรี ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 โพสต์หมายเหตุ 5 ประเด็น สะท้อนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา

กต.แถลงผิดหวังกัมพูชาไม่ร่วมมือไทย ขาดความตั้งใจแก้ปัญหา

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กต.แถลงผิดหวังกัมพูชาไม่ร่วมมือไทย แก้ปัญหาลดความตึงเครียด ขาดความตั้งใจจริงในการใช้กลไกทวิภาคี บนพื้นฐานเพื่อนบ้านที่ดี พร้อมโต้ทุกประเด็นที่ถูกกล่าวหา เมื่อ 22.30 น. กระทรวงการต่างประเทศของไทย ออกแถลงการณ์ผลการประชุม JBC ทั้งที่เดิมนัดสื่อเเถลงวันนี้ (16 มิ.ย.) ระบุว่าการหารือมีความคืบหน้าสำคัญ 4 เรื่อง ซึ่งหลักๆ ทั้ง 4 เรื่องในคำเเถลงออกมาตรงกัน ซึ่งการรับรองผลการประชุม JTSC ครั้งที่ 4 สองฝ่ายเห็นตรงกันต่อตำแหน่งที่ตั้งของหลักเขตถึง 45 หลัก และเห็นชอบให้นำเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ในการจัดทำภาพถ่ายทางอากาศเพื่อความรวดเร็วในการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน ซึ่งในการเห็นชอบให้เเก้ไขแผนแม่บทว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างไทยกับกัมพูชา จัดทำขึ้นเมื่อปี 2546 (TOR 2003) ก็นำเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ในการจัดทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศเช่นกัน ส่วนในข้อ 4 เห็นชอบให้มีการจัดทำข้อกำหนดทางเทคนิคการเดินสำรวจในพื้นที่ตอนที่ 6 ไทยลงรายละเอียดว่า เป็นพื้นที่จากเขาสัตตะโสม จนถึงหลักเขตแดนที่ 1 ช่องสะงำ จังหวัดศรีสะเกษ โดยมอบหมาย JTSC […]

อุตุฯ เผยไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 40%

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 40% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส .-สำนักข่าวไทย