ทำเนียบ 19 ธ.ค.- นายกฯ เปิดโครงการซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทย ดันเชฟไทยเป็นทูตวัฒนธรรมเผยแพร่อาหารไทยสู่ต่างชาติ สร้างงาน-สร้างรายได้ ชู ครัวไทยสู่ครัวโลกส่งออกสินค้าเกษตร
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์สาขาอาหาร และปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “Soft Power Food” กับการพัฒนาประเทศไทย ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล โดยมีนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
นายเอกนัฏ กล่าวว่า รัฐบาลไทยตระหนักถึงความสำคัญของซอฟต์พาวเวอร์ในฐานะเครื่องมือที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านนโยบายหนึ่งครอบครัวหนึ่งซอฟต์พาวเวอร์ One Family One Soft Power : OFOS ด้วยการขับเคลื่อนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ 14 สาขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารไทย เป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ที่ทรงพลังที่สุด เพราะเป็นตัวแทนของวัฒนธรรม วิถีชีวิต และความคิดสร้างสรรค์ กระทรวงอุตสาหกรรมผลักดันโครงการดังกล่าวและมีเป้าหมายสร้างงานและอาชีพกว่า 75,000 ตำแหน่ง เพิ่มรายได้ให้กับเศรษฐกิจของประเทศ กว่า 3,500 ล้านบาท ภายในงานยังได้จัดให้มีการบูรณาการความร่วมมือระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรม โดย กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) กับ หน่วยงานภาคีเครือข่ายอีก 7 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม 2.คณะกรรมการอาชีวศึกษา 3.กรมอนามัย 4.กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน 5.สถาบันคุณสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) 6.สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ และ 7.สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) เพื่อผลักดันซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทยให้ก้าวไกลสู่ระดับโลก โดยเฉพาะในด้านการสร้างมาตรฐานคุณภาพอาหาร การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการสนับสนุนการส่งออกสินค้าอาหารไทย
โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ถือว่าเป็นการสำคัญอย่างมากที่ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการยกระดับอุตสาหกรรมอาหารของประเทศ แน่นอนว่าอาหารไทยของเราเป็นที่รู้จักดีอยู่แล้วทั่วโลก แต่วันนี้เรา ต้องการยกระดับอาหารไทยให้มีหลักเกณฑ์ให้ทุกพื้นที่พัฒนาอย่างมีรูปแบบ โครงการ หนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งเชฟอาหารไทย จะช่วยพัฒนาศักยภาพของประชาชนที่มีทักษะในการทำอาหารอยู่ แล้วมีโอกาสในการเรียนรู้ มีความเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น เมื่อเข้าหลักสูตรนี้จบแล้วก็จะสามารถเป็นเชฟที่เป็นมืออาชีพสามารถสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับตนเองได้ และยังสามารถเผยแพร่สูตรอาหารของตัวเองได้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากหลักสูตรนี้มุ่งหวังว่าจะให้เชฟทุกคนพร้อมที่จะเผยแพร่อาหารไทยในแบบที่ต้นตำรับ ซึ่งอาหารไทยมีหลายแบบทุกท่านอาจเคยชิน แต่อาจไม่ทราบว่าเมนูต่างๆ เรียกว่าอะไร ซึ่งในหลักสูตรได้จัดอาหารไว้หลากหลาย ทั้งอาหารโบราณ อาหารชาววัง อาหารประจำถิ่นที่แต่ละภาคมีความแตกต่างกันออกไป เชื่อว่าคนไทยมีฝีมืออย่างมาก หลายคนทำอาหารที่บ้านอาศัยองค์ความรู้ที่สืบทอดต่อกันมาจากครอบครัว แต่เมื่อเข้าหลักสูตรแล้วก็จะรู้วิธีประกอบอาหารได้ตามหลักสูตรรวมถึงได้ใบประกาศว่าผ่านขั้นตอนผ่านความรู้ที่เป็นระบบมา ซึ่งจะช่วยส่งเสริมเรื่องการหางานได้ง่ายขึ้น
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เมื่อเราผลิตเชฟอาหารไทยยังสามารถเปิดร้านอาหารไทยในต่างประเทศได้ หรือเปิดร้านอาหารไทยของตัวเองในต่างประเทศ ซึ่งนอกจากเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้แล้วยังเป็นการส่งเสริมทูตวัฒนธรรมไปยังประเทศต่างๆ เพราะในหลายประเทศที่เป็นเมืองท่องเที่ยวจะมีร้านอาหารไทย ตนเชื่อว่าอาหารไทยเป็นอาหารโปรดของชาวต่างชาติหลายคน
เมื่อมีหลักสูตรเมื่อได้ไปเผยแพร่วัฒนธรรมไทยอย่างถูกต้องก็เหมือนส่งตัวแทนคนไทย ทั้งรูปแบบการปรุงอาหารการทานแบบไทยทำให้ต่างชาติหลายคนที่ไม่เคยเดินทางมาประเทศไทยก็ได้เรียนรู้ประเทศไทยจากร้านอาหารไทย ดังนั้นการที่เราทำเชฟอาหารไทยที่มีคุณภาพจึงเป็นประโยชน์ทั้งในเรื่องอาหารและวัฒนธรรม
ส่วนสิ่งที่ต้องทำต่อไปคือการส่งออกอาหารไทย ทั้งวัตถุดิบ พืชผลทางการเกษตรจะต้องมีการพัฒนาด้านเทคโนโลยี ทั้งการแช่แข็ง การถนอมอาหาร เพื่อให้วัตถุดิบเหล่านั้นมีอายุนานขึ้นและรสชาติยังคงเดิมเหมือนที่รับประทานในประเทศไทย นอกจากจะเป็นการพัฒนาคนแล้วยังพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารได้อีกด้วย โดยต้องเริ่มตั้งแต่เกษตรกรไปยังภาคอุตสาหกรรม เพื่อส่งออกอาหารที่ดีและเชฟที่ดีให้กับต่างชาติได้รับรู้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราอยากให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางและเป็นครัวของโลก เวลาที่ตนเองไปต่างประเทศก็ได้เน้นย้ำถึงการที่ประเทศไทยพร้อมที่จะ Food Security ให้กับทั่วโลก เช่นประเทศที่มีสภาวะความไม่สงบ การเกษตรไม่เพียงพอ เราสามารถเป็นที่เก็บอาหาร อีกทั้งถ้านวัตกรรมอาหารของเราไปถึงก็จะช่วยเกษตรกรไทย และข้อได้เปรียบของไทยคือ เราสามารถที่จะจัดส่งออกได้ทุกวันทั้งปี
“การทำทุกอย่างเหล่านี้เป็นการส่งเสริมต่อเนื่องทั้งระบบ เป็นสิ่งที่รัฐบาลมองเห็นว่าเราจะผลักดันเรื่องนี้กันอย่างไร ซอฟต์พาวเวอร์อาหารพูดแล้วเหมือนทุกคนรู้จักง่าย แต่ที่จริงยังมีรายละเอียดอีกมาก ย้ำว่ารัฐบาลสนับสนุนอย่างเต็มที่”
นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมมือร่วมใจสร้าง ecosystem อย่างเต็มระบบไปด้วยกัน เราจะผลักดันอุตสาหกรรมอาหาร ไปให้ไกลกว่านี้ดังไปทั่วโลก ทั้งคนไทยทั้งอาหารไทยมีดีอย่างไร รัฐบาลสนับสนุนเรื่องนี้อย่างเต็มที่ เต็มรูปแบบแน่นอน
จากนั้น นายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมนิทรรศการ “Mini Showcase: The Best of Thai Foods in Different Regions” บริเวณโถงกลาง ตึกสันติไมตรี ซึ่งภายในมีงานโซน Food Station ที่นำเสนอ 16 เมนูพิเศษ โดยเชฟชื่อดัง รวมถึงโซนศูนย์อัจฉริยะด้านอาหาร นำเสนอผลิตภัณฑ์อาหารและวัตถุดิบแปรรูปจากชุมชน แสดงนวัตกรรมและศักยภาพของอาหารท้องถิ่น โซนร้านอาหารเชฟชุมชนอาหารถิ่นอาหารไทย เสิร์ฟจริง ชิมจริง กับ 4 เมนูเด็ด จาก 4 ภาค และโซนนวัตกรรมอาหารและเครื่องดื่มไทยสู่ตลาดโลก
นายกรัฐมนตรี ยังได้แวะชิมเครื่องดื่มเมนูพิเศษ คือ น้ำกระเจี๊ยบผสมมะนาวที่ เติมสารให้ความหวานแทนน้ำตาล ทำให้ ไม่หวานจนเกินไป โดยนายกฯ ชมว่าอร่อย และได้สอบถามว่าผสมน้ำตาลหรือไม่ เพราะไม่ได้หวานแหลมจนเกินไป แต่รสชาติอร่อย.-316 -สำนักข่าวไทย