“ศิริกัญญา” จี้แจงให้ชัด 15% ใครรับภาระ “จุลพันธ์” บอกเป็นแนวทางศึกษา

รัฐสภา 12 ธ.ค.-“ศิริกัญญา” ออกโรงถามปฏิรูประบบภาษี ยกคำ “พิชัย” จี้แจงให้ชัด 15% ใครรับภาระ มองทำให้คนธรรมดาต้องจ่ายภาษีเพิ่ม ขณะ “จุลพันธ์” ลุกเบรก บอกเป็นแนวทางศึกษา ลั่น “ไม่มีโจทย์ ไม่มีเป้า ไม่มีธง” แค่เดินหน้าไป หวังได้ผลลัพธ์สุดท้ายดีสุด ย้ำการเก็บภาษีเพิ่มเพื่อเตรียมตัวสู่ OECD ชี้เป็นเทรนด์โลกที่ทุกประเทศเก็บเป็นขั้นต่ำ

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2 เป็นนัดแรก มีนายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาวาระกระทู้ถามสดด้วยวาจาของ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ถามนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แต่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง มาตอบแทน


น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า คำถามแรกคือ กรณีที่นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รวมถึงปลัดกระทรวงการคลัง ออกมาพูดว่ามีแนวคิดที่จะศึกษาว่าจะมีการปฏิรูปโครงสร้างภาษีและการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล ซึ่งตนเห็นด้วยว่าต้องมีการการปฏิรูปโครงสร้างภาษีและการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล ทั้งนี้ นายพิชัยได้เสนอภาษี 3 ตัวคือ 2 ลด 1 เพิ่ม ได้แก่การศึกษาว่าจะการลดภาษีเงินได้นิติบุคคลลงจาก 20% เหลือ 15% และมีการศึกษาว่าจะลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ที่จากเดิมที่จัดเก็บเป็นขั้นบันใดมาเป็นเลทเดียวกันทั้งประเทศคือ 15% รวมถึงมีการศึกษาว่าจะเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่มเช่นเดียวกันคือ 15% จึงขอทราบวัตถุประสงค์และเป้าหมายของการศึกษาการปฏิรูปโครงสร้างภาษีว่าต้องการเก็บรายได้เข้ารัฐให้มากขึ้นหรือไม่ ตอนให้หน่วยงานไปศึกษาได้ให้โจทย์ไปหรือไม่ว่าต้องการจัดเก็บรายได้เข้ารัฐเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ อัตราที่ควรจะเป็นคือ 15% ของทั้งสามภาษีใช่หรือไม่ รวมถึงได้ตั้งโจทย์ไว้หรือไม่ว่าใครควรจะต้องรับภาระภาษีในการปฏิรูป หรือใครควรจะได้รับการลดภาษีลง

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ หากจะลดภาษีนิติบุคคลลดเหลือ 15% จริงๆ นั้น มีการคำนวณไว้หรือไม่ว่าทุก 1% ที่ลดลงนั้น จะทำให้รายได้ของรัฐบาลลดลงเท่าไหร่ ซึ่งหากลองคำนวณคร่าวๆ ก็จะลดลงประมาณ 30% หรือ 1.9 แสนล้านบาท และในปี 2566 ที่มีการลดภาษีลงหากดูเป็นตัวเงินจะพบว่าภาษีเงินได้นิติบุคคลดูเหมือนจะเพิ่มขึ้น แต่หากเทียบกับจีดีพีจะพบว่าลดลงด้วยซ้ำ หรือหากจะอ้างว่าอยากลดภาษีเพื่อให้สอดคล้องกับภาษีเพิ่มเติมจากบริษัทที่เข้าตามมาตรการต้องเสียภาษีขั้นต่ำ (Global Minimum Tax หรือ GMT) ขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ที่ออกกฎว่าประเทศที่เข้าร่วมต้องเก็บภาษีในอัตรา 15% แต่คิดว่ากระทรวงการคลังก็เตรียมแผนสำรองไว้แล้ว และการที่จะเก็บภาษีในอัตรา 15% สำหรับคนที่เป็นมนุษย์เงินเดือนทั่วไปนั้นที่มีรายได้ไม่ถึงสามแสนบาทต่อเดือนจำเป็นจ่ายภาษีที่มากขึ้น การทำงาน 12 เดือนเท่ากับเขาต้องเสียเงินเดือน 1 เดือนไปเป็นภาษี ซึ่งกลับหัวกลับหางกับความตั้งใจของบุคคลธรรมดาที่ต้องสร้างความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษี


“จึงงงๆ ว่าหากท่านอยากจัดเก็บรายได้ให้มากขึ้นและกระทบกับประชาชนน้อยที่สุด ทำไมจึงเลือกที่จะลดภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาลง ทำให้คนธรรมดาต้องจ่ายภาษีเพิ่ม และกลับไปเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งจริงๆ ต้องปรับขึ้นอยู่แล้ว แต่หากท่านไม่มีแผนที่จะเสียรายได้ขนาดนี้จากการลดภาษีเงินได้นิติบุคคล ก็ไม่จำเป็นต้องขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มเช่นนี้” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว

จากนั้น นายจุลพันธ์ ลุกชี้แจงว่า กระทรวงการคลังศึกษาการปฏิรูปภาษีอย่างจริงจัง รวมถึงแนวความคิดในการเดินหน้า ภาษีชดเชยให้กับผู้ยากไร้ เรียกว่าสวัสดิการถ้วนหน้าผ่านทางโครงสร้างภาษี เรามีปัญหาในเรื่องโครงสร้างภาษีมาอย่างยาวนาน การจัดเก็บรายได้ของรัฐเทียบกับ GDP 14% เศษ ซึ่งต่ำกว่ามาตรฐานของโลกค่อนข้างมาก ที่เฉลี่ยจะตกอยู่ที่ 18% สิ่งหนึ่งที่ทำให้ประเทศไทยไม่สามารถจัดเก็บภาษีได้ถึงตัวเลขที่เราต้องการ มาจากการลดหย่อนหลายเรื่อง รวมถึง VAT ภาษีเงินได้ประเภทต่างๆ มันผูกพันกันจนเป็นใยเดียวกัน จึงต้องมาศึกษาอย่างจริงจัง เพื่อให้รัฐจัดเก็บรายได้มากขึ้นและเกิดเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ที่จะมีความมั่นคงแข็งแรง ซึ่งต้องกระทบกับประชาชนให้ได้น้อยที่สุด

“ตัวเลขไม่มีการตั้งเป้าหรอกครับว่าเป็นเท่าไหร่ แต่แนวความคิดที่มีการพูดคุยกัน ตัวเลข 15 % ก็เป็นไปได้ครับ ว่ามีการพูดคุยกันในระดับนานาชาติ เช่น OECD มีการพูดถึงภาษีนิติบุคคล 15% เป็นขั้นต่ำ โดยหลักคิดทุกประเทศไม่ควรมีการแข่งขันกันในเรื่องลดอัตราภาษีอีกต่อไปแล้ว ในอดีตแข่งกันลดราคา ลดหย่อน สุดท้ายไม่มีรายได้เข้ารัฐ พอที่จะนำไปพัฒนาประเทศพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน วันนี้จึงมีเกณฑ์ขึ้นมาว่าทุกประเทศมีการเก็บภาษีขั้นต่ำ 15% สุดท้ายคงเป็นทิศทางของโลกที่จะต้องไหลเข้าสู่ตัวเลขนี้โดยอัตโนมัติ เพื่อให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันได้เราก็คิดว่า 15% เป็นหนึ่งในตัวเลือกเท่านั้นเอง แต่ไม่ได้หมายความว่าสุดท้ายจะต้องดึงตัวเลขทั้งหมดเข้ามาอยู่ที่ 15% ทั้งหมดทั้งมวลอยู่ในขั้นตอนของการศึกษา ท่านก็รู้ว่ากระบวนการเรื่องภาษีไม่สามารถเปลี่ยนแบบพลิกฟ้าพลิกดินได้ มันมีเรื่องของระยะเวลา” นายจุลพันธ์ กล่าว


นายจุลพันธ์ แนะว่าให้ถอยมาหนึ่งก้าว แล้วท่านจะมองเห็นภาพใหญ่ว่ากลไกในการเดินหน้าในเรื่องของการปรับโครงสร้างภาษีมันไม่ได้มีเพียงเรื่องเดียว ใจอยากให้ลดความเหลื่อมล้ำ แต่กลไกบังคับใช้ไม่ได้เกิดประสิทธิภาพเพียงพอ

นายจุลพันธ์ ยังชี้แจงเรื่อง ภาษีเงินได้นิติบุคคล ยังไม่ได้มีข้อตกลงหรือข้อสั่งการและความชัดเจนใดๆ เป็นเพียงแค่แนวความคิด ยังไม่ได้มีข้อตัดสินใจ เพราะฉะนั้น หากใช้คำว่าเลือกที่จะทำ ตนตอบว่ายังไม่ได้ดำเนินการ แต่ข้อเสนอนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศด้วยและในประเทศให้มากขึ้น

นายจุลพันธ์ ระบุว่า เรากำลังจะเข้าร่วม OECD ถือเป็นโอกาสของประเทศไทย พร้อมย้ำว่า ประเทศไทยไม่ได้เก็บภาษีแบบแนวระนาบ แต่เป็นภาษีแบบคนรวยจ่ายมากกว่าคนจน วันนี้โลกมันต่อกันทั้งหมดแล้ว ไม่มีรอยตะเข็บ จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นในการกำหนดอัตราภาษี อย่างไรก็ตาม จะต้องคำนึงถึงความสามารถในการแข่งขันผลกระทบกับประเทศที่มีความเกี่ยวเนื่อง ทั้งเรื่องการแข่งขันทางการค้า คู่ค้า เพื่อจากกำหนดให้เป็นอัตราที่มีความเหมาะสม

“ไม่มีโจทย์ ไม่มีเป้า ไม่มีธง เราก็จะเดินหน้าไป และหวังว่าสุดท้ายเราจะได้โจทย์ที่ดีที่สุด และสุดท้ายกลไกเหล่านี้ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ก็มีโอกาสกลับมาถก มาหารือกันในสภาผู้แทนราษฎรและรัฐสภาอีกอยู่ดี ท่านคงได้มีโอกาสพูดคุยกับผมอีกครั้งหนึ่ง” นายจุลพันธ์ กล่าว

ทำให้ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวด้วยท่าทีตกใจว่า จากการฟังรัฐมนตรีชี้แจงแล้วก็รู้สึกเหนื่อยเพราะไม่มีเป้าหมาย เราจะไปอย่างไรต่อ และไม่รู้ว่าปฏิรูปเสร็จแล้วจะมีรายได้เพิ่มขึ้นตามที่ตั้งเป้าหมายไว้หรือไม่ รวมถึงท่านยังคิดที่จะดึงดูดนักลงทุนด้วยภาษีทั้งที่หากเข้าร่วมกับภาคีนี้ก็ต้องเก็บภาษีที่ 15% เหมือนกันหมด แทนที่จะไปเร่งสร้างเรื่องความสามารถในการแข่งขันด้านอื่นๆ หรือเพิ่มทักษะให้คนไทยด้วยกันเอง แต่ก็ไม่เป็นอะไรเพราะท่านก็ไม่มีโจทย์ ไม่มีธง เท่ากับสิ่งที่พูดไปก็อาจจะไม่เกิดขึ้น และการศึกษานี้จะออกสู่สาธารณะเมื่อไหร่ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของการใช้เงินทุนสำรองระหว่างประเทศว่าสมควรที่จะนำออกมาใช้หรือไม่ และทุกครั้งที่มีการพูดถึงเรื่องนี้มักจะพูดในรัฐบาลของพรรค เพื่อไทยที่เป็นผู้นำ จึงอยากถามว่ารัฐบาลและกระทรวงการคลังมีแผนที่จะนำเงินทุนสำรองระหว่างประเทศมาใช้จริงหรือไม่ และนำมาจากส่วนไหนของเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ จะใช้เท่าไหร่

นายจุลพันธ์ จึงลุกกล่าวติดตลกว่า “เอาใจท่านยากพอสมควร พอตอบว่ามีธง มีเป้าหมาย แล้วท่านก็จะมาอีกวิธีหนึ่ง ก็เลยบอกว่าไม่มีธง เพราะเปิดการศึกษาให้เป็นอิสระ”

นายจุลพันธ์ ย้ำว่า ทุกอย่างหากดำเนินการต้องเป็นไปตามกรอบของกฎหมายที่เกี่ยวข้องทุกฉบับจะต้องมีการศึกษาให้ละเอียดรอบคอบ ทั้งนี้ ตนก็ไม่กล้าที่จะการันตี ประเด็นที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นคนพูด เพราะตนยังไม่เคยได้ยินจริงๆ ไม่แน่ใจว่าจับประเด็นมาถูกต้องหรือไม่ด้วยซ้ำ หวังว่าถูก แต่สุดท้ายไม่เป็นไร มีประเด็นจั่วหัวมาแล้วอย่างนี้ คงมีเวลาในสภากันอีกครั้งหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตลอดการถามกระทู้ น.ส.ศิริกัญญา มีสีหน้าตั้งใจฟังนายจุลพันธ์ อย่างเคร่งเครียด และมีการทวนคำพูดนายจุลพันธ์ไปด้วย.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ณัฐพงษ์” ยังไม่ตัดสินใจเลือก “เพื่อไทย” หรือ “ภูมิใจไทย”

กทม. 30 ส.ค.-“ณัฐพงษ์” หัวหน้าพรรคประชาชน ยันยังไม่ตัดสินใจเลือก “เพื่อไทย” หรือ “ภูมิใจไทย” แก้วิกฤตหาตัวนายกฯ คนใหม่ ย้ำจะรับพิจารณาเฉพาะพรรคที่มาพูดคุยด้วยตัวเองเท่านั้น รอลุ้นผลวันจันทร์นี้ พร้อมประกาศไม่เอา “พล.อ.ประยุทธ์” เป็นนายกฯ เมื่อเวลา 15.40 น. วันที่ 30 ส.ค.2568 ที่โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงการแสข่าวการดีลพรรคประชาชนให้ยกมือ สนับสนุนนายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยภูมิใจ ให้เป็นนายกรัฐมนตรี ที่ให้แลกตำแหน่งรัฐมนตรี 8 เก้าอี้ ว่า ยืนยันว่าไม่มีดีล ยืนยันว่าวัตถุประสงค์ของพรรคประชาชนคือต้องการใช้ 143 เสียง เพื่อผ่าทางตันทางการเมืองให้กับประเทศโดยที่เราไม่ร่วมรัฐบาล เราปฏิเสธไม่รับการเจรจาใต้โต๊ะ หรือหลังบ้านใดๆทั้งสิ้น หากไม่ได้ส่งกรรมการพรรคของพรรคเข้ามาพูดคุยกับตนหรือผู้บริหารพรรค เพื่อแสดงเจตจำนงหรือรับข้อเสนอรับไม่รับว่าเป็นข้อเสนอ ตอนนี้พรรคประชาชนยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกใครเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ต้องใช้กระบวนการตัดสินใจจากกรรมการบริหารพรรคและ สส. ซึ่งจะมีการจัดขึ้นในวันจันทร์ ที่ 1 ก.ย.ช่วงบ่าย TOR ที่เราเปิดออกไปเป็นข้อเสนอที่ทุกพรรคที่ไม่สามารถรวมเสียงข้างมากได้ และจำเป็นต้องใช้เสียงของพรรคประชาชน […]

พบร่างผู้สูญหายเหตุดินถล่มบ้านปางอุ๋งเพิ่มอีก 2 รวมเสียชีวิต 7 ราย

เชียงใหม่ 30 ส.ค. – เจ้าหน้าที่นำสุนัข K9 เร่งค้นหาผู้สูญหายจากดินถล่มบ้านปางอุ๋ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ พบร่างเพิ่มอีก 2 ราย ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งเป็น 7 ราย และยังสูญหายอีก 2 คน กำลังทหารกรมรบพิเศษที่ 5 พร้อมด้วยทหารหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 32 พร้อมทีมกู้ภัยและอาสาสมัครนับร้อนาย รวมทั้งสุนัข K9 อีก 4 ตัวทั้ง นารี สีนวล ลิลลี่และซาฮาร่า ซึ่งผ่านการฝึกกู้ภัยและเคยผ่านการปฏิบัติงานค้นหาผู้สูญหายในช่วงอาคาร สตง. ถล่มมาแล้ว ออกค้นหาผู้สูญหายจากดินถล่ม ในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่กลางหุบเขาในตำบลแม่ศึก อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ หลังดินโคลนถล่มเมื่อ 5 วันที่แล้ว ท่ามกลางความหวังของญาติพี่น้องผู้สูญหาย แต่ซากปรักหักพังดินโคลนที่ทับถมกันสูงกว่า 1 เมตร เป็นอุปสรรคสำหรับการค้นหา แต่ในที่สุดทีมค้นหาได้พบศพผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย เป็นหญิงชาวไทใหญ่วัย 25 ปี และเด็กชายวัย 6 […]

ชื่นมื่น เปิดภาพ “อนุทิน-ธรรมนัส”

กทม. 30 ส.ค.-ชื่นมื่น เปิดภาพ “อนุทิน-ธรรมนัส” ที่พรรคภูมิใจไทย ก่อนร่อนแถลงการณ์ หนุน “อนุทิน” เป็นนายกฯ คนที่ 32 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงดึกที่ผ่านมา (29 ส.ค.) หลังนายอนุทิน แถลงจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกิจที่พรรคภูมิใจไทย ร่วมกับนายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ นายสุชาติ ชมกลิ่น รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ นายศักดิ์ดา วิเชียรศรี สส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย นายสุรทิน พิจารณ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ และนายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรัฐมนตรีจากพรรคประชาธิปัตย์ ในเวลาต่อมา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานพรรคกล้าธรรม นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค และนายไผ่ ลิกค์ เลขาธิการพรรคฯ ได้เดินทางมาพูดคุยเรื่องการร่วมรัฐบาลกับพรรคภูมิใจไทย พร้อมสนับสนุนนายอนุทินเป็นนายกฯ และล่าสุดในวันนี้ (30 ส.ค.) เวลา 16.00 น. พรรคกล้าธรรม ได้ออกแถลงการณ์โดยมีมติเอกฉันท์ สนับสนุนนายอนุทิน […]

จับแล้ว “ป๋านวย” เจ้าของบ่อนพนันดอนเมือง

กทม. 30 ส.ค.-ไม่รอด “ป๋านวย” เจ้าของบ่อนพนันดอนเมือง ผู้ต้องหา 8 หมายจับ ถูกตำรวจสืบสวนนครบาลบุกจับกุม นายอำนวย หรือ “ป๋านวย” อายุ 69 ปี ผู้ต้องหาคดีเกี่ยวกับการลักลอบเปิดสถานที่มั่วสุมเล่นการพนัน ถูกตำรวจสืบสวนนครบาล นำหมายศาลฯ ไปติดตามจับกุมตัวได้ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวย่านพระราม 4 ก่อนถูกคุมตัวไปขยายผลตรวจค้นบ้านพักหรูกลางทุ่งนา ที่อำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นสถานที่กบดาน แล้วพาตัวกลับมาสอบสวนขยายผลที่ สน.ทุ่งสองห้อง สำหรับนายอำนวย มีหมายจับของศาลแขวงดอนเมือง ในคดีเกี่ยวกับ พ.ร.บ.การพนัน 6 หมาย หมายจับของศาลอาญา 1 หมาย ในความผิดฐานให้ที่พักพิงบุคคลต่างด้าว จัดให้มีการเล่นการพนันไพ่เสือมังกร และทำกิจกรรมมั่วสุมที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ และคดีล่าสุดที่กรมการปกครอง บุกค้นบ่อนพนันย่านสรงประภา คืนวันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา ส่วนคดีที่มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว เป็นคดีเกี่ยวกับการพนัน ศาลฯ พิพากษาแล้ว 9 คดี รวมโทษจำคุก 13 ปี นอกจากนี้ยังมีคดีที่อยู่ระหว่างการยื่นอุทธรณ์สู้คดี 8 คดี […]