“ปกรณ์วุฒิ” ย้อนหากต้าน “รัฐประหาร” ยาก แล้วหาเสียงไว้ทำไม

รัฐสภา​11 ธ. ค.-“ปกรณ์วุฒิ” ย้อน “ณัฐวุฒิ” ถาม “เพื่อไทย” หากต้าน “รัฐประหาร” ยาก แล้วหาเสียงไว้ทำไม หรือมีอำนาจพรรคอื่นกดไว้ก็ให้บอกมา บอกถ้า “อดีตก้าวไกล” ไม่เสนอ ก็ไม่มีพรรคไหนขยับ เห็นด้วยร่าง “ประยุทธ์” ใกล้เคียง ปชน. ปลุกเพื่อนนักการเมือง ลองดูก่อน สร้างกลไกกันปฏิวัติไว้ไม่เสียหาย ยก “เกาหลีใต้” ให้สภามีอำนาจคานได้

นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะรักษาการประธานวิปฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืนของฝ่านค้านต่อร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ที่นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.พรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอ ว่า จริงๆ แล้ว จุดเริ่มต้นมาจากชุดกฎหมายชุดแรก ที่พรรคก้าวไกลได้ยื่นไป ตั้งแต่เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม ถึงสิงหาคม ปี 2566 เพียงแต่เพิ่งได้เข้ามาในคิวของสภาฯ เมื่อเดือนสิงหาที่ผ่านมา ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็ขอไปพิจารณาภายใน 60 วัน และคืนกลับมาที่สภาฯ ก่อนปิดสมัยประชุมพอดี ถึงได้มีการขยับเคลื่อนไหวของรัฐบาล และพรรคเพื่อไทยที่จะยื่นเข้ามาประกบเอง


นายปกรณ์วุฒิ กล่าวต่อว่า ต้องพูดตามตรงว่า ถ้าพรรคก้าวไกลไม่ยื่นเข้าไปในตอนนั้น และไม่ได้เข้าคิวสภาฯ ก็อาจจะไม่มีพรรคไหนที่จะเริ่มเรื่องนี้ขึ้นมาด้วยตัวเองเลย ซึ่งเราเป็นคนยื่นเอง ดังนั้นเราจึงเห็นด้วยกับเนื้อหาร่างการแก้นี้อยู่แล้ว และร่างของนายประยุทธ์ก็ถือว่าใช่ได้ และค่อนข้างใกล้เคียง แตกต่างเพียงาายละเอียด ซึ่งตนมองว่า เป็นจุดประสงค์หลักของการรับร่างวาระหนึ่ง และก็เข้าไปพูดคุยกันในกรรมาธิการ พร้อมย้ำว่า พรรคประชาชนเห็นด้วยกับร่างของพรรคประชาชน และพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว

อีกทั้ง ตนเห็นว่า ร่างนี้อาจจะถูกบิดไปแล้วไม่ตรง คือกฎหมายโดยตรงไม่ใช่การป้องกันการรัฐประหารโดยตรงขนาดนั้น แต่คือการทำให้กองทัพอยู่ใต้รัฐบาลพลเรือน ซึ่งตนคิดว่าไม่มีแค่พรรคก้าวไกลเพียงพรรคเดียว ที่หาเสียงนี้ และพรรคเพื่อไทยก็หาเสียงในเรื่องนี้ การปฏิรูปหรือปรับเปลี่ยนให้กองทัพอยู่ใต้รัฐบาลพลเรือน ซึ่งตนก็ไม่แน่ใจว่าทางพรรคเพื่อไทยยังมีจุดยืนเช่นนั้นอยู่หรือไม่


นายปกรณ์วุฒิ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ออกมากล่างเรื่องนี้ ว่าโอกาสสำเร็จยาก และอาจจะไม่ได้จำเป็นหรือแก้ได้จริง ซึ่งตนมองว่า หากไม่สามารถแก้ได้จริงแล้วพรรคเพื่อไทยจะหาเสียงเรื่องนี้ไว้ทำไม รวมถึงที่บอกว่าสำเร็จยากนั้น นายณัฐวุฒิประเมินจากอะไร เพราะสภาฯ มี 500 คน ซึ่งพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชนที่ยื่นร่างนี้ไปแล้ว เสียงของทั้ง 2 พรรคก็ผ่านเสียงส่วนมากแน่นอน หรือที่ประเมินว่าผ่านได้ยากนั้น เพราะมีอำนาจอื่นๆ หรือพรรคอื่นๆ คอยกดพรรคเพื่อไทยอยู่ ก็บอกมาตามตรง

เมื่อถามว่า หมายความว่าพรรคเพื่อไทยเกรงใจพรรคร่วมอื่นหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ต้องย้อนกลับไปในการเลือกตั้ง ที่เราอยากได้เสียงจากประชาชน และเราก็หาเสียงโดยการนำนโยบายไปเสนอกับประชาชนว่า ถ้าได้รับเลือกเข้ามา เราจะทำอะไรบ้าง ซึ่งหากย้อนกลับไปดูตัวเองว่า ตอนนั้นหาเสียงอะไรไว้ ก็คงจะตัดสินใจได้ไม่ยากว่า จะทำเรื่องนี้ในสภาอย่างไร จะถอนหรือไม่ถอน และจะลงมติเห็นชอบหรือไม่อย่างไร ก็ต้องลองไปพิจารณาดู หากคิดว่าจะทำไปตามแนวทางพรรคร่วมรัฐบาลที่มีเสียงน้อยกว่าท่านครึ่งหนึ่ง ก็ลองดูว่า ประชาชนจะตัดสินอย่างไรในเลือกตั้งครั้งหน้า หากเอาคำพูดในวันนี้ไปเปรียบเทียบกับเวทีปราสหาเสียงก็จะรู้ว่ามันไม่สอดคล้องกัน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากพรรคเพื่อไทยถอยร่างดังกล่าว พรรคประชาชนจะแก้เกมอย่างไร นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ยังไงวาระนี้ก็ต้องเข้าสู่สภาฯ อยู่แเล้ว เพราะเป็นร่างที่ยื่นตั้งแต่พรรคก้าวไกล และจะถูกบรรจุเป็นเรื่องด่วนในสภาฯ อยู่แล้ว ซึ่งในวันพุธหน้า หากไม่มีกฎหมายใดที่ กมธ.วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว หรือมีไม่มาก เรื่องนี้ก็จะอยู่ในเรื่องด่วน และเป็นไปได้ว่าจะเข้าในสัปดาห์หน้า และเราก็โหวตรับหลักการอยู่แล้ว แต่ก่อนที่จะเข้า เราก็คงต้องสื่อสารประเด็นที่เราอยากจะแก้ให้ทหารอยู่ภายใต้รัฐบาลพลเรือนอย่างชัดเจนมากขึ้น และการป้องกันการรัฐประหารอาจจะไม่ถึงขนาดนั้น แต่สามารถไปแก้ที่จุดอื่นได้ และนี่จะเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปกองทัพตามที่หลายๆ พรรคการเมืองได้หาเสียงไว้มากกว่า


ส่วนเหตุผลที่หลายพรรคออกมาค้านร่างกฎหมายดังกล่าว ทั้งๆ ที่เป็นประฌยชน์กับนักการเมืองนั้น นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตนมองว่า ที่หลายๆ พรรคออกมาบอกว่า ร่างกฎหมายนี้ต้านไม่ได้ หากเขาจะทำรัฐประหาร เขาก็ฉีกรัฐธรรมนูญ แต่ส่วนตัว มองว่า การแก้ มันสามารถลองดูก่อนได้ ซึ่งการแก้เพื่อมีช่องทางในการป้องกันเอาไว้ ก็ไม่ได้มีใครเสีย หากใช้ไม่ได้ผลก็ไม่ได้ผล แต่ถึงเวลานั้นก็อาจจะได้ผลก็ได้ เพราะหากเกิดขึ้นจริง เราก็ไม่สามารถต้านได้อยู่แล้ว แต่หากลองก็เผื่อจะได้ผล และคงไม่มีนักการเมืองพรรคการเมืองใด ที่ออกมาบอกว่าเห็นด้วยกับการทำรัฐประหาร ไม่เช่นนั้นคงไม่มาตั้งพรรคการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ดังนั้นเราพิสูจน์ได้ โดยการลองสร้างกลไกบางอย่างให้อำนาจของประชาชน สามารถต่อต้านอำนาจนอกระบบของระบอบประชาธิปไตยได้ เช่น ประเทศเกาหลีใต้ ที่มีกลไกให้รัฐสภาทำงาน

“ถ้าเราลองสร้างกลไกเอาไว้ มันได้ผลหรือไม่ได้ผลไม่รู้ แต่มันมีกลไกที่ถ้าทำสำเร็จ มันอาจจะต่อต้านอำนาจนอกระบบได้สำเร็จก็ได้” นายปกรณ์วุฒิ กล่าว.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 5 มิ.ย.-นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา ยึดหลักการสันติวิธี ยันไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก ชี้ต้องคุยเฉพาะพื้นที่เป็นปัญหา ไม่ขยายประเด็น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ถึงการหารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า “จากกรณีที่ทางรัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ดิฉันได้หารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และท่านรองนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งได้โทรศัพท์เข้ามารายงานเรื่องการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ณ จังหวัดอุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินภาพรวมอย่างรอบด้าน รัฐบาลไทยขอยืนยันในหลักการแก้ไขปัญหาด้วยแนวทางสันติวิธี ภายใต้ความเคารพในอธิปไตยและดินแดนของกันและกัน ในกรณีที่กัมพูชาประสงค์จะเสนอให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เข้ามามีบทบาท รัฐบาลไทยขอเรียนว่า ประเทศไทยไม่ได้ให้การยอมรับเขตอำนาจศาล ICJ ในกรณีพิพาทต่างๆ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 จนถึงปัจจุบัน และขอย้ำว่า ประเด็นที่เกิดขึ้นควรได้รับการแก้ไขปัญหาในบริเวณที่มีการกระทบกระทั่งกันเท่านั้น ไม่ขยายประเด็นปัญหาออกไป ประเทศไทยยังยึดมั่นในกลไกการหารือทวิภาคีที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้มาโดยตลอด เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศค่ะ.-315.-สำนักข่าวไทย

ไทยไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลก ย้ำขอใช้กรอบ JBC

ทำเนียบ 5 มิ.ย.-รัฐบาลออกแถลงการณ์กรณีไทย-กัมพูชา ยืนยันประเทศไทยไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลกมาตั้งแต่ พ.ศ. 2503 จนถึงปัจจุบันแล้ว ย้ำขอใช้กรอบ JBC ในทุกระดับแก้ปัญหาระหว่างกัน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายหลังเกิดแหตุการณ์ที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมานั้น เวลา 16.30 น. รัฐบาลได้ออกแถลงการณ์กรณีดังกล่าว เป็นฉบับที่ 2 ดังนี้ นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ปะทะที่บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ทั้งสองฝ่ายได้หารือและตกลงกันที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา ได้แก่ คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Border Commission: JBC) คณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (General Border Committee: GBC) และคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee: RBC) บนพื้นฐานของความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นผลมาจากการหารือระหว่างผู้บัญชาการทหารบกของทั้งสองฝ่าย เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม […]

อัยการสั่งฟ้อง 5 ผู้ต้องหา คดีนอมินี ตึกสตง.

5 มิ.ย. – พนักงานอัยการคดีพิเศษ สั่งฟ้อง 5 ผู้ต้องหา คดีตึก สตง.ถล่ม ในส่วนความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวฯ นายศักดิ์เกษม นิไทรโยค โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เผยว่า วันนี้ พนักงานอัยการคดีพิเศษ มีความเห็นสั่งฟ้อง 5 ผู้ต้องหา คดีพิเศษที่เกี่ยวข้องกับตึก สตง.ถล่ม ในส่วนของความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวฯ มาตรา 36 มาตรา 37 และมาตรา 41 ในทุกข้อหา ยกเว้น นายประจวบ ศิริเขตร ซึ่งอัยการสั่งไม่ฟ้อง 1 ข้อหา ตามมาตรา 41 ผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ประกอบด้วย นายโสภณ มีชัย, นายประจวบ ศิริเขตร, นายมานัส ศรีอนันท์,นายชวนหลิง จาง ชาวจีน กรรมการบริษัท ไชน่า เรลเวย์ และ […]

กัมพูชาจะไม่นำเรื่องพื้นที่พิพาทเข้าสู่วาระการประชุมเจบีซีกับไทย

กรุงเทพ 5 มิ.ย. – รัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์ลงวันที่ 4 มิถุนายนตำหนิเหตุการณ์ยิงปะทะกับทหารไทย พร้อมประกาศนำข้อพิพาทเรื่องดินแดนในพื้นที่ 4 จุดต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ โดยจะไม่นำเข้าวาระการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Boundary Committee- JBC) หรือ เจบีซี ไทย-กัมพูชา กลางเดือนนี้ แถลงการณ์ของรัฐบาลกัมพูชา รัฐบาลกัมพูชาได้ดำเนินนโยบายต่างประเทศบนรากฐานแห่งสันติภาพ มิตรภาพ และความร่วมมือระหว่างประเทศ เสมอมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนร่วมกันตามที่กำหนดไว้ตั้งแต่สมัยอาณานิคมฝรั่งเศส นับตั้งแต่ได้รับเอกราช ยกเว้นช่วงระบอบการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของเขมรแดง กัมพูชายังคงยึดมั่นอย่างแน่วแน่ในการเปลี่ยนชายแดนร่วมเหล่านี้ให้เป็นเขตแห่งสันติภาพ มิตรภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนา แม้จะมีความท้าทายเกิดขึ้นตลอดเส้นทางที่ผ่านมา กัมพูชาได้ให้ความสำคัญกับการยุติปัญหาชายแดนอย่างสันติ แม้ในช่วงเวลาที่มีความตึงเครียดเป็นครั้งคราวและมีการสูญเสียชีวิตของทหารผู้กล้าหาญที่ยืนหยัดปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของชาติ ความมุ่งมั่นที่ไม่เปลี่ยนแปลงของรัฐบาลกัมพูชา ในการแก้ไขปัญหาอย่างสันติเป็นที่ประจักษ์ในการดำเนินงานในอดีตที่ผ่านมา รวมถึงการส่งข้อพิพาทไปยังศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ICJ ซึ่งมีคำวินิจฉัยเป็นคุณแก่กัมพูชาในปี 2505 และอีกครั้งหนึ่งในปี 2556 ในข้อพิพาทชายแดนกับประเทศไทย การกระทำเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของกัมพูชาต่อกฎหมายระหว่างประเทศและการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งอย่างสันติ อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจ ที่ในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 28 พฤษภาคม 2565 เวลาประมาณ 05:30 น. เกิดเหตุการณ์ที่ทหารไทยได้เปิดฉากยิงเข้าใส่ทหารกัมพูชาในพื้นที่หมู่บ้านเตโชมรกต ตำบลมรกต […]