“วันนอร์” เรียกร้องประชาชนออกมาปกป้องรัฐธรรมนูญ

รัฐสภา 10 ธ.ค.-“วันนอร์” ประธานรัฐสภา เปิดงานวันรัฐธรรมนูญ 2567 เรียกร้องประชาชนออกมาปกป้องรัฐธรรมนูญ ไม่ให้มีการฉีกซ้ำ แนะดูตัวอย่างเกาหลีใต้-ตุรกี ประชาชนเข้มแข็ง ให้อำนาจรัฐสภายับยั้ง

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานเปิดงาน วันรัฐธรรมนูญ 2567 ภายใต้ชื่องาน “สู่รัฐธรรมนูญในฝัน” เป็นการสร้างความเชื่อมั่นของประชาชนต่อการเมืองในระบบรัฐสภา เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง


ประธานรัฐสภา กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นวันสำคัญของรัฐสภาที่มาจากประชาชนอนุมัติรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศ รัฐธรรมนูญ รัฐสภา และประชาชน มีความผูกพันกันอย่างแยกไม่ได้ และวันนี้ประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญมาถึง 20 ฉบับ เห็นถึงความอ่อนแอของการรักษารัฐธรรมนูญ แต่เราต้องตระหนักถึงความปรารถนาดี พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ที่มอบรัฐธรรมนูญและประชาธิปไตยให้กับคนไทยทั้งประเทศ โดยที่ไม่มอบอำนาจให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งใช้อำนาจในการมาบริหารประเทศนี้

ประธานรัฐสภา ยังยกตัวอย่างเหตุการณ์ทางการเมืองในประเทศเกาหลีใต้ ที่ล่าสุด สภายับยั้งการประกาศกฎอัยการศึกของประธานาธิบดี ซึ่งทำให้เห็นว่าประเทศเกาหลีใต้ ก้าวข้ามมาได้เพราะมีรัฐธรรมนูญที่เข้มแข็ง เช่นเดียวกับประเทศตุรกีที่มีประชาชนเข้มแข็ง


นายวันมูหะมัดนอร์ ยังย้ำว่า ตนเองไม่เห็นด้วยกับการฉีกรัฐธรรมนูญ ซึ่งการฉีกรัฐธรรมนูญเป็นการอ้างของผู้ปกครองประเทศ และความบกพร่องของสภา ซึ่งเป็นข้ออ้างแต่ตนยอมรับว่ารัฐสภายังมีข้อบกพร่อง ผู้บริหารอาจจะไม่ดี แต่การฉีกรัฐธรรมนูญเกิดรัฐประหาร ก็สามารถแก้ได้เพราะรัฐสภาเป็นของประชาชน และผู้บริหารมาจากประชาชน ก็ต้องแก้ด้วยประชาชน ถ้าผู้บริหารไม่ดีประชาชนก็จะไม่เลือก ถ้ารัฐสภาไม่ดีก็ต้องเกิดการยุบสภา ซึ่งหลังจากนั้นประชาชนก็จะต้องเลือกเข้ามา ดังนั้นประชาชนสำคัญที่สุด เพราะประชาธิปไตยเป็นของประชาชน ไม่ใช่อำนาจของกระบอกปืน สำคัญในระบอบประชาธิปไตยวันนี้ถึงเวลาที่จะพร้อมสร้างสิ่งเหล่านี้ โดยรัฐธรรมนูญในอนาคตมีนักวิชาการหลายท่านที่มาในวันนี้ อาจจะมีส่วนสำคัญในการสร้างรัฐธรรมนูญ ส่วนตัวชอบคำพูดของ นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล ที่ระบุว่ารัฐธรรมนูญในอนาคตควรจะมีบทบัญญัติของการป้องกันปฏิวัติรัฐประหาร หลักการป้องกันการฉีกรัฐธรรมนูญเหมือนกับประเทศเกาหลีใต้ที่มีการป้องกันได้ เพราะมีกลไกในสภา ซึ่งถือเป็นเครื่องมือ แต่หลายคนมองว่า นักปฏิวัติฉีกรัฐธรรมนูญได้อยู่ดี ดังนั้น จึงเห็นว่าบ้านที่มีรั้วมีประตู กับบ้านที่ไม่มีรั้ว ไม่มีประตู สิ่งไหนจะป้องกันโจรได้ดีกว่า ตนเองจึงอยากเห็นรัฐธรรมนูญฉบับต่อไปต่อไปเป็นบ้านที่มีรั้ว มีประตู และใส่กุญแจได้ เพื่อให้คนอยู่ในนั้นพร้อมปิดประตู และต่อสู้ในรั้วของตนเองได้ โดยการแก้ไขรัฐธรรมนูญข้างหน้า จะต้องมีความหวังมีความหวังกับบทบัญญัติ ต้องมีบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ และที่สำคัญ การป้องกันรัฐประหารจะอาศัยแค่รัฐสภา ประชาชนอย่างเดียวไม่ได้ จะต้องมีตุลาการ ศาล ต้องมีส่วนป้องกัน พร้อมกันนี้ยังย้ำว่าไม่อยากเห็นการเฉลิมฉลองวันรัฐธรรมนูญ แต่ต้องมองไปข้างหน้า ว่ามีรัฐธรรมนูญและประชาธิปไตยแล้ว จะป้องกันรัฐธรรมนูญและประชาธิปไตยให้ยืนนานได้อย่างไร และพร้อมใจป้องกันรัฐธรรมนูญ ซึ่งถึงเวลาแล้วที่จะต้องสร้างแนวรั้วป้องกันรัฐธรรมนูญ รัฐสภาและสถาบันพระปกเกล้าจะมีการอบรมประชาชนแม้จะต้องใช้งบประมาณ แต่ก็เพื่อให้คนเข้าใจในรัฐประชาธิปไตยพร้อมกับปกป้องรัฐธรรมนูญ ให้เหมือนกับประชาชนชาวเกาหลีใต้ และประเทศตุรกี ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่คุ้มค่า ปลูกฝังประชาชนในการรับประชาธิปไตย ตนเองขอฝากนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาคนที่สอง เป็นหัวหน้าโครงการนี้ เพราะถึงเวลาที่จะต้องทำอย่างจริงจัง

“เชื่อด้วยความสุจริตใจ ว่าไม่มีใครอยากปฏิวัติถ้าไม่จำเป็น ดังนั้นทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน ซึ่งผมเองไม่อยากเห็นการปฏิวัติรัฐประหารที่ตนเองเห็นมาหลายครั้งแล้ว พร้อมกับเห็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญหลายครั้ง ทุกคนอาจจะเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งที่ 21 นี้ และมีแนวทางปกป้องประชาชน ปกป้องรัฐประหารไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ อย่างน้อยให้มีรั้ว ดีกว่าไม่มีรั้ว” นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว

หลังจากนั้น ประธานรัฐสภา ให้สัมภาษณ์ เพิ่มเติมว่า ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งต่อไปแนวทางป้องกันการรัฐประหาร คือจะต้องมีบทบัญญัติ ว่าด้วยการลงโทษ ผู้ที่กระทำด้วยการทำปฏิวัติ ล้มล้างรัฐธรรมนูญ และขอให้บทบัญญัตินั้นนำไปสู่การปฏิบัติให้ได้ ไม่ใช่แค่มีบทบัญญัติอย่างเดียว ส่วนจะดำเนินการอย่างไรนั้นต้องศึกษารัฐธรรมนูญของประเทศเกาหลีใต้ ที่มีบทบัญญัติเรื่องนี้ไว้ว่าเมื่อมีการยึดอำนาจสามารถนำบทบัญญัตินี้เข้าสู่รัฐสภาลบล้างอำนาจที่ประกาศไว้ได้ ซึ่งถือว่าเป็นตัวอย่างที่ง่าย ซึ่งส่วนตัวคิดว่าคนไทยคงเก่งที่จะร่างกฎหมายต่างๆ ให้นำไปใช้ได้ แต่สำคัญอยู่ที่ประชาชนร่วมมือกัน เหมือนกับประเทศเกาหลีใต้ที่ร่วมมือกัน ที่ไม่เห็นด้วยกับการประกาศกฎอัยการศึก ถ้าประชาชนไม่เห็นด้วยก็ไม่สำเร็จ


ส่วนเรื่องนี้จะไปสอดคล้องกับการแก้ไขร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม โดยให้อำนาจคณะรัฐมนตรี มีหน้าที่และอำนาจพิจารณาแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพล เพื่อสกัดการรัฐประหาร ที่พรรคเพื่อไทยสนับสนุน นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว่า คนละส่วนกัน เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของพรรคการเมือง ซึ่งไม่เกี่ยวกัน แต่ส่วนตัวเห็นว่ารัฐธรรมนูญ ที่จะแก้ไขในสมัยนี้ ต้องมีมาตรการที่ป้องกัน ไม่ให้รัฐธรรมนูญถูกฉีกอีก ส่วนบทลงโทษของผู้ที่ทำรัฐประหารนั้นความรุนแรงจะถึงระดับไหนนั้นขึ้นอยู่กับคณะกรรมการร่างฯ ว่าควรมีบทลงโทษขนาดไหน และจะต้องปฏิบัติได้ด้วย ก่อนหน้านี้มีบทลงโทษที่รุนแรงว่าการฉีกรัฐธรรมนูญคือกบฏ แต่ว่าไม่ได้ผลในด้านการปฏิบัติ ดังนั้นบทบัญญัติจะต้องสอดคล้องกับแนวปฏิบัติได้ด้วยและประชาชนยอมรับ โดยที่ต้องเอาทุกฝ่ายมาคุยกัน โดยเฉพาะฝ่ายที่มีอาวุธในมือ เพราะขณะนี้โลกเปลี่ยนแปลงไปมาก การเมืองก็เปลี่ยนแปลงไปด้วย ดูจากหลายแห่งการเมืองในประเทศเกาหลีใต้และไนจีเรีย ซึ่งประเทศไทยจะอยู่อย่างนี้โดยไม่เปลี่ยนแปลง ประชาธิปไตยคงจะล้าหลังมาก.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ทนายวัดนาป่าพง แจงปมโอนเงินไปเยอรมนี ยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ

16 ก.ย. – ทนายวัดนาป่าพง แจงยิบไทม์ไลน์โอนเงิน 12 ล้าน ไปให้สีกาที่เยอรมนี ยืนยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ หวังเผยแผ่พระพุทธศาสนา ไม่ใช่เสน่หาหรือยักยอกเงินวัด เชื่อเป็นขบวนการล้มพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ความคืบหน้าการตรวจสอบพระวัดดังใน จ.ปทุมธานี หลังมีการแจ้งความกองปราบฯ ให้ตรวจสอบปมเงินบริจาควัดที่มีการโอนไปยังต่างประเทศ รวมถึงปล่อยคลิปลักษณะที่ใกล้ชิดกับสีกาในร้านเครื่องประดับ วันนี้ (16 ก.ย.) นายนันทน อินทนนท์ และคณะทนายความของวัดนาป่าพง ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงประเด็นต่างๆ โดยมี อ.เบียร์ คนตื่นธรรม พระลูกวัด และศิษยานุศิษย์ของวัด มาร่วมฟังคำแถลงข่าวอีกเป็นจำนวนมาก ในส่วนของคลิปกับสีกาในร้านเครื่องประดับในต่างประเทศ ทนายความยืนยันว่าสีกาคนดังกล่าวเป็นโยมอุปัฏฐาก ที่ทำหน้าที่ดูแลพระอาจารย์คึกฤทธิ์ และดูแลช่องทางการสื่อสารของวัด คือพุทธวจนเรียล อย่างเปิดเผยตั้งแต่แรก แต่คลิปวิดีโอที่ถูกนำมาเผยแพร่พยายามเชื่อมโยงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างสีกาคนดังกล่าวกับพระอาจารย์คึกฤทธิ์ เป็นการตัดต่อที่ตั้งใจให้เกิดความเข้าใจผิด แจงไทม์ไลน์ยิบ โอนเงินไปต่างประเทศใช้ก่อตั้งมูลนิธิส่วนกรณีมีการโอนเงินจากพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ไปยังสีกาที่เยอรมนี ทีมทนายความยอมรับว่าเอกสารต่างๆ ที่เผยแพร่ในสื่อ เป็นเอกสารที่ทางวัดยื่นต่อศาลที่เยอรมนี ไม่ใช่เอกสารที่ต้องปิดบัง สามารถเปิดเผยได้ เพราะไวยาวัจกรเป็นผู้โอนเงินเอง พร้อมชี้แจงว่าเป็นการโอนเงินเพื่อไปสร้างวัดและมูลนิธิที่ประเทศเยอรมนี โดยไล่เรียงไทม์ชี้แจงอย่างละเอียด เริ่มตั้งแต่ปี 2561 พระอาจารย์คึกฤทธิ์ ต้องการเผยแพร่คำสอนในต่างประเทศ หนึ่งในวิธีการคือการจัดตั้งวัดในต่างประเทศ โดยเฉพาะในเยอรมนีมีลูกศิษย์ของวัดจำนวนมาก […]

รวบบัญชีม้ายกแก๊ง ตระเวนถอนเงินให้คอลเซ็นเตอร์จีนเทา

16 ก.ย. – จับยกแก๊งบัญชีม้า 7 คน ตระเวนถอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนเทา ยึดเงินสดกว่า 5 แสนบาท สารภาพได้ค่าจ้างล้านละ 7,000 บาท เงินที่หลอกผู้เสียหายถูกถ่ายโอนไปยังแก๊งคอลเซ็นเตอร์นอกประเทศแล้วไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท นายเอกชัย เจ้าของบัญชีม้า พร้อมหญิงสาวทำหน้าที่ประสานงานถอนเงิน ถูกตำรวจภูธรภาค 5 จับกุมได้บริเวณหน้าธนาคารแห่งหนึ่งใน อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน ก่อนขยายผลจับกุมนายศรัณย์พงศ์ และนางสาวนันท์ธนัษฐ์ 2 คนไทย ทำหน้าที่ควบคุมเจ้าของบัญชีม้า และผู้ร่วมขบวนการอีก 3 คน ที่นั่งรอในรถกระบะ นายคิโอ ชาวลาว หัวหน้าแก๊งที่ถอนเงินให้จีนเทาเครือข่ายคิงส์โรมันฝั่งลาว พร้อมยึดของกลางเงินสดกว่า 5 แสนบาท สมุดบัญชีเงินฝากอีก 1 เล่ม กลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์วนเวียนถอนเงินสดจากธนาคารหลายแห่งใน จ.เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันทุจริต หลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ร่วมกันเป็นอั้งยี่ เตรียมรวบรวมหลักฐานขยายผลถึงบอสชาวจีน พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค […]

อัปเดตโผ ครม. ครบ 100% “โสภณ​” มีชื่อนั่งรอง​นายก​ฯ

กทม.16 ก.ย.- อัปเดตโผ ครม. ล่าสุด “โสภณ​ ​ซา​รัมย์​” ผงาดรอง​นายก​ฯ ขณะที่ รมต.สำนักนายกฯ มีถึง 4 เก้าอี้ ด้าน “มัลลิกา” โผล่นั่ง รมช.คมนาคม วันที่ 16 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เซ็นส่งรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม. ) ซึ่งคาดว่าสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ 36 รายชื่อ ดังนี้ โควตา​คนนอก​ พรรคกล้าธรรม พรรคพลังประชารัฐ กลุ่มสุชาติ กลุ่มการเมืองอื่น

ป่วนไม่เลิก! เขมรบุกทำลายรั้วลวดหนาม “บ้านหนองหญ้าแก้ว”

16 ก.ย.- เขมรป่วนไม่เลิก! บุกทำลายรั้วลวดหนาม บ้านหนองหญ้าแก้ว ทหารกัมพูชายืนประกบสังเกตการณ์ ขณะที่ชาวเน็ตแห่หนุนสร้างกำแพงกั้นถาวร วันที่ 16 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสังคมออนไลน์แห่แชร์ภาพคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความโดยอ้างว่าเป็นภาพของชาวเขมรบุกทำลายรั้วลวดหนามของไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเหตุการณ์เกิดในวันนี้ โดยมีชาวบ้านจากฝั่งกัมพูชาหลายคนเข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนาม พร้อมถือไม้และพยายามรื้อทำลาย ขณะที่ทหารกัมพูชายืนสังเกตการณ์อยู่รอบพื้นที่ ขณะที่ชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็น สนับสนุนการสร้างกำแพงแทนรั้วลาดหนาม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก -313 .-สำนักข่าวไทย