ทำเนียบ 9 ธ.ค.- นายกฯ ประชุมวิดีโอคอล 12 ผู้ว่าฯ ภาคใต้ ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม – เงินเยียวยา ยืนยันไม่ลงพื้นที่ช่วงนี้เกรงวุ่นวาย แต่วางแผนจะลงพื้นที่ฟื้นฟูแน่นอน
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประชุมติดตามสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ รับรายงานความเสียหายและเตรียมการเยียวยาช่วยเหลือผู้ประสบภัย กับผู้ว่าราชการจังหวัดภาคใต้ 12 จังหวัด ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และนายภาสกร บุญญลักษม์ ปลัดกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้มีความตั้งใจติดตามสถานการณ์อุทกภัยภาคใต้ 12 จังหวัด และดีใจที่ได้พบผู้ว่าฯ 12 จังหวัดเนื่องจากทราบดีว่าถ้าไปในจังหวัดจะเกิดความวุ่นวาย แต่วางแผนจะลงพื้นที่อย่างแน่นอน โดยเฉพาะไปฟื้นฟูในพื้นที่ ก่อนหน้านี้ ครม.อนุมัติงบประมาณ 5,000 ล้านบาทในการช่วยเหลือ และวันนี้จะขอติดตามความช่วยเหลือ โดยเฉพาะไทม์ไลน์การมอบเงินเยียวยาให้ชาวบ้านจะดำเนินการได้วันใด และมีการแบ่งการจ่ายเงินเยียวยาแต่ละครั้งอย่างไร
ส่วนนายอนุทิน ในฐานะประธานคณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ได้ทำงานร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. ที่มีนายภูมิธรรม เป็นประธานคณะทำงาน ได้มีการสั่งการคนที่ดูแลพื้นที่แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ทันท่วงที ที่ผ่านมา นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ลงพื้นที่ไปแล้ว ก็หวังว่าพื้นที่แต่ละจังหวัดที่ประสบปัญหาก็ให้รายงานเข้ามา รัฐบาลยินดีพร้อมที่จะดูแลประชาชน
ขณะเดียวกันได้รับเสียงสะท้อนจากหลายจังหวัดว่าระดับน้ำลดลง ตนเองก็รู้สึกอุ่นใจขึ้น แต่สถานการณ์น้ำในพื้นที่ใดยังมากอยู่ขอให้แจ้งเข้ามา ส่วนสาธารณูปโภคพื้นฐาน เช่น ถนน น้ำประปา ที่ติดปัญหาก็ให้แจ้งพื้นที่ให้ชัดเจน เพื่อจะได้ส่งความช่วยเหลือให้ถูกต้อง เพราะอยากให้ประชาชนกลับมามีชีวิตที่ปกติได้รวดเร็ว
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่าได้กลับไปดูพื้นที่น้ำท่วมจังหวัดเชียงราย ภาพรวมกลับมาเป็นปกติแล้ว แต่ยังต้องบำรุงรักษาให้เกิดความสวยงามอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจังหวัดพร้อมเปิดการท่องเที่ยวแล้ว ดังนั้น ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ถือว่ามีบทเรียน และมีกรณีตัวอย่างจากทางภาคเหนือและอีสานแล้ว จึงสามารถที่จะลงช่วยเหลือพื้นที่ภาคใต้ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งสถานการณ์น้ำท่วมก็ถือว่ามีข้อดีอยู่บ้าง นั่นคือ การช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว .314.-สำนักข่าวไทย