“ภูมิธรรม” ประชุม กอ.รมน. เห็นชอบแผนงานภาคใต้

สวนรื่นฤดี 9 ธ.ค.- “ภูมิธรรม” นั่งหัวโต๊ะประชุม กอ.รมน. เห็นชอบแผนงานภาคใต้ เดินหน้าสานต่อนโยบายรัฐ เน้นย้ำ ช่วยเหลือปชช. ควบคู่รับมือภัยความมั่นคงให้ครอบคลุมทุกมิติ


พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน. ) เปิดเผยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 1/2567 ณ ห้องประชุมชั้น 3 อาคารรื่นฤดี โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงยุติธรรม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรอง ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อธิบดีกรมป้องกันสาธารณภัย อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วยผู้แทนคณะกรรมการฯ เข้าร่วมประชุม

การประชุมครั้งนี้เป็นการดำเนินการตาม พ.ร.บ. ความมั่นคงฯที่ได้ระบุไว้ ในการให้คณะกรรมการฯ มีอํานาจหน้าที่กํากับ ให้คําปรึกษาและเสนอแนะต่อ กอ.รมน. ในการกำหนดแผนปฏิบัติงานตามอํานาจหน้าที่ของหน่วย


โดยการประชุมในช่วงต้นเป็นการบรรยายสรุปถึงผลการปฏิบัติงานเพื่อแก้ไขปัญหาความมั่นคง ในปีงบประมาณที่ผ่านมา จากนั้นร่วมกันพิจารณาถึงแนวทางการปฏิบัติงานในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้

ผลงานการขับเคลื่อนงานความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ตามบทบาทหน้าที่ใน พ.ร.บ.ฯ มีการบูรณาการขับเคลื่อนการเสริมสร้างความมั่นคงภายใต้แผนงาน “ตําบล มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ร่วมกับส่วนราชการกำหนด 1,154 ตําบลตามเป้าหมาย เพื่อมุ่งแก้ไขภัยคุกคามและพัฒนาให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี นอกจากนี้ มีการดำเนินการจัดตั้งหมู่บ้านอาสาพัฒนาตนเอง จำนวน 55 หมู่บ้าน ใน 55 จังหวัด เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของหมู่บ้านให้มีความเข้มแข็งรักในถิ่นฐาน พร้อมเป็นส่วนร่วมในการพัฒนาและป้องกันตนเองในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ

การแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติ โดย นรม. ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ผอ.รมน.) ได้มีบัญชาให้ กอ.รมน. เสริมการปฏิบัติของ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ในการสกัดกั้นการลักลอบนำเข้ายาเสพติด จึงได้ออกประกาศกำหนดพื้นที่ที่มีความจำเป็นเร่งด่วน โดยได้มีการจัดตั้งหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ชายแดน (นบ.ยส.) ในพื้นที่ภาคเหนือ (นบ.ยส.35) รับผิดชอบพื้นที่ 18 อำเภอ ในจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน พะเยา น่าน และตาก มีผลการสกัดกั้นจับกุมยึดของกลาง ยาบ้า 260,397,423 เม็ด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (นบ.ยส.24) รับผิดชอบพื้นที่ 25 อำเภอ ของจังหวัดนครพนม เลย หนองคาย บึงกาฬ มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี สกัดกั้นยึดของกลาง ยาบ้าได้ 35,569,479 เม็ด ทั้งนี้รวมทั้งสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์อื่น ๆ ได้แก่ ไอซ์ เฮโรอีน ฝิ่น และคีตามีน รวมถึงจะในปี 68 จะมีการจัดตั้งหน่วย นบ.ยส.17 เพิ่มเติม เพื่อป้องกันและสกัดกั้นยาเสพติดในพื้นที่ชายแดนภาคตะวันตกใน 5 อำเภอของจังหวัดกาญจนบุรีต่อไป


สำหรับการดำเนินงานตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ในปีงบประมาณที่ผ่านมา กอ.รมน. ได้บูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนนโยบาย ได้แก่ 1.การจัดระเบียบคนไร้ที่พึ่ง ซึ่ง กอ.รมน. ร่วมกับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และส่วนที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการแก้ไขและช่วยเหลือคนไร้ที่พึ่ง เตรียมจัดตั้งบ้านอิ่มใจรองรับและดูแลคนไร้ที่พึ่งได้ 200 คน และจะร่วมกันดูแลด้านสวัสดิการ สังคม สุขอนามัย และการฝึกอาชีพต่อไป 2.การบริหารจัดการที่ดินของกองทัพให้ประชาชนใช้ประโยชน์ กอ.รมน. บูรณาการร่วมกับ กระทรวงกลาโหม (กห.) และเหล่าทัพ มอบพื้นที่ให้กับกรมธนารักษ์ไปดำเนินการจัดสรรให้ประชาชนเช่าใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุ ทั้งในระยะที่ 1 และระยะที่ 2 ปัจจุบันมีประชาชนได้รับสิทธิในที่ดินทำกินและอยู่อาศัย เนื้อที่รวมทั้งสิ้น 55,180 ไร่เศษ 3.การดำเนินการเพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบทหารกองประจำการแบบสมัครใจ กอ.รมน ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าสร้างแรงจูงใจ การส่งเสริมการศึกษาอาชีพ โดยจะดำเนินการศึกษาแนวทางการขึ้นเงินเดือนและค่าตอบแทน สวัสดิการค่ารักษาพยาบาล ตลอดจนสิทธิ์ในการเข้ารับราชการใน กห. เหล่าทัพ และกระทรวงต่าง ๆ ต่อไป 4.การแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ได้บูรณาการร่วมกับกองทัพภาคที่ 3 และ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในการวางแผน อำนวยการและบูรณาการ การป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละออง ในพื้นที่รับผิดชอบและพื้นที่รอยต่อระหว่างจังหวัดให้ครอบคลุม ซึ่งพบว่าจุดความร้อนสะสม พื้นที่เผาไหม้สะสม และค่าฝุ่นละอองลดลงเมื่อเทียบกับห้วงปีที่ผ่านมา 5.นโยบาย “ไม่ท่วม ไม่แล้ง” กอ.รมน. บูรณาการร่วมกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย สำรวจความเดือดร้อนของประชาชน ในพื้นที่เป้าหมาย 8 จังหวัด (ตราด จันทบุรี อุทัยธานี อุดรธานี น่าน เชียงใหม่ มหาสารคาม และร้อยเอ็ด) โดยจะเสนอโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเร่งด่วน 71 โครงการ เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์ 17,215 ครัวเรือน (49,105 ราย)

นอกจากนี้ กอ.รมน. ได้บูรณาการแก้ไขปัญหาความมั่นคงในพื้นที่ร่องน้ำทะเลสาบสงขลาที่มีการใช้เครื่องมือประมงประเภทโพงพาง ส่งผลกระทบต่อวงจรชีวิตของสัตว์น้ำและทำให้เกิดอุบัติเหตุในการสัญจรทางเรือหลายครั้ง ปัญหาดังกล่าวมีความซับซ้อนเกี่ยวข้องหลายหน่วยงาน กอ.รมน.ภาค 4 จึงได้บูรณาการแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม โดยการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหา และจะเชิญทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรมต่อไป

แนวทางการเพิ่มบทบาทข้าราชการพลเรือน ปัจจุบัน กอ.รมน. กำหนดแนวทางเพื่อเพิ่มบทบาทข้าราชการพลเรือน ลดสัดส่วนของทหาร รวมถึงการกำหนดอัตรากำลังใน กอ.รมน. ให้สอดคล้องกับบทบาทและภารกิจในปัจจุบันและอนาคตของประเทศ

สำหรับการปฏิบัติงานในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ กอ.รมน. ได้นำเสนอเรื่องแนวทางการดำเนินการ โดยให้ที่ประชุมร่วมกันพิจารณาความเหมาะสม ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบและมีมติให้ ผอ.รมน.ภาค 4 เป็นผู้รับมอบอำนาจจาก ผอ.รมน. ดำเนินการ ประกอบด้วย การปรับโครงสร้าง อัตรากำลัง และแผนเสริมสร้างสันติสุข ของ จชต. เนื่องจากปัจจุบัน สถานการณ์ใน จชต. ในภาพรวมเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นตามลำดับ สถิติความเสียหายต่อทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน และจำนวนผู้เสียชีวิตลดลงอย่างมีนัยสำคัญ นำไปสู่การยกเลิกพื้นที่ประกาศบังคับใช้ พ.ร.ก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 เป็นรายอำเภอ จึงมีการปรับลดอัตรากำลังพล จำนวน 178 อัตรา คงเหลือ 49,735 อัตรา ทั้งนี้เพื่อเป็นการเตรียมการถ่ายโอนภารกิจให้แก่ อส.จชต. ในปี 2570 นอกจากนี้ ที่ประชุมได้มีการพิจารณาถึงแนวทางแผนเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ 2568 ที่ปรับให้มีความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น มีประชาชนเป็นจุดสมดุล โดยบูรณาการกับหน่วยงานที่เป็นเจ้าภาพแผนงานหลักในการวางแผน เพื่อให้การดำเนินงานแก้ไขปัญหา จชต. เป็นไปอย่างประสานสอดคล้องและมีประสิทธิภาพ ซึ่งภายหลังจากคณะกรรมการให้ความเห็นชอบ และ ผอ.รมน. ได้ลงนามในคำสั่งแล้ว จะประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาเพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมได้มีการร่วมกันพิจารณาแผนปฏิบัติการความมั่นคงรองรับพื้นที่ประกาศบังคับใช้ พ.ร.บ. การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 สืบเนื่องจากที่ ครม. มีมติให้ปรับลดพื้นที่ 19 อำเภอใน 3 จังหวัด และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ออกจากพื้นที่การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงฯ เนื่องจากสถานการณ์ในพื้นที่ จชต. เป็นไปในแนวทางที่ดีขึ้น โดยจะมุ่งเน้นการดำเนินงานตามมาตรา 21 พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงฯ พ.ศ. 2551 เพื่อเปิดโอกาสให้กับผู้ต้องหาที่กระทำความผิดในคดีความมั่นคง สามารถกลับใจและเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ เป็นกลไกหนึ่งในการนำไปสู่กระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขอย่างเป็นรูปธรรม โดยให้ ผอ.รมน.ภาค 4 เป็นผู้รับมอบอำนาจและดำเนินการ

โดยที่ประชุมได้รับทราบถึงผลการปฏิบัติงาน และเห็นชอบในการดำเนินการตามที่เสนอ ซึ่งในโอกาสนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รอง นรม./ประธานคณะกรรมการฯ ได้กล่าวขอบคุณการทำงานของ กอ.รมน. ในห้วงที่ผ่านมา และเน้นย้ำเรื่องการส่งเสริมการปฏิบัติงานแบบบูรณาการเพื่อแก้ไขปัญหาความมั่นคงตามเป้าหมาย “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข” และขอขอบคุณคณะกรรมการอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ที่ช่วยกันพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อแนวทางการดำเนินงานของ กอ.รมน. โดยในวันที่ 23 ธ.ค. 67 จะมีการจัดงานสรุปผลการดำเนินงานปี 2567 และแถลงแผนการปฎิบัติงานของ กอ.รมน. ในปี 2568 โดยในวันดังกล่าว นายกรัฐมนตรีจะมอบนโยบายและแนวทางการปฏิบัติงานให้กับ กอ.รมน.ส่วนกลาง กอ.รมน.ภาค และกอ.รมน.จังหวัด รวมถึงส่วนราชการที่เกี่ยวข้องต่อไป.-316 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.สั่งเยียวยา ตรวจสอบเหตุ ฮ.ตำรวจตก

ประจวบคีรีขันธ์ 24 พ.ค. – ลำเลียงร่างตำรวจ 3 นาย เสียชีวิตจาก ฮ.ตก ส่งชันสูตร ด้าน ผบ.ตร.สั่งเยียวยาเต็มที่ ให้เร่งตรวจสอบหาสาเหตุโดยด่วน ช่วงบ่ายของวันนี้ เกิดเหตุ เฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติประสบอุบัติเหตุ ระเบิดกลางอากาศ จนมีตำรวจเสียชีวิต 3 นาย จุดเกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ บ้านหนองกก ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า เฮลิคอปเตอร์ที่ประสบเหตุเป็นรุ่น เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเดินทางจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี และจะบินกลับที่หน่วย ตชด. จังหวัดกาญจนบุรี อุบัติเหตุในครั้งนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 นาย ประกอบด้วยนักบิน 2 คน คือ พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ, ร.ต.ท.ทรงพล บุญชัย และ ช่างเครื่อง 1 คน คือ ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย สาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ […]

ฮ.ตำรวจตก จ.ประจวบฯ เสียชีวิต 3 นาย

ประจวบฯ 24 พ.ค. – คืบหน้าเหตุเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ จ.ประจวบฯ พบผู้เสียชีวิต 3 นาย เป็นนักบิน 2 ช่างเครื่อง 1 ความคืบหน้าเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ใกล้เคียงวัดหนองพังพวย ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากการตรวจสอบพบว่าเหตุเกิดเมื่อเวลา 13.10 น. มีผู้เสียชีวิต 3 นายคือ พันตำรวจตรีประเทือง ชูเลิศ นักบิน ร้อยตำรวจเอกทรงพล บุญชัย นักบิน และร้อยตำรวจโททินกฤต สุวรรณน้อย ช่างเครื่อง สำหรับภารกิจขึ้นบิน อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ขึ้นจากท่าแร้งไปต่างจังหวัด หรือเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ประจำการในพื้นที่แล้วปฏิบัติภารกิจ ล่าสุดมีภาพผู้เสียชีวิตบางส่วน และบางรายโดดร่มลงจากเฮลิคอปเตอร์ แต่รายละเอียดยังไม่สามารถยืนยันได้ เนื่องจากเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายโมงที่ผ่านมา และทุกอย่างยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติขึ้นบินจากค่ายอาภากรเกียรติวงศ์ จ.ชุมพร ปลายทางค่ายนเรศวร จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตทั้ง 3 นายและครอบครัว สั่งการเร่งด่วนให้ช่วยเหลือเยียวยา และตรวจสอบสาเหตุต่อไป.-สำนักข่าวไทย

สายลับไรเดอร์ ตามจับบัญชีม้า แก๊งคอลเซ็นเตอร์

เชียงใหม่ 24 พ.ค.-ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ ปลอมตัวเป็นไรเดอร์ สะกดรอยตามจับ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักท่องเที่ยวผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก เปิดให้จองที่พักทิพย์ตามแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในจังหวัด เสียหายมากถึงวันละ 300,000 บาท โดยมีเงินโอนเข้าบัญชีม้าไม่ต่ำกว่า 50 บัญชี แก๊งนี้ทำมาแล้วกว่า 6 เดือน ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ นำหมายจับศาลเชียงใหม่ ติดตามจับกุมนายบุญ (หนุ่มชาติพันธุ์) คาห้องเช่า ใกล้พรมแดน ในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ผู้ต้องหาตามหมายจับ ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และความผิดตามพรบ.คอมพิวเตอร์ คดีหลอกลวงทางออนไลน์ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง เครื่องนับเงินสด และเงินสดอีกจำนวน 20,000 บาท สมุดบัญชีธนาคาร บัตรกดเงินสด หลายรายการ ซุกซ่อนในตู้เสื้อผ้า นอกจากนี้ ยังขยายผลจับกุมผู้ต้องหา ที่เปิดบัญชีม้า ในการรับโอนเงินได้อีก 3 คน และอยู่ระหว่างขยายผลเพิ่มเติม โดยเฉพาะคนที่จัดหาบัญชีม้า และโทรศัพท์มือถือ สำหรับใช้ในการกระทำความผิดกับผู้ต้องหา ด้าน พันตำรวจโท อวิรุทธ์ สุขแย้ม […]

ทหารเมียนมา ต้านไม่ไหว ฐานเจดีย์ขาวเบอโด้ แตกแล้ว

ตาก 24 พ.ค.-ทหารเมียนมา ต้านไม่ไหว ฐานเจดีย์ขาวเบอโด้ แตกแล้ว ถึงแม้ว่าทหารเมียนมาจะใช้เครื่องบินมาทิ้งระเบิดตลอดทั้งวัน พ.อ.ณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจราชมนู (ผบ.ฉก.ราชมนู) กองกำลังนเรศวร เปิดเผยถึงสถานการณ์สู้รบบริเวณแนวชายแดน ประเทศเมียนมา ที่ติดอยู่กับประเทศไทย การสู้รบอยู่บริเวณด้านตรงข้าม บ.ห้วยน้ำนัก ม.4 ต.พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 1 กิโลเมตร โดยหลังจากทหารเมียนมา ใช้อากาศยาน แบบ Y-12 บินตรวจการณ์และทิ้งระเบิด จำนวนประมาณ 30 ลูก โจมตี กกล.KNLA บริเวณพื้นที่โดยรอบ ฐานเจดีย์ขาว บ.เบอโด้ อ.ซูการี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง สหภาพเมียนมา เพื่อสนับสนุนการป้องกันฐานที่มั่น หลังจากถูก กกล.KNLA ปิดล้อมและโจมตี แต่ก็ไม่สามารถต้านทาน กกล.KNLA ได้ กระทั้งเวลา 19.00 น. กกล.KNLA สามารถเข้าควบคุมฐานเจดีย์ขาว ได้สำเร็จ สามารถตรวจยึดอาวุธและยุทโธปกรณ์ได้หลายรายการ […]

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม-ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

กทม. 25 พ.ค.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม กรมอุตุนิยมวิทยา เผยบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกัน โดยการปรับปรุงระบบทางระบายน้ำในแปลงเพาะปลูก เพื่อลดผลกระทบและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย .-สำนักข่าวไทย

กว่า 130 ชม. ภารกิจสำเร็จ! กู้ร่างคนงานตกหลุมเสาเข็ม

กทม. 25 พ.ค.- ภารกิจสำเร็จ! ทีมกู้ภัยนำร่าง “นายดาว” คนงานพลัดตกหลุมเสาเข็ม ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ขึ้นมาด้านบนสำเร็จ หลังใช้เวลาปฏิบัติการกว่า 130 ชั่วโมง ความคืบหน้ากรณีนายศราวุฒิ หรือ นายดาว อายุ 33 ปี ชาวศรีสะเกษ คนงานที่พลัดตกลงไปในหลุมเสาเข็มความลึก 19 เมตร บริเวณพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณปากซอยหลานหลวง 6 และ 8 แขวงมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา เข้าสู่วันที่ 6 แล้ว หลังจากเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ได้คาดพิกัดที่อาจพบร่างผู้เสียชีวิตที่ระดับความลึก 11.5 เมตร ล่าสุดเมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 24 พ.ค. บริเวณซอยหลานหลวง 8 เจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัย USAR และมูลนิธิร่วมกตัญญู ยังคงพยายามเร่งค้นหาเพื่อกู้ร่างนายศราวุฒิ ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยมี […]

ทิศทางการเมืองหลังคดี “ยิ่งลักษณ์” บวกปมฮั้ว สว.

24 พ.ค. – ทิศทางการเมืองไทย ไปทางไหน ? หลังศาลสั่ง “ยิ่งลักษณ์” ชดใช้หมื่นล้าน ปิดคดีจำนำข้าว ส่วนปมคดีฮั้วเลือก สว. จะนำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมืองในระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ พูดคุยกับ รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำภาควิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.-สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมชายแดนแม่สาย หวั่นสารพิษท่วม

เชียงราย 24 เม.ย. – เพิ่งเริ่มต้นฤดูฝน แต่ฝนตกหนักในเมียนมา ทำให้แม่น้ำสายไหลทะลักท่วมชายแดนแม่สาย ที่เชียงราย ชาวบ้านขนของหนีน้ำอลหม่าน หวั่นซ้ำรอยน้ำท่วมใหญ่ปีที่แล้ว และยังต้องกังวลกับสารพิษปนเปื้อนมากับน้ำท่วมด้วย.-สำนักข่าวไทย