ไทย-ลาว ถกร่วมสกัดปัญหายาเสพติด-คอลเซ็นเตอร์

กทม. 8 ธ.ค.- “นายกฯ-มท.1-ผบ.ตร.” สั่งปราบยาเสพติด-คอลเซ็นเตอร์ ขณะที่ตำรวจไทย-สปป ลาว ประชุมร่วมรับมือสกัดปัญหา


นายนพดล กรรณิกา ที่ปรึกษาศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมามีการประชุมร่วมระหว่างตำรวจไทย และลาว ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย ในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ที่ส่งผลกระทบต่อความสงบสุขของประชาชนในทั้งสองประเทศ โดยมีการหารือเกี่ยวกับปัญหายาเสพติด และการกระทำผิดของมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์เชื่อมโยงกับนโยบายระดับชาติ

นายนพดล กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่นำโดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ประกาศปราบปรามยาเสพติดและการจัดระเบียบสังคม และการเร่งรัดของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่มอบนโยบายตำรวจมุ่งเน้นการต่อสู้กับอาชญากรรมข้ามพรมแดน และเพิ่มความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของชาติ และความปลอดภัยของประชาชนทั้งสองประเทศอย่างยั่งยืน


”การประชุมครั้งนี้เป็นการแสดงออกถึงความร่วมมือระดับยุทธศาสตร์ ด้วยการนำข้อมูลและข่าวกรองร่วมกันเพื่อจัดการกับเส้นทางการค้ายาเสพติดที่ซับซ้อนและเครือข่ายมิจฉาชีพออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นับเป็นความพยายามอันต่อเนื่องที่จะหยุดยั้งปัญหาอาชญากรรมที่มีผลกระทบถึงระดับชาติ และระหว่างประเทศ” นายนพดล กล่าว

นายนพดล ยังกล่าวว่า ในการประชุมนี้นำโดย พลจัตวา ดร.บัวผัน ฟองมณี หัวหน้ากองบัญชาการป้องกันความสงบนครหลวงเวียงจันทน์ ร่วมกับ พล.ต.ต.พิรัชย์ อุดมพิสุทธิคุณ ผบก.ภ.จว.หนองคาย และนางสาวนุชนีย์ จันทนุช ผู้แทนสำนักงาน ป.ป.ส. ที่ได้นำเสนอข้อมูลสถานการณ์ยาเสพติดตามแนวชายแดนไทย-ลาว และแนวทางแก้ไขปัญหาด้วยหลักนิติวิทยาศาสตร์แบบก้าวหน้า

ที่ปรึกษาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า การประชุมนี้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ประสบการณ์ และมาตรการเสริมสร้างความเชื่อมั่น และความศรัทธาของประชาชนทั้งสองประเทศในการจัดการกับปัญหาอาชญากรรม และเป็นการแสดงให้เห็นถึงการทำงานของรัฐทั้งสองประเทศที่มีประสิทธิผล ทั้งนี้การร่วมมือและการประสานงานระหว่างสองประเทศจะช่วยเสริมสร้างมาตรการด้านความปลอดภัยและสร้างพื้นที่ให้ประชาชนตามแนวชายแดนไทยลาวสามารถดำเนินชีวิตอย่างสงบสุข การประชุมความร่วมมือไม่เพียงแค่แสดงถึงการต่อสู้กับปัญหาอาชญากรรมเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนระหว่างไทยและลาว อีกทั้งเป็นการส่งเสริมความร่วมมือระดับสูงที่มีผลต่อการปกป้อง และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในทั้งสองประเทศ


“การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวกรอง และการใช้เทคโนโลยีในการติดตามและจับกุมเป็นสิ่งสำคัญที่ถูกหยิบยกมาพูดถึงในการประชุมครั้งนี้ พร้อมทั้งการพัฒนาแนวทางปฏิบัติใหม่ๆ เพื่อรับมือกับอาชญากรรมที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยปัญญาประดิษฐ์ ด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ ทั้งนี้ความร่วมมือในด้านนี้จะช่วยให้ทั้งสองฝ่ายสามารถป้องกัน และดำเนินการได้ทันท่วงที” นายนพดล กล่าว

นอกจากนี้การเสริมสร้างความเข้าใจและความร่วมมือในระดับชุมชนชายแดนถือเป็นหัวใจสำคัญ เพื่อให้ผู้คนในพื้นที่มีส่วนร่วมในการแจ้งเบาะแสและการป้องกันอาชญากรรมที่อาจเกิดขึ้น ด้วยการอบรมเสริมสร้างความตระหนักต่อปัญหายาเสพติด และมิจฉาชีพแก๊งคอลเซนเตอร์ และการสร้างเครือข่ายวิชาการจัดทำฐานข้อมูลรายบุคคลเกี่ยวกับปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่จะช่วยให้ชุมชนแข็งแกร่ง และลดอัตราการเกิดอาชญากรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ การประชุมครั้งนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นการแสดงความร่วมมือของหน่วยงานรัฐในระดับสูงเท่านั้น แต่ยังเป็นการปูทางสำหรับการสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน และการปรับปรุงมาตรการความปลอดภัยสำหรับประชาชนในทั้งสองประเทศ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างยิ่งใหญ่ในการปกป้องและส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้แก่ผู้คนในภูมิภาค

อย่างไรก็ตามการตั้งด่าน 24 ชม.ตรวจยาเสพติด เฉพาะจุดชายแดนไทย-ลาว (หนองคาย) และด่านเหลื่อมเวลา เชื่อว่าจะเป็นการป้องกันการลักลอบขนยาเสพติดเข้าประเทศได้เป็นอย่างดี โดยให้รัฐบาลทั้ง 2 ประเทศเข้มงวดวางกำลังตรวจสอบการเข้าออกพื้นที่อย่างเข้มงวด

ทั้งนี้มีรายงานว่า กรณีความเสียหายที่เกิดจาก บริษัทดิไอคอน กรุ๊ป ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นธุรกิจแชร์ลูกโซ่ เนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนมากออกมาแจ้งความดำเนินคดีว่าถูกหลอกลวงให้ซื้อสินค้าจำนวนมากเพื่อนำไปขายต่อ แต่สินค้ากลับขายไม่ได้ ทำให้ธุรกิจดังกล่าวถูกระบุว่า ไม่เน้นขายสินค้าแต่เน้นหาคนให้ร่วมลงทุนมากกว่า ปรากกฏว่ามีคนลาวจำนวนไม่น้อยหลงกลตกเป็นเหยื่อด้วยเช่นกัน .314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย ขณะที่ ผบ.ตร. อาลัยตำรวจกล้า สั่งต้นสังกัดดูแลสิทธิประโยชน์ เลื่อนเงินเดือนและชั้นยศ

นักโทษกลับใจ

อดีตนักโทษกลับใจ หลังติดคุก 30 ปี โทรคุยกับพ่อทั้งน้ำตา

อดีตนักโทษชีวิตโตมาในคุก ตั้งแต่อายุ 19 จนตอนนี้ อายุ 49 ปี ร่ำไห้กับตำรวจ ขอให้ช่วยพากลับบ้านที่จากมา 30 ปี ตำรวจโทรศัพท์หาพ่อ ให้ 2 พ่อลูกคุยกันทั้งน้ำตา

ตำรวจจีนพาผู้ต้องสงสัยฉ้อโกง 200 ราย กลับจากเมียนมา

พลเมืองจีน 200 รายที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ถูกส่งตัวจากเมืองเมียวดีในเมียนมากลับจีนแล้วเมื่อวานนี้ ภายใต้การคุ้มกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจจีน

เด็ก 12 สูบบุหรี่ไฟฟ้า-ดื่มน้ำกระท่อม ทำปอดหาย

ย่าช็อก หลานวัย 12 ปี อาการวิกฤติ ปอดหายเกือบทั้งหมด ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หลังสูบบุหรี่ไฟฟ้าและดื่มน้ำกระท่อมตั้งแต่ ป.4

ข่าวแนะนำ

สว.ยื่นถอดถอนรัฐมนตรี

สว. จ่อยื่นถอดถอน​ “รมต.” กล่าวหาอั้งยี่-ซ่องโจร

สว. ประกาศสงคราม​ เตรียมยื่นถอดถอน​ “รัฐมนตรี” กล่าวหาอั้งยี่-ซ่องโจร พ่วง​ยื่นอภิปราย-แจ้งความ​-เชิญสอบใน​กมธ.​

ส่งกลับเหยื่อคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนอีก 300 คน

วันที่สองของปฏิบัติการขนเหยื่อคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนจากเมียวดี ข้ามชายแดนไทย ส่งกลับประเทศอีก 300 คน รวม 2 วัน ส่งกลับแล้ว 500 คน เหลือพรุ่งนี้อีก 1 วัน

บุกทลายบ่อนทุนจีนเทากลางเมืองภูเก็ต

ตำรวจภูเก็ตบุกทลายบ่อน ‘กลุ่มจีนเทา’ กลางเมืองภูเก็ต รวบนักพนันชาวจีน 13 ราย พร้อมของกลางกว่า 30 รายการ พบเงินหมุนสัปดาห์เดียวกว่า 5 ล้านบาท