“จุลพงศ์” ไล่ “พิชัย” ไปศึกษาให้ดี ขึ้น VAT 15%

รัฐสภา 6 ธ.ค.-“จุลพงศ์” ติง “พิชัย” รมว.คลัง หยุดพูดปมขึ้น VAT 15%-ลดภาษีนิติบุคคล ไล่ไปศึกษาให้ดีก่อน

นายจุลพงศ์ อยู่เกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน และรองประธานกรรมาธิการพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง กล่าวถึงการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 7% เป็น 15% ว่า ถือเป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายของคนที่มีรายได้ปานกลางและคนที่มีรายได้ต่ำเป็นอย่างสูง เนื่องจากเพิ่มขึ้นถึง 100% ตนไม่เข้าใจว่าเศรษฐกิจตอนนี้เนือยๆ เฉื่อยๆ รัฐบาลควรคิดเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ การเพิ่มรายได้ลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน แต่กลับมาคิดเพิ่มรายจ่ายของประชาชน ซึ่งในต่างประเทศมีการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่ขึ้นทีละน้อย อย่างกรณีขิงญี่ปุ่น จาก 7% เป็น 8% หรือ 9% เพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับประชาชนมากนัก แต่นายพิชัย ไปพูดในการสัมมนาว่าคิดเรื่องนี้ทั้งคืน ไม่รู้อธิบายให้ประชาชนอย่างไร พูดไปแล้วจะอยู่รอดหรือไม่ ซึ่งตนคิดว่าคนไทยฟังเรื่องนี้ ไม่สนใจว่าท่านจะอยู่รอดหรือไม่ แต่เราสนใจตัวเองว่าจะรอดหรือไม่ ถ้ารัฐบาลขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 7% เป็น 15% โดยกระทบแน่นอน


“ผมขอเรียกร้องให้รัฐมนตรีคลังหยุดพูดเรื่องนี้ และศึกษาให้ดีให้รอบคอบก่อนทำความเข้าใจกับประชาชนว่าขึ้นภาษีเพราะอะไร เก็บไปแล้วย้อนกลับมาทำประโยชน์อะไรให้ประชาชน และมีข้อดีอย่างไร” นายจุลพงศ์ กล่าว

นอกจากนี้ เรื่องของภาษีนิติบุคคลก็น่าแปลก รัฐบาลบอกว่าจะขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มกับประชาชน แต่จะลดภาษีนิติบุคคลให้กับธุรกิจ ตนสงสัยว่ามันเป็นธรรมอย่างไร ก็ขอเรียกร้องให้รัฐบาลโดยเฉพาะรัฐมนตรีคลัง หยุดพูดเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างอ่อนไหวในสังคม และความรู้สึกของประชาชน


เมื่อถามว่า มีคนนำไปเปรียบเทียบในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่จะปรับขึ้นภาษี ก็ถูกด่า แต่ครั้งนี้จะขึ้นไปถึง 15% นายจุลพงศ์ กล่าวว่า จาก 7% เป็น 15% ทุกคนมีผลกระทบ เพราะสินค้าบริการทุกอย่างจะขึ้นราคาหมด ซึ่งจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่แต่การพูดเรื่องขึ้นภาษีขึ้นเงินเดือนล่วงหน้าทุกอย่างมันขึ้นรอแล้ว

เมื่อถามว่า เป็นการคิดแบบท็อปทูดาวน์ จากคนรวยถึงคนจนหรือไม่ นายจุลพงศ์ กล่าวว่า รัฐบาลน่าจะกำลังหารายได้ หาเงินมามากขึ้น ขอถามว่ารัฐบาลนี้สิ้นคิดในการหาเงินแล้วหรือไง ถึงต้องมาภาษีขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งจริงๆมีผลกระทบเท่ากันทุกคน ท่านพูดคนรวย คนจน อัตราเท่ากันหมด แต่จริงๆมันไม่ใช่ 15% สำหรับคนรวย เขาไม่รู้สึก แต่สำหรับคนจน รู้สึกมาก

ส่วนที่นายกรัฐมนตรี ออกมาทวิตข้อความ ยืนยันแล้วว่าจะไม่มีการขึ้นภาษี 15% ถือว่าเป็นการถอยหรือไม่ นายจุลพงศ์ มองว่า เป็นการแสดงให้เห็นว่ายังไม่ได้มีการศึกษาอะไรเลย ซึ่งระดับรัฐมนตรีการคลัง นึกจะพูดก็พูด ลองคิดแล้วกัน รัฐมนตรีคนนึงพูดอย่าง อีกคนก็พูดอีกอย่าง มันไม่น่าจะใช่วิธีการบริหารประเทศที่ดี.-315.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชนวัวตัดหน้ารถ

ฝูงวัววิ่งตัดหน้าเก๋ง คนขับเบรกไม่ทัน พุ่งชนตาย 4 ตัว

สาวขับรถจากสุรินทร์มากรุงเทพฯ ระหว่างทางเจอวัวเป็นสิบตัววิ่งข้ามถนน ตัดหน้าระยะกระชั้นชิด เบรกไม่ทัน ชนวัยตายคาที่ 4 ตัว รถพังยับ แต่คนขับและผู้โดยสารปลอดภัย ส่วนเจ้าของวัวยังล่องหน

นายกฯ หย่าศึก! “2 รมต.” โต้เดือดกลาง ครม.ปมส่งออกทุเรียนไปจีน

“พิชัย – นฤมล” โต้เดือดกลาง ครม.ปมส่งออกทุเรียนไปจีน ด้าน “นายกฯ แพทองธาร” รีบหย่าศึกให้ไปตกลงนอกรอบ ก่อนรายงาน ครม.ใหม่

ตำรวจพกโพยเข้าสอบ

ผบ.ตร. สั่งฟัน “พ.ต.อ.” พกโพยเข้าสอบตุลาการศาลปกครองชั้นต้น

ผบ.ตร.สั่งดำเนินการเด็ดขาด รอง ผบก.อก.ภ.8 หลังถูกตรวจพบโพยทุจริตการสอบตุลาการประจำศาลปกครองชั้นต้น ให้ต้นสังกัดตั้งสอบวินัยร้ายแรง ฐานเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง

ข่าวแนะนำ

ป.ป.ส.แถลงจับนักร้องดังยุค 90 เป็นลูกค้ายาตัวยง จ่อขยายผลคนในวงการ

ป.ป.ส. แถลงรวบเครือข่ายยาเสพติด ระหว่างจับกุม มีไลน์นักร้องดังยุค 90 สั่งซื้อยาเข้ามาพอดี พร้อมนัดสถานที่รับยา เจ้าหน้าที่จึงซ้อนแผนจับกุมทันที พบผสมทองคำเปลวลงในไอซ์ เพิ่มมูลค่า ตรวจในไลน์กลุ่มพบคนบันเทิงหลายราย

ม็อบเทปลาหมอคางดำหน้าทำเนียบฯ หลังไม่ได้รับการตอบรับข้อเรียกร้อง

กลุ่มเกษตรกรจาก 19 จังหวัด ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ เทปลาหมอคางดำ 2 ตัน บริเวณประตู 5 ทำเนียบรัฐบาล เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ถึงความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นยาวนาน 13 ปี หลังเอเลียนสปีชีส์ชนิดนี้ระบาดในแหล่งน้ำธรรมชาติ พร้อมเผาพริกเผาเกลือสาปแช่งผู้ก่อปัญหาต่อระบบนิเวศและอาชีพการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ

ทลายรังบุหรี่ไฟฟ้า

นายกฯ นำแถลงทลายรังบุหรี่ไฟฟ้าใหญ่อันดับ 1 ของประเทศ

นายกฯ นำแถลงข่าวจับกุมบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่อันดับ 1 ของประเทศ หลังตำรวจสืบนครบาล เปิดปฏิบัติการ Operation Smoke ค้น 10 จุด พบของกลางมูลค่าเกือบ 100 ล้านบาท