ทำเนียบ 4 ธ.ค.-รัฐบาลเดินหน้านโยบายสร้างฐานอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ชั้นสูง สั่งเตรียมทัพบุคลากร-สาธารณูปโภค รองรับการลงทุน 5 แสนล้าน ใน 5 ปีข้างหน้า พร้อมตั้งคณะกรรมการพัฒนาเจาะ 10 บริษัทยักษ์ใหญ่ ลงทุนในไทย
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน แถลงผลการประชุมภายหลังการประชุม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ชั้นสูงแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2567 ว่า ที่ประชุม เห็นชอบจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมดังกล่าว รวมถึงรับทราบแผนยุทธศาสตร์ พัฒนาบุคลากรรองรับการลงทุน ตั้งเป้า ระยะ 5 ปี 2568-2572 ดึงเม็ดเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 5 แสนล้านบาท เพื่อยกระดับ ไทยสู่ศูนย์กลางการผลิตเซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ชั้นสูง โดยปัจจุบันอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ชั้นสูง โดยเฉพาะการผลิตชิป เป็นอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ที่สำคัญของโลกเติบโตอย่างก้าวกระโดด คาดว่ามูลค่าการตลาดจะขึ้นสูงถึง 1 ล้านล้าน ดอลลาร์สหรัฐในปี 2030
นายนฤตม์ กล่าวว่าประชุมมีมติ 2 เรื่องสำคัญ คือจัดทำยุทธศาสตร์ระดับชาติ โดยให้จัดจ้างที่ปรึกษาชั้นนำระดับโลก เพื่อจัดทำยุทธศาสตร์ทั้งในระดับนโยบาย ครอบคลุมถึงระดับปฏิบัติการ จัดทำแผนดึงดูดนักลงทุน รายสำคัญอย่างน้อย 10 บริษัท ชั้นนำระดับโลก ให้เข้ามาลงทุน ออกแบบและผลิตเซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ชั้นสูงในไทย และร่วมมือกับประเทศผู้นำด้านเซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ชั้นสูง เพื่อเป็นห่วงโซ่อุปทานระดับโลก และเพิ่ม ศักยภาพรอบการแข่งขันของประเทศ ขณะเดียวกันที่ประชุมยัง เห็นชอบแผนการพัฒนากำลังคน รองรับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต โดยตั้งเป้า ปี 2573 จะต้องผลิตบุคลากร เฉพาะทางและนักวิจัยระดับสูง 84,900 คน ผ่านโครงการอีพสกิลและรีสกิล รวมถึงหลักสูตรการศึกษารูปแบบใหม่เช่น sandbox และโปรแกรมฝึกงานนานาชาติ จัดตั้งศูนย์ฝึกอบรม 6 แห่งเช่นศูนย์.Wafer Fabrication และศูนย์วิจัยพัฒนา
นายนฤตม์ กล่าวว่าที่ประชุมยังได้เห็นชอบตั้งคณะอนุกรรมการ 2 ชุด โดยมีเลขาธิการ BOI เป็นประธาน และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเป็นประธาน โดยให้ดูเรื่องการเตรียมหลักสูตรความพร้อมรองรับพัฒนาแรงงาน และ เตรียมสถานที่รองรับอุตสาหกรรม ดูเรื่องระบบสาธารณูปโภคและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
นายนฤตม์ ยังกล่าวได้ว่าตั้งแต่ปี 2561 ถึงเดือนกันยายน 2567 มีการขอรับการส่งเสริมการลงทุน ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมกว่า 1,213 โครงการ มูลค่าการลงทุน 876,328 ล้านบาท โดยในช่วง 2 ปีหลัง มีการลงทุนในกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ชั้นสูง แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นอย่างมากส่วนใหญ่เป็นการลงทุนจากสหรัฐอเมริกา ยุโรป จีนไต้หวัน และญี่ปุ่น.-319.-สำนักข่าวไทย