นายกฯ สั่งการทุกหน่วยงานหารือแก้ฝุ่น PM 2.5

ทำเนียบ 3 ธ.ค.-นายกฯ สั่งการทุกหน่วยงานหารือแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 คาดจะดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว เผย ครม.เห็นชอบจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ พร้อมขยายเวลาจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากสินค้านำเข้า ราคาไม่เกิน 1,500 บาท เป็นการชั่วคราว ป้องกันนำเข้าผิดกฎหมาย ส่งเสริมเอสเอ็มอีไทย

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ( ครม. ) ว่า ที่ประชุมครม.ได้คุยกันถึงปัญหาหมอกควัน PM2.5 พร้อมได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยว นำโดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หารือกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งกำหนดมาตรการการป้องกันมลพิษทางอากาศ ทั้งในส่วนปัญหาจากการเผาทางการเกษตรและไอเสียจากรถยนต์ รวมถึงฝุ่นควันจากภาคอุตสาหกรรม เช่น มาตรการไม่รับซื้อผลผลิตทางอุตสาหกรรม อ้อย ข้าวโพด ในกรณีที่พิสูจน์ได้ว่ามีกระบวนการผลิตที่ใช้การเผา พร้อมยกตัวอย่างจังหวัดเชียงใหม่ที่มีจุดความร้อนและพื้นที่เผาไหม้ลดลงในปี 2566 ลดลงร้อยละ 50% ดังนั้นแนวโน้มปี 2568 จะมีแนวโน้มไม่รุนแรงเมื่อเทียบกับปี 2566 ประกอบกับมีมาตรการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นรวมกับประเทศเพื่อนบ้าน และการดักฝุ่นควัน เป็นต้น


ขณะที่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้สั่งการให้ผู้ว่าฯ กทม. ร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการป้องกันการเกิดปัญหา PM2.5 โดยจำนวนที่ตรวจพบค่าฝุ่นตามมาตรฐานเมื่อเทียบกับปี 2566 ก็พบว่าลดลง 20% จึงคาดการณ์ได้ว่าปีนี้ปัญหาดังกล่าวจะจัดการได้ดียิ่งขึ้น

นางสาวแพทองธาร ยังบอกว่าที่ประชุม ครม. ได้อนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ในเรื่องค่าบริหารจัดการและการพัฒนาคุณภาพเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในปี 2567 และ 2568 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกรมีกลุ่มเป้าหมาย 4.61 ล้านครัวเรือน ในอัตราไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 10 ไร่ และครัวเรือนละไม่เกิน 10,000 บาท


นอกจากนี้ที่ประชุม ครม. ยังเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอในการขยายเวลาการจับเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากสินค้านำเข้า ราคาไม่เกิน 1,500 บาท เป็นการชั่วคราวตั้งแต่ 1 มกราคม 2568 จนถึง 11 ธันวาคม 2568 เพื่อป้องกันสินค้านำเข้าจากต่างประเทศแบบผิดกฎหมายจากแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ รวมถึงเป็นการส่งเสริมเอสเอ็มอีของไทยด้วย.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก

ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ