ชงขับเคลื่อน 2 วาระสุขภาพแห่งชาติ

กทม.27 พ.ย. – “เดชอิศม์” ชงขับเคลื่อน 2 วาระสุขภาพแห่งชาติ ทวงคืนสิ่งแวดล้อม-สานพลังสู้ NCDs ในงาน“สมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 17” พร้อมผนึกกำลังภาคีเครือข่าย สมัชชาอนามัยโลก สร้างการมีส่วนร่วมของสังคม​ พร้อมเดินหน้าแสวงหาฉันทมติ 2 ระเบียบวาระ “พลิกโฉมกำลังคน – ท่องเที่ยวแนวใหม่”


นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และรองประธานกรรมการสุขภาพแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีเปิดงานสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 17 พ.ศ. 2567 ที่จัดขึ้นโดยสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ร่วมกับภาคีเครือข่ายยุทธศาสตร์ ระหว่างวันที่ 27-28 พ.ย. 2567 ที่เมืองทองธานี ภายใต้ประเด็นหลัก “เศรษฐกิจยุคใหม่ สร้างสุขภาวะไทยยั่งยืน” ซึ่งมีภาคีเครือข่ายสมาชิกสมัชชาสุขภาพ ผู้ทรงคุณวุฒิ และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมในที่ประชุมกว่า 2,000 คน และผ่านระบบออนไลน์อีกกว่า 1,000 บัญชี

นายเดชอิศม์ ปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “เศรษฐกิจกับสุขภาพสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนของไทย: ความท้าทายคืออะไร?” โดยระบุตอนหนึ่งว่า เศรษฐกิจกับสุขภาพถือเป็นประเด็นที่มีความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทาย ไม่ว่าจะเป็นในด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจ ความเหลื่อมล้ำ การเข้าสู่สังคมสูงอายุ ฯลฯ ภายใต้แนวคิดการมองเรื่องสุขภาพในปัจจุบันที่มีการเชื่อมโยงกับมิติอื่นๆ อย่างเป็นองค์รวมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแนวคิดสุขภาพหนึ่งเดียว (One health) แนวคิดทุกนโยบายห่วงใยสุขภาพ (Health in All Policies) หรือเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ที่นานาประเทศมุ่งขับเคลื่อนให้บรรลุภายในปี 2573


นายเดชอิศม์ กล่าวว่า หลายคนอาจมีความคาดหวังมาที่ สธ. ในการทำหน้าที่ดูแลสุขภาพของพี่น้องประชาชน แต่เราจะเห็นได้ว่าทุกวันนี้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของประเทศมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก หากเทียบกับเมื่อ 40-50 ปีก่อน ที่เราเคยมีน้ำ มีอากาศสะอาด มีป่าไม้อุดมสมบูรณ์ แต่มาปัจจุบันสภาพแวดล้อมเราถูกทำลาย เกิดโรงงานอุตสาหกรรมขึ้นเป็นจำนวนมาก หรืออาจเรียกได้ว่าเราสูญเสียเอกราชทางสิ่งแวดล้อมไป ดังนั้นการมีสุขภาพที่ดีจึงต้องหันกลับมาให้ความสำคัญตั้งแต่ต้นทาง เพราะถ้าปล่อย สธ. ดูแลที่ปลายทางเพียงลำพัง ต่อให้ใช้งบประมาณมายมายเท่าไรก็ไม่เพียงพอ

นายเดชอิศม์ กล่าวอีกว่า ในวันนี้ สธ. จึงมีความคิดอยากจัดทำบันทึกความร่วมมือ (MOU) กับทุกหน่วยงาน ทุกกระทรวงที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสุขภาพคนไทย เช่น กรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ในการรับผิดชอบดูแลโรงงานทุกชนิด บนการบังคับใช้ข้อกฎหมายและบทลงโทษต่างๆ ที่เหมาะสม, กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการจัดการกับแหล่งกำเนิดมลภาวะตั้งแต่ต้นทาง, กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ในการดูแลระบบสาธารณูปโภคของท้องถิ่นต่างๆ ที่มีคุณภาพและมีความปลอดภัยต่อประชาชน

“อีกเรื่องสำคัญที่มีผลกระทบใหญ่หลวงกับเศรษฐกิจของประเทศ คือโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ที่ปัจจุบันมีคนไทยตายจากโรคนี้ปีละไม่น้อยกว่า 4 แสนคน และมีแนวโน้มมากขึ้น สร้างความสูญเสียในระบบเศรษฐกิจปีละไม่ต่ำกว่า 1.6 ล้านล้านบาท จึงอยากให้ทุกภาคส่วนลุกขึ้นมาต่อสู้กับโรคนี้ไปพร้อมๆ กัน เพราะงบประมาณที่ สธ. ต้องใช้ในการดูแลเรื่องนี้ปีละไม่น้อยกว่า 1.5 แสนล้านบาท หากลดลงไปได้อย่างน้อยครึ่งหนึ่ง ก็สามารถนำไปพัฒนาประเทศในด้านอื่นๆ ได้อีกมาก จึงอยากฝากว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราต้องประกาศเรื่องเหล่านี้ให้เป็นวาระแห่งชาติ ทั้งการทวงคืนสิ่งแวดล้อม และการลดโรค NCDs เพื่อจะดูแลสุขภาพคนไทยได้อย่างยั่งยืน” นายเดชอิศม์ กล่าว


นายเดชอิศม์ ยังได้ร่วมเป็นตัวแทนประกาศเจตนารมณ์ของเครือข่ายสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ในการสานพลังหน่วยงาน องค์กรภาคี เครือข่าย เพื่อร่วมขับเคลื่อนมติสมัชชาอนามัยโลก เรื่องการมีส่วนร่วมของสังคมเพื่อหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ตลอดจนสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ซึ่งเป็นมติที่ประเทศไทยได้ร่วมพัฒนากับประเทศสโลวีเนีย และถูกรับรองโดยประเทศสมาชิกในที่ประชุมสมัชชาอนามัยโลก (WHA) สมัยที่ 77 เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2567

“เครือข่ายสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ขอประกาศเจตนารมณ์ว่าพวกเราจะสานพลังความร่วมมือกับทุกหน่วยงานเพื่อพัฒนาระบบสุขภาพสู่ความเป็นธรรม และแก้วิกฤตต่างๆ ด้วยการมีส่วนร่วมของสังคม ตามเป้าหมายของสมัชชาอนามัยโลก สมัยที่ 77 โดยจัดกระบวนการมีส่วนร่วมอย่างสม่ำเสมอและมีคุณภาพ ให้มีตัวแทนของประชาชน รวมทั้งกลุ่มคนเปราะบางและชายขอบเข้าร่วม และปรับปรุงและพัฒนากลไกกระบวนการมีส่วนร่วนร่วมของสังคมให้หลากหลาย ทันสมัย เหมาะกับประชาชนทุกกลุ่มและทุกพื้นที่ รวมทั้งเพิ่มศักยภาพให้กับหน่วยงานรัฐ และภาคประชาสังคม ชุมชม” นายเดชอิศม์ ระบุ

ขณะที่ น.ส.ไซมา วาเซด ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกประจำภูมิภาคเอเชียใต้และตะวันออก (WHO SEARO) กล่าวว่า สุขภาพ (Health) คือความมั่งคั่ง (Wealth) ที่แท้จริงของทุกประเทศ ซึ่งถือเป็นหลักขั้นพื้นฐานในการทำงานของ WHO และเป็นสิ่งเดียวกันกับที่ทุกคนมารวมตัวกันในวันนี้ เพื่อมาร่วมกันรับรองหลักการมีส่วนร่วมของสังคม ที่จะทำให้เสียงสะท้อนของผู้คนไม่ว่าจะเป็นปัญหา ความท้าทาย ข้อเสนอของกลุ่มคนต่างๆ ไม่ว่าจะอยู่ชายขอบห่างไกลแค่ไหน ก็สามารถส่งออกมาถึงผู้กำหนดนโยบาย เพื่อแปรเปลี่ยนไปสู่การปฏิบัติและขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้

ภายในเวทีเดียวกันนี้ ยังมีผู้แทนจากประเทศสโลวีเนีย ฝรั่งเศส บราซิล ตัวแทนภาคประชาสังคม และกลุ่มคนรุ่นใหม่จาก WHO เครือข่ายนานาชาติ UHC 2030 ตลอดจนคณะกรรมการเขตสุขภาพเพื่อประชาชน (กขป.) ได้ร่วมกันกล่าวย้ำความสำคัญในการมีส่วนร่วมของสังคม พร้อมแสดงเจตนารมณ์ในการร่วมขับเคลื่อนมติสมัชชาอนามัยโลกดังกล่าว รวมทั้งแสดงความชื่นชมถึงกระบวนการสมัชชาสุขภาพแห่งชาติของประเทศไทย ที่ได้ขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมของสังคมมาเป็นเวลากว่า 17 ปี

ทั้งนี้ การประชุมสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 17 ที่จะดำเนินในช่วงตลอดวันที่ 27-28 พ.ย. นี้ ภาคีเครือข่ายสมาชิกสมัชชาสุขภาพจะร่วมกันประชุมใน 3 ระเบียบวาระ ประกอบด้วย การรายงานความก้าวหน้าของการขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติที่ผ่านมา รวมทั้งพิจารณาและให้ฉันทมติรับรองระเบียบวาระใหม่ของปีนี้อีก 2 มติ ได้แก่การพลิกโฉมกำลังคนเพื่อสังคมสุขภาวะ และการท่องเที่ยวแนวใหม่ สู่สุขภาวะและเศรษฐกิจไทยยั่งยืน.-319 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย