รัฐสภา 21 พ.ย. – ‘หน่วยงานรัฐ’ ยืนยันกับ กมธ.มั่นคงฯ ระบุ MOU44 ยังไม่มีคุยเรื่องแบ่งปันแนวเขตแดน ยัน “เกาะกูด” อยู่ที่เดิม-เป็นของไทย-ไร้เสียหาย
นายปิยรัฐ จงเทพ สส.กทม. พรรคประชาชน ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังการประชุมกมธ.ฯ ว่า ที่ประชุมมีการหารือเรื่องความเข้าใจในการอ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อนกัน หรือความตกลงตามกรอบ MOU44 ระหว่างไทย-กัมพูชา วันนี้เราถามเรื่องความมั่นคงด้านพลังงาน การแบ่งสรรผลประโยชน์ปิโตรเลียมภายใต้พื้นที่ทะเลที่มีการอ้างสิทธิทับซ้อนกัน โดยเชิญรองอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ ตัวแทนสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อธิบดีกรมเชื้อเพลิงพลังงานธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน เป็นต้น มาชี้แจงต่อกมธ.ฯ เราถามว่า ปัจจุบันการทำงานร่วมของคณะทำงานร่วมด้านเทคนิค หรือ JTC ได้มีการเริ่มต้นดำเนินการไปมากน้อยแค่ไหน มีคณะทำงานJTC แล้วหรือไม่ ได้รับคำตอบว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดนี้ขึ้นมา นอกจากนี้ยังได้สอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ทุกการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล หรือคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงคณะทำงาน JTC ด้วยหรือไม่ ได้รับคำตอบว่าใช่ อยู่ที่มติ ครม. จึงเป็นผลกระทบทำให้การเจรจาไม่มีความคืบหน้า
โฆษก กมธ.ความมั่นแห่งรัฐฯ กล่าวต่อว่า เรามีการเจรจาคณะทำงาน JTC ไปเพียง 2 ครั้ง คือปี 2544 และ45 จากนั้นมาเราไม่เคยเจรจาอีกเลย ทุกครั้งที่คุยกันเป็นการคุยนอกรอบ ไม่เป็นทางการมากกว่า ดังนั้น ปัจจุบันคณะทำงาน JTC ในรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ยังไม่มี ยังไม่ทราบหน้าตาเป็นอย่างไร แต่ที่ทราบคือรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงจะนั่งเป็นประธาน ส่วนข้อกังวลในเรื่องการเจรจาไปด้วย คุยเรื่องผลประโยชน์ไปด้วย แล้วจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่แบ่งปันเขตแดนนั้น ได้รับการยืนยันจากหน่วยงานรัฐว่า ไม่ส่งผลกระทบ ขอให้ประชาชนเข้าใจได้ ปัจจุบันประเทศไทยไม่ได้สูญเสียพื้นที่ให้ประเทศกัมพูชาแต่อย่างใด วันนี้ยังไม่ได้มีการหารือถึงเรื่องแบ่งปันแนวเขตแดน โดยเฉพาะบนเกาะกูด จ.ตราด ยังอยู่ที่เดิม ไม่ได้เสียหายไปไหน เพียงแต่กำลังศึกษาว่า MOU44 เรามีส่วนได้เสียมากน้อยแค่ไหน.-312-สำนักข่าวไทย