รัฐสภา12 พ.ย. – กมธ.ที่ดิน นัดถกด่วนพรุ่งนี้ ปมข้อพิพาทเขากระโดง บุรีรัมย์ ชี้อ้างไม่เกี่ยวการเมืองไม่ได้ เพราะ “อนุทิน” เป็นเจ้ากระทรวงมหาดไทย กำกับดูแลกรมที่ดิน
นายฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล สส.พรรคประชาชน ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกรณีข้อพิพาทเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งมีคำพิพากษาของศาลไปแล้ว ว่า ให้ยึดคืนเขากระโดงจากการรถไฟ แต่ที่ผ่านมา กลายเป็นว่า อธิบดีกรมที่ดินก็มีหนังสือออกมาว่า ไม่จำเป็นต้องทำตามคำพิพากษาของศาล โดยในวันพรุ่งนี้ (13 พ.ย.) เวลา 09.30 น. จะมีการประชุมคณะกรรมาธิการที่ดิน สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะมีการหารือกันในเรื่องนี้ มาพิจารณาเป็นกรณีเร่งด่วนว่า เรื่องดังกล่าวได้ถูกต้องตามกระบวนการกฎหมายหรือไม่ และอาจจะมีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจงต่อไป
ส่วนกรณีนี้อาจจะมีการเกี่ยวข้องกับประเด็นการเมือง ระหว่างพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทยด้วยนั้น นายฐิติกันต์กล่าวว่าจากการติดตามข่าว นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายก รัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ออกมายืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง แต่ต้องยอมรับว่า นายอนุทิน กำกับดูแลกรมที่ดิน ดังนั้น จะอ้างว่าไม่เกี่ยวข้องไม่ได้ ดังนั้น ต้องเรียกมาพิจารณาตรวจสอบถึงข้อมูลดังกล่าวว่า เมื่อมีคำพิพากษาแล้วทำไมถึงไม่ดำเนินการตามคำพิพากษา เพราะที่สุดแล้วทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายของประเทศไทย
นายฐิติกันต์ยังรับยื่นหนังสือจากตัวแทนประชาชน ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลางจังหวัดภูเก็ต เพื่อให้กรรมาธิการตรวจสอบการสร้างโรงแรม 7 ชั้น ใน ในซอยแคบและตัน ซึ่งตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า โรงแรมแจ้งว่าจะมีการสร้างโรงแรมและทำการสำรวจ สอบถามความคิดเห็นEIA แล้ว แต่ความเป็นจริงชาวบ้านบริเวณนั้นเป็น 10% ไม่เห็นด้วยกับการมีโรงแรม เพราะถนนในซอยที่จะสร้างกว้างเพียง 3.4 เมตรเท่านั้น อีกทั้งเป็นซอยตันไม่มีทางออก จึงกังวลเรื่องปัญหาการจราจร ระบบน้ำและสาธารณูปโภคต่างๆ โดยโรงแรมมีลักษณะเป็นอาคาร 7 ชั้นและมีรูปท็อปบาร์ด้านบน และพบว่ามีการเปิดขายห้องพักในโรงแรมแล้ว เบื้องต้นจากการประชุม กับทางองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล ได้มีการเชิญชาวบ้านเข้าไปพูดคุยแต่ยังหาข้อตกลงกันไม่ได้ ชาวบ้านต้องการให้มีการทำ EIA ใหม่ เพราะ EIA เดิม มีการทำสำรวจมามากกว่า 3-4 ปีแล้ว ซึ่งปัจจุบันสภาพแวดล้อมมีการเปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างเยอะ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง
นายฐิติกันต์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่สำรวจพบว่าพื้นที่ค่อนข้างแคบรถสวนกันไม่ได้ประชาชนในพื้นที่กว่าร้อยหลังคาเรือนเกรงว่าจะได้รับผลกระทบในช่วงระยะเวลาก่อสร้างและเมื่อสร้างเสร็จแล้ว โรงแรมที่มีขนาดสูง ประชาชนในพื้นที่อาจสูญเสียความเป็นส่วนตัว จึงอยากให้พิจารณาไม่อนุญาตให้มีการสร้างโรงแรมดังกล่าวหรือทำการสำรวจ EIA ใหม่อีกครั้ง เพื่อสอบถามความเป็นจริงกับคนในพื้นที่
ทั้งนี้ นอกจากกลไกกมธ.แล้ว เบื้องต้นอยู่ในระหว่างที่อบต.พิจารณาอนุญาตหรือไม่อนุญาต ให้มีการก่อสร้างโรงแรม ดังนั้นเพื่อความเป็นธรรมของทุกฝ่าย หากประชาชนในพื้นที่ต้องการโรงแรมจริงอาจจะต้องทำ EIA ขึ้นมาใหม่ แต่ถ้ามีการอนุญาตให้สร้างโรงแรมเกิดขึ้น อาจจะต้องดำเนินการยื่นต่อศาลปกครองต่อไป.-319 -สำนักข่าวไทย