นนทบุรี 11 พ.ย.-“ทรงศักดิ์” รมว.มหาดไทย รับมติ คกก.กรมที่ดินไม่เพิกถอนพื้นที่เขากระโดง ชี้แม้ศาลฎีกาตัดสินให้เป็นที่ รฟท.หากมีหลักฐานใหม่ รื้อคดีได้ แฉแผนที่หาย พร้อมสงสัยเอาที่ไปทำอะไร ยันตระกูล “ชิดชอบ” มีสิทธิ์ถือที่ดินตามกฎหมาย
นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณี ข้อพิพาทพื้นที่บริเวณเขากระโดง ระหว่างกรมที่ดินและการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ซึ่งเมื่อวานนี้กรมที่ดินได้ออกมติของคณะกรรมการตรวจสอบที่ตั้งขึ้นตามมาตรา 61 ให้สั่งไม่เพิกถอนโฉนดเขากระโดงให้ไปเป็นของการรถไฟ ว่า ส่วนตัวมองว่ายังมีรายละเอียดอีกเยอะที่หลายคนไม่รู้ ซึ่ง รฟท.หรือประชาชนเอง ต้องทำการพิสูจน์สิทธิ์ให้ชัดเจนว่าคำพิพากษาของศาลฎีกาที่ออกมา ครอบคลุมคนทุกคนหรือไม่ หรือครอบคลุมเฉพาะคู่ความกันเอง และคำพิพากษานั้นถือว่าสิ้นสุดหรือไม่ เพราะบางครั้งหากมีหลักฐานใหม่เข้ามา ก็จะต้องนำกลับไปพิจารณาใหม่เพื่อให้เกิดความรอบคอบ
“ผมไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่ให้ลองคิดดูว่าในประเทศไทยมีพื้นที่ใด ที่กันออกรางรถไฟไป 1 กิโลเมตร ตรงไหนบ้าง ที่ไม่ใช่ชุมทางแต่เป็นสถานีใหญ่ๆ มีหรือไม่ หากมี มีที่ไหนบ้างช่วยตอบหน่อย แล้วทำไมต้องเป็นแค่พื้นที่ตรงนี้ รฟท.จะเอาที่ดินไปทำอะไร” นายทรงศักดิ์ กล่าว
นายทรงศักดิ์ กล่าวต่อว่า โดยส่วนตัวได้ติดตามเรื่องนี้มาพอสมควร และมองว่าน่าจะมีแผนที่บางตอนที่หายไป ซึ่งแผนที่ที่นำมาแสดงตนดูแล้วมีคลาดเคลื่อนอยู่ประมาณ 500 เมตร ซึ่งมองว่าน่าจะมีความขัดแย้งกัน แต่ทั้งนี้เราได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการตามมาตรา 61 ซึ่งได้มีการพิจารณาไปแล้วว่ากรมที่ดินยังไม่ได้เพิกถอนโฉนดพื้นที่เขากระโดง แต่ก็ไม่ได้ตัดสิทธิ์การรถไฟ แต่เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้น เพราะการรถไฟยังไม่มีหลักฐานชัดเจนที่จะทำให้คณะกรรมการสามารถเพิกถอนได้ ครั้งนี้ก็เป็นสิทธิ์ของการรถไฟที่จะไปฟ้องร้องตามกฎหมายต่อไป
เมื่อถามว่า พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็ระบุว่า พื้นที่เขากระโดงต้องเป็นของการรถไฟ เพราะถือว่าคำตัดสินของศาลฎีกาเป็นที่สิ้นสุด นายทรงศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าคำพิพากษาของศาลฎีกา หากอ่านดี ๆ จะพบว่ามีฎีกาทับฎีกาอยู่เสมอ ในโอกาสที่จะมีหลักฐานใหม่เข้ามา เพื่อให้เกิดความรอบคอบ และความเป็นธรรมกับพี่น้องประชาชน แต่จากคำพิพากษาตนก็เข้าใจ
เมื่อถามถึงข้อกังขาว่าหนึ่งในคณะกรรมการตรวจสอบเป็นคนในกลุ่ม “เพื่อนเนวิน” นายทรงศักดิ์ มองว่าคิดมากไป ทุกคนที่มาเป็นคณะกรรมการก็มีกฎหมายรองรับอยู่แล้ว หากการทำหน้าที่ทำอะไรผิดไป และมีคนติดใจ ก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย จะไปมองว่าคนนั้นคนนี้เป็นใครไม่ได้ เพราะการทำงานของแต่ละคนก็มีบรรทัดฐานตามกรอบอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าในพื้นที่เขากระโดงปรากฎว่ามีการถือครองที่ดินจากคนในตระกูลชิดชอบอยู่กว่า 20 แปลง ได้มีการตรวจสอบอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ นายทรงศักดิ์ กล่าวว่า การได้มาของที่ดินเขากระโดงนั้นมองว่าก็ได้มาตามประมวลกฎหมายที่ดิน ได้สิทธิ์ตามกฎหมายอยู่แล้ว ส่วนในอนาคตจะเป็นอย่างไร ก็เป็นเรื่องของกระบวนการ จะจำกัดว่าตระกูลหนึ่งจะไม่มีสิทธิ์ไปครอบครองที่ดินเลยก็คงไม่ได้ ไม่มีกฎหมายตรงไหน ที่ห้ามตระกูลหนึ่งเข้าไปถือสิทธิ์ที่ดินตามกฎหมาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์กัน.-319.-สำนักข่าวไทย