ปชน. อวดผลงานเป็น “ฝ่ายค้าน” 1 ปี เสนอ กม. 84 ฉบับ

อาคารอนาคตใหม่ 4 พ.ย.- พรรคประชาชน อวดผลงานเป็น “ฝ่ายค้าน” 1 ปี เสนอ กม. 84 ฉบับ ตั้งเป้าทำงานผสมผสานได้ทั้ง “รุก-รับ” เตรียมซุ่มปิดสมัย เดินสายรณรงค์อีก 7 ชุด “ไอติม” ฮึกเหิม เราไม่ฮั้ว “เพื่อไทย” ยันไม่มีประเด็นไหน สังคมคาใจแล้วพรรคส้มไม่ตรวจสอบ เมินผลโพลคะแนนร่วง มองบวกเหมือน “เตะบอล” รอดูหลัง 90 นาทีดีกว่า


นายพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคประชาชน แถลงความคืบหน้าในการผลักดันกฎหมายของพรรคประชาชน ว่า พรรคประชาชนต้องการให้กฎหมายมีการปรับปรุงอยู่เสมอ เพื่อให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงและเป็นประโยชน์ของประชาชน โดยผลงานของพรรคประชาชนตลอด 1 ปีกว่า พยายามวางบทบาทใหม่ของฝ่ายค้าน เป็นฝ่ายค้านเชิงรุกที่จะผสมผสาน 2 บทบาท คือฝ่ายค้านเชิงรับ ที่ประชาชนคาดหวังในการตรวจสอบรัฐบาล ทั้งพรรคก้าวไกลรวมถึงพรรคประชาชนทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งเราพยายามใช้กลไกหลายอย่างทั้งการอภิปรายทั่วไปมาตรา 152 เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงและเสนอแนะปัญหาของ ครม.ในทุกๆเรื่อง , กลไกอภิปรายพ.ร.บ.งบประมาณประจำปี ,กลไกกระทู้ถามสดทุกสัปดาห์ , กลไกกรรมาธิการ 3 วันทั้ง 35 คณะ พร้อมยืนยันบทบาทของฝ่ายค้านเชิงรุกจะเข้มข้นต่อไป

นายพริษฐ์ ระบุต่อว่า บทบาทฝ่ายค้านเชิงรับคือบทบาทที่จะนำทางรัฐบาลเน้นข้อเสนอที่เป็นรูปธรรม และเสนอแนะสิ่งที่รัฐบาลควรทำ ซึ่งในส่วนนี้คือการยื่นร่างแก้ไขกฎหมายที่เปรียบเสมือนกับการจะฉายภาพ พิมพ์เขียวของประเทศไทยในรูปแบบของพรรคประชาชนเป็นอย่างไร


โดยการเสนอกฎหมายเปลี่ยนประเทศเพื่อ 3 วัตถุประสงค์ คือ

  1. แก้ไขกฎหมายเพื่อประชาชน หากทำได้จริงก็เหมือนเป็นการทำ ตามสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ซึ่งในการแก้ไขกฎหมายก็ต้องอาศัยเสียง สส.ในสภา ที่จำเป็นจะต้องโน้มน้าวให้สส.ของฝั่งรัฐบาลเห็นตรงกับการแก้ไขกฎหมายของเรา
  2. การกำหนดวาระของรัฐบาล ไม่ว่าการเสนอกฎหมายจะนำไปสู่การแก้ไขกฎหมายได้หรือไม่แต่การเสนอกฎหมายก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้รัฐบาลต้องคุยและหาทางออก ให้เห็นว่าสิ่งที่เราเสนอมีความสำคัญ และประเด็นดังกล่าวสมควรได้รับการแก้ไขอย่างไร จนทำให้รัฐบาลยื่นกฎหมายมาประกบ แม้เนื้อหาอาจจะไม่ตรงกับทำวัตถุประสงค์ของพรรคประชานก็ตาม
  3. การทำงานเชิงความคิดต่อสังคม เพื่อทำให้ประชาชนทราบถึง ประโยชน์ได้ทำความเข้าใจว่าเรามีความมุ่งมั่นที่จะลงลึกในรายละเอียดที่จะแก้ไขสิ่งต่างๆ และหากสนับสนุนวาระที่เราเสนอนั้นจะทำให้ประชาชนไว้วางใจ กับเรามากขึ้นในการเลือกตั้งครั้งถัดไป

นายพริษฐ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้พรรคประชาชนได้เสนอร่างกฎหมายเข้าสภาไปแล้ว 84 ฉบับ มีร่างที่ผ่านวาระ 1 ไปแล้ว 25 ฉบับ ผ่านความเห็นชอบ 3 วาระแล้ว 5 ร่าง เช่น สมรสเท่าเทียม กฎหมายไม่ตีเด็ก เป็นต้น ร่างกฎหมายที่ปัจจุบัยอยู่ในชั้นกรรมาธิการ หรือผ่านวาระ 1 มาแล้ว เช่น พ.ร.บ.อากาศสะอาด , พ.ร.บ.ขนส่งทางราง เป็นต้น ส่าวนร่างกฎหมายที่สภาฯไม่รับหลักการ เช่น สุราก้าวหน้า กระจายอำนาจขนส่ง เป็นต้น ส่วนสภายังไม่ได้ลงมติในวาระ1 มีจำนวน 59 ฉบับ

ดังนั้น ช่วงปิดสมัยประชุม เราจะผลักดันกฎหมาย และรณรงค์เดินสายทั่วประเทศ 7 ชุด ประกอบด้วย 2 เปิด 1.เปิดโอกาสแข่งขันทางการค้าโดยมีการยื่นร่างพ.ร.บ.แข่งขันทางการค้า 2.เปิดโปงการทุจริต พร้อมยกตัวอย่างร่างกฎหมายที่จะเสนอ ได้แก่ พ.ร.บ.ข้อมูลสาธารณะ และแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราในเรื่องของสิทธิมนุษยชน , 2 ปลดล็อค กฎหมายที่จะเสนอปลดล็อคที่ดิน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่ดิน , พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ ,พ.ร.บ. อุทยานแห่งชาติ , พ.ร.บ.สงวน-คุ้มครองสัตว์ และกฎหมายปลดล็อคการท่องเที่ยว ทั้ง พ.ร.บ.โรงแรม ,พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร , 2 ปฏิรูป ที่จะเสนอปฏิรูปกองทัพ ในกฎหมาย พ.ร.บ.ระเบียบราชการกลาโหม , พ.ร.บ.ยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร ,พ.ร.บ.ธรรมนูญศาลทหาร ,พ.ร.บ.ฉุกเฉิน , ร่างรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับเกณฑ์ทหาร , ร่างรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับพ.ร.ป.ศาลทหาร , ปฏิรูปการศึกษา เสนอกฎหมายพ.ร.บ.การศึกษา , ร่างรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการเรียนฟรี 15 ปี และ1 ปกป้อง คือการเสนอกฎหมายปกป้องสิ่งแวดล้อม พ.ร.บ.โลกรวน , พ.ร.บขยะพรบ PRTR เกี่ยวกับมลพิษ , พ.ร.บ.รัฐธรรมนูญเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม


นายพริษฐ์ ยังกล่าวว่า การผลักดันกฎหมายของพรรคประชาชนถือเป็นกลไกสำคัญในการทำงานในสภาของพรรคในฐานะฝ่ายค้านเชิงรุกที่ไม่เพียงแค่ตรวจสอบรัฐบาลแต่จะเดินหน้าในการนำทางและเสนอแนะรัฐบาลผ่านการเสนอร่างแก้ไขกฎหมาย

“เราเข้าใจดีในเชิงคณิตศาสตร์เสียงของ สส.พรรคประชาชนที่มีเพียงน้อยนิดก็ไม่เพียงพอในการผ่านความเห็นชอบกฎหมายในสภาได้ จึงพยายามที่จะทำงานร่วมระดมทำความคิดกับพรรคซีกรัฐบาล เพื่อให้ร่างกฎหมายของพรรคประชาชนผ่านความเห็นชอบของสภาไปได้ เพราะมีความเชื่อมั่นมั่นใจในกฎหมายที่เราเสนอนั้น เป็นจุดยืนที่เป็นประโยชน์กับประชาชนสามารถแก้ปัญหากับประเทศได้ภารกิจของเราไม่ใช่การเปลี่ยนจุดยืนแต่คือการเปลี่ยนใจคนทั้งในและนอกสภาที่มีความสำคัญยิ่งเราอธิบายต่อสังคมเกี่ยวกับร่างกฎหมายดังกล่าวก็จะทำให้การสนับสนุนในสภามีโอกาสมากขึ้นเพราะเสียงประชาชนที่ดังเข้ามาในสภาก็อาจจะมีผลกระทบต่อท่าทีของสส.ในสภาด้วยเช่นกัน” นายพริษฐ์ กล่าว

นายพริษฐ์ ยังกล่าวว่า การรณรงค์เป็นไปในหลากหลายรูปแบบ ซึ่งในพรรคก็มีสส.ที่ผลักดันในกฎหมายที่ตนเองสนใจ และจะเน้นการสร้างความเข้าใจกับประชาชนในวงกว้างว่ากฎหมายเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างไร ส่วนการประเมินผลงานฝ่ายค้านในสภานั้น ตนมองว่าคนที่ให้คะแนนเราได้ดีที่สุดคือประชาชน

เมื่อถามว่ากฎหมายที่ผ่านสภาส่วนใหญ่ เป็นกฎหมายที่พรรครัฐบาลเห็นด้วย หากเป็นเช่นนั้นจะนับว่าเป็นผลงานของฝ่ายค้านหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า แน่นอนว่าพอเราเป็นฝ่ายค้าน เราเสียงไม่ถึงกึ่งหนึ่ง การที่จะโหวตเห็นชอบ ต้องมีเสียงของ สส.รัฐบาลโหวตเห็นชอบด้วย ตนไม่ได้มีความกังวลใจว่าจะเป็นภาพจำว่าเป็นผลงานของรัฐบาล เราต้องย้อนกลับมาว่าพรรคก่อตั้งขึ้นมาเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลง ดังนั้น หากการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในช่วงสมัยที่พรรคประชาชนไม่เป็นรัฐบาล ก็ถือเป็นสิ่งที่ดี แสดงให้เห็นว่าไม่จำเป็นต้องรอให้พรรคประชาชนเป็นรัฐบาลก็สามารถพยายามผลักดันและขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงได้

นายพริษฐ์ ยังกล่าวถึงผลโพลที่พรรคประชาชนกระแสลด มีนัยสำคัญอย่างไร และจะแก้ปัญหาอย่างไร ว่า ผลโพลทุกสำนักก็เป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการประกอบที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงานอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องดูรายละเอียดว่าเป็นผลโพลของสำนักไหน วิธีการถามเป็นอย่างไร ถามกับใคร เป็นต้น แต่ทั้งหมดก็ล้วนเป็นประโยชน์ ท้ายที่สุดผลงานของเราประชาชนจะพิพากษาอย่างไรมันไปจบที่การเลือกตั้งครั้งถัดไป เหมือนเกมฟุตบอล เราสามารถปรับเปลี่ยนไประหว่างแข่งขันได้ แต่ท้ายที่สุดคือคะแนนต้องจบ 90 นาที

ส่วนการทำงานของฝ่ายค้านที่ยังไปไม่สุด ค้านรัฐบาลไม่จริงในประเด็นสำคัญ นายพริษฐ์ กล่าวว่า เราในฐานะแกนนำพรรคฝ่ายค้านใช้กลไกสภาอย่างเต็มที่ในการตรวจสอบรัฐบาลทุกเรื่องที่สังคมคาใจ

“ผมคิดว่าไม่มีประเด็นไหนที่สังคมคาใจแล้วพรรคประชาชนไม่พยายามทำหน้าที่ในการตรวจสอบหรือตั้งคำถามกับรัฐบาล เรื่องของข้อเท็จจริง ผมปฏิเสธไม่ได้ว่าสมัยก่อนพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล ณ เวลานั้นเคยอยู่ในซีกฝ่ายค้านร่วมกัน แต่ผมคิดว่าตั้งแต่หลังการตั้งรัฐบาลในปี 2566 เราอยู่คนละขั้วกัน เราก็ทำงานอย่างเต็มที่ในการตรวจสอบ ไม่ได้มีการฮั้วกัน ไม่มีการอ่อนข้ออะไรแน่นอน และอีก 2 ข้างหน้าก็ยิ่งตอกย้ำในทิศทางดังกล่าว” นายพริษฐ์กล่าว.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย