อินเดีย 2 พ.ย. – รมว.ต่างประเทศ เชิญผ้าพระกฐินพระราชทานไปทอดถวาย ณ วัดมหาโพธิวิหาร กรุงนิวเดลี เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ รวมถวาย 9 ประเทศ เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดี โดยใช้วัฒนธรรมและพระพุทธศาสนาเป็นจุดเชื่อม
นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานเชิญผ้าพระกฐินพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปทอดถวาย ณ วัดมหาโพธิวิหาร กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมีพระธรรมโพธิวงศ์ เจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา หัวหน้าคณะพระธรรมทูตสายอินเดีย-เนปาล เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยพระสีวลี เถโร เลขาธิการใหญ่สมาคมมหาโพธิวิหารอินเดีย และพระโมรัลมัลภิกขุธรรมลังกา เถโร เจ้าอาวาสวัดมหาโพธิวิหาร ร่วมประกอบพิธี และมีเอกอัครราชทูต กงสุลใหญ่ของไทยในภูมิภาคเอเชียใต้ ข้าราชการทีมประเทศไทย นาย Niraj Kumar รองปลัดกระทรวงการพัฒนาภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผู้แทนฝ่ายอินเดีย นาย Manish Kumar รองประธานสมาคมมหาโพธิอินเดีย เอกอัครราชทูตประเทศพุทธศาสนาในอินเดีย เข้าร่วม ซึ่งยอดกฐินครั้งนี้จำนวน 1,396,114.47 รูปี หรือประมาณ 628,251 บาท
นอกจากนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ร่วมตักบาตรพระสงฆ์ 16 รูป และทำพิธีมอบพระพุทธรูปพระพุทธชยันตีศรีสยามให้แก่พุทธศาสนิกชนชาวอินเดีย ที่มาร่วมงาน
นายมาริษ กล่าวว่า การถวายผ้าพระกฐินพระราชทานในครั้งนี้เป็นครั้งแรก หลังเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แต่โครงการเชิญผ้าพระกฐินพระราชทานไปทอดถวายในต่างประเทศมาตั้งแต่ปี 2538 กับประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนจะขยายไปยังพื้นที่อื่นในอาเซียน และขยับออกไปนอกภูมิภาคอาเซียน โดยในปี 2567 มีการเชิญไปถวายทั้งหมด 9 ประเทศ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างเครือข่ายหรือความสัมพันธ์ที่ดีโดยใช้วัฒนธรรมและพระพุทธศาสนาเป็นจุดเชื่อมกับประเทศไทย ขณะเดียวกันส่งเสริมในเรื่องการตระหนักรู้เกี่ยวกับคำสอนของพระพุทธเจ้า ดังนั้น การมีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทยและอินเดีย มาอย่างยาวนาน แรกเริ่มมีพื้นฐานความเชื่อมโยงทางพระพุทธศาสนาและฮินดู ที่เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกับประชาชนให้มีความใกล้ชิดกันมากขึ้น
นายมาริษ กล่าวว่า การถวายผ้าพระกฐินพระราชทานในครั้งนี้มีความพิเศษเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา ขณะที่ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคมที่ผ่านมา ได้มีกิจกรรมพิเศษเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในปีเฉลิมพระชนมพรรษา คือการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ จากอินเดียไปไทย ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างไทยและอินเดีย โดยมีพุทธศาสนิกชนจากหลายประเทศมาร่วมงานจำนวนมาก
นางสาวภัทรัตน์ หงษ์ทอง เอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี กล่าวว่า ถือเป็นวันสิริมงคลที่ได้มีโอกาสถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ซึ่งจัดในอินเดียเป็นครั้งที่ 14 นอกจากนี้ทางสถานทูตได้นำดำริของวัดไทยพุทธคยา และวัดไทยที่เกี่ยวข้อง ในการจัดทำโครงการอื่นๆ ในโอกาสเฉลิมฉลองพระชนมพรรษา 72 พรรษา ด้วยการมอบพระพุทธรูปให้กับพุทธศาสนิกชนชาวอินเดีย ใน 3 เมืองหลัก จำนวน 237 องค์
นอกจากนี้ทางสถานทูตได้จัดนิทรรศการภาพถ่ายบันทึกความทรงจำในการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ ไปยังประเทศไทยที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกรุงนิวเดลี โดยที่สถานทูตได้ทำกิจกรรมเกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา เนื่องจากเห็นว่ ไทยและอินเดียเป็นประเทศที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งยาวนานมากกว่า 2,000 ปี โดยมีพระพุทธศาสนาเป็นสิ่งเชื่อมโยงหล่อหลอมทั้ง 2 ประเทศเข้าด้วยกัน ตั้งแต่ระดับรัฐบาลและระดับบุคคล ยึดโยงประชาชนระหว่าง 2 ประเทศ พร้อมเชื่อมั่นว่าการจัดทอดกฐินพระราชทานในวันนี้จะทำให้คนอินเดีย รัฐบาลอินเดีย เห็นความตั้งใจของรัฐบาลไทยที่จะสืบสานความสัมพันธ์ระหว่างประเทศผ่านพุทธศาสนา
ด้านพระมหานิพนธ์ ญาณวีโร เลขานุการเจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา ประเทศอินเดีย เปิดเผยว่า พระพุทธศาสนาเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์อย่างแนบแน่นระหว่างไทยและอินเดีย โดยอินเดียได้ความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะรัฐบาลอินเดียที่พัฒนาพื้นที่และอำนวยความสะดวกให้กับคนไทยที่จะเดินทางมาอินเดีย และการถวายผ้าพระกฐินที่อินเดียในปีนี้นับเป็นมหามงคล อันจะทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีในการพัฒนาด้านต่างๆ ระหว่าง 2 ประเทศให้ดีขึ้นด้วย.-319-สำนักข่าวไทย