“มาริษ” จัดแถว​ “ทูตเอเชียใต้” มอบนโยบาย 3 ด้าน

อินเดีย​ 2 พ.ย.-“มาริษ” รมว.ต่างประเทศ จัดแถว​ “ทูตเอเชียใต้” มอบนโยบายความมั่นคง 3 ด้าน อาหาร-พลังงาน-มนุษยชาติ ให้​ประชาชน​​เป็นศูนย์กลาง​ หวังเชื่อมต่อตลาด​ตะวันตก-ตะวันออก​ 2 พันล้านคน​ จับมือประเทศเกิดใหม่ทางเศรษฐกิจ ขับเคลื่อนให้เด่นชัดมีบทบาทสำคัญ

นายมาริษ​ เสงี่ยมพงษ์​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ​ ให้สัมภาษณ์หลังประชุมร่วมกับเอกอัครราชทูต​และกงสุลใหญ่ของไทยในประเทศเอเชียใต้ว่า ภูมิภาคนี้มีพลเมืองเกือบ 2,000 ล้านคน เทียบเท่า 1 ใน 4 ของ ประชากรโลก ภูมิภาคเอเชียใต้ถือว่ามีความสำคัญมากในหลายๆ มิติ เป็นจุดเชื่อมทั้งทางบกและทางทะเล ทำให้มีการแข่งขันทั้งในด้านภูมิรัฐศาสตร์และภูมิเศรษฐศาสตร์


ขณะที่ประเทศไทยก็มีความสำคัญเพราะตั้งอยู่ศูนย์กลางและเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญเชื่อมโยงระหว่างเอเชียใต้กับกลุ่มประเทศอาเซียน ไทยมีความร่วมมือกับกลุ่มประเทศเอเชียใต้ผ่านบิมสเทค ซึ่งมีประชากรประมาณ 2,000 ล้านคน ขณะที่การเชื่อมโยงผ่านอาเซียนพลัสก็มีประชากรอีก 2,000 ล้านคนเช่นกัน ไทยที่ตั้งอยู่ตรงกลางจึงเป็นประตูเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาคและถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของประเทศไทย เรามองจุดเชื่อมต่อผ่านกลุ่มประเทศเอเชียใต้​เช่น ปากีสถานไปยังกลุ่มประเทศเอเชียกลาง​ เช่น คาซัคสถาน ทาจิกิสทาน ที่เป็นศูนย์กลางการค้ากับทวีปยุโรป ​

นายมาริษ​กล่าวว่า​ ประเทศที่สำคัญที่สุดคืออินเดีย ที่มีความสัมพันธ์กับไทยมาช้านาน มีสัมพันธ์ทางการทูตอย่างแนบแน่นในวันที่ 2 พฤศจิกายนนี้ ตนจะเข้าพบนายสุพรหมณยัม ชัยศังกระ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินเดีย ​ซึ่ง
มีหลายประเด็นข้อหารือ​ รวมทั้งการจะใช้โอกาส​ที่ไทยและอินเดียเคยหารือว่าจะร่วมกันขับเคลื่อนและมีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้เกิดความเจริญและพัฒนาอย่างยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียใต้


นายมาริษ กล่าวว่า ในส่วนของบังคลาเทศ​มีศักยภาพสูง​ แต่ขณะนี้ประสบปัญหาการเมือง มีการขับไล่อดีตนายกรัฐมนตรี และมีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ ดังนั้นไทยและอินเดียจะต้องมีความร่วมมือเพื่อพยุงให้ประเทศที่มีปัญหา ในกลุ่มเอเชียใต้ ทำให้ประเทศเหล่านี้กลับมามีบทบาทมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์และนโยบายสำคัญของรัฐบาลนางสาวแพทองธาร​ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี​ ที่ต้องการร่วมมือกับประเทศเกิดใหม่ทางเศรษฐกิจเพื่อขับเคลื่อนบทบาทของประเทศกำลังพัฒนาให้เด่นชัดและมีความสำคัญมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่ล้วนแต่เป็นกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา เพราะเป็นประเทศที่มีความหลากหลายและมีประชากรจำนวนมาก มีการผลิตสินค้าที่มีมูลค่า รวมถึฃอาหารเครื่องอุปโภคบริโภคเป็นลำดับต้นๆ ของโลก จึงมีส่วนสำคัญในการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประชาคมโลก​ นอกจากนี้ในส่วนของประเทศศรีลังกา​ก็มีความสัมพันธ์กับไทยมาช้านาน มีความไว้เนื้อเชื่อใจ​ ติดต่อเรื่องพระพุทธศาสนา รวมถึงการค้าการลงทุน

นายมาริษ ​กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้มอบนโยบายที่ชัดเจนให้กับทูตที่อยู่ในภูมิภาคเอเชียใต้ โดยเฉพาะเรื่องนโยบายสำคัญของประเทศไทยที่นโยบายสาธารณะกับนโยบายต่างประเทศเกือบจะเป็นเรื่องเดียวกันคือมุ่งไปที่ประชาชนเป็นศูนย์กลาง เพื่อทำให้นโยบายต่างประเทศ สามารถเป็นนโยบายที่ ประชาชนจับต้องได้ นำมาซึ่งผลประโยชน์ของประเทศและประชาชน เมื่อคำนึงถึงการต้องมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง นโยบายต่อกลุ่มประเทศเอเชียใต้จะอยู่บนพื้นฐานความมั่นคง 3 ด้านคือ​ 1.ความมั่นคงด้านอาหาร​ ที่มีศักยภาพ​ ทั้งเรื่องธัญพืช​ ที่ไทยกับอินเดียมีศักยภาพในการปลูกข้าว หากร่วมมือกับประเทศในภูมิภาคเอเชียได้จะสามารถการันตีเรื่องความมั่นคงทางอาหาร นอกจากนี้จะผลักดันความร่วมมือการประมง​ โดยมอบนโยบายให้ทูตเข้าใจตั้งแต่ต้นน้ำ​ เทคโนโลยีวิจัยพัฒนา นำไปสู่ธุรกิจกลางน้ำประมงจับปลา และปลายน้ำ​ คือเครือข่ายการตลาด​ ซึ่งยุทธศาสตร์ของไทยจะทำให้เราเชื่อมต่อตลาด 2 พันล้านคนทางฝั่งตะวันตกและ 2 พันล้าน คนฝั่งตะวันออก

2.ความมั่นคงทางพลังงาน ซึ่งจะหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอินเดียในการผลักดันความร่วมมืออย่างแนบแน่นในการพัฒนาพลังงานทางเลือก ที่สองประเทศมีระบบพัฒนาซึ่งมีศักยภาพสามารถที่จะทำการพัฒนาร่วมกัน เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนของทั้งสองฝ่าย


3.ความมั่นคง​ของมนุษยชาติ​ ที่จะทำงานร่วมกันกับประเทศในเอเชียใต้ ไทยเป็นประเทศที่ได้รับคำชื่นชมจากประชาคมโลกเกี่ยวกับหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เรามีศักยภาพในการรักษาพยาบาล​ การพัฒนายาและวัคซีน​ ซึ่งสามารถแลกเปลี่ยนความรู้และความร่วมมือ​ ทางด้านเวชภัณฑ์และยารักษาโรคกับอินเดีย ที่มีศักยภาพผลิตยาและวัคซีน หากร่วมมือกันเชื่อว่าจะร่วมกันพัฒนาภูมิภาคเอเชียใต้ได้ อย่างสมบูรณ์ และนำมาซึ่ง ความมั่นคงทางด้านมนุษยชาติมากยิ่งขึ้น

นายมาริษ​ กล่าวอีกว่า​ นอกจากนี้ยังจะหารือเกี่ยวกับความร่วมมือในหลายด้านเช่น ทางการทหาร​ และความมั่นคง ที่ขณะนี้ประเทศไทย มีเทคโนโลยี อาวุธยุทโธปกรณ์ ในระดับหนึ่ง อินเดียปากีสถานและประเทศอื่นๆ ก็มีศักยภาพที่จะพัฒนาร่วมกันได้ จึงเป็นอีกหนึ่งสาขาที่พยายามมองหาลู่ทางและโอกาสที่จะร่วมกันพัฒนา เพื่อความมั่นคงทางด้านการทหารและการเมือง ทั้งยังเน้นย้ำเรื่องการส่งเสริมการท่องเที่ยวการเชื่อมต่ออารยธรรม ที่มีคุณค่า รวมทั้งการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ ซึ่งจะใช้ประโยชน์จากการที่ประเทศไทยมีสถานที่ตั้งที่เป็นยุทธศาสตร์ ก็จะทำให้ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เพิ่มมูลค่า ประสบความสำเร็จ นำมาซึ่งผลประโยชน์ ของประเทศชาติและประชาชน.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย ขณะที่ ผบ.ตร. อาลัยตำรวจกล้า สั่งต้นสังกัดดูแลสิทธิประโยชน์ เลื่อนเงินเดือนและชั้นยศ

นักโทษกลับใจ

อดีตนักโทษกลับใจ หลังติดคุก 30 ปี โทรคุยกับพ่อทั้งน้ำตา

อดีตนักโทษชีวิตโตมาในคุก ตั้งแต่อายุ 19 จนตอนนี้ อายุ 49 ปี ร่ำไห้กับตำรวจ ขอให้ช่วยพากลับบ้านที่จากมา 30 ปี ตำรวจโทรศัพท์หาพ่อ ให้ 2 พ่อลูกคุยกันทั้งน้ำตา

ตำรวจจีนพาผู้ต้องสงสัยฉ้อโกง 200 ราย กลับจากเมียนมา

พลเมืองจีน 200 รายที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ถูกส่งตัวจากเมืองเมียวดีในเมียนมากลับจีนแล้วเมื่อวานนี้ ภายใต้การคุ้มกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจจีน

เด็ก 12 สูบบุหรี่ไฟฟ้า-ดื่มน้ำกระท่อม ทำปอดหาย

ย่าช็อก หลานวัย 12 ปี อาการวิกฤติ ปอดหายเกือบทั้งหมด ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หลังสูบบุหรี่ไฟฟ้าและดื่มน้ำกระท่อมตั้งแต่ ป.4

ข่าวแนะนำ

บ่อนดังย่านดอนเมืองปิดเงียบ ขึ้นป้ายห้ามเข้าออก

บ่อนดังย่านดอนเมืองปิดเงียบ ขึ้นป้ายพื้นที่ส่วนบุคคลห้ามเข้าออก พบปิดกิจการตั้งแต่ 16 มี.ค.63 ขณะที่มีกล้องวงจรปิดติดตั้งโดยรอบ

ฮั้วเลือก สว.67

ประธานวุฒิสภา นำทีมแถลงด่วน โต้คดีฮั้วเลือก สว.67

ประธานวุฒิสภา นำทีมแถลงด่วน โต้คดีฮั้วเลือก สว.67 เชื่อเป็นเกมการเมือง หวังเกิดวิกฤต รธน. เพื่อรื้อใหม่ทั้งฉบับ ขู่ใช้ช่องทางกฎหมายกลับ หากทำเสียหาย-บั่นทอนความเชื่อมั่น เพื่อปกป้องศักดิ์ศรี จวก “ทวี” กล่าวหาอั้งยี่ ซ่องโจรทำวุฒิเสื่อมเสีย พร้อมเปิดเวทีซักฟอก

ไทยเข้าฤดูร้อน

กรมอุตุฯ ประกาศเข้าสู่ฤดูร้อนของไทย 28 ก.พ.68

กรมอุตุนิยมวิทยา เตือน 23-25 กุมภาพันธ์นี้ ไทยตอนบนอากาศแปรปรวน ภาคใต้ฝนตกหนัก ส่วนอ่าวไทยตอนล่างคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร พร้อมประกาศประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการ 28 ก.พ.68 จนถึงกลางเดือน พ.ค.

“ไทย จีน เมียนมา” จับมือโชว์ภารกิจราบรื่น ส่งชาวจีนกลับประเทศ

“ไทย จีน เมียนมา” จับมือโชว์แสดงผลภารกิจราบรื่น ส่งชาวจีนเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับประเทศ 200 คน ปรับแผนจีนส่งเครื่องบินรับอีก 400 คน สองวันติด “ภูมิธรรม” เผยพร้อมเสนอนายกฯ เซ็นตั้ง ศปช.ส่วนหน้า ทำงานให้ชัดเจน มีกฎหมายรองรับผู้ปฏิบัติ ย้ำไทยไม่ตั้งศูนย์อพยพรองรับเหยื่อที่เหลือ แต่ประสานให้ต้นทางรับกลับทันที