“มาริษ” จัดแถว​ “ทูตเอเชียใต้” มอบนโยบาย 3 ด้าน

อินเดีย​ 2 พ.ย.-“มาริษ” รมว.ต่างประเทศ จัดแถว​ “ทูตเอเชียใต้” มอบนโยบายความมั่นคง 3 ด้าน อาหาร-พลังงาน-มนุษยชาติ ให้​ประชาชน​​เป็นศูนย์กลาง​ หวังเชื่อมต่อตลาด​ตะวันตก-ตะวันออก​ 2 พันล้านคน​ จับมือประเทศเกิดใหม่ทางเศรษฐกิจ ขับเคลื่อนให้เด่นชัดมีบทบาทสำคัญ

นายมาริษ​ เสงี่ยมพงษ์​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ​ ให้สัมภาษณ์หลังประชุมร่วมกับเอกอัครราชทูต​และกงสุลใหญ่ของไทยในประเทศเอเชียใต้ว่า ภูมิภาคนี้มีพลเมืองเกือบ 2,000 ล้านคน เทียบเท่า 1 ใน 4 ของ ประชากรโลก ภูมิภาคเอเชียใต้ถือว่ามีความสำคัญมากในหลายๆ มิติ เป็นจุดเชื่อมทั้งทางบกและทางทะเล ทำให้มีการแข่งขันทั้งในด้านภูมิรัฐศาสตร์และภูมิเศรษฐศาสตร์


ขณะที่ประเทศไทยก็มีความสำคัญเพราะตั้งอยู่ศูนย์กลางและเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญเชื่อมโยงระหว่างเอเชียใต้กับกลุ่มประเทศอาเซียน ไทยมีความร่วมมือกับกลุ่มประเทศเอเชียใต้ผ่านบิมสเทค ซึ่งมีประชากรประมาณ 2,000 ล้านคน ขณะที่การเชื่อมโยงผ่านอาเซียนพลัสก็มีประชากรอีก 2,000 ล้านคนเช่นกัน ไทยที่ตั้งอยู่ตรงกลางจึงเป็นประตูเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาคและถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของประเทศไทย เรามองจุดเชื่อมต่อผ่านกลุ่มประเทศเอเชียใต้​เช่น ปากีสถานไปยังกลุ่มประเทศเอเชียกลาง​ เช่น คาซัคสถาน ทาจิกิสทาน ที่เป็นศูนย์กลางการค้ากับทวีปยุโรป ​

นายมาริษ​กล่าวว่า​ ประเทศที่สำคัญที่สุดคืออินเดีย ที่มีความสัมพันธ์กับไทยมาช้านาน มีสัมพันธ์ทางการทูตอย่างแนบแน่นในวันที่ 2 พฤศจิกายนนี้ ตนจะเข้าพบนายสุพรหมณยัม ชัยศังกระ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินเดีย ​ซึ่ง
มีหลายประเด็นข้อหารือ​ รวมทั้งการจะใช้โอกาส​ที่ไทยและอินเดียเคยหารือว่าจะร่วมกันขับเคลื่อนและมีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้เกิดความเจริญและพัฒนาอย่างยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียใต้


นายมาริษ กล่าวว่า ในส่วนของบังคลาเทศ​มีศักยภาพสูง​ แต่ขณะนี้ประสบปัญหาการเมือง มีการขับไล่อดีตนายกรัฐมนตรี และมีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ ดังนั้นไทยและอินเดียจะต้องมีความร่วมมือเพื่อพยุงให้ประเทศที่มีปัญหา ในกลุ่มเอเชียใต้ ทำให้ประเทศเหล่านี้กลับมามีบทบาทมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์และนโยบายสำคัญของรัฐบาลนางสาวแพทองธาร​ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี​ ที่ต้องการร่วมมือกับประเทศเกิดใหม่ทางเศรษฐกิจเพื่อขับเคลื่อนบทบาทของประเทศกำลังพัฒนาให้เด่นชัดและมีความสำคัญมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่ล้วนแต่เป็นกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา เพราะเป็นประเทศที่มีความหลากหลายและมีประชากรจำนวนมาก มีการผลิตสินค้าที่มีมูลค่า รวมถึฃอาหารเครื่องอุปโภคบริโภคเป็นลำดับต้นๆ ของโลก จึงมีส่วนสำคัญในการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประชาคมโลก​ นอกจากนี้ในส่วนของประเทศศรีลังกา​ก็มีความสัมพันธ์กับไทยมาช้านาน มีความไว้เนื้อเชื่อใจ​ ติดต่อเรื่องพระพุทธศาสนา รวมถึงการค้าการลงทุน

นายมาริษ ​กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้มอบนโยบายที่ชัดเจนให้กับทูตที่อยู่ในภูมิภาคเอเชียใต้ โดยเฉพาะเรื่องนโยบายสำคัญของประเทศไทยที่นโยบายสาธารณะกับนโยบายต่างประเทศเกือบจะเป็นเรื่องเดียวกันคือมุ่งไปที่ประชาชนเป็นศูนย์กลาง เพื่อทำให้นโยบายต่างประเทศ สามารถเป็นนโยบายที่ ประชาชนจับต้องได้ นำมาซึ่งผลประโยชน์ของประเทศและประชาชน เมื่อคำนึงถึงการต้องมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง นโยบายต่อกลุ่มประเทศเอเชียใต้จะอยู่บนพื้นฐานความมั่นคง 3 ด้านคือ​ 1.ความมั่นคงด้านอาหาร​ ที่มีศักยภาพ​ ทั้งเรื่องธัญพืช​ ที่ไทยกับอินเดียมีศักยภาพในการปลูกข้าว หากร่วมมือกับประเทศในภูมิภาคเอเชียได้จะสามารถการันตีเรื่องความมั่นคงทางอาหาร นอกจากนี้จะผลักดันความร่วมมือการประมง​ โดยมอบนโยบายให้ทูตเข้าใจตั้งแต่ต้นน้ำ​ เทคโนโลยีวิจัยพัฒนา นำไปสู่ธุรกิจกลางน้ำประมงจับปลา และปลายน้ำ​ คือเครือข่ายการตลาด​ ซึ่งยุทธศาสตร์ของไทยจะทำให้เราเชื่อมต่อตลาด 2 พันล้านคนทางฝั่งตะวันตกและ 2 พันล้าน คนฝั่งตะวันออก

2.ความมั่นคงทางพลังงาน ซึ่งจะหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอินเดียในการผลักดันความร่วมมืออย่างแนบแน่นในการพัฒนาพลังงานทางเลือก ที่สองประเทศมีระบบพัฒนาซึ่งมีศักยภาพสามารถที่จะทำการพัฒนาร่วมกัน เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนของทั้งสองฝ่าย


3.ความมั่นคง​ของมนุษยชาติ​ ที่จะทำงานร่วมกันกับประเทศในเอเชียใต้ ไทยเป็นประเทศที่ได้รับคำชื่นชมจากประชาคมโลกเกี่ยวกับหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เรามีศักยภาพในการรักษาพยาบาล​ การพัฒนายาและวัคซีน​ ซึ่งสามารถแลกเปลี่ยนความรู้และความร่วมมือ​ ทางด้านเวชภัณฑ์และยารักษาโรคกับอินเดีย ที่มีศักยภาพผลิตยาและวัคซีน หากร่วมมือกันเชื่อว่าจะร่วมกันพัฒนาภูมิภาคเอเชียใต้ได้ อย่างสมบูรณ์ และนำมาซึ่ง ความมั่นคงทางด้านมนุษยชาติมากยิ่งขึ้น

นายมาริษ​ กล่าวอีกว่า​ นอกจากนี้ยังจะหารือเกี่ยวกับความร่วมมือในหลายด้านเช่น ทางการทหาร​ และความมั่นคง ที่ขณะนี้ประเทศไทย มีเทคโนโลยี อาวุธยุทโธปกรณ์ ในระดับหนึ่ง อินเดียปากีสถานและประเทศอื่นๆ ก็มีศักยภาพที่จะพัฒนาร่วมกันได้ จึงเป็นอีกหนึ่งสาขาที่พยายามมองหาลู่ทางและโอกาสที่จะร่วมกันพัฒนา เพื่อความมั่นคงทางด้านการทหารและการเมือง ทั้งยังเน้นย้ำเรื่องการส่งเสริมการท่องเที่ยวการเชื่อมต่ออารยธรรม ที่มีคุณค่า รวมทั้งการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ ซึ่งจะใช้ประโยชน์จากการที่ประเทศไทยมีสถานที่ตั้งที่เป็นยุทธศาสตร์ ก็จะทำให้ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เพิ่มมูลค่า ประสบความสำเร็จ นำมาซึ่งผลประโยชน์ ของประเทศชาติและประชาชน.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]