“นพดล” เชื่อ 2 ครั้งจบ ถก กม.ประชามติ

รัฐสภา 1 พ.ย.- “นพดล” เชื่อ ถกกฎหมายประชามติ 2 ครั้งจบ รับงานยากต้องโน้มน้าว สว. เห็นด้วยใช้เกณฑ์ข้างมากชั้นเดียว มองการใช้เกณฑ์ 20% น่าสนใจ แต่ต้องคุยกันก่อน


นายนพดล ปัทมะ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญร่วมกันเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ กล่าวว่า ในการประชุมกมธ.นัดแรกที่ผ่านมา กมธ.ฯ ในส่วนของ สว. มีท่าทีชัดเจนว่าอยากจะเป็นประธานกมธ.ฯ จึงมีการเสนอชื่อ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สว. ซึ่งก็มีข้อถกเถียงกัน สส.ก็อยากให้ประธานกมธ.ฯ เป็นสส. เนื่องจากเป็นเสียงสุดท้ายที่ยืนยันได้ ส่วนสว.ก็อยากเป็นประธาน เพราะเขาอยากจะเข้าไปชี้แจงโน้มน้าว แม้สส.จะมีผลสุดท้ายที่สามารถยับยั้งได้ก็ตาม และเมื่อโหวตฝ่าย สส.ก็แพ้ แม้จะมี 14 เสียงเท่ากัน แต่สส.พรรคประชาชน ลาประชุม 1 คน และสส.ก็มีจากหลายพรรคทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล สุดท้าย พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ ก็ได้เป็นประธานกมธ.ฯ ซึ่งก็ถือเป็นไปตามกระบวนการเราไม่ได้ติดใจอะไร อย่างไรก็ตามในสัปดาห์หน้าก็คงพิจารณาต่อ และไม่น่าจะใช้เวลานาน ในความเห็ส่วนตัวคิดว่าไม่น่าจะประชุมเกิน 2 ครั้ง เพราะมีประเด็นเดียว คือจะเอาตามร่างของสภาฯ หรือจะเอาตามร่างแก้ไขของวุฒิสภา

นายนพดล กล่าวต่อว่า หากกมธ.ฯ มีข้อสรุปอย่างไรก็นำไปให้แต่ละสภาพิจารณา ถ้าสภาผู้แทนฯ ไม่เห็นด้วยกับกมธ. ก็ยับยั้งโดยอัตโนมัติ และมายืนยันในอีก 6 เดือน แต่ต้องรอดูว่าการหารือจะเป็นอย่างไร อย่างไรก็ตามในประเด็นที่เห็นต่างกันมีแนวโน้มน่าจะโหวต เพราะดูเหมือนว่า สว.พยายามปกป้องกันแก้ไขที่เขาทำมา ส่วนสภาฯก็ปกป้องหลักการของเราที่เสนอไป ดังนั้นก็ต้องมาแลกเปลี่ยนกัน ส่วนแนวทางตรงกลางก็พยายามพูดคุยกัน ซึ่งตนคิดว่าทุกอย่างโอกาสเป็นไปได้ทั้งนั้น แต่ก็ไม่ง่าย


“เราก็อยากโน้มแน้วให้ สว.เห็นด้วยกับแนวทางขอเราว่าจริงๆ ควรจะใช้แค่เสียงข้างมากธรรมดาของคนออกไปใช้สิทธิ์ สมมุติ 100 คน ออกไปใช้สิทธิ์​ 49 คนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเกิน 51 คน แต่เขากำหนดว่า 100 คน ออกไปใช้สิทธิ์ ต้อง 51 คนและนับครึ่งหนึ่งของ 51 คน สิ่งจะมีประเด็นว่าสมมุติออกไปไม่ครบก็เท่ากับการทำประชามติมันไร้ผล และจะเกิดขึ้นยาก และในประเด้นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เราก็บอกว่า เราก็ใช้เสียงข้างมากชั้นเดียว คือ 100 คนออกไปเท่าไหร่ก็ได้ตราบใดที่ไม่น้อยกว่าคนที่ไม่ออกไปใช้สิทธิ์ เพราะจะมีคนไปออกไปใช้สิทธิ์บางส่วน หากเกิดคนไม่ออกไปใช้สิทธิ์ 40 คน ออกไปใช้สิทธิ์ 10 คนก็ไม่ควรนับ ส่วนที่มีการเสนอว่าต้องมีจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิ์ 20 เปอร์เซ็นต์จากจำนวนผู้มีออกเสียงทั้งหมด ก็หน้าสนใจ แต่ยังไม่ได้คุยกันในเนื้อหาเลย” นายนพดล กล่าว.-315 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

นายกฯ ปัดตอบ ผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม.

“นายกฯ อิ๊งค์” ไม่ตอบคำถามผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม. บอกพรุ่งนี้ตอบทีเดียว ก่อนแซว “ประเสริฐ” ปรับให้แล้ว เหตุพูดตำแหน่ง “จุลพันธ์” ผิด จาก รมช.คลัง เป็น รมช.มหาดไทย

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]