“มาริษ” เชื่อหากไทยเข้า OECD จะปฏิรูปประเทศได้เร็วขึ้น

กระทรวงการต่างประเทศ​ 31 ต.ค. – “มาริษ” เชื่อหากไทยเข้า OECD ได้ จะปฏิรูปประเทศได้เร็วขึ้น เหตุต้องสร้างมาตรฐานทุกด้านให้เป็นสากล เผย TDRI ประเมินผล ศก.โตแน่ 1.6% ปลื้มเลขาฯ OECD มาเยือนเราด้วยตัวเอง ตอกย้ำความพร้อมของว่าไปถึงไหน มั่นใจ จะทำให้ไทยพ้นกับดักรายได้ปานกลาง ตั้งเป้าเป็นสะพานให้ประเทศ OECD ที่พัฒนาแล้วต้องฟังในสิ่งที่ประเทศกำลังพัฒนาต้องการ บอก 5-10 ปีหลังจากนี้ จะได้เข้าร่วมหรือไม่อยู่ที่ทุกฝ่ายร่วมมือกัน


นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงการที่นายมาทีอัส คอร์มันน์ (Mathias Cormann) เลขาธิการองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) เดินทางมาเยือนไทย เพื่อหารือเปิดตัวกระบวนการหารือเข้าเป็นสมาชิก OECD ว่า เลขาธิการ OECD ได้เดินทางมาด้วยตัวเอง โดยได้หารือกับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รวมถึงหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน

โดยระบุภึงการเยือนของเลขาธิการ OECD ว่ามีวัตถุประสงค์ 2-3 อย่าง เป็นการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ และเป็นการเริ่มเข้าสู่กระบวนการเป็นสมาชิก OECD ของไทย โอกาสนี้ เลขาธิการ OECD ได้หารือกับคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ซึ่งเป็นภาคเอกชนด้วย และถือเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มกระบวนการกับภาคราชการของไทย


“ท่านได้รับทราบว่าความพร้อมของประเทศไทยไปถึงไหน มีข้อจำกัดอย่างไรในการที่จะเข้าร่วมกระบวนการของการเป็นสมาชิก ทำให้ OECD ได้มาเห็น ได้รับทราบ ทุกภาคส่วนของไทยก็ได้รับทราบว่าเราต้องปฏิบัติตัวอย่างไร และมีผลดี ผลกระทบอย่างไร” นายมาริษ กล่าว

นายมาริษ กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรีและตนได้ย้ำว่าเราต้องการเข้าเป็นสมาชิกของ OECD ซึ่งผลประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้รับในครั้งนี้ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ได้มีการคำนวณว่าจะทำให้เศรษฐกิจเติบโตของเราเติบโตขึ้นถึง 1.6% เนื่องจากเราจะสามารถเพิ่มขีดความสามารถทางเศรษฐกิจได้ สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน รวมทั้งก้าวข้ามรายได้ปานกลาง เนื่องจากประเทศไทยต้องปฏิรูปทั้งเรื่องการเมือง เศรษฐกิจและสังคม

“ถามว่าเราปฏิรูปอยู่หรือไม่ เราก็ปฏิรูปอยู่ แต่บางครั้งเราจำเป็นต้องมีมาตรฐานเป็นตัวชี้วัด ว่าการปฏิรูปของประเทศก้าวไปสู่การก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลางหรือยัง การเข้าเป็นสมาชิก OECD จะทำให้ประเทศไทยมีมาตรฐานที่ชัดเจนและโปร่งใส กฎระเบียบทั้งหลายที่ทำให้เราเข้าเป็นสมาชิกภาคีกับเขา จะทำให้เรายกระดับทั้งหมด เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล ทุกอย่างต้องโปร่งใสหมด” นายมาริษ กล่าว


นายมาริษ ยังกล่าวว่า OECD ก็มองเห็นถึงศักยภาพและความสำคัญของประเทศไทย จึงเป็นที่มาของเหตุผลที่ OECD ต้องการให้ประเทศไทยเข้าเป็นประเทศสมาชิก ในอดีตหลายคนพูดถึงกลุ่มประเทศ OECD ว่าเป็น Rich Men Club หรือคลับของคนรวย หรือกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่หลังจากที่ OECD พัฒนาไปเรื่อยๆ ก็ได้เห็นว่าท้ายที่สุดแล้ว การที่จะทำให้โลกทั้งใบอยู่ในมาตรฐานสากลเป็นสิ่งสำคัญ จึงขยายกรอบให้ครอบคลุมถึงประเทศกำลังพัฒนา

“ประเทศไทยต้องการมีบทบาทนำในการขับเคลื่อนให้ประเทศที่กำลังพัฒนามีสิทธิ์มีเสียงที่จะกำหนดทิศทางของโลก รวมทั้งการที่จะทำให้ประเทศกำลังพัฒนาสามารถตอบโจทย์มากยิ่งขึ้น การที่ OECD กำลังขยายไปสู่ประเทศที่กำลังพัฒนา สอดคล้องกับนโยบายของประเทศไทย ที่ต้องการให้ประเทศกำลังพัฒนามีสิทธิ์มีเสียง ในการเข้ามาในธุรกิจการค้าอย่างเป็นธรรม และมีความโปร่งใสมากขึ้น” นายมาริษ กล่าว

นายมาริษ ย้ำถึงจุดแข็งของประเทศไทยว่าเราสามารถพูดให้เขาเห็นและทำเอาคุณค่าที่สำคัญ ได้แก่ มาตรฐานของ OECD ไปช่วยโปรโมต เพื่อให้ประเทศที่กำลังพัฒนาได้เห็นความสำคัญ และเข้ามาร่วมในการทำให้ประเทศมีมาตรฐานสากลมากขึ้น OECD ก็จะได้เห็นว่าประเทศกำลังพัฒนามีคุณค่าในมิติด้านต่างๆ เราจะทำให้ OECD ต้องฟังในสิ่งที่ประเทศกำลังพัฒนาต้องการ ทั้งนี้ ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ต้องการเห็นประเทศไทยเข้าไปอยู่ในจอเรดาร์มากขึ้นด้วย

นายมาริษ ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนว่า การเข้าเป็นสมาชิก OECD สามารถดำเนินการควบคู่ไปกับการเข้าร่วมเป็นสมาชิกของกลุ่ม BRICS ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่อยู่คนละขั้วอำนาจได้ทันที เรามองความร่วมมือในกรอบของการพัฒนา ไม่ได้เป็นการรวมกลุ่มทางการเมือง เป้าหมายของประเทศไทยคือพัฒนาให้เกิดความยั่งยืน ไม่ได้ให้เกิดการแตกแยก

เมื่อถามว่าในกรอบการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม สิ่งที่เป็นเงื่อนไขในการเตรียมความพร้อมที่ยากที่สุดคืออะไร นายมาริษ กล่าวว่า ตนคิดว่าไม่ได้มีความยากลำบาก เพราะต่อให้ไม่มี OECD ตนคิดว่าประเทศไทยก็ขับเคลื่อนไปสู่การเป็นมืออาชีพ มาตรฐานที่สูงขึ้นอยู่แล้ว เราต้องพัฒนาตัวเรา เพื่อปฏิรูปประเทศให้มีความอยู่ดีกินดีมากขึ้น แต่การที่เราเป็นสมาชิก OECD สามารถทำให้เราเร่งรัดกระบวนการเหล่านี้

“ผมคิดว่าสิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นสิ่งที่ทุกภาคส่วนของประเทศไทยต้องการที่จะปฏิรูปอยู่แล้ว เพียงแต่ว่ามีคนมาช่วยทำให้ปฏิรูปได้เร็วขึ้น สมบูรณ์ เป็นที่ต้องการมีมาตรฐานสากล เพราะฉะนั้น ผมเห็นถึงประโยชน์ที่สำคัญของการเข้าเป็นสมาชิก OECD” นายมาริษ กล่าว

ส่วนเป้าหมายของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ตั้งเป้าไว้ว่าจะเข้าเป็นสมาชิก OECD ภายใน 5 ปีเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน กระทรวงการต่างประเทศสามารถเร่งรัดการเตรียมความพร้อมภายในประเทศไทยอย่างไร นายมาริษ กล่าวว่า ก็ต้องพูดคุยกัน กระทรวงต่างประเทศดูเรื่องนโยบาย ตนก็กำชับทางกระทรวงไปให้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การที่เราจะเข้าร่วมได้ 5-10 ปี ก็เป็นเรื่องการเตรียมความพร้อมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เราเข้าไปช่วยเติมเต็มในส่วนที่เขาขาด แน่นอนว่าเราเข้าไปมีส่วนช่วยเพื่อให้เกิดได้เร็วที่สุด แต่ถ้าเกิดช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับความร่วมมือของทุกหน่วยราชการและทุกภาคส่วน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีต ผกก.ขับรถปาดหน้า-ชัก M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง

สงขลา 11 พ.ค. – การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี เดือด ลูกชาย สส.สงขลา ทำร้ายตำรวจคุมหน่วย ส่วน จ.นครศรีธรรมราช อดีตผู้กำกับขับรถปาดหน้าและชักปืน M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เดือด นายชวลิต เจริญพงษ์ อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง และปัจจุบันเป็นผู้สมัครรองนายกเทศมนตรีที่วัง เบอร์ 2 เข้าแจ้งความที่ สภ.กะปาง ว่าถูก พ.ต.อ.พิรุณ อดีต ผกก.ที่ปรึกษาผู้สมัครนายกเทศมนตรีอีกทีม ขับรถไล่ตามและใช้ปืน M16 ข่มขู่ โดยก่อนเกิดเหตุได้ไปกินข้าวที่ร้านอาหารกับผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.ที่วัง ได้เจ้อกับลูกน้องคนสนิทของ พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก เข้ามาพูดจาข่มขู่ พวกตนจึงหนีขึ้นรถเพื่อตัดปัญหา แต่ปรากฏว่าเมื่ออกจากร้านได้เพียง 10 เมตร พ.ต.อ.พิรุณ ได้ขับรถแวนเชฟโรเลตสีขาวปาดหน้า และลงจากรถพร้อมปืน M16 วิ่งมาที่รถของตน เห็นท่าไม่ดี จึงหักพวงมาลัยขับรถหนีและเข้ามาแจ้งความ ระหว่างนั้น พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

ผบ.ตร. สั่งกองวินัยเตรียมสอบ ปมมติแพทยสภาลงโทษหมอ

ผบ.ตร. รับทราบกรณีแพทยสภาลงโทษหมอ ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 สั่งกองวินัยเตรียมสอบ หากเป็นแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”

ข่าวแนะนำ

ตร.ตรัง เร่งขอศาลออกหมายจับ มือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ

ตรัง 12 พ.ค.- ตร.ตรัง เร่งขอศาลออกหมายจับมือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ ขณะที่ญาตินิมนต์พระทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณกลับบ้าน วันที่ 12 พฤษภาคม 2568 เมื่อเวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดตรัง ลงพื้นที่สวนปาล์มน้ำมัน เนื้อที่ 170 ไร่ จุดเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายยิงและเผานั่งยางผู้จัดการสวน เพื่อนร่วมงาน และลูกน้องรวม 3 ศพ และจุดพบศพปริศนาถูกเผาและฝังดินอีก 1 ศพ ในพื้นใกล้กัน รวมทั้งหมดเป็น 4 ศพ โดยเป็นการลงพื้นที่ซ้ำ เพื่อตรวจหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมในบริเวณที่เกิดเหตุ โดยเฉพาะบริเวณขนำจุดยิงผู้ตายทั้ง 3 ราย ก่อนนำไปจุดไฟเผา โดยตำรวจพบหัวกระสุนปืนขนาด 11 มม.เพิ่มเติมอีก 1 หัว แต่ทั้งนี้ พบอุปสรรคสำคัญในการทำงานเก็บพยานหลักฐาน เนื่องจากในพื้นที่ได้เกิดฝนตกลงมาเป็นระยะ ๆ ทำให้ร่องรอยพยานหลักฐานบางอย่างถูกทำลาย ซึ่งขณะนี้ทำให้ทราบว่าขณะเกิดเหตุมีการใช้อาวุธปืนหลายขนาด เพราะพบหัวกระสุนปืนในที่เกิดเหตุ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดียังคงกระจายกำลังกันลงพื้นที่เพื่อสืบสวนหาข่าวในพื้นที่ อ.สิเกา อ.วังวิเศษ จ.ตรัง และต.ทรายขาว […]

ออกหมายจับ สจ.คนดังพร้อมพวก รุมทำร้าย ตร.คาหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 12 พ.ค.- ศาลจังหวัดสงขลาออกหมายจับ สจ.คนดัง พร้อมพวกรวม 7 คน หลังก่อเหตุรุมทำร้าย ‘ด.ต.’ คาหน่วยเลือกตั้ง จ.สงขลา ขณะที่ ผบ.ตร.สั่งเอาผิด พวกทำตัวเหนือกฎหมาย จากกรณีสมาชิกสภา อบจ.สงขลา บุตรชาย สส.สงขลา ก่อเหตุสั่งให้ลูกน้อง 6 คน รุมทำร้ายร่างกาย ด.ต.นิสาธิต สังกัด ตชด.43 ปฏิบัติหน้าที่เจ้าพนักงานรักษาความสงบเรียบร้อยหน่วยเลือกตั้ง บริเวณหน้าหน่วยเลือกตั้งที่ 7 หมู่ 2 ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลาหลัง ส.อบจ.คนดังกล่าว เข้ามาใช้สิทธิที่หน่วย และให้ลูกน้องถ่ายรูป ซึ่งผิดกฎหมายเลือกตั้ง ด.ต.นิสาธิต จึงได้เข้าไปตักเตือน สร้างความไม่พอใจ ก่อนขับรถออกจากหน่วยเลือกตั้ง จากนั้นมีกลุ่มชายชกรรจ์ 5-7 คน เข้ามาที่หน่วยเลือกตั้ง และรุมทำร้าย ด.ต.นิสาธิต บาดเจ็บ ต่อหน้าต่อตาชาวบ้านที่มาใช้สิทธิเลือกตั้ง อ้างว่าลูกพี่ใหญ่ ไม่มีใครกล้าทำอะไร ล่าสุด ศาลจังหวัดสงขลาอนุมัติหมายจับผู้ก่อเหตุทั้งหมด 7 […]

เพลิงไหม้มาราธอน โหมโรงงานเฟอร์นิเจอร์ ยังคุมไม่ได้

12 พ.ค.- ยังไม่ดับ! ไฟไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ ย่านลาดกระบัง ต้นเพลิงอยู่ที่ชั้นใต้ดิน ยังไม่สามารถลงไปได้ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ รุดลงพื้นที่ สั่งอพยพชาวบ้านใกล้เคียง เร่งช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ ยืนยันสถานการณ์จะคลี่คลายภายในวันนี้ เพลิงไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ ซอยฉลองกรุง 55 แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ ลุกโหมมาตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ ก่อนเจ้าหน้าที่ระดมรถดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์ ตลอดทั้งคืน ยังมีไฟปะทุออกจากชั้นใต้ดินของโครงสร้างอาคาร     ล่าสุดเช้าวันนี้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมทีมวิศวกรผู้ เชี่ยวชาญด้านอาคารโรงงานอุตสาหกรรม ตำรวจ และทีมกู้ภัย เร่งเข้าตรวจสอบความเสียหายรอบพื้นที่โรงงาน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เผยว่า มอบหมายให้ ดร.สุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา(ดร.จอร์น) ประธานสภากรุงเทพมหานคร และนายธราพงษ์ เพ็ชรคง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตลาดกระบัง ลงพื้นที่ตั้งศูนย์บัญชาการเหตุยังจุดเกิดเหตุ ส่วนแนวทางปฏิบัติการ เตรียมใช้โฟมประกอบน้ำ ฉีดเข้าจุดที่ยังคงมีเพลิงปะทุคาดว่าจะควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในวงจำกัดได้ภายในช่วงเที่ยงวันนี้   ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระบุว่า ต้นเพลิงอยู่ที่ชั้นใต้ดิน แต่ยังไม่สามารถลงไปได้ เนื่องจากมีกลุ่มควันและความร้อนสูง จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ หน้ากากออกซิเจน […]

กทม.ประกาศยุติค้นหาผู้สูญหายใต้ซากตึก สตง.

กรุงเทพฯ 12 พ.ค. – กทม. ประกาศยุติการค้นหาผู้สูญหายใต้ซากตึก สตง. ด้านรองผู้ว่าฯ กทม. สั่งลดระดับกองปูนซากตึกข้างศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง จาก 9 เมตร เหลือ 6 เมตร ป้องกันอันตรายและง่ายต่อการค้นหาหากมีชิ้นส่วนที่เหลือติดค้างอยู่ เมื่อเวลา 10.30 น.ที่ผ่านมา (12 พ.ค. 68) ที่กองอำนวยกาารร่วม สน.บางซื่อ ห้างสรรพสินค้าเจเจมอลล์ ถ.กำแพงเพชร 2 แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประกาศยุติค้นหาผู้สูญหายจากเหตุอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ถล่ม รศ.ทวิดา เปิดเผยว่า วันนี้การค้นหาผู้ติดค้างภายในซากอาคารดังกล่าวยุติทั้งหมดแล้ว และเวลา 17.00 น. วันนี้ ทีมสุนัข K9 จะเข้าสำรวจความชัดเจนบริเวณกองซากวัสดุอาคาร สตง. หลังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เพื่อให้เเน่ใจว่าจะไม่มีชิ้นส่วนมนุษย์หลงเหลืออยู่แล้ว ส่วนด้านเครื่องจักรในพื้นที่จะยังคงทำงานอยู่ เนื่องจากจะมีการขนซากเศษปูนที่อยู่ตรงโซน A ทั้งหมด ย้ายออกไปหลังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง โดยในเวลา […]