“กมธ.สคบ.” ยันกัดไม่ปล่อยปมดิไอคอน

รัฐสภา 31 ต.ค.-“กมธ.สคบ.” เชิญ​ “ดีเอสไอ-ปปง.-สอบสวนกลาง-สคบ.” แจงปมดิไอคอน ยัน​กัดไม่ปล่อย หลังถูกคลิปเสียงแอบอ้างเคลียร์ได้​ ด้าน​ “ไผ่​ ลิกค์” บอกอย่าเบี่ยงประเด็น​ใครพา​นักการเมือง​ ส. เข้าวงการ​ มองปล่อยอักษรย่อเลอะเทอะ​


การประชุมคณะกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภค ที่มี นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา สส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐเป็นประธาน กรรมาธิการ โดยมีระเบียบวาระเกี่ยวกับคดี ดิไอคอน กรุ๊ป และได้เชิญ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน นายสุทธิศักดิ์ สุมน ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านกฎหมาย นางสาวอภิสรา ศรีอัครกูล นิติกรปฏิบัติการส่วนนิติการกองกฎหมาย สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค นายธนาชัย สาธิตวสุธา ผู้อำนวยการฝ่ายรับจดทะเบียนและส่งเสริมการประกอบธุรกิจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจตรีวิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค พันตำรวจโทปริญญา ปาละ รองผู้กำกับการสอบสวนกองบังคับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค, กรมสอบสวนคดีพิเศษ พันตำรวจตรีธฤตวัน วนาพัทธ์ รองผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และนายวีระ อักษรศิริ ผู้อำนวยการกองคดีการฟอกเงินทางอาญา ทั้งนี้ ยังมีนายไผ่ ลิกค์ สส.พรรคพลังประชารัฐเข้าร่วมสังเกตการณ์ในฐานะผู้ที่เสนอเรื่องนี้เข้าสู่กรรมาธิการด้วย

หลังประชุมนานกว่า​ 2 ชั่วโมง​ นางบุญยิ่ง​และนายไผ่​ ได้ให้สัมภาษ​ณ์​ต่อสื่อมวลชน​ โดยนายไผ่​ กล่าว​ว่า​ ในฐานะผู้ร้อง​ ได้เข้าไปซักถามทางผู้ที่มาชี้แจง​ โดยได้สอบถามเรื่องคลิปต่างๆ ที่มีการพาดพิง​ ถึงดีเอสไอ รวมไปถึงเรื่องที่ดีเอสไอบุกจับนาฬิกาปลอมของบอส​ ดิไอคอน​ มีขั้นตอนการรับเรื่องอย่างไร​ เหตุใดผู้แจ้งเบาะแสถึงโทรหาดีเอสไอ ซึ่งได้รับคำชี้แจงว่า​ ผู้แจ้ง​บอกว่าเป็นของบอสอ๊อฟ​ แต่ส่วนตัวมองว่า​ ไม่น่าใช่​ แต่ดีเอสไอก็รับปากว่าจะทำเรื่องนี้ให้กระจ่าง


ส่วนที่มีการโอนคดีให้ดีเอสไอ แต่ประชาชนไม่เชื่อมั่นในการทำหน้าที่ของดีเอสไอนั้น​ นายไผ่​ กล่าวว่า​ ดีเอสไอจำเป็นต้องทำ​ เพราะถ้าไม่ทำ​ ก็เข้าข่ายละเว้นปฏิบัติหน้าที่​ ซึ่งเราก็ได้ฝากดีเอสไอ กรณีที่มีคลิปออกมา เพราะเราคิดว่าเป็นการแอบอ้าง ​ แต่ยังไม่ฟันธงต้องรอให้เขาดำเนินคดี​ พร้อมบอกกับเจ้าหน้าที่ว่า กรรมาธิการทุกคนจะเกาะติดเรื่องนี้​ เพราะเป็นที่จับตาของสังคม พร้อมขอร้องว่า​ อย่าทำคดีให้เป็นที่เคลือบแคลงสงสัย​ ส่วนเรื่องของหมายจับล๊อต​ 2 ที่ประชุมไม่ได้มีการสอบถามในเรื่องนี้​ แต่วันนี้ทางดีเอสไอและตำรวจก็ต่างประสานเสียงว่า​ ไม่สนใจน่าอินทร์หน้าพรหม​ เรื่องไปถึงไหนจะเอาผิดเต็มที่​

เมื่อถามว่า​ สว.กังวลว่า​ เมื่อคดีไปอยู่ดีเอสไอ เกรงว่าจะขาดอายุความ​ นายไผ่​ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน​ แต่วันนี้ดีเอสไอยังไม่ได้ดำเนินการอะไร​ แต่สิ่งที่สงสัยคือเหตุใด ฝั่งผู้ต้องหา พยายามก่อเรื่องให้มีการจับนาฬิกาปลอม​ ดังนั้นจากนี้​ ต้องให้โอกาสดีเอสไอ และวันนี้มีการพูดคุยรายละเอียดหลายเรื่อง​ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้​ ขณะเดียวกันทุกหน่วยงานที่มา มีการทำงาน บูรณาการ กันทั้งหมด​

เมื่อถามว่าจากนี้กรรมาธิการ​มีการวางกรอบ สรุปเรื่องนี้อย่างไร​ นายไผ่​ กล่าวว่า​ตนในฐานะผู้ร้อง​ ก็ต้องติดตาม​ ว่าเรื่องนี้มีความคืบหน้าอย่างไร​ เพื่อให้หายเคลือบแคลงสงสัย​ หลักใหญ่คือต้องให้ประชาชนได้รับความเป็นธรรม​ แต่ยอมรับว่า​ การทำคดีมันไม่เร็​ว​ แต่เราก็จะติดตามในเรื่องของคดี ว่า​ จะเข้าข่ายฐานความผิดแชร์ลูกโซ่ด้วยหรือไม่​


เมื่อถามในฐานะ​ สส.มีความเห็นอย่างไรกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า​ บอสพอล​ จะหลุดคดี​ นายไผ่​ กล่าวว่า​ พูดอย่างนั้นก็ไม่ถูก เราไม่สามารถจะไปตัดสินแทนศาลได้​ แต่พวกตนที่ถูกแอบอ้างจากคนๆหนึ่ง​ เนื่องจากตนเป็นคณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภคที่ถูกแอบอ้าง​ ทำให้ได้รับความเสียหาย อย่างหนักจากคลิปนักการเมือง​ ส.​ จากนี้ตนจะเกาะติด​ อะไรที่เราเห็นได้ฝากเจ้าหน้าที่ไว้ทั้งหมดแล้ว​ พร้อมได้ฝาก​ ปปง.​ไปแล้ว​ ให้ตรวจเส้นทางการเงินทุกคน

เมื่อถามว่าล่าสุด มีกระแสข่าวว่า​ บอสพอล​ ได้โอนเงินให้กับแม่นักการเมือง​ ส.​ นายไผ่​ กล่าวว่า​ เราคุยกันแล้ว​ ให้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน ทั้งคนรอบข้างหรือคนอยู่บ้านเดียวกันด้วย​ รวมถึงได้พูดคุยกับพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งวันนี้มีตัวแทนมา 1 คน​ ยืนยัน​ จะไม่มีการอุ้มนักการเมือง​ ส.​ รวมถึงพรรคเพื่อไทยที่ถูกเชื่อมโยงอักษรย่อ​ และมีการโยนกันไปมา​ ว่าใครเป็นคนพานักการเมือง​ ส.​ เข้ามา​

“คนเอามาก็คงไม่รู้​ ว่ามันจะขนาดนี้​ แต่หลังจากนี้ เราจะเอาความจริงเล่นกัดไม่ปล่อย เพราะมันเป็นการทำร้ายองค์กร” นายไผ่ กล่าว

ขณะที่นางบุญยิ่ง​ กล่าวเสริมว่าการปล่อยอักษรย่อออกมา​ เป็นการสร้างตัวละครขึ้นมา ทำให้สังคมสับสน อยากให้ดีเอสไอดำเนินการ

ก่อนที่นายไผ่​ จะทิ้งท้าย​ว่า​ การอ้างอักษรย่อเป็นเรื่องเลอะเทอะ​.-315 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

แฟนนางงามแห่ต้อนรับ “โอปอล” กลับไทยสุดอบอุ่น

กรุงเทพฯ 14 มิ.ย. – แฟนนางงามแห่รับ “โอปอล สุชาดา” Miss World 2025 กลับไทยสุดอบอุ่น ก่อนขึ้นรถแห่ฉลองทั่วกรุง “โอปอล” สุชาตา ช่วงศรี มิสเวิลด์ 2025 เดินทางกลับถึงไทย ด้วยเที่ยวบิน TG603 ร่วมงาน ‘Home Coming 72nd Miss World 2025’ ท่ามกลางการต้อนรับสุดอบอุ่นจากแฟนนางงามแน่นสนามบินสุวรรณภูมิ โอปอล กล่าวขอบคุณคนไทย และบอกว่ามงกุฎนี้เป็นของพวกเราทุกคน ตั้งเป้าใช้ตำแหน่งเพื่อช่วยเหลือสังคม หลังจบพิธี โอปอลขึ้นรถโรลส์-รอยซ์เปิดประทุน โบกธงชาติไทย มุ่งหน้าท้องฟ้าจำลอง ร่วมขบวนแห่ฉลองชัยมิสเวิลด์คนแรกของประเทสไทยอย่างสมเกียรติ บรรยากาศที่ท้องฟ้าจำลองมีประชาชนมารอต้อนรับโอปอล บรรดาแฟนนางงามต่างแสดงสัญลักษณ์ด้วยการใส่ชุดสีฟ้า บางคนมีการทำมงกุฎ Miss World มาใส่ และทันทีที่รถของโอปอลเลี้ยวเข้ามายังท้องฟ้าจำลอง มีการโห่ร้องต้อนรับอย่างอบอุ่น ส่วนแรงบันดาลใจในการทำรถขบวนแห่ของ Miss World 2025 นี้ นายธีรฉัตร อินถา ผู้ออกแบบขบวน ระบุว่า ได้มีการนำวัฒนธรรมผสมผสานระหว่างสากลและวัฒนธรรมไทย […]

ประชุม JBC วันแรกเป็นไปด้วยดี สองฝ่ายหารือตรงไปตรงมา

14 มิ.ย.- โฆษก กต. เผยการประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายหารือกันอย่างตรงไปตรงมา พร้อมย้ำไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก สำหรับการประชุมจะเสร็จสิ้นในวันพรุ่งนี้ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย – กัมพูชา หรือ JBC ครั้งที่ 6 ว่าตั้งแต่เมื่อเช้า หลังจากคณะผู้แทนไทยฯ ที่นำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย เดินทางถึงกรุงพนมเปญเมื่อวานนี้ ได้รับรายงานความคืบหน้ามาเป็นระยะ และเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศก็ได้เรียกประชุมผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่ขอให้เรียกประชุมและรายงานความคืบหน้าเป็นระยะ เพื่อจะได้มีข้อสั่งการ นายนิกรเดช กล่าวว่า การประชุมเริ่มจากที่พบหารือระหว่างสองประธานไทย-กัมพูชา กลุ่มเล็ก จากนั้นได้เริ่มการประชุม JBC เต็มคณะ เพื่อหารือประเด็นทางเทคนิค ที่อยู่ในขอบเขตการทำงานของ JBC เช่นการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการสำรวจภูมิประเทศ ขณะนี้การประชุมก็ยังคงดำเนินอยู่ ซึ่งช่วงบ่ายก็จะเป็นการหารือตามระเบียบวาระที่วางไว้ เช่นการพูดคุยด้านเทคนิค และคาดว่าจะมีการประชุมไปจนถึงวันพรุ่งนี้ บรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยดี และทั้งสองฝ่ายกำลังเดินหน้าหารือกันตามวาระ ถือว่าการประชุมเป็นไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายเดินหน้าคุย และปรับความคิดหากันด้วยดี ฝ่ายไทยหวังว่าการประชุมครั้งนี้จะมีส่วนช่วยลดความ ตึงเครียดของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น […]

ประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” ยึด MOU43 แก้ปมชายแดน-ลดตึงเครียด

14 มิ.ย.- “ไทย-กัมพูชา” แถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม JBC เจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกัน และการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบ MOU43 นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย เป็นประธานการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) ร่วมกับนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา ทั้งสองฝ่ายกล่าวถ้อยแถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ในการเจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกันและการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ. 2543 (MOU 43) เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาชายแดนและลดความตึงเครียดที่มีอยู่ ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการของทั้งสองฝ่าย ประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานเชิงเทคนิคที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กรมแผนที่ทหาร กองทัพบก กองทัพเรือ สำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา (เทียบเท่ากระทรวง) กระทรวงกลาโหมกัมพูชา กองทัพภาคต่าง ๆ ของกัมพูชา รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาของกัมพูชาทุกจังหวัด -สำนักข่าวไทย

Cambodia and Thailand hold a closed-door meeting ahead of the official meeting of JBC in Phnom Penh

ไทย-กัมพูชา หารือกลุ่มเล็กก่อนประชุม JBC

พนมเปญ 14 มิ.ย. – สื่อกัมพูชารายงานว่า กัมพูชาและไทย ได้เปิดการหารือกลุ่มเล็กฝ่ายละ 5 คน ก่อนการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือเจบีซี (JBC) ที่กรุงพนมเปญ ในวันนี้ เว็บไซต์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานว่า ในการหารือกลุ่มเล็กที่มีผู้ร่วมเข้าเพียง 10 คน ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายเจีย ฬำ  รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบกิจการชายแดน ส่วนฝ่ายไทยนำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงต่างประเทศด้านกิจการชายแดน ซึ่งเป็นนักการทูตผู้เชี่ยวชาญช่วงข้อพิพาทปราสาทพระวิหาร พร้อมกับเผยแพร่ภาพชุดการหารือดังกล่าว.-814.-สำนักข่าวไทย