“มนพร” รับคืออักษรย่อ ม. หลัง พปชร.แฉเอี่ยวดิไอคอน

รัฐสภา 30 ต.ค.- “มนพร” รับคืออักษรย่อ ม. หลัง พปชร.แฉเอี่ยวดิไอคอน แจงรับเรื่องผู้เสียหายจริง และไกล่เกลี่ยรับเงินคืนแล้ว มั่นใจไม่มีเทวดาในเพื่อไทย ย้อนไปดูเทวดาของท่าน เพราะในพรรคเราไม่มี


นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และสส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะอดีตกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภค พร้อมด้วยนายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ สส.พรรคประชาชน ในฐานะอดีตกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวถึงกรณีที่พรรคพลังประชารัฐ ปล่อยอักษรย่อ ม. ที่เกี่ยวโยงกับคดีดิไอคอน ในสภาชุดที่แล้ว ว่า อักษรย่อ ม.ที่มีการกล่าวอ้างถึง น่าจะมี 2 คน คือ นายมานะ โลหะวณิชย์ อดีต สส. ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภค และตนเอง ในฐานะประธานอนุกรรมธิการการคุ้มครองผู้บริโภค พร้อมไล่เลียงว่า เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2566 มีประชาชนมาร้องต่อคณะกรรมาธิการเรื่องของการสมัครเป็นสมาชิกของตัวแทนจำหน่ายของบริษัทดิไอคอนและมีการจ่ายเงินไปกว่า 2 แสนบาท โดยจะต้องได้รับยาสีฟัน 1,500 หลอด แต่ได้รับยาสีฟันเพียง 50 หลอด ดังนั้นเกรงว่า การได้รับสินค้าไม่ตรงกับสัญญานั้นจะถูกหลอกลวง จึงมาร้อง สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. แต่ไม่มีความคืบหน้าจึงมาร้องต่อคณะกรรมาธิการฯ ซึ่งคณะกรรมการได้สืบค้นหาความจริงและเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีผลต่อการบังคับใช้กฎหมายมารับทราบและดำเนินการตามกระบวนการ ดังนั้นเมื่อเรื่องส่งมายังคณะอนุกรรมาธิการ จึงได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจง ซึ่งใช้ระยะเวลา 1 เดือน หลังการรับเรื่องร้องเรียน โดยได้มีการไกล่เกลี่ย ตามที่ผู้ร้องขอให้มีการคืนสินค้าและ ขอให้บริษัท ดิไอคอนคืนเงินให้เต็มจำนวน ซึ่งหลังจากไกล่เกลี่ยเสร็จได้รายงานผลไปยังคณะกรรมาธิการชุดใหญ่ว่าผู้ร้อง ไม่ติดใจและได้ทำ หนังสือขอถอนเรื่องออกจากกรรมาธิการแล้ว

นางมนพร ยืนยัน ไม่มีการดองเรื่องดังกล่าว เพราะกรรมาธิการ ต้องเป็นที่พึ่งของ และได้เร่งรัดในการคืนเงินให้กับผู้ร้อง และย้ำใช้เวลาในการพิจารณาเรื่องนี้เพียงแค่ 1 เดือน


ส่วนที่พรรคพลังประชารัฐพยายามเชื่อมโยง กับคณะกรรมาธิการและเชื่อมโยงกับพรรคเพื่อไทยด้วย มองว่าเป้าหมายคือการโบ้ยเรื่องนี้มาให้ทางพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นางมนพร กล่าวว่า ไม่ทราบแต่ในส่วนของพรรคเพื่อไทยเอง ในฐานะที่ตนเป็น สส. คนที่ให้ข่าวยังไม่เข้าใจระบบ เพราะอำนาจของกรรมาธิการไม่ใช่การชี้ถูกผิด แล้วในขณะนั้นตนเองเป็น สส.ฝ่ายค้านด้วยซ้ำ และพรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคแกนนำรัฐบาล ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องไปตรวจสอบว่าบริษัทในลักษณะนี้มีลักษณะฉ้อโกงประชาชนหรือไม่ และ อย. ต้องไปตรวจสอบว่าสินค้ามีคุณภาพอย่างไร

ทั้งนี้ ไม่ทราบว่าเป้าประสงค์ของคนที่ออกมาให้ข่าวในลักษณะนี้ต้องการอะไร แต่คนที่มาให้ข่าวก็ต้องรู้อยู่แก่ใจว่า ถ่ายสดขณะที่ตัวเองเป็นผักแกนนำรัฐบาลเหตุใดจึงปล่อยให้ปัญหาเรื้อรังและทำให้ประชาชนเดือดร้อนถึงขนาดนี้ ในส่วนของ บอสแซม ก็ออกจาก การเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยนานแล้ว ส่วนของการทำธุรกิจเป็นเรื่องส่วนบุคคลไม่ได้เกี่ยวข้องกับทางพรรค

ส่วนที่มี การเชื่อมโยงไปยังกลุ่มสามมิตรนั้น ทราบว่านายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้ว ซึ่งปกติคนที่ไม่ดีก็จะไปอ้างชื่อคนที่ดี เพื่อเป็นเกราะกำบังให้กับการกระทำความผิดของตัวเอง ดังนั้นต้องย้อนกลับมาดูตัวเองว่าได้ทำไว้กับประชาชน ซึ่งเราเป็นนักการเมืองต้องกล้าที่จะยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง โดยเฉพาะตนเองได้ทำหน้าที่ในฐานะประธานอนุกรรมาธิการในขณะนั้นก็ได้ ตรวจสอบข้อเท็จจริงและนำเงินคืนจากบริษัทดิไอคอนให้ประชาชนได้ ซึ่งขณะนี้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ติดตามคนที่กระทำความผิด


เมื่อถามว่า มีการบอกว่า เทวดา อาจจะอยู่ในพรรคเพื่อไทย นางมนพร กล่าวว่า ไม่มี ที่นี่มีแต่ สส. ผู้บริหาร พรรคเพื่อไทยหัวใจคือประชาชนอยู่แล้วขอให้ย้อนกลับไปดูเทวดาของท่าน ไม่ต้องมาคิดถึงว่าเทวดาจะอยู่ในพรรคเพื่อไทย เทวดาคงอยู่บนท้องฟ้า

ส่วนจะมีการดำเนินคดีกับพรรคประชารัฐหรือไม่ เพราะมีความพยายามโยนความผิดมาให้พรรคเพื่อไทย นางมนพร กล่าวว่า หากพลังประชารัฐรัฐในขณะนั้นเป็นภาครัฐบาลทำไมถึงปล่อยให้บริษัทเหล่านี้ลอยนวลและมาหลอกลวงประชาชน ทางนี้ส่วนตัวไม่ได้รู้จักกับบอสของ บริษัทดิไอคอน แต่อย่างใด

นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัฒน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภค ยืนยันว่า เมื่อครั้งที่ทำงานร่วมกับนางมนพร ได้ทำงานกันอย่างตรงไปตรงมาการมีข่าวออกมาถือว่าไม่ให้ความเป็นธรรมกับทั้งนายมานะและนางมนพร ต้นขอยืนยันว่าการทำงานในคณะกรรมาธิการเป็นไปอย่างตรงไปตรงมา และแสวงหาข้อเท็จจริงในการเรียกทั้งหน่วยงานและผู้ร้องมา จนได้ข้อยุติ ทั้งนี้เห็นว่าถ้ารัฐบาลในขณะนั้น ใส่ใจว่ามีเหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นและดูแลว่าไม่ควรเกิดขึ้นอีก.-315 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดปมสามียิงภรรยาดับคารถ ปัญหาเรื่องเงิน

กทม. 11 มิ.ย. – เปิดปมเหตุสามียิงภรรยาดับคารถ พี่ชายกับเพื่อนรุ่นน้องเผยว่าผู้ก่อเหตุมีปัญหาเรื่องเงิน พบช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา พฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนไป จากกรณีนายมีนาพัฒน์ อายุ 40 ปี ก่อเหตุยิงนางสาวนันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยาของตัวเอง แล้วทิ้งศพไว้ในรถ ในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เขตบางแค และหลังก่อเหตุปิดล็อกประตูเงียบอยู่ในบ้านพัก เจ้าหน้าที่ล้อมจับนาน 4 ชั่วโมง จนยอมมอบตัวเมื่อคืนวานนี้ (10 มิ.ย.) ต่อมาพี่ชายของนายมีนาพัฒน์ มาเยี่ยมผู้ก่อเหตุที่ สน.เพชรเกษม เปิดใจยอมรับว่าสาเหตุส่วนใหญ่มาจากปัญหาเรื่องเงิน เมื่อช่วงเดือนเมษายน น้องสะใภ้ (ผู้ตาย) บอกว่า น้องชายนำบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดกไปเข้าธนาคาร 2 ล้านกว่าบาท ซึ่งผิดจากปกติที่น้องไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินมาก่อน เพราะแม่ยกสมบัติให้เยอะมาก ครั้งสุดท้ายที่คุยกับน้องชายคือเมื่อวานนี้ช่วง 19.30 น. น่าหลังจากก่อเหตุฆ่าภรรยาแล้ว คุยกันประมาณครึ่งชั่วโมงสังเกตได้ว่าน้องชายมีอาการสับสน พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่มีบางประโยคที่น้องชายพูดออกมาแล้วรู้สึกหงุดหงิดใจ เรื่องบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดก บอกว่า “บ้านหลังนี้ครอบครัวเราจะต้องได้อยู่” […]

ตำรวจภาค 8 รวบ 3 ราย ขบวนการส่งยาขนมากับรถทัวร์

กระบี่ 11 มิ.ย. – รวบขบวนการค้ายาบ้า ขนมากับรถทัวร์ สายเชียงใหม่-ภูเก็ต 3 แสนเม็ด แวะลงกระบี่ ส่งให้เอเย่นต์สาขาสุราษฎร์ฯ ตำรวจรวบทีเดียวทั้งคนส่งและคนรับ นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น รอง ผบช.ภ.8 รักษาการ ผบ.ภ.จ.กระบี่ แถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด ได้ผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลางยาบ้า 300,000 เม็ด ประกอบด้วย นายสัมพันธ์ อายุ 54 ปี นายสุรพล อายุ 30 ปี และนางสาวสุนารี อายุ 27 ปี พร้อมยึดรถเก๋ง 1 คัน และแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน การจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการส่งมอบยาบ้ากันบริเวณสามแยกเขาต่อ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ เมื่อถึงเวลาก็มีรถทัวร์สายเชียงใหม่-ภูเก็ต […]

‘ฮุน มาเนต’ ย้ำทหารกัมพูชาไม่ได้ถอยออกจากพื้นที่

ปารีส 10 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ส่งสารจากฝรั่งเศสถึงชาวกัมพูชา ยืนยันจุดยืนกองทัพไม่ได้ถอนออกจากพื้นที่ภายใต้อธิปไตย พร้อมร่วมมือกับไทยปักปันเขตแดน ตามกลไกเจบีซี ยกเว้น 4 จุดที่จะส่งศาลโลกตัดสิน ฮุน มาเนต ซึ่งอยู่ระหว่างเข้าร่วมการประชุมว่าด้วยมหาสมุทรของสหประชาชาติ ครั้งที่ 3 ที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Hun Manet ส่งสารถึงชาวกัมพูชา มีใจความดังนี้ กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางแก้ไขปัญหานี้โดยสันติ แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการพยายามรุกรานใดๆ กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะเข้าร่วมสนับสนุนกลไกการเจรจาชายแดนกับไทยที่มีคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม เพื่อดำเนินงานรังวัดและปักปันเขตแดนที่เหลือระหว่าง 2 ประเทศต่อไป ยกเว้นประเด็นที่กัมพูชาจะส่งให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ไอซีเจ (ICJ) พิจารณา

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ดูบังเกอร์หลบภัย ถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ มท.

11 มิ.ย.- นายกฯ ดูชาวบ้านทำบังเกอร์ ร้องโถ่ ก่อนถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ ก.มหาดไทย หลังรายงานขอรับบริจาคมาใช้แทนยางรถยนต์ วันนี้ (11 มิ.ย. 68) เวลา 13.40 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่ต่อมายังหมู่บ้านสกลพัฒนา ตำบลตะเคียน อำเภอกาบเชิง เพื่อพบปะชาวบ้าน มอบสิ่งของ และตรวจดูการทำบังเกอร์หลบภัย โดยทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ได้มีชาวบ้านนำผ้าขาวม้ามามอบให้ ซึ่งนายกฯ รับมาก่อนจะหันไปหานายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า “ผูกกันเป็นทีม” ก่อนจะมอบสิ่งของอุปโภค – บริโภค เพื่อให้กำลังใจชาวบ้านในพื้นที่ จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมการสร้างบังเกอร์ โดยมีนายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านสกลพัฒนา รายงาน โดยนายกรัฐมนตรี ถามผู้ว่าฯ ว่า ขอเข้าไปดูได้หรือไม่ และถามชาวบ้านบ้านว่า “ทำมานานหรือยัง” โดยชาวบ้านบอกว่า […]

คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา-ค้านประกันตัว

กรุงเทพฯ 11 มิ.ย. – คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ ตำรวจคัดค้านการประกันตัว ส่วนผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวฝากขังพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 1 ควบคุมตัวหมอแอร์ ไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากการกระทำความผิดมีอัตราโทษสูง เกรงว่าจะมีการหลบหนีและยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ในระหว่างควบคุมตัว หมอแอร์สวมหมวก แว่นตาดำ และแมสก์ปิดบังใบหน้า พยายามแอบอยู่หลังเจ้าหน้าที่ โดยไม่ตอบคำถามของสื่อมวลชนแต่อย่างใด สำหรับผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ วันพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) .-สำนักข่าวไทย

เปิดขบวนการ “หมอแอร์” สวมชื่อคนตายซื้อยาเสียสาว

11 มิ.ย. – ผู้ช่วย ผบ.ตร. นำแถลงกรณี “หมอแอร์” พร้อมพวกรวม 7 คน แอบอ้างชื่อคลินิก 12 แห่ง สั่งซื้อยายาเสียสาว นำมาขายต่อ นาน 3 ปี และยังสวมชื่อคนตาย 370 คน รับยา ขณะที่ รพ.ตำรวจ มีคำสั่งให้ “หมอแอร์” ออกจากราชการไว้ก่อน หลังเมื่อวานนี้ (10 มิ.ย.68) เจ้าหน้าที่บุกจับ “หมอแอร์” คุณหมอชื่อดัง สังกัดโรงพยาบาลตำรวจ พร้อมพวก แอบอ้าง 12 คลินิก สั่งซื้อยาควบคุม (ยาเสียสาว) นำมาขายต่อ นาน 3 ปี วันนี้ (11 มิ.ย.68) มีการแถลงข่าวเรื่องนี้ นำโดย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย […]

เปิดภาพความจริง! อดีต-ปัจจุบันชายแดนช่องบก

11 มิ.ย. – ‘กองทัพไทย’ เปิดภาพถ่ายแผนที่ทางอากาศ ชายแดนช่องบก อุบลราชธานี เปรียบเทียบอดีต-ปัจจุบัน พบการทำกิจกรรมทางทหาร-ขุดคูเลต-ทำถนนส่งกำลังบำรุง ก่อนเหตุปะทะช่องบก 28 พ.ค.2568 ทีมโฆษกกองทัพไทย เปิดข้อมูลแผนที่ทางอากาศ จัดทำโดยกองบัญชาการกองทัพไทย จากกรณีไทย และกัมพูชา มีข้อสังเกตหลายประเด็นที่ปรากฏในภาพถ่ายทางอากาศตรงจุดปะทะ โดยภาพถ่ายทางอากาศ เริ่มตั้งแต่ปี 2497 ช่วงแรกถ่ายไว้จนถึงปี 2520, 2527 และมีการถ่ายภาพทางอากาศอย่างต่อเนื่อง ส่วนกรณีที่อ้างถึงการยึดครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่ที่มีปัญหานานมากแล้วนั้น หากมองตามภาพถ่ายทางอากาศ จะยืนยันได้ว่า ไม่มีการเข้าไปใช้พื้นที่อย่างที่อ้าง ข้อมูลของกองทัพไทย ยังได้เปรียบเทียบเส้นสีแดงในแผนที่ เป็นเส้นแนวที่ไทยยึดถือ ใช้แบ่งแนวเขตระหว่างไทย กัมพูชา และลาว ส่วนจุดปะทะที่เกิดขึ้นนั้น เป็นพื้นที่ที่เข้ามาทางฝั่งไทย ทั้งนี้ กองทัพไทยยังมีการถ่ายทางอากาศต่อเนื่องยาวมาถึงปี 2539, 2546, 2553 และ 2561 เป็นที่สังเกตได้ว่า ช่วง 70 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2497 ไม่มีใครเข้ามาถือครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่นั้น หากมองถึงกิจกรรมของประเทศเพื่อนบ้านที่ประเด็นในปัจจุบันนั้น เห็นได้อย่างชัดเจนตามภาพถ่ายทางอากาศว่า มีการเคลื่อนไหวทางการทหารที่แตกต่าง […]