รัสเซีย 25 ต.ค.-“มาริษ” รมว.ต่างประเทศ เผย “เลขา UN-ปูติน” ชื่นชมบทบาทไทย ในเวที BRICS Plus Summit ย้ำนโยบายต่างประเทศ ยุค “นายกฯอิ๊งค์” กระชับสัมพันธ์รอบด้าน-สมดุล เป็นมิตรทุกประเทศ เผยยังต้องรอทางการ BRICS รับไทยเป็นพันธมิตร ลั่นเป้าหมายไทย เดินหน้าจับมือประเทศกำลังพัฒนา นำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน
นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยหลังการประชุมระดับผู้นำระหว่างกลุ่มประเทศ BRICS กับกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนา หรือ BRICS Plus Summit ครั้งที่ 4 ณ เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย ว่า เป็นการมาเข้าร่วมในฐานะตัวแทนของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งได้ฝากนโยบายที่สำคัญ คือ การส่งเสริมความร่วมมือของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาร่วมกัน โดยเน้นบทบาทบนเวทีโลกที่สร้างสรรค์ และผลักดันขับเคลื่อนให้ประเทศกำลังพัฒนา มีส่วนผลักดันในการกำหนดทิศทางของประชาคมโลก
สำหรับการประชุม จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “BRICS and the Global South : Building a Better World Together” ซึ่งเป็นธีม และเป้าหมายที่สอดคล้องกัน โดยความสำคัญของกลุ่มประเทศ BRICS ที่ประเทศไทยเห็น คือ เราต้องการมีส่วนร่วม ในการสร้างประชาคมโลกที่ดี และยุติธรรม รวมถึงตอบสนองต่อผลประโยชน์ของประเทศกำลังพัฒนา ดังนั้นการที่เราพยายามเข้าเป็นสมาชิกกลุ่ม BRICS จึงมีความสำคัญ และ ครั้งนี้สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนจากทุกประเทศที่ได้รับเชิญเข้าร่วมประชุม ต่างเน้นย้ำถึงแนวทางในการกระชับความร่วมมือของประเทศกำลังพัฒนา เพื่อนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน
นายมาริษ กล่าวว่า นอกเหนือจากหลายประเทศที่ได้รับเชิญแล้ว ครั้งนี้ประเทศรัสเซีย ในฐานะเจ้าภาพ ยังได้เชิญ นายอันโตนิโอ กูเตียร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) มาร่วมด้วย
“และที่ประชุมเห็นพ้องความร่วมมือประเทศกำลังพัฒนา ที่จะกำหนดทิศทางของโลก ไม่ใช่มาต่อต้านใคร แต่กำหนดทิศทางของโลกใหม่ ให้ประเทศกำลังพัฒนา ได้มีส่วนร่วมวางแนวทางพัฒนาของโลก”
ซึ่งหลังจากที่ตนได้กล่าวถ้อยแถลงไป ทางเลขาธิการสหประชาชาติ ก็ได้เข้ามาแสดงความยินดีและพูดให้ฟังว่า เห็นความตั้งใจของไทยในการร่วมมือกับประชาคมโลก นำมาซึ่งการพัฒนาการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
ขณะที่ นายวลาดีมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ได้ตอบหลังรับฟังถ้อยแถลงของไทย โดย “เชื่อมั่นว่าไทยจะมีส่วนสำคัญในการร่วมมือกับประเทศกลุ่ม BRICS และสร้างความยุติธรรมให้ประเทศกลุ่มกำลังพัฒนา ก้าวไปสู่การเปลี่ยนแปลง และมีแนวทางที่ชัดเจนต่อไป
“ผมขอเน้นย้ำถึงนโยบายต่างประเทศสำคัญของไทย ภายใต้การนำของนายกฯแพทองธาร ต้องการมีความสัมพันธ์ที่รอบด้าน สร้างความสมดุลให้เกิดขึ้นกับประชาคมโลก โดยเป็นมิตรต่อทุกประเทศในโลกนี้ ไม่มีการแบ่งข้าง ทั้งหมดเพื่อผลประโยชน์ของประเทศไทย และประชาชนคนไทย มีศักดิ์ศรี มีเกียติภูมิ และสามารถมีส่วนร่วมในการชี้นำทิศทางที่ควรจะเป็นของโลกในอนาคต” นายมาริษกล่าว
ส่วนเมื่อถามถึงข่าวที่ออกมาว่า ที่ประชุมผู้นำ BRICS มีมติรับไทย พร้อม 12 ประเทศ เป็นพันธมิตรใหม่นั้น นายมาริษ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งอย่างเป็นทางการ เช่นเดียวกับอีก 12 ประเทศ ก็ไม่มีใครได้รับการยืนยัน แต่ทราบเพียงสำนักข่าวเท่านั้น ซึ่งเข้าใจว่ายังมีขั้นตอน จึงขอให้รอความชัดเจนอีกครั้ง.-319.-สำนักข่าวไทย