ทำเนียบ 25 ต.ค.-“ชูศักดิ์” ไม่เสียใจ หลังมี สส.เพื่อไทย ไม่รับข้อสังเกตรายงาน กมธ.นิรโทษกรรม แจงไม่ต้องมีบทลงโทษ คุยกันแล้ว ถือเป็นเอกสิทธิ์ มองไม่ปิดประตูออกกฎหมายนิรโทษฯ ชี้มี 4 ร่าง พรรคการเมือง-ภาคประชาชน เตรียมเข้าสภา
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทย เป็นประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัติ (พรบ.) นิรโทษกรรม กล่าวถึงกรณีที่สภาผู้แทนราษฎร์ มีมติเห็นชอบกับข้อสังเกตในรายงานของคณะกรรมาธิการฯ ว่า แปลว่ารายงานฉบับนี้จบไป และได้รายงานต่อสภาผู้แทนราษฎรเรียบร้อย และคณะกรรมาธิการฯ ได้ทำหน้าที่จบสิ้นแล้ว โดยรายงานนี้จะเข้าไปอยู่ในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้องค์กรทั้งหลายนำไปใช้ประโยชน์ได้
ส่วนที่มีสส.พรรคเพื่อไทย โหวตไม่เห็นชอบจะมีผลอะไรตามมาหรือไม่นั้น นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ในช่วงเช้า สส.พรรคเพื่อไทยได้มีการประชุมกัน ส่วนใหญ่เห็นว่าควรจะรับรายงาน และข้อสังเกตุ แต่เนื่องจากมีบางคนไม่สบายใจ ก็เลยระบุไว้ว่า แล้วแต่ถือเป็นเอกสิทธิ์ เป็นดุลพินิจ ซึ่งก็มีบางคนที่ต้องการจะของดออกเสียง เราก็ไม่ได้ว่าอะไร
ส่วนการประชุมสส.พรรคเพื่อไทย ไม่ได้กำหนดว่าจะต้องทำตามมติพรรคใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์ ระบุว่า ใช่ พร้อมกล่าวว่าหากสื่อมวลชน ติดตามข่าวมาตลอด หลายคนไปฟังกระแสแล้วไปตีความกันว่า คนที่เห็นชอบคือคนที่จะแก้ม.112 และนิรโทษกรรม ก็มีการปล่อยข่าวกันออกมาเช่นนี้ ทำให้มีความรู้สึกวิตกกังวล และตนได้ย้ำไปแล้วว่า มันไม่ใช่ เป็นเพียงรายงานการศึกษาไม่ได้เกี่ยวกับการจะแก้กฎหมายนิรโทษกรรม ตนเองก็พูดมาหลายครั้งหลายหน
เมื่อถามถึงความรู้สึก ว่าเสียหน้าหรือเสียใจหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า คงจะพูดอย่างนั้นไม่ได้ ซึ่งตนได้บอกกับที่ประชุมไว้ว่า ญัตตินี้เป็นของพรรคเพื่อไทย และตนเป็นประธานคณะกรรมาธิการฯ และทำรายงานเอง หากท้ายที่สุดบอกว่าประธาน ไม่รับรายงานที่ตนเองทำมา คิดว่าก็คงไม่ได้ แต่สุดท้าย หลายคนที่ทำงานร่วมกันมาในกรรมาธิการฯ ก็รับรายงาน
ส่วนจะเป็นการปิดประตูเรื่องนิรโทษกรรมหรือไม่ นายชูศักดิ์ ระบุว่า ไม่ใช่ เพราะในท้ายที่สุดหลังเปิดประชุมสภา สื่อมวลชนก็คงได้ทำข่าวกันอีก ซึ่งจะมีร่างพรบ.นิรโทษกรรม จากพรรคการเมืองและภาคประชาชน อย่างน้อย 4 ร่าง จ่ออยู่ อันนี้ของแท้ เพราะเป็นร่างนิรโทษกรรม คงต้องมีการไปถกเถียงกัน ว่าท้ายที่สุดจะเอาอย่างไร ถึงตอนนั้นพรรคการเมืองทั้งหลาย ก็ต้องไปพิจารณาว่าตนเองและพรรคจะเห็นอย่างไร รับหลักการหรือไม่ และจะรับหลักการกี่ฉบับ รวมถึงจะพิจารณารวมกันไปหรือไม่
เมื่อถามว่าจะเข็ดขยาดกับการดันกฎหมายนิรโทษกรรมของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้เข็ด หรือมีความรู้สึกเสียใจอะไร เป็นเรื่องธรรมดา เราก็ทำหน้าที่ เพียงแต่เมื่อเขาเห็นกันแบบนี้ก็ว่ากันไป
ส่วนหลังจากนี้หากจะเดินหน้าเรื่องนิรโทษกรรมจะต้องรัดกุม รอบคอบ เพื่อไม่ให้นำไปจุดประเด็น มุ่งสู่ ม.112 นายชูศักดิ์ ยอมรับว่า หนีไม่พ้น ที่จะต้องพูดถึงเรื่องพวกนี้ อย่างน้อยในร่างพรบ.นิรโทษกรรมที่เตรียมเสนอเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร ก็มีพูดถึงเรื่องนี้ ดังนั้นจะไปหนีอะไร เมื่อข้อเท็จจริงเป็นอย่างนี้ เพียงแต่ท้ายที่สุดก็ต้องไปไตร่ตรองกัน และส่วนตัวยังเชื่อว่า รายงานของคณะกรรมาธิการฯ ที่ทำไปจะเป็นประโยชน์
นอกจากนี้ นายชูศักดิ์ ยังกล่าวถึง การที่มีสส.พรรคเพื่อไทย ไม่รับข้อสังเกตกฎหมายนิรโทษกรรม จะทำให้เสียมวลชน เสียคะแนนเสียงหรือไม่ ว่า ตนคิดว่าส่วนหนึ่ง เราไม่ได้ปฏิเสธรายงาน และรับรายงาน เพียงแต่ไม่รับข้อสังเกต ซึ่งการไม่รับข้อสังเกตหมายความว่า ไม่ต้องส่งไปให้หน่วยงานต่างๆ พร้อมย้ำว่า รายงานของคณะกรรมาธิการฯ จะนำไปใช้ประโยชน์ในช่วงของการพิจารณาร่างกฎหมายนิรโทษกรรม.-316.-สำนักข่าวไทย