“ศุภณัฐ” ถาม “ภาษีรถติด” ทำประชาชนหันใช้ขนส่งสาธารณะจริงหรือ

รัฐสภา 24 ต.ค.-“ศุภณัฐ” ถาม “ภาษีรถติด” ช่วยแก้ปัญหาให้ประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะได้จริงหรือ บีบให้จ่ายเงินเพิ่มขึ้นเสียมากกว่า แม้เห็นด้วย แต่ไทยยังไม่เหมาะสม เหตุยังไม่แก้ปัญหาระบบขนส่ง ขณะ รมช.คมนาคม เผยเรื่องนี้ นายกฯ ให้ ก.คลัง ศึกษาอยู่ ชี้เป็นการแก้ปัญหา PM2.5 ที่ต้นเหตุ เชื่อหากทำรถไฟฟ้า 20 บาทได้จริง ลดภาระประชาชนได้

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีในวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในที่ประชุม วาระกระทู้ถามสดด้วยวาจา นายศุภณัฐ มีนชัยอนันต์ สส.พรรคประชาชน ตั้งกระทู้ถาม ต่อนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยมีนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นผู้ตอบกระทู้แทน เกี่ยวกับการเก็บค่าธรรมเนียมรถติดหรือค่าภาษีรถติด เพื่อนำเงินไปเวนคืนสัมปทานรถไฟฟ้า โดยนายศุภณัฐ กล่าวว่า ส่วนตัวสนับสนุน การใช้ระบบขนส่งสาธารณะการลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว เพื่อแก้ปัญหารถติดสนับสนุนการ ลดค่าใช้จ่าย ในเรื่องการขนส่งมวลชนโดยเฉพาะรถไฟฟ้า ซึ่งหลายประเทศได้มีการเก็บค่าธรรมเนียมรถติด และช่วยในการแก้ปัญหารถติดได้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นการเก็บภาษี เพื่อแก้ปัญหาการจราจรติดขัด เก็บภาษีสำหรับผู้ใช้รถยนต์ส่วนตัวในเส้นทางที่มีการจราจรติดขัด หรือใจกลางเมือง การเก็บภาษีรูปแบบนี้เป็นการเก็บภาษี สำหรับผู้ใช้รถยนต์ส่วนตัวให้สูงขึ้น เพื่อจูงใจให้หันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะมากยิ่งขึ้น


โดยยกตัวอย่างการเดินทางในต่างประเทศที่มีการเก็บภาษีรถติด ที่ใช้เวลาในการเดินทาง ระหว่างใช้รถยนต์ส่วนตัวและขนส่งสาธารณะจะมีเวลาที่ใกล้เคียงกัน ขณะที่การเดินทางในประเทศไทย ระหว่างรถยนต์และขนส่งมวลชนสาธารณะที่ใช้เวลามหาศาลกว่ารถยนต์ 2-3 เท่า ซึ่งนี่ไม่ใช่แรงจูงใจมากพอที่จะทำให้คนหันมาใช้ขนส่งสาธารณะแต่เป็นการบีบให้ประชาชนจ่ายเงินเพิ่มขึ้นเสียมากกว่า เพราะไม่มีทางเลือกในการใช้ขนส่งมวลชนสาธารณะ นี่คือปัญหาของการเกิดสภาวะ ที่แม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น แต่ความต้องการใช้รถยนต์ส่วนตัวไม่ลดลง สุดท้ายก็ต้องใช้รถยนต์ส่วนตัวเหมือนเดิม

ทั้งนี้ แม้ว่าค่าใช้จ่ายรถไฟฟ้าถูกลงเป็นเรื่องที่ดี แต่คนที่ได้ประโยชน์หลักๆจะยังคงอยู่ในกลุ่มเดิม ที่เป็นกลุ่มที่ใช้รถไฟฟ้าอยู่แล้ว แต่เราไม่สามารถเปลี่ยนให้คนที่มีบ้านอยู่ในซอย ที่ไม่ติดกับรถไฟฟ้า ให้หันมานั่งวินมอเตอร์ไซค์ ต่อรถเมล์ ต่อรถสองแถว แล้วต่อรถไฟฟ้าได้อย่างไร


“รถยนต์เมืองไทยแพง เพราะภาษีสูงมาก แต่ทำไมคนไทยถึงซื้อรถกันเยอะ จดทะเบียนรถยนต์ในกรุงเทพฯ 11-12 ล้านคัน แต่เรามีประชากรไม่ถึง 10 ล้านคน แต่การจดทะเบียนรถเยอะขนาดนี้เพราะว่าระบบขนส่งมวลชนไม่ตอบโจทย์เพราะฉะนั้นวันนี้ต่อให้มีการเก็บ 50 บาทหรือ 20 บาทตลอดสายก็อาจจะไม่สามารถแก้ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ ให้ประชาชนหันไปใช้ได้ เพราะไม่มีการแก้ระบบขนส่งสาธารณะทั้งระบบ” นายศุภณัฐ กล่าว

นายศุภณัฐ จึงตั้งคำถามว่า เป้าหมายของการเก็บภาษีรถติดเป็นเพียงแค่การหาเงินเพื่อเวนคืนรถไฟฟ้าหรือเพื่อต้องการแก้ปัญหารถติดและเพิ่มให้ประชาชนหันมาใช้ขนส่งสาธารณะมากยิ่งขึ้น ทำไมรัฐบาลถึงไม่เคยให้ความสำคัญกับการแก้ระบบขนส่งสาธารณะทั้งระบบ เพื่อสร้างให้คนไทยเข้าถึงขนส่งมวลชนสาธารณะ หรือรถไฟฟ้าที่เป็นจุดหลักได้จริง พร้อมตั้งคำถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าภายใน 6 เดือนจะแก้ปัญหาเรื่องระบบรถเมล์ ส่วนรถไฟฟ้าที่รัฐบาลต้องการจะเวนคืนจะต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ ต่อรถไฟฟ้าแต่ละสาย และสงสัยว่ารัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยดูทรงแล้วเหมือนเป็นการวนเวียนอยู่กับการหาเงินให้กับนายทุน

จากนั้นนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ตอบคำถามว่า ความจำเป็นที่จะต้องจัดการกับรถ ในโซนที่การจราจรติดขัด ที่มีรถ 390,000 คันต่อวัน และเราใช้เวลา 17.8 กม.ต่อ 1 ช.ม. ถ้าเรามีการเก็บภาษีรถติด เราต้องมีระบบขนส่งมวลชนสาธารณะรองรับ ซึ่งในวันนี้ กทม.มีระบบขนส่งรถไฟฟ้าทางราง และมีรถขสมก. การจัดวางที่ตั้งของบขส. ซึ่งภายในปี 68 จะเริ่มเห็นเป็นรูปธรรม โดยมีการเตรียมงบประมาณในการบริหารจัดการ ขสมก.และเส้นเลือดฝอย รวมถึงระบบรางระยะไกล โดยทั้งหมดที่เราดำเนินการจะใช้พลังงานสะอาดเป็นส่วนใหญ่ เพราะเป้าหมายของเราคืออยากเห็นกรุงเทพฯ เป็นเมืองที่แก้ไขเรื่อง PM 2.5 ได้อย่างถูกวิธี มีอารยะ ที่มีการจัดการปัญหาจากต้นเหตุ


วันนี้ถ้าเราสามารถแก้ไขโซนที่เป็นรถติดได้ ก็จะเกิดการคล่องตัวในระบบจราจร ซึ่งในวันนี้จำนวนพื้นที่ผิวถนนกับจำนวนรถไม่สมดุลกัน แต่การเก็บภาษีของเราเป้าหมายคือการลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลให้หันมาใช้บริการขนส่งสาธารณะมากขึ้น วิธีการนี้ถือเป็นวิธีการที่ดีที่สุดที่จะเกิดขึ้นได้ในไทย

พร้อมยกตัวอย่างรถไฟฟ้าสายสีแดงที่ใช้นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท พบว่ามีประชาชนใช้บริการเพิ่มมากขึ้น ซึ่งรัฐชดเชยไม่มาก ซึ่งโครงการ 20 บาทตลอดสาย เป้าหมายจริงๆ คือต้องการลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนและรณรงค์ให้ประชาชนหันมาใช้บริการสาธารณะ รวมทั้งเป็นการลดการใช้เครื่องยนต์ และเป็นการส่งเสริมอาชีพในเส้นทางเส้นเลือดฝอยเข้าสู่เส้นทางหลัก ซึ่งนี่เป็นภารกิจของกระทรวงคมนาคม

ส่วนการเก็บเงินก้อนนี้แล้วจะเอาไปเวนคืนสัมปทานนั้น นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงการคลังไปศึกษาหาวิธีการ ที่จะซื้อคืนรถไฟฟ้าทั้งหมดเอามาเป็นของรัฐ แล้วจัดการเดินรถให้เป็น ลักษณะเดียวกับรถไฟฟ้าสายสีแดง ส่วนการเก็บภาษีรถติดยังเป็นแนวคิดและให้กระทรวงการคลัง ไปศึกษาวิธีการ ขณะที่หน่วยงานที่จะจัดเก็บจะเป็นใครยังไม่ใช่กระทรวงคมนาคม

ส่วนปัญหาระบบรถเมล์ ต้องยอมรับว่ามีปัญหาจริง ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการปฏิรูปทั้งระบบถนน ระบบเส้นทางเดินรถ รวมถึง ระบบขสมก. และเอกชน หากโครงการ 20 บาททุกสายเกิดขึ้น ก็จะกระทบกับระบบขนส่งสาธารณะ และระบบแท็กซี่ เราจึงต้องมาบริหารใหม่ให้เหมาะสมกับบริบทที่เป็นปัจจุบัน ทุกๆการเปลี่ยนแปลงก็ต้องมีผลกระทบเพื่อให้เข้ากับ สถานการณ์ใหม่

“ผมไม่อยากให้ไปกล่าวหากันว่าหาเงินให้ใคร วันนี้เราเป็นตัวแทนประชาชนเรามาทำหน้าที่ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน เพราะเรามาจากการเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นผมไม่อยากให้มีการกล่าวหาว่าต้องไปหาเงินให้ใคร บ้านเมืองมีกฎหมายมีกฎระเบียบ มีองค์กรอิสระมีเครื่องมือมีกลไกที่จะจัดการเรื่องพวกนี้ เพราะฉะนั้นไม่อยากให้ไปกล่าวหาว่าใครไปทำอะไรให้ใคร ใครจะไปทำนอกกฎนอกกติกานอกระเบียบไม่สามารถทำได้ วันนี้อยากให้มีความคิดตรงกันว่าเวันนี้เราจะทำเพื่อประเทศชาติและประชาชนเป็นที่ตั้งโครงการต่างๆที่คิดขึ้นมาก็เพื่อประชาชนเป็นหลัก” นายสุรพงษ์ กล่าว.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพงเครียด ปฏิเสธโกงเงินวัด ยันไม่มีสัมพันธ์สีกา

กรุงเทพฯ 18 ก.ย. – พระครูปริยัติวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง เปิดใจเป็นครั้งแรก หลังถูกเพจดังกล่าวหาทุจริตเงินวัดและมีสัมพันธ์สีกา 3 คน ความเคลื่อนไหวภายในวัดหัวลำโพง พระอารามหลวง กลางกรุงเทพฯ ยังคงถูกจับตามอง หลังเกิดกระแสข่าวลือในสังคมออนไลน์ กล่าวหาผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดว่าอาจมีส่วนพัวพันทั้งเรื่องการบริหารจัดการเงินวัดไม่โปร่งใส และถูกเชื่อมโยงกับความสัมพันธ์สีกาถึง 3 ราย จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ล่าสุด พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาคที่หนึ่ง ได้โทรศัพท์สอบถามให้พระครูปริยัติวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงกับผู้สื่อข่าว ซึ่งสุดท้ายพระครูยอมเปิดใจผ่านโทรศัพท์เป็นครั้งแรก โดยระบุว่า หลังได้เห็นข่าวในโซเชียล ยอมรับว่ารู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ในประเด็นแรก เรื่องการทุจริตเงินวัด พระครูฯ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเองมีเพียงรับเงินทำบุญจากญาติโยม จากนั้นก็จะส่งต่อให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง ส่วนงานฌาปนกิจศพที่ตนดูแล เมื่อได้รับเงินจากเจ้าภาพก็จะทำการหักค่าแรงของคนงานออก ก่อนออกใบเสร็จยืนยัน ทุกขั้นตอนมีหลักฐานตรวจสอบได้ ส่วนข่าวลือเรื่องมีสัมพันธ์ชู้สาวกับสีกา 3 คน พระครูฯ ปฏิเสธหนักแน่นว่าไม่เป็นความจริงทั้งหมด โดย “นางกระแต” ที่ถูกอ้างว่าเป็นภรรยาคนแรกนั้น แท้จริงเป็นเพียงญาติโยมที่รู้จักกันมานานและจะมาทำบุญถวายสังฆทานเป็นครั้งคราวเท่านั้น ขณะที่ “นางแมว” เป็นอดีตคนงานวัด และ “นางดา” […]

นายกฯ บอกเวลา 4 เดือน เศรษฐกิจต้องไปข้างหน้า “มีรูมีหนู”

สภาหอการค้าฯ 18 ก.ย.-นายกฯ บอกเวลา 4 เดือน เศรษฐกิจต้องไปข้างหน้า “มีรูมีหนู” ต้องผลักดันเต็มที่ พร้อมแก้ไขปัญหาภาคเอกชนสู่นโยบายรัฐบาล ยันทำทุกทางให้ไทยเป็นคู่ค้าที่ได้เปรียบ ไม่ปิดกั้นนโยบายคนอื่น ขอให้วินวินทุกฝ่าย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุมหารือกับสภาหอการค้าไทยว่า ตนและทีมงานได้มาพบกับทางคณะกรรมการสภาหอการค้าไทย เหมือนกับวันที่เราไปเยี่ยมที่สภาอุตสาหกรรม เราพยายามที่จะไปพบกับภาคเอกชนก่อนที่จะเข้าไปบริหารราชการแผ่นดิน เพื่อที่จะได้รับฟังข้อเสนอแนะและปัญหาที่ภาคเอกชนต้องการให้รัฐบาลได้สนับสนุนหรือแก้ไข จะรวบรวมข้อมูลให้มากที่สุด เพื่อเวลาเข้าไปทำงานจะได้ดำเนินการให้ทุกอย่าง ขับเคลื่อนไปด้วยความรวดเร็ว มาพบกับคณะผู้บริหารสภาหอการค้าไทย ถือว่าเป็นตัวแทนของผู้ประกอบการ เรารับฟังข้อเสนอแนะข้อกังวล สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องการให้รัฐบาลได้ดำเนินการ เพื่อทำให้เกิดความคล่องตัว ทั้งด้านการเงิน ภาระหนี้สิน ดอกเบี้ย พลังงาน การส่งออก แรงงาน และโอกาสต่างๆ สำหรับประเทศไทยในอนาคต ได้มีการหารือลงในรายละเอียดมากพอสมควร และจะต้องมีการพบกันเป็นประเด็นไปหากมีความจำเป็น แต่ในภาพรวมจะหาโอกาสมาหารือให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อถามว่า หารือแล้วได้จัดเตรียมมาตรการความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจอย่างไรบ้าง นายอนุทิน เผยว่า รับฟังปัญหาต่างๆ เรื่องของการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้กับผู้ประกอบการ แรงงาน ภาษี ขนส่งต่างๆ เราพยายามที่จะทะลายข้อจำกัดที่มีอยู่ ไม่จำเป็นไม่ปิดกั้นโอกาส ส่วนรายละเอียด ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะนำสิ่งเหล่านี้ไปหาทางทำให้คล่องตัวขึ้น […]

ตำรวจเสริมกำลังบ้านหนองหญ้าแก้ว

สระแก้ว 18 ก.ย. – ตำรวจเสริมกำลังที่บ้านหนองหญ้าแก้ว หลังวานนี้ชาวกัมพูชาพยายามเข้ามาทำลายทรัพย์สิน รื้อลวดหนามในพื้นที่อธิปไตยไทย จนเจ้าหน้าที่ต้องผลักดันออกไป ที่วัดหนองหญ้าแก้ว ยังเป็นจุดพักของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเฝ้าติดตามสถานการณ์ว่าจะเกิดเหตุการณ์ชาวกัมพูชาพยามเข้ามารื้อลวดหนาม ซึ่งถือเป็นทรัพย์สินราชการในพื้นที่บริเวณอธิปไตยของไทยอีกหรือไม่ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็ต้องบังคับใช้กฎหมายมีการดำเนินการอย่างที่ปฏิบัติมาเมื่อวานนี้ตามหลักสากล เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม เพราะจากข้อมูลตามเพจ พบชาวกัมพูชาระดมมวลชนเพิ่ม ดังนั้น วันนี้นอกจากตำรวจในจังหวัดสระแก้วแล้ว ยังมีการเสริมกำลังตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียงเข้ามาอีก 2 กองร้อย 340 คน ได้แก่ ตำรวจจากปราจีนบุรีและฉะเชิงเทรา อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุเมื่อวานนี้ ทางกองทัพบกย้ำว่าจุดปะทะพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตไทย การที่ชาวกัมพูชาบุกรุกเข้ามาทำลายสิ่งของทางราชการ และก่อการจลาจลบนแผ่นดินไทย เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย จึงต้องถูกดำเนินการตามกระบวนการ และยืนยันการดำเนินการของฝ่ายไทยเป็นไปตามขั้นตอนตั้งแต่การเจรจา แจ้งเตือน และควบคุมการจลาจลตามหลักสากล โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับฝ่ายปกครอง ที่สำคัญพบว่าทหารของกัมพูชาที่ร่วมในเหตุการณ์กลับไม่ห้ามปราม และมีท่าทีสนับสนุนการจลาจล ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุการณ์ฝ่ายกัมพูชายังออกแถลงการณ์บิดเบือนข้อมูลทั้งหมดนี้แสดงถึงเจตนาของฝ่ายกัมพูชาในการใช้ประชาชนออกหน้ารุกล้ำดินแดนไทยและความไม่จริงใจในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ชายแดนตามข้อตกลงหยุดยิงย้อนแย้งกับภาพลักษณ์ที่รัฐบาลกัมพูชาพยายามสร้างต่อสังคมโลกว่าเป็นผู้แสวงหาสันติภาพ. -สำนักข่าวไทย

นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ร่วมถกสภาหอการค้าไทย

สภาหอการค้าไทย 18 ก.ย.-นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ร่วมถกสภาหอการค้าไทย ย้ำนำชื่อ ครม. ทูลเกล้าฯ แล้ว ลั่นลุยงานทันที หลังโปรดเกล้าฯ เผย “เอกนิติ” คัด รมช.คลัง มาเองกับมือ โวเร่งเศรษฐกิจไทยให้กลับมาเข้มแข็ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ระหว่างคณะรัฐบาล และคณะกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยนายอนุทินกล่าวว่า มาวันนี้เพื่อพบกับทุกคน และมีว่าที่รัฐมนตรีที่ดูแลด้านเศรษฐกิจ ซึ่งทุกคนในที่นี้ไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับตน เจอกันมานาน มีความสนิทสนมคุ้นเคย เคารพนับถือกันเป็นอย่างดี นายอนุทิน กล่าวว่า สิ่งที่มาวันนี้ เพื่อมาพบทุกท่านและนำว่าที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจมาแนะนำให้รู้จัก เชื่อว่าหลายคนก็รู้จักกันดีอยู่แล้ว วันนี้ตั้งใจมารับฟังรายละเอียด และรับฟังข้อเสนอแนะจากสภาหอการค้าไทย รัฐบาลที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้เป็นรัฐบาลที่จะเน้นในการเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทย ให้มีความกระชับและเข้มแข็งขึ้นเร็วที่สุด ภายใต้ระยะเวลาที่มีอยู่ นายอนุทินยังแนะนำผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีของตนซึ่งได้ทูลเกล้าฯ ถวายรายชื่อไปแล้ว เมื่อมีการโปรดเกล้าฯ ก็จะเร่งแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา และสามารถบริหารราชการแผ่นดินได้ จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้แนะนำว่าที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจให้ผู้ร่วมประชุมได้รู้จัก โดยในขณะที่แนะนำว่าที่รัฐมนตรี นายอนุทิน ได้กล่าวถึงนายวรภัค ธันยาวงษ์ ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ว่า เป็นคนฝีมือดี ซึ่งนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส […]