“ศุภณัฐ” ถาม “ภาษีรถติด” ทำประชาชนหันใช้ขนส่งสาธารณะจริงหรือ

รัฐสภา 24 ต.ค.-“ศุภณัฐ” ถาม “ภาษีรถติด” ช่วยแก้ปัญหาให้ประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะได้จริงหรือ บีบให้จ่ายเงินเพิ่มขึ้นเสียมากกว่า แม้เห็นด้วย แต่ไทยยังไม่เหมาะสม เหตุยังไม่แก้ปัญหาระบบขนส่ง ขณะ รมช.คมนาคม เผยเรื่องนี้ นายกฯ ให้ ก.คลัง ศึกษาอยู่ ชี้เป็นการแก้ปัญหา PM2.5 ที่ต้นเหตุ เชื่อหากทำรถไฟฟ้า 20 บาทได้จริง ลดภาระประชาชนได้

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีในวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในที่ประชุม วาระกระทู้ถามสดด้วยวาจา นายศุภณัฐ มีนชัยอนันต์ สส.พรรคประชาชน ตั้งกระทู้ถาม ต่อนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยมีนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นผู้ตอบกระทู้แทน เกี่ยวกับการเก็บค่าธรรมเนียมรถติดหรือค่าภาษีรถติด เพื่อนำเงินไปเวนคืนสัมปทานรถไฟฟ้า โดยนายศุภณัฐ กล่าวว่า ส่วนตัวสนับสนุน การใช้ระบบขนส่งสาธารณะการลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว เพื่อแก้ปัญหารถติดสนับสนุนการ ลดค่าใช้จ่าย ในเรื่องการขนส่งมวลชนโดยเฉพาะรถไฟฟ้า ซึ่งหลายประเทศได้มีการเก็บค่าธรรมเนียมรถติด และช่วยในการแก้ปัญหารถติดได้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นการเก็บภาษี เพื่อแก้ปัญหาการจราจรติดขัด เก็บภาษีสำหรับผู้ใช้รถยนต์ส่วนตัวในเส้นทางที่มีการจราจรติดขัด หรือใจกลางเมือง การเก็บภาษีรูปแบบนี้เป็นการเก็บภาษี สำหรับผู้ใช้รถยนต์ส่วนตัวให้สูงขึ้น เพื่อจูงใจให้หันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะมากยิ่งขึ้น


โดยยกตัวอย่างการเดินทางในต่างประเทศที่มีการเก็บภาษีรถติด ที่ใช้เวลาในการเดินทาง ระหว่างใช้รถยนต์ส่วนตัวและขนส่งสาธารณะจะมีเวลาที่ใกล้เคียงกัน ขณะที่การเดินทางในประเทศไทย ระหว่างรถยนต์และขนส่งมวลชนสาธารณะที่ใช้เวลามหาศาลกว่ารถยนต์ 2-3 เท่า ซึ่งนี่ไม่ใช่แรงจูงใจมากพอที่จะทำให้คนหันมาใช้ขนส่งสาธารณะแต่เป็นการบีบให้ประชาชนจ่ายเงินเพิ่มขึ้นเสียมากกว่า เพราะไม่มีทางเลือกในการใช้ขนส่งมวลชนสาธารณะ นี่คือปัญหาของการเกิดสภาวะ ที่แม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น แต่ความต้องการใช้รถยนต์ส่วนตัวไม่ลดลง สุดท้ายก็ต้องใช้รถยนต์ส่วนตัวเหมือนเดิม

ทั้งนี้ แม้ว่าค่าใช้จ่ายรถไฟฟ้าถูกลงเป็นเรื่องที่ดี แต่คนที่ได้ประโยชน์หลักๆจะยังคงอยู่ในกลุ่มเดิม ที่เป็นกลุ่มที่ใช้รถไฟฟ้าอยู่แล้ว แต่เราไม่สามารถเปลี่ยนให้คนที่มีบ้านอยู่ในซอย ที่ไม่ติดกับรถไฟฟ้า ให้หันมานั่งวินมอเตอร์ไซค์ ต่อรถเมล์ ต่อรถสองแถว แล้วต่อรถไฟฟ้าได้อย่างไร


“รถยนต์เมืองไทยแพง เพราะภาษีสูงมาก แต่ทำไมคนไทยถึงซื้อรถกันเยอะ จดทะเบียนรถยนต์ในกรุงเทพฯ 11-12 ล้านคัน แต่เรามีประชากรไม่ถึง 10 ล้านคน แต่การจดทะเบียนรถเยอะขนาดนี้เพราะว่าระบบขนส่งมวลชนไม่ตอบโจทย์เพราะฉะนั้นวันนี้ต่อให้มีการเก็บ 50 บาทหรือ 20 บาทตลอดสายก็อาจจะไม่สามารถแก้ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ ให้ประชาชนหันไปใช้ได้ เพราะไม่มีการแก้ระบบขนส่งสาธารณะทั้งระบบ” นายศุภณัฐ กล่าว

นายศุภณัฐ จึงตั้งคำถามว่า เป้าหมายของการเก็บภาษีรถติดเป็นเพียงแค่การหาเงินเพื่อเวนคืนรถไฟฟ้าหรือเพื่อต้องการแก้ปัญหารถติดและเพิ่มให้ประชาชนหันมาใช้ขนส่งสาธารณะมากยิ่งขึ้น ทำไมรัฐบาลถึงไม่เคยให้ความสำคัญกับการแก้ระบบขนส่งสาธารณะทั้งระบบ เพื่อสร้างให้คนไทยเข้าถึงขนส่งมวลชนสาธารณะ หรือรถไฟฟ้าที่เป็นจุดหลักได้จริง พร้อมตั้งคำถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าภายใน 6 เดือนจะแก้ปัญหาเรื่องระบบรถเมล์ ส่วนรถไฟฟ้าที่รัฐบาลต้องการจะเวนคืนจะต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ ต่อรถไฟฟ้าแต่ละสาย และสงสัยว่ารัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยดูทรงแล้วเหมือนเป็นการวนเวียนอยู่กับการหาเงินให้กับนายทุน

จากนั้นนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ตอบคำถามว่า ความจำเป็นที่จะต้องจัดการกับรถ ในโซนที่การจราจรติดขัด ที่มีรถ 390,000 คันต่อวัน และเราใช้เวลา 17.8 กม.ต่อ 1 ช.ม. ถ้าเรามีการเก็บภาษีรถติด เราต้องมีระบบขนส่งมวลชนสาธารณะรองรับ ซึ่งในวันนี้ กทม.มีระบบขนส่งรถไฟฟ้าทางราง และมีรถขสมก. การจัดวางที่ตั้งของบขส. ซึ่งภายในปี 68 จะเริ่มเห็นเป็นรูปธรรม โดยมีการเตรียมงบประมาณในการบริหารจัดการ ขสมก.และเส้นเลือดฝอย รวมถึงระบบรางระยะไกล โดยทั้งหมดที่เราดำเนินการจะใช้พลังงานสะอาดเป็นส่วนใหญ่ เพราะเป้าหมายของเราคืออยากเห็นกรุงเทพฯ เป็นเมืองที่แก้ไขเรื่อง PM 2.5 ได้อย่างถูกวิธี มีอารยะ ที่มีการจัดการปัญหาจากต้นเหตุ


วันนี้ถ้าเราสามารถแก้ไขโซนที่เป็นรถติดได้ ก็จะเกิดการคล่องตัวในระบบจราจร ซึ่งในวันนี้จำนวนพื้นที่ผิวถนนกับจำนวนรถไม่สมดุลกัน แต่การเก็บภาษีของเราเป้าหมายคือการลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลให้หันมาใช้บริการขนส่งสาธารณะมากขึ้น วิธีการนี้ถือเป็นวิธีการที่ดีที่สุดที่จะเกิดขึ้นได้ในไทย

พร้อมยกตัวอย่างรถไฟฟ้าสายสีแดงที่ใช้นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท พบว่ามีประชาชนใช้บริการเพิ่มมากขึ้น ซึ่งรัฐชดเชยไม่มาก ซึ่งโครงการ 20 บาทตลอดสาย เป้าหมายจริงๆ คือต้องการลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนและรณรงค์ให้ประชาชนหันมาใช้บริการสาธารณะ รวมทั้งเป็นการลดการใช้เครื่องยนต์ และเป็นการส่งเสริมอาชีพในเส้นทางเส้นเลือดฝอยเข้าสู่เส้นทางหลัก ซึ่งนี่เป็นภารกิจของกระทรวงคมนาคม

ส่วนการเก็บเงินก้อนนี้แล้วจะเอาไปเวนคืนสัมปทานนั้น นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงการคลังไปศึกษาหาวิธีการ ที่จะซื้อคืนรถไฟฟ้าทั้งหมดเอามาเป็นของรัฐ แล้วจัดการเดินรถให้เป็น ลักษณะเดียวกับรถไฟฟ้าสายสีแดง ส่วนการเก็บภาษีรถติดยังเป็นแนวคิดและให้กระทรวงการคลัง ไปศึกษาวิธีการ ขณะที่หน่วยงานที่จะจัดเก็บจะเป็นใครยังไม่ใช่กระทรวงคมนาคม

ส่วนปัญหาระบบรถเมล์ ต้องยอมรับว่ามีปัญหาจริง ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการปฏิรูปทั้งระบบถนน ระบบเส้นทางเดินรถ รวมถึง ระบบขสมก. และเอกชน หากโครงการ 20 บาททุกสายเกิดขึ้น ก็จะกระทบกับระบบขนส่งสาธารณะ และระบบแท็กซี่ เราจึงต้องมาบริหารใหม่ให้เหมาะสมกับบริบทที่เป็นปัจจุบัน ทุกๆการเปลี่ยนแปลงก็ต้องมีผลกระทบเพื่อให้เข้ากับ สถานการณ์ใหม่

“ผมไม่อยากให้ไปกล่าวหากันว่าหาเงินให้ใคร วันนี้เราเป็นตัวแทนประชาชนเรามาทำหน้าที่ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน เพราะเรามาจากการเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นผมไม่อยากให้มีการกล่าวหาว่าต้องไปหาเงินให้ใคร บ้านเมืองมีกฎหมายมีกฎระเบียบ มีองค์กรอิสระมีเครื่องมือมีกลไกที่จะจัดการเรื่องพวกนี้ เพราะฉะนั้นไม่อยากให้ไปกล่าวหาว่าใครไปทำอะไรให้ใคร ใครจะไปทำนอกกฎนอกกติกานอกระเบียบไม่สามารถทำได้ วันนี้อยากให้มีความคิดตรงกันว่าเวันนี้เราจะทำเพื่อประเทศชาติและประชาชนเป็นที่ตั้งโครงการต่างๆที่คิดขึ้นมาก็เพื่อประชาชนเป็นหลัก” นายสุรพงษ์ กล่าว.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พลทหารเหยียบกับระเบิดพื้นที่ปราสาทตาควาย

สุรินทร์ 27 ส.ค.-พลทหารเหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย ขาขวาท่อนล่างขาด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 15.45 น. เกิดเหตุ พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 เหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาขวาท่อนล่างขาด หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำส่งเพื่อรับการรักษาแล้ว รายละเอียดอื่นๆ จะรายงานให้ทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ย้ำปฏิบัติตามเงื่อนไขหยุดยิงเคร่งครัด

ศรีสะเกษ 27 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ที่ด่านศุลกากรช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ย้ำให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ไม่ขยายขอบเขตความขัดแย้ง ไม่เผยแพร่ข่าวปลอม รวมถึงเห็นชอบให้ความร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ คำแถลงข่าวร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองทัพภาคที่ 2 ราชอาณาจักรไทย และภูมิภาคทหารที่ 4 ราชอาณาจักรกัมพูชา วันที่ 27 สิงหาคม 2568 จังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ จัดขึ้นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ในจังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย โดยมี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และพลโท […]

คุมฝากขัง “อดีตพระอลงกต-หมอบี” ค้านประกัน

27 ส.ค. – ตร.คุมตัว “อดีตพระอลงกต-หมอบี” ส่งฝากขังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พร้อมคัดค้านการประกันตัว เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ได้ควบคุมตัวอดีตพระอลงกต หรือ ทิดจอร์จ และนายเสกสันน์ หรือ หมอบี ออกจากห้องคุมขัง ที่อาคารศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อไปฝากขังที่ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เจ้าหน้าที่ได้แยกควบคุมตัวอดีตพระอลงกต หรือ ทิดจอร์จ สวมเสื้อยืดสีน้ำตาลและกางเกงขาสั้นสีน้ำตาลเข้ม ก่อนนำผ้าเช็ดตัวสีส้มมาห่มคลุมร่างกาย ขึ้นรถยนต์ตำรวจ ทันทีที่ออกมาทางอดีตพระอลงกตได้ยกมือซ้ายขึ้นมา ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามแต่ไม่ได้ตอบคำถามใดๆ ก่อนขึ้นนั่งบนรถ โดยมีศิษยานุศิษย์ประคองด้านข้าง ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่ารู้สึกกังวลใจหรือมีอะไรอยากจะชี้แจงหรือไม่ พร้อมกับถามถึงความรู้สึกหลังจากที่ลาสิกขาแล้ว แต่อดีตพระอลงกต ได้แต่ยิ้มแย้มและยกมือปฏิเสธ ไม่ตอบคำถามใดๆ จากนั้นผู้สื่อข่าวถามต่อว่า “ไปศาลใช่หรือไม่” อดีตพระอลงกต ตอบสั้นๆ ว่า “ไปศาล” ส่วนนายเสกสันน์ หรือ หมอบี ได้แยกควบคุมตัวขึ้นรถกระบะของกองบังคับการปราบปราม โดยหมอบี ยังสวมใส่ชุดเดิม คือเสื้อแขนสั้นสีครีม และกางเกงขายาวสีน้ำตาล เจ้าตัวไม่ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนเพียงแค่ยิ้มให้เท่านั้น.-419-สำนักข่าวไทย

พายุคาจิกิกระทบหลายจังหวัดเหนือ-อีสาน

27 ส.ค. – ผลกระทบจากพายุ “คาจิกิ” ส่งผลหลายจังหวัดภาคเหนือและภาคอีสาน ฝนตกหนัก อย่าง จ.แม่ฮ่องสอน น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม ส่วน จ.เลย แม่น้ำเหืองเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ต.นาแก้ว อ.นาแห้ว ชาวบ้านต้องเร่งยกสิ่งของขึ้นที่สูง พายุคาจิกิเคลื่อนตัวสู่ จ.น่าน ทำให้ 6 อำเภอทางตอนเหนือของเมืองน่าน มีฝนตกหนักและเริ่มมีน้ำป่าหลากดินสไลด์ใน ต.ปิงหลวง อ.นาหมื่น ชาวบ้านตามชุมชนและร้านค้าต่างๆ เร่งเก็บข้าวของไว้บนที่สูง อย่างชุมชนสวนตาลล่าง ซึ่งยังไม่ทันฟื้นฟูความเสียหายจากพายุวิภาเมื่อเดือนที่แล้ว ต้องเตรียมพร้อมกันอีกรอบ อย่างร้านจำหน่ายแอร์และกล้องวงจรปิดร้านนี้ ซึ่งครั้งที่แล้วเสียหายไปกว่า 6 ล้านบาท ต้องขนสินค้าออกจากร้านและยกขึ้นชั้น 2 หวั่นเจอน้ำท่วมซ้ำอีก ขณะเดียวกันเริ่มอพยพผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงที่อยู่ในจุดเสี่ยงน้ำท่วมออกมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงแล้วกว่า 20 ราย รวมทั้งเร่งเสริมคันดินและกระสอบทรายตามจุดเสี่ยงรอบเมือง โดยเฉพาะโรงพยาบาลน่าน ที่เคยถูกน้ำท่วมเสียหายเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งขนอุปกรณ์การแพทย์ขนาดใหญ่ไปไว้ในที่ปลอดภัย และเสริมแนวกระสอบทรายป้องกันไว้แล้ว พร้อมยกระดับยกระดับการป้องกันและรับมือกับพายุคาจิกิขั้นสูงสุด ขณะที่ จ.แม่ฮ่องสอน มีผู้ใช้โซเชียลโพสต์คลิปสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงช่วงบ่ายวานนี้ (26 ส.ค.) ในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม […]