ปชน.มอง ‘แอ่วเหนือคนละครึ่ง’ แค่แคมเปญสร้างกระแส

รัฐสภา 24 ต.ค. – สส.พรรคประชาชน ชี้โครงการ “แอ่วเหนือคนละครึ่ง” แค่แคมเปญสร้างกระแส ไม่ได้หวังผลคนเที่ยวจริงๆ เหตุให้แค่ 400 บาท จำนวน 10,000 สิทธิ ขณะผู้ประกอบการยัง ‘งง’ ลงทะเบียนตรงไหน


นายณัฐพล โตวิจักษณ์ชัยกุล สส.เชียงใหม่ พรรคประชาชน ในฐานะกรรมาธิการการท่องเที่ยวสภาผู้แทนราษฎร แถลงถึงโครงการแอ่วเหนือคนละครึ่งของรัฐบาล เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว ว่า รายละเอียดที่ออกมาคือการช่วยเหลือเพียงแค่ 400 บาท กับจำนวน 10,000 สิทธิเท่านั้น จึงเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการ ว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างไร ซึ่งวันนี้กรรมาธิการการท่องเที่ยวฯ ได้เชิญผู้เกี่ยวข้องมาชี้แจง ทั้ง รมว.ท่องเที่ยว กระทรวงท่องเที่ยว แต่ไม่ได้มา มีเพียงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ที่มา

นายณัฐพล ยังได้สอบถามว่า 400 บาท กับ 10,000 สิทธิ คิดมาอย่างไร เพราะโดยหลักการตลาด เวลาที่คิดส่วนลดต้องอ้างอิงจากค่าเฉลี่ยที่นักท่องเที่ยวชาวไทยไปใช้จ่ายในจังหวัดนั้นๆ ซึ่งจากข้อมูลพบว่า นักท่องเที่ยวชาวไทยต่อคนที่ไปใช้จ่ายในจังหวัดเชียงใหม่ในปีที่ผ่านมา อยู่ที่ประมาณ 5,000 บาท ซึ่งหลักการตลาดควรมีการลดราคา 15% 30% หรือ 40% จึงเกิดการกระตุ้นให้คนอยากไปท่องเที่ยว แต่ 400 บาทไม่มีที่มาที่ไป แล้วใครจะอยากไป ซึ่ง ททท. ได้ตอบว่า โครงการแอ่วเหนือคนละครึ่ง เป็นเพียงแคมเปญที่สื่อสารออกไปเพื่อสร้างกระแสเฉยๆ ไม่ได้คาดหวังว่าจะช่วยให้คนจองตั๋วเครื่องบิน หรือจองที่พักได้จริงๆ


นายณัฐพล กล่าวต่อว่า ถ้าย้อนดูสถิติการท่องเที่ยว คนไทยไปเที่ยวเชียงใหม่ในปีที่ผ่านมา ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-มกราคม มีประมาณ 2,400,000 คน แต่การให้สิทธิแค่ 10,000 สิทธิ คิดเป็น 0.005% เท่านั้น ซึ่งวัดผลอะไรไม่ได้ อีกทั้งรายละเอียดที่มีการมานำเสนอผู้ประกอบการ ว่าสามารถลงทะเบียนในเว็บไซต์แอ่วเหนือคนละครึ่งได้ แต่เมื่อค้นหาแล้วไม่เจอ ทั้งที่ในเอกสารระบุว่า สำหรับผู้ประกอบการลงทะเบียนได้ 25 ตุลาคม แต่วันนี้ 24 ตุลาคมแล้ว ลงทะเบียนที่ไหนอย่างไร ยังไม่มีปรากฏ จึงถามไปว่าผู้ประกอบการประเภทใดถึงจะลงทะเบียนได้ ซึ่งทาง ททท. บอกว่า จะนำส่งข่าวนี้ให้กับเครือข่ายสมาคมที่พัก ที่ ททท. จัด เพราะฉะนั้นจะมีผู้ประกอบการอีกจำนวนมากที่ไม่รู้เรื่องและไม่สามารถลงทะเบียนได้ หรือต่อให้ลงทะเบียนได้โครงการนี้ทำถึง 17 จังหวัดในภาคเหนือ แต่ 10,000 สิทธิ แล้วจะเกิดประโยชน์อะไร จึงคิดว่าโครงการนี้เลื่อนลอย ไร้พลัง ไร้ประโยชน์ เป็นเพียงการสร้างกระแสให้คนรู้สึกสนใจไปเที่ยวเฉยๆ โดยไม่ได้คาดหวังว่าการส่งเสริมด้วยการให้เงินโดยตรง และให้สิทธิ จะส่งผลต่อการท่องเที่ยวอย่างไร อีกทั้งเป็นเงินภายใน ททท. (4 ล้านบาท) ที่สามารถเจียดมาใช้ได้ในทันที ก็เข้าใจได้ว่า ถ้าจะเพิ่มงบ ต้องอาศัยมติ ครม. ซึ่งไม่ทันในช่วงไฮซีซั่นที่จะมาถึง แต่ตนมองว่า ททท. ซึ่งได้งบถึง 6200 ล้านบาท สามารถปรับลดบางโครงการลง หรือพักไว้ก่อนได้ เช่น คอนเสิร์ตหรืออีเวนท์ตามหัวเมืองต่างๆ เพื่อมาทำโครงการแอ่วเหนือคนละครึ่ง ในการให้สิทธิประชาชนเพิ่มขึ้น พร้อทมฝากทิ้งท้ายว่า ถ้ารัฐบาลคิดจะทำโครงการแนวนี้อีก ไม่ว่าจะกี่สิทธิหรือใช้งบประมาณเท่าไหร่ก็ตาม ต้องอ้างอิงจากผลสัมฤทธิ์โครงการด้วย และอ้างอิงข้อมูลจากการท่องเที่ยว.-319 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ลวงมาฆ่า จัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน 14 ล้าน

สุดโหด หนุ่มสกลนครถูกญาติตัวเองร่วมมือกับอดีตตัวแทนจำหน่ายประกัน ลวงมาฆ่า ก่อนจัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน พ.ร.บ.รถยนต์ 3 คัน รวม 14 ล้านบาท แต่บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถพบพิรุธ แจ้งตำรวจตรวจสอบ ก่อนออกหมายจับเบื้องต้น 4 คน

พระยันตระ

ปิดตำนาน “อดีตพระยันตระ” เสียชีวิตในวัย 73 ปี ที่สหรัฐ

“อดีตพระยันตระ” เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 73 ปี ที่วัดในสหรัฐอเมริกา ปิดตำนานอดีตพระภิกษุที่เคยมีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดรูปหนึ่งของวงการสงฆ์ไทย

อดีตผู้บังคับบัญชา “ผู้กำกับโจ้” เผยสมัยเป็นลูกน้องไม่ใช่คนเกเร

อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เปิดประวัติอดีตผู้กำกับโจ้ สมัยเป็นลูกน้องไม่ใช่คนเกเร เชื่อได้รับผลกรรมที่ทำแล้ว

ข่าวแนะนำ

Exclusive! เปิดห้องขังแดน 5 “อดีต ผกก.โจ้”

กรมราชทัณฑ์ เปิดห้องขัง แดน 5 ของ “อดีต ผกก.โจ้” ให้สังคมได้เห็นสภาพความเป็นจริงอีกด้าน พบด้านในยังรักษาพื้นที่ และข้าวของเครื่องใช้ของอดีต ผกก.โจ้ เอาไว้ เผื่อเจ้าหน้าที่จะเข้ามาเก็บหลักฐานเพิ่มเติม

รัฐบาลเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงละศีลอด เดือนรอมฎอน

รัฐบาลเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงละศีลอด เดือนรอมฎอน ปี ฮ.ศ. 1446 ขณะที่นายกรัฐมนตรี ร่วมส่งใจให้พี่น้องชาวมุสลิมตั้งจิตมุ่งมั่นปฏิบัติศาสนกิจถือศีลอด ในช่วงเวลาแห่งเดือนอันศักดิ์สิทธิ์

โผล่อีก 2 ราย! เหยื่อสาวแบงก์แอบถอนเงินลูกค้า

กรณีสาวแบงก์ แอบถอนเงินลูกค้า 8 ล้านบาท สารภาพเอาไปซื้อบ้าน-รถ และส่งลูกเรียนต่างประเทศ ล่าสุด เหยื่อโผล่แจ้งความเพิ่มอีก 2 ราย วงเงิน 2 ล้าน ยอดรวมเสียหายถึง 10 ล้านบาท