ป.ป.ช.เปิดบัญชีทรัพย์สินฯ สว.ชุดเก่า

ป.ป.ช. 21 ต.ค.- ป.ป.ช.เปิดบัญชีทรัพย์สินฯ สว.ชุดเก่า “พล.อ.ปรีชา” 150 ล้าน แจ้งบ้านหรู 15.3 ล้าน พระเบญจภาคี 5 ล้าน “เสรี” 539 ล้าน ถือครองที่ดิน 18 แปลง 461 ล้าน ด้าน “สมชาย” 65.7 ล้าน สะสมปืน 9 มม.-ทองคำแท่ง “ดิเรกฤทธิ์” 67.3 ล้านบาท


สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินหนี้สินของอดีตสมาชิกวุฒิสภา กรณีพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 23 ก.ค 67 รวม 70 รายโดยมีบุคคลที่น่าสนใจ เช่น พลเอกปรีชา จันทร์โอชา น้องชายพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี โดยพลเอกปรีชาและนางผ่องพรรณคู่สมรส แจ้งมีทรัพย์สิน รวม 150,218,837 บาท มีหนี้สินเป็นเงินเบิกเกินบัญชีรวม 36,163 บาท แบ่งเป็นทรัพย์สินของพลเอกปรีชา 58,290,212 บาท ประกอบด้วยเงินฝาก 8 บัญชี 51,153,879 บาท เงินลงทุน 1,616,985 บาท สิทธิและสัมปทาน 1,112,224 บาท ทรัพย์สินอื่น 5.03 ล้านบาท เป็นปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติ 1 กระบอกมูลค่า 30,000 บาท และพระเครื่องชุดเบญจภาคี 6 องค์ 5 ล้านบาท มีหนี้สินเป็นเงินเบิกเกินบัญชี 1,567 บาท

นอกจากนี้แจ้งมีรายได้ต่อปี 3,173,830 บาท จากเงินเดือนและบำนาญ 953,816 บาท เงินเดือนเบี้ยประชุม สว. 1,362,720 บาท ดอกเบี้ยเงินฝากสหกรณ์ 857,294 บาท มีรายจ่ายต่อปี 630,000 บาท


ส่วนนางผ่องพรรณมีทรัพย์สิน รวม 91,928,625 บาท รวมเป็นเงินฝาก 9 บัญชี 55,567,772 บาท เงินลงทุน 1,000 บาท ที่ดิน 7 แปลงใน จ.พิษณุโลก จ.เชียงราย รวม 12.1 ล้านบาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 15,640,000 บาท โดยในจำนวนนี้ระบุเป็นบ้านเดี่ยวใน อ.เมือง จ.พิษณุโลก มูลค่า 15.3 ล้านบาท โดยแจ้งว่าชำระค่าปลูกสร้างด้วยเงินของผู้ยื่น 6.3 ล้านบาท คู่สมรส 5.7 ล้านบาท เงินของนายปฐมพล จันทร์โอชา 3.3 ล้านบาท
ยานพาหนะ 4 คัน รวม 8,090,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 129,853 บาท ทรัพย์สินอื่น เป็นเครื่องประดับสตรี 1 ชิ้น 400,000 บาท มีหนี้สินเป็นเงินเบิกเกินบัญชี 34,596 บาท และแจ้งมีรายได้ต่อปีจากดอกเบี้ยสหกรณ์ 933,935 บาท มีรายจ่ายต่อปี 730,000 บาท

ด้าน นายเสรี สุรรณานนท์ และนางรำไพพรรณ คู่สมรส แจ้งมีทรัพย์สินรวม 589,673,757 บาท มีหนี้สิน 7,236,230 บาท โดยเป็นทรัพย์สินของนายเสรี 539,786,769 บาท แบ่งเป็นเงินสด 300,000 บาท เงินฝาก 17 บัญชี 20,707,874 บาท เงินลงทุนในหุ้นบริษัทต่างๆ และสหกรณ์ออมทรัพย์ทนายความแห่งประเทศไทย รวม 1,407,195 บาท เงินให้กู้ยืมแก่ บจก. บิสเนสแอนด์ซัคเซส เมื่อ 19 ก.พ 60 จำนวน 22.2 ล้านบาท ที่ดิน 18 แปลงปกปิดว่าอยู่ที่ใดบ้าง รวม 461,360,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างเป็นบ้าน 6 หลัง 28.1 ล้านบาท ยานพาหนะ 3,140,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 800,000 บาท ทรัพย์สินอื่น เป็นทองคำ อัญมณีเครื่องประดับ และพระพุทธรูป พระเครื่องหลายสิบองค์ไม่อาจประเมินราคาได้ และได้มานานแล้ว รวม 1,501,700 บาท มีหนี้สินเป็นเงินเบิกเกินบัญชี 74,752 บาท หนี้ที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ 644,256 บาท

นอกจากนี้แจ้งมีรายได้ต่อปี 4,509,477 บาท มีรายจ่ายต่อปี 2,664,256 บาท


ส่วนทรัพย์สินของนางรำไพพรรณ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้บริหารและกรรมการบริษัทเอกชน 4 แห่ง รวม 49,886,988 บาท แบ่งเป็นเงินสด 300,000 บาท เงินฝาก 5 บัญชี 2,397,220 บาท เงินลงทุน 730,000 บาท ที่ดิน 4 แปลงปกปิดว่าอยู่ที่ใดบ้าง 24,940,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง เป็นบ้านและห้องชุด 4 หลัง 7.66 ล้านบาท ยานพาหนะเป็นรถยนต์ 5 คัน 5,010,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 4,655,767 บาท ทรัพย์สินอื่น เป็นทองคำ อัญมณีเครื่องประดับ 4,194,000 บาท มีหนี้สินเป็นเงินประกันบัญชี 333,419 บาท หนี้เงินกู้สถาบันการเงินอื่น 6,183,801 บาท มีรายได้ต่อปี 600,000 บาท มีรายจ่ายต่อปี 1,851,400 บาท

ทั้งนี้นายเสรี นอกจากดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาแล้ว แจ้งการทำงานย้อนหลัง 5 ปี ว่าเป็นทนายความ กรรมการ บจก.ศูนย์รวมกฎหมาย บริษัทผู้บริหารตลาดเสรี 1-3

ส่วนนายสมชาย แสวงการ แจ้งว่าตนเอง และนางธิดาวรรณ คู่สมรส มีทรัพย์สินรวม 65,717,053 บาท และมีหนี้สินรวม 10,136,679 บาท โดยเป็นทรัพย์สินของนายสมชาย 11,613,146 บาท แบ่งเป็นเงินฝาก 959,533 บาท เงินลงทุน ในกองทุนเปิดต่างๆ 1,916,599 บาท ที่ดิน 5 แปลง ในเขตประเวศ กทม.และ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี รวม 2,398,425 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง เป็นบ้านเดี่ยว บ้านเช่าและห้องชุดใน จ.เพชรบุรี และ จ.สมุทรปราการ รวม 3.9 ล้านบาท ยานพาหนะ 350,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 1,135,383 บาท ทรัพย์สินอื่น 961,250 บาท มีหนี้สิน 6,370,883 บาท โดยเป็นเงินเบิกเกินบัญชี 53,201 บาท เงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น 1,317,682 บาท หนี้สินอื่น 5 ล้านบาท โดยแจ้งเจ้าหนี้มารดาคือนางมนัสนันท์ และพี่สาวคือ นางอัจฉรา แสวงการ

นอกจากนี้แจ้งมีรายได้ต่อปี 1,680,000 บาท จากเงินเดือน 1.35 ล้านบาท เบี้ยประชุม 200,000 บาท ค่าเช่า 100,000 บาท เงินปันผล 20,000 บาท ดอกเบี้ย 10,000 บาท มีรายจ่ายต่อปี 1,305,000 บาท

ส่วนนางธิดาวรรณ มีทรัพย์สินรวม 52,781,777 บาท แบ่งเป็นเงินฝาก 5,679,241 บาท เงินลงทุนในกองทุนเปิดต่างๆ 5,066,737 บาท ที่ดิน 8 แปลงใน กทม. จ.นครราชสีมา และจ.เพชรบุรี รวม 18,743,745 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 14.5 ล้านบาท ยานพาหนะ 6 แสนบาท สิทธิและสัมปทาน 6,931,840 บาท ทรัพย์สินอื่น 1,260,213 บาท มีหนี้สินเป็นเงินเบิกเกินบัญชี 48,112 บาท เงินกู้จากธนาคารและการเงินอื่น 1,317,682 บาท หนี้สินอื่น 2.4 ล้านบาท โดยเป็นหนี้ค้างชำระส่วนแบ่งเงินมรดกมารดาแก่ญาติ

นอกจากนี้แจ้งมีรายได้ต่อปีรวม 3.9 ล้านบาท จากเงินประจำตำแหน่ง 90,000 บาท เงินเดือนโบนัส 2.1 ล้านบาท ค่าเช่า 60,000 บาท เงินปันผล 200,000 บาท ดอกเบี้ย 150,000 บาท มรดก 130,000 บาท มีรายจ่ายต่อปี 1.96 ล้านบาท

สำหรับบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะมีทรัพย์สิน 1,322,130 บาท

ส่วนทรัพย์สินอื่นที่น่าสนใจของทั้งคู่ เช่น อาวุธปืนสั้น 9 มม. 5 กระบอก รวมมูลค่า 190,000 บาท อาวุธปืนสั้นลูกโม่ 1 กระบอก ทองคำแท่ง 25 บาท มูลค่า 811,250 บาท เครื่องประดับอัญมณี เช่นสร้อยคอ กำไลแหวน ต่างหู รวมมูลค่า 650,000 บาท ทองคํารูปพรรณน้ำหนัก 29 บาท มูลค่า 570,213 บาท

นายสมชายเคยดำรงตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติในปี 2557 -2562 และดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาในปี 2562- 2567

ด้าน นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม แจ้งสถานะหย่า ระบุมีทรัพย์สิน รวม 67,359,772 บาท มีหนี้สินเป็นเงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น 5,509,474 บาท ทรัพย์สินแบ่งเป็น เงินฝาก7 บัญชี 7,836,637 บาท เงินลงทุน 2,884,895 บาท ที่ดิน 19 แปลง ใน จ.นครนายก เพชรบุรี ลำพูน ชลบุรี นครปฐม เชียงใหม่ น่านรวม 39.07 ล้านบาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง เป็นห้องชุด รวม 6 หลังใน จ.นนทบุรี เชียงใหม่ และประจวบคีรีขันธ์ รวม 9 ล้านบาท ยานพาหนะ 2.5 ล้านบาท สิทธิและสัมปทาน 5,238,240 บาท ทรัพย์สินอื่น ระบุเป็นปืน 2 กระบอกมูลค่า 230,000 บาท และพระเครื่องนาฬิกาไม่ระบุราคา

และแจ้งมีรายได้ต่อปี 2,178,182 บาท แบ่งเป็นเงินบำนาญ 575 462 บาท เงินประจำตำแหน่ง 1,362,720 บาท ค่าเบี้ยประชุมคณะกรรมาธิการ ,คณะกรรมการ 240,000 บาท จากการขายที่ดิน 7 แปลง 10.7 ล้านบาท ขายห้องชุด 1 ห้อง 3 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการโอนกรรมสิทธิ์ มีรายจ่ายต่อปี 960,000 บาท .314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“อนุทิน” โชว์ตัวว่าที่ รมต.ทีมเศรษฐกิจ ล้อมวงกินเค้กส้ม

พรรคภูมิใจไทย 6 ก.ย.- “อนุทิน” โชว์ตัว ว่าที่ 3 รมต.ทีมเศรษฐกิจป้ายแดง ล้อมวงกินเค้กส้ม “เอกนิติ” นั่งขุนคลัง เตรียมนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ชี้ปล่อยฟื้นคนละครึ่งกระแสเต็มฟีด ขณะ “สีหศักดิ์” เตรียมนั่ง รมว.กต. มั่นใจชื่อนี้นานาชาติยอมรับ รับเผือกร้อนแก้ปมชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะ “อรรถพล” อดีต CEO ปตท. นั่ง รมว.พลังงาน ทำงานได้เลยไม่ต้องรำมวย ยอมรับเก้าอี้กลาโหม ต้องมีความรู้ในวิชาชีพ ปัดตอบชิงดำ “บิ๊กป้อม-ธรรมนัส” นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีต ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงลอนดอน และอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ดื่มกาแฟร่วมกันที่ร้านจานิสตาร์ ชั้น 1 ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ภายหลังหารือร่วมกันที่บริเวณชั้นบน ทั้งนี้ คาดว่านายสีหศักดิ์ ถูกทาบทาม […]

“ธรรมนัส” ปัดแย่งเก้าอี้กลาโหม “บิ๊กป้อม” ไม่กังวลปมคุณสมบัติ

พรรคภูมิใจไทย 6 ก.ย.- “ธรรมนัส” ปัดแย่งเก้าอี้กลาโหม “บิ๊กป้อม” อุบตอบ “กล้าธรรม” ได้กระทรวงอะไรเพิ่ม ไม่กังวลปมคุณสมบัติ เหตุตัวเองเป็น “รมต.” มา 2 รอบแล้ว แย้ม เลขาฯ พรรค ต้องได้เก้าอี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา และประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม เดินทางมายังที่ทำการพรรคภูมิใจไทย เพื่อพบกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะว่าที่นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือเป็นการส่วนตัว จากนั้นเวลา 16.50 น. นายอนุทิน และ ร.อ.ธรรมนัส เดินลงจากที่ทำการพรรคมายังร้านกาแฟจาริสต้าร์ ซึ่งมี น.ส.ธนพร ศรีวิราช ภรรยาของ ร.อ.ธรรมนัส รออยู่ ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัส สั่งเครื่องดื่มอเมริกาโน่ร้อน ไม่หวาน ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า มาซื้อกาแฟวันนี้ หมายความว่าได้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแล้วใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ทราบ ตนมารับภรรยา เมื่อถามว่า พรรคกล้าธรรมมีการพูดคุยตำแหน่งรัฐมนตรีลงตัวแล้วหรือไม่ […]

พายุไต้ฝุ่น ‘เผ่ย์ผ่า’ ถล่มชิซูโอกะในญี่ปุ่น

โตเกียว 6 พ.ย. – พายุไต้ฝุ่น “เผ่ย์ผ่า” (Peipah) ได้สร้างความเสียหายอย่างหนักในจังหวัดชิซูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ในวันศุกร์ โดยมีรายงานว่าลมกระโชกแรงจากพายุลูกนี้ทำลายอาคารไปอย่างน้อย 220 หลัง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 23 คน เอ็นเอชเค สื่อสาธารณะของญี่ปุ่นรายงานว่า ตรวจพบกระแสลมแรงใน เขตเทศบาล 4 แห่งของจังหวัดชิซูโอกะ ซึ่งรวมถึงเมืองโยชิดะและเมืองมากิโนะฮาระ เจ้าหน้าที่เมืองมากิโนะฮาระระบุว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อย 20 ราย ณ เวลา 21:30 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 19.30 น. ตามเวลาในประเทศไทย นอกจากนี้ เอ็นเอชเค ยังรายงานด้วยว่า มีอาคารอย่างน้อย 43 หลังในเมืองมากิโนะฮาระถูกทำลายทั้งหมดหรือเสียหายครึ่งหนึ่งและอีก 184 หลังได้รับความเสียหายบางส่วน พายุ “เผ่ย์ผ่า” ได้ลดระดับลงเป็นพายุโซนร้อนเมื่อเวลาประมาณ 21:00 น. ของวันศุกร์ ตามเวลาท้องถิ่น […]

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักมากบางพื้นที่ใน กทม.และปริมณฑล-ตะวันออก

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักมากบางพื้นที่ใน กทม.-ปริมณฑล และภาคตะวันออก บริเวณ จ.นครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมขัง น้ำรอการระบาย กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมขัง น้ำรอการระบาย โดยเฉพาะบริเวณชุมชนเมือง เช่น กรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมทั้งระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า […]

มทภ.2 วอนอย่าหลงเชื่อข่าวปั่นกระแสพูดโยงการเมือง

7 ก.ย. – แม่ทัพภาค 2 วอนอย่าหลงเชื่อ ข่าวปั่นกระแสพูดโยงการเมือง ยันทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตย ชาติ พระมหากษัตริย์ และประชาชน เท่านั้น เมื่อวันที่ 7 ก.ย.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีสื่อโซเชียล นำภาพของตนมาประกอบกับข้อความเรื่องโยงการเมืองว่า ขอพี่น้องประชาชนโปรดอย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เป็นการสร้างกระแส ยุยง ปลุกปั่น ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ตนพูดชัดอยู่แล้วว่า จะไม่ยุ่งเกี่ยวการเมือง ตนเป็นทหาร ไม่ยุ่งเรื่องการเมืองอยู่แล้ว การเมืองก็ให้เขาว่ากันไป เรามีหน้าที่ดูแลอธิปไตยของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน นี่คือหน้าที่ของทหาร “ถึงผมจะเกษียณอีกไม่กี่วัน แต่ผมก็คือทหาร จะไม่ยุ่งเกี่ยวทางการเมืองอย่างแน่นอน” พล.ท.บุญสิน กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

โคลนผุดบนถนนย่านวงเวียนใหญ่ ชาวบ้านหวั่นถนนทรุด

กทม. 7 ก.ย. – ดินโคลนผุดใต้พื้นถนนบริเวณจุดก่อสร้างรถไฟฟ้า ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินก่อนเข้าวงเวียนใหญ่ ชาวบ้านหวั่นพื้นทรุดตัว เจ้าหน้าที่เร่งถมยางมะตอย หลังจากฝนตกติดต่อกันหลายวัน ช่วงบ่ายของวันนี้ บริเวณจุดก่อสร้างรถไฟฟ้า ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินก่อนเข้าวงเวียนใหญ่ มีโคลนสีเหลือง ผุดขึ้นมาบนพื้นถนนจำนวนมาก จนทำให้การจราจรบริเวณนั้นติดขัด โดยพื้นที่บริเวณดังกล่าวกำลังมีการก่อสร้าง โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก ) ซึ่งสาเหตุที่มีโคลนสีเหลืองผุดขึ้นมาเป็นจำนวนมาก สันนิษฐานว่า ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นสาเหตุทำให้น้ำเข้าไปขังใต้พื้นถนนกลายเป็นดินโคลนที่ผุดขึ้นมา ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่โครงการรถไฟฟ้า ได้นำยางมะตอยเข้ามาถมจุดที่มีโคลนผุดขึ้นมา พร้อมกับจัดเจ้าหน้าที่คอยสอดส่องการทรุดตัวของพื้นถนน เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายกับประชาชนที่สัญจรเส้นทางดังกล่าว ฝากประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนที่จะสัญจรเส้นทางดังกล่าว หากไม่มีกรณีเร่งด่วนให้หลีกเลี่ยง หรือเปลี่ยนเส้นทางสัญจร เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน.-สำนักข่าวไทย

เขมรครึ่งร้อยป่วนบ้านหนองจานอีก

สระแก้ว 7 ก.ย. – ชาวกัมพูชากว่า 50 คน รวมตัวท่ามกลางสายฝน กดดันทหารไทย เกณฑ์เด็ก-ผู้หญิง เข้ามาในพื้นที่บ้านหนองจาน สร้างเพิงพักชั่วคราวใกล้แนวชายแดน ชาวกัมพูชากว่า 50 คน รวมตัวท่ามกลางสายฝน กดดันทหารไทย โดยเกณฑ์เด็กและผู้หญิงเข้ามาในพื้นที่บ้านหนองจาน ใกล้หลักเขต 46 ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ทั้งสร้างเพิงพักชั่วคราวบริเวณใกล้แนวชายแดน สถานการณ์โดยรวมยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่ปรากฏเหตุการณ์ความวุ่นวาย หรือการกระทบกระทั่งแต่อย่างใด ส่วนบริเวณจุดตรวจ 40 บ้านหนองจาน ผู้กำกับ สภ.โคกสูง ได้จัดกำลังตำรวจเข้าดูแลพื้นที่รักษาความปลอดภัย ช่วงเวลา 11.00 น. มีกลุ่มมวลชนเดินทางเข้ามาในพื้นที่ประมาณ 20 คน เหตุการณ์ทั่วไปยังปกติ.-สำนักข่าวไทย