กรุงเทพฯ 21 ต.ค.- “อี้ แทนคุณ” นำผู้เสียหาย “บ้านแชร์น้องแครอท” ร้องกองปราบฯ เผยมีการแอบอ้างนักการเมืองหาประโยชน์ มีอาจารย์ที่เดินสายบรรยายตามวัดอยู่เบื้องหลัง ทำกันเป็นขบวนการ เตรียมยื่นประธานสภาฯ ช่วยตรวจสอบ
นายแทนคุณ จิตต์อิสระ อดีตส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการการช่วยเหลือผู้ดสียหายจาก “บ้านแชร์น้องแครอท” ว่า ตอนนี้ก็พาผู้เสียหายมาร้องทุกข์กล่าวโทษที่กองบังคับการกองปราบปราม และจะขยายผลต่อไปในวันพฤหัสที่ 24 ต.ค.นี้เวลา 10.00น. จะไปที่ยื่นเรื่องต่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพราะมีผู้เสียหายจำนวนมาก มีการอ้างถึงบุคคลหลายส่วน รวมถึงนายสุทิน คลังแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยมีคลิปไปนั่งทานข้าวด้วยกัน แล้วก็ถูกแอบอ้างเอามาใช้ประโยชน์ในการหลอกลวงคนโดยอ้างว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญการเทรดการลงทุนต่างๆคล้ายคดีฟอเร็กซ์ แล้วก็ให้เปิดพอร์ตเป็นยูเอสดอลลาร์ 10,000 ยูเอสดอลลาร์ โดยมีฟิกเลทราคาเงินค่าเงินอยู่ที่ 31.6 บาท เพราะฉะนั้นถ้าผู้เสียหายเปิดพอร์ต 10,000 เหรียญ ก็จะต้องเสียเงิน 316,000 บาท แล้วก็จะได้ผลตอบแทน 10% แล้วก็มีอัตรารายได้แต่ละเดือน ซึ่งผู้เสียหายก็เริ่มจากเป็นฆราวาส และขยายไปสู่พระในวัดต่างๆ โดยเฉพาะทางภาคอีสานที่จังหวัดขอนแก่น พระร่วมลงทุนน่าจะเกือบ 100 รูป และมีเณรด้วย โดยอ้างว่าเงินนี้จะไปต่อยอดบุญ ใครที่อยากทำบุญเพิ่มก็เอามาลงตรงนี้ เพื่อจะได้ได้บุญในแง่ของการนำไปพัฒนาวัด หรือในอนาคตถ้าพระภิกษุสงฆ์จะลาสิกขา จะได้มีเงินไปซื้อบ้าน ซื้อรถ
อย่างไรก็ตามหากนำเงินไปลงทุนแล้วต่อยอดให้กับให้กับวัดก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่หากเอาผลเอาดอกไปใช้เองก็เข้าข่ายยักยอกวัด
“จะขอให้ท่านประธานพิจารณาสั่งการว่ามันเข้าข่ายกรรมาธิการอะไรบ้าง เช่นเข้าข่ายกรรมาธิการการศาสนา กรรมาธิการการเงิน การคลัง หรือเข้าข่ายกรรมาธิการที่จะต้องมาดูแลเรื่องนี้ พราะว่าอันนี้มีเรื่องของนักการเมืองที่ต้องมาเกี่ยวข้องด้วย จริงๆผู้เสียหายก็หลงเชื่อ แต่ผมได้ตรวจสอบแล้วนักการเมืองก็ดี ท่านอ้นก็ดี ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ แต่พูดในทำนองว่า เห็นไหมว่าพอร์ตนี้ใครดูแลอยู่ ประมาณนี้ แต่ว่าเชื่อว่าไม่เกี่ยวกับมีภาพในคลิป ที่ทานข้าวกันเฉยๆ แล้วดอกเตอร์คนนี้ ดอกเตอร์ภาณุวัฒน์ ก็เอาไปแอบอ้างขยายผลต่อไป “นายแทนคุณ กล่าว
นายแทนคุณ กล่าวว่าจากการจงตรวจสอบพบว่า ยังไม่ได้พูดคุยกับนายสุทิน คลังแสง แต่ตนเชื่อว่าไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง แต่มองว่า นายสุทินอาจจะเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในพื้นที่ภาคอีสาน อาจจะถูกนำไปแอบอ้างได้ และกรณี “บ้านแชร์น้องแครอท” นี้ มีการทำเป็นขบวนการมีผู้อยู่เบื้องหลัง 3-5 คนเป็นอย่างน้อย เกิดขึ้นในทางอีสาน มีคนร้องเรียนที่ตนมา 50คน และมีพระสงฆ์อีกจำนวนหนึ่ง แต่ยังไม่ ขอเปิดเผยรายละเอียด โดยขอรอความชัดเจน ในการรวบรวมพยานหลักฐานก่อน ซึ่งคนที่มาหลอกนั้นเป็นอาจารย์คนหนึ่งที่เดินสายบรรยาย ตามมหาวิทยาลัยสงฆ์และตามวัด มีการทำงานเป็นระบบและมีระบบปฏิบัติการ.-1-312