“วันนอร์” มองพูดคุยสันติสุขยังไปไม่ถึงไหน แต่ต้องทำ

พูดคุยสันติสุข

สปป ลาว​ 20 ต.ค. – “วันนอร์” มองพูดคุยสันติสุขยังไปไม่ถึงไหน แต่ต้องทำ ชี้ข้อตกลงพื้นที่ปลอดภัย ยังไม่ลงตัว แต่ถ้าทำได้ความเดือดร้อนก็ลดลง ถกทวิภาคีกัมพูชา ขอไทยเชื่อมทางรถไฟเข้าเขมร อนาคตต่อไปเวียดนาม-จีน


การประชุมใหญ่สมัชชารัฐสภาอาเซียนครั้งที่ 45 ที่ สปป ลาว เข้าสู่วันที่ 4 แล้ว โดยนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ได้พบหารือทวิภาคีกับ สมเด็จมหารัฐสภาธิการอธิบดี ควน โซะดารี ประธานสภาแห่งชาติราชอาณาจักรกัมพูชา โดยกัมพูชาขอให้ช่วยเหลือปรับปรุงการคมนาคมชายแดนของสองประเทศ เพื่อสะดวกในการขนส่งสินค้า การค้าขาย และการท่องเที่ยวมากขึ้น และอยากจะเชื่อมระหว่างเส้นทางรถไฟเพิ่มขึ้น เพราะขนส่งทางรถไฟได้จำนวนมาก มีค่าใช้จ่ายถูกกว่า ต่อไปนี้เส้นทางรถไฟจะเชื่อมโยงระหว่างไทย-กัมพูชาไปถึงเวียดนาม และจีน ส่วนประเทศไทยก็ไปได้ถึงมาเลเซีย-สิงคโปร์ จะได้ครบรอบวง

ส่วนเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ใช้พื้นที่ในกัมพูชา มาหลอกลวงคนไทย ทางนายกฯ กัมพูชา ก็ช่วยอย่างเต็มที่ในการจับกุม จนตอนนี้เครือข่ายก็หนีมาที่แนวชายแดนแล้ว และใช้วิธีเชื่อมโยงคลื่นมาไทยโดยตรง ซึ่งก็ต้องอาศัยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รวมถึง กสทช. แก้ไขเรื่องนี้ต่อไป


จากนั้นเป็นการหารือทวิภาคีกับ ตัน ศรี ดาโต๊ะ โจฮารี บิน อับดุล ประธานสภาผู้แทนราษฎรมาเลเซีย โดยฝ่ายไทยขอให้มาเลเซียอำนวยความสะดวกในการออกวีซ่า และใบอนุญาตทำงานหรือ work permit ให้กับคนไทยหรือต่างชาติที่ไปทำงานเด็กเสิร์ฟในร้านอาหารไทย จะได้อยู่แบบไม่ผิดกฎหมาย และไม่ใช่การแย่งงานคนมาเลเซีย เพราะคนที่นั่นไม่ทำ ก็เหมือนคนไทยที่ไม่อยากทำงานบางอย่าง ซึ่งมาเลเซียก็รับว่าจะคุยกับรัฐมนตรีมหาดไทย เพราะอาจต้องแก้ไขกฎหมายบางประการ

นอกจากนี้ อยากให้สองประเทศอำนวยความสะดวกการท่องเที่ยวทางรถยนต์ ที่เมื่อผ่านชายแดนแล้วไม่ต้องเปลี่ยนรถ แต่สามารถขับรถไปท่องเที่ยวตามที่ต่างๆได้ ซึ่งก็ต้องคุยกับกระทรวงคมนาคม และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องต่อไป

ขณะที่มาเลเซียอยากให้ไทยแบ่งปันความรู้ด้านความมั่นคงทางอาหาร โดยเฉพาะเทคโนโลยีทางการเกษตร และพร้อมให้การสนับสนุนโครงการแลนด์บริดจ์ของไทย หรือการขุดคอคอดกระ เพราะมาเลเซียก็จะได้ผลประโยชน์ไปด้วย หลังจากนี้ท้้งสองประเทศจะไปจัดทำรายละเอียด เพื่อคุยกันอีกครั้งในการประชุมรัฐสภาอาเซียนครั้งที่ 46 ซึ่งมาเลเซียเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม


ส่วนปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รอบนี้ไม่ได้คุยกับมาเลเซีย เนื่องจากมีเวลาจำกัด โอกาสหน้าคงได้หารือกันอีก แต่นายวันมูหะมัดนอร์ มองว่า แม้การพูดคุยสันติสุขที่ผ่านมาหลายรัฐบาล ยังไปไม่ถึงไหน แต่ทุกอย่างอยู่ที่ความตั้งใจ ความจริงใจภายใต้รัฐธรรมนูญ ซึ่งการพูดคุยก็ดีกว่าที่ไม่คุย คุยไปคืบหน้าทีละนิดก็ยังดี และต้องคุยกันบ่อยๆ พร้อมหาข้อยุติที่เป็นความก้าวหน้า เช่น การหาพื้นที่ที่จะประกัน การไม่เกิดเหตุด้วยกันทั้งสองฝ่าย หรือพื้นที่ปลอดภัย ถ้าทำได้จะเกิดการลงทุน นักท่องเที่ยวมาเที่ยว เศรษฐกิจดี ความเดือดร้อนประชาชนก็ลดลงไป

“จริงๆ ก็เคยมีพื้นที่กำหนดจังหวัดละ 1 อำเภอ ซึ่งเหตุการณ์ไม่เกิดขึ้น หรือถ้าเกิดก็น้อยมาก แต่พอจะขยายจาก 1 อำเภอ เป็น 2 หรือ 3 อำเภอ ก็ติดขัด ยังไม่ลงตัว แต่ก็อยากให้ขยายครั้งละ 2-3 อำเภอต่อไปจะได้ครบ เมื่อมีพื้นที่ปลอดภัยแล้ว ความเห็นต่างทางการเมือง การกระจายอำนาจการปกครอง ก็ต้องใช้เวลาคุยกัน แต่ถ้าไม่มีพื้นที่ปลอดภัยเรื่องอื่นก็คุยกันยาก”

สำหรับ สส. และ สว. ในฐานะสมาชิกรัฐสภาไทย ต่างแยกย้ายไปร่วมประชุมคณะกรรมาธิการด้านต่างๆ อาทิ กรรมาธิการด้านการเมือง ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม ด้านกิจการสมัชชารัฐสภาอาเซียน และการประชุมยุวชนสมาชิกรัฐสภาอาเซียน

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมาธิการด้านการเมือง ว่า ตนได้หารือในเรื่องความไม่สงบในเมียนมา ที่จำเป็นต้องร่วมกันหาแนวทางแก้ไขผ่านกลไกของอาเซียน เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายลง นอกจากนี้ในที่ประชุมยังมีการหารือแนวทางแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งประเทศสมาชิกอาเซียนก็ยังประสบปัญหาอยู่เช่นกัน รวมถึงพิจารณาร่างข้อมติว่าด้วยการส่งเสริมความร่วมมือของรัฐสภาในการสนับสนุนความเท่าเทียมทางดิจิทัล (ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์) เพื่อเสริมสร้างศักยภาพให้แก่ประชาชน . – 319 สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]