เห็นพ้องจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมฉลอง 50 ปี ความสัมพันธ์ไทย-จีน

ทำเนียบฯ 16 ต.ค. – นายกฯ หารือเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เห็นพ้องจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมฉลอง 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต เตรียมอัญเชิญพระเขี้ยวแก้ว ประดิษฐานที่ไทย 73 วัน พร้อมนำแพนด้ายักษ์คู่ใหม่ให้เป็นทูตสันถวไมตรีแก่ประเทศไทยอีกครั้ง


นายหาน จื้อเฉียง (H.E. Mr.Han Zhiqiang) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความยินดีที่มีโอกาสได้ให้การต้อนรับเอกอัครราชทูตจีน โดยในปีหน้านี้ถือเป็นปีทองแห่งมิตรภาพความสัมพันธ์ทางการทูตในวาระครบรอบ 50 ปี ไทย-จีน (Golden Year of Friendship) ซึ่งไทยพร้อมร่วมมือกับจีน เพื่อยกระดับความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน โดยเฉพาะด้านการค้า การลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ๆ และด้านวัฒนธรรม พร้อมทั้งขอบคุณสถานเอกอัครราชทูตจีน และสมาคมการค้าวิสาหกิจไทย-จีน สำหรับเงินบริจาคจำนวน 7.2 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมในภาคเหนือของไทย รวมทั้งที่ฝ่ายจีนให้ความร่วมมือในการลดปริมาณการปล่อยน้ำลงแม่น้ำโขงในช่วงก่อนหน้านี้


ด้านเอกอัครราชทูตจีน กล่าวแสดงความยินดีกับการเข้ารับตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี ซึ่งจีนพร้อมส่งเสริมความร่วมมือและมิตรภาพให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น และพร้อมเป็นหุ้นส่วนที่เป็นมิตรที่ไทยสามารถพึ่งพาได้เสมอ โดยเฉพาะเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง ได้พบปะหารือในการประชุม ASEAN Summits ที่ประเทศลาว ซึ่งผลการหารือประสบความสำเร็จและมีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก พร้อมชื่นชมการทำงานของรัฐบาลไทยที่มีความก้าวหน้าอย่างมากต่อการส่งเสริมเศรษฐกิจในประเทศ รวมทั้งเชื่อมั่นว่าในปีหน้า ซึ่งเป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน จะมีความหมายอย่างยิ่งต่อประชาชนทั้งสองประเทศ โดยจีนพร้อมประสานงานร่วมกับหน่วยงานไทยอย่างใกล้ชิดต่อไป

นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายได้หารือร่วมกันในประเด็นที่สำคัญ โดยเฉพาะด้านการเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมตั้งแต่ปลายปีนี้ไปจนถึงปีหน้า

โดยนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่าปีหน้าถือเป็นปีทองที่เป็นโอกาสสำคัญที่จะได้จัดกิจกรรมต่างๆ อาทิ การเผยแพร่ซอฟต์พาวเวอร์ไทย-จีน การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมทางดนตรี เช่น การทรงกู่เจิง ของสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เพื่อถ่ายทอดความสัมพันธ์อันดีนี้ไปสู่สองประเทศ ซึ่งเอกอัครราชทูตจีนกล่าวว่าในวันที่ 4 ธันวาคม 2567 นี้ จะเริ่มต้นกิจกรรมด้วยการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) มาประดิษฐานที่ไทยเป็นการชั่วคราว (เป็นเวลา 73 วัน) รวมทั้งยืนยันถึงการนำแพนด้ายักษ์คู่ใหม่ให้เป็นทูตสันถวไมตรีเชื่อมสัมพันธ์ไทย-จีน แก่ประเทศไทยอีกครั้ง


ด้านความร่วมมือเศรษฐกิจไทย-จีน ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะสร้างมูลค่าทางการค้าร่วมกัน ซึ่งนายกรัฐมนตรีขอบคุณฝ่ายจีนที่อนุมัติให้ด่านท่าเรือกวนเหล่ยเป็นด่านนำเข้าสินค้าผลไม้เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา พร้อมกล่าวเชิญชวนบริษัทจีนมาร่วมลงทุนกับธุรกิจไทย อาทิ Data Center ฐานการผลิตและส่งออกยานยนต์ไฟฟ้า (EV) พวงมาลัยขวา และฐานยิงจรวดขนาดเล็กเพื่อปล่อยดาวเทียมวงโคจรต่ำสำหรับให้บริการระบบ 6G ซึ่งเอกอัครราชทูตจีนยินดีแนะนำและให้ข้อมูลกับบริษัทจีนเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมใหม่ๆ ของไทย

โอกาสนี้ทั้งสองฝ่ายได้เชิญเยือนอย่างเป็นทางการ เพื่อกระชับความสัมพันธ์และหารือแนวทางในการพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งจะเป็นโอกาสให้นายกรัฐมนตรีได้หารือร่วมกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน และนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง โดยเอกอัครราชทูตจีน พร้อมประสานงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป เพื่อต้อนรับการเยือนจีนอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี

ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ เอกอัครราชทูตจียได้เป็นผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตจีน และสมาคมการค้าวิสาหกิจไทย-จีน มอบเงินบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จำนวนเงิน 7.2 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือประชาชนไทยในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม.-316-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” ยกทีมไปมาเลเซีย ย้ำกัมพูชาต้องจริงใจหยุดยิง

กทม. 28 ก.ค.-“ภูมิธรรม” ยกทีมไปมาเลเซีย คุย “ฮุน มาเนต” หยุดยิงเป็นเรื่องแรก และต้องแสดงให้เห็นว่าจริงใจ ยันไม่มีเรื่องแผนที่ 1 : 200,000 พร้อมยึดหลักอธิปไตยและทรัพย์สินของประชาชนเป็นที่ตั้ง และก่อนไปหารือกองทัพแล้ว นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะประกอบด้วย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน. 6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติกรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย เพื่อเข้าร่วมการประชุมหารือแนวทางสันติภาพในภูมิภาค ณ ทำเนียบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย นายภูมิธรรม กล่าวว่าวันนี้จะพบกันในเวลาประมาณ 15.00 น. จะมีการคุยกับนายฮุนมาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งเป็นการยกระดับการคุยในระดับผู้นำประเทศในระดับนายกรัฐมนตรี โดยมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียนจะเป็นโฮส มีผู้เสนอตัวเข้ามาเป็นผู้สังเกตการณ์2 ประเทศคือสหรัฐอเมริกาและสาธารณรัฐประชาชนจีน […]

มทภ.2 ลั่น “ผมยังอยู่” หลังกัมพูชาปล่อยเฟกนิวส์

กทม. 28 ก.ค.-มทภ.2 ลั่น “ผมยังอยู่” หลังกัมพูชาปล่อยเฟกนิวส์ ทหารถือรูปภาพ ข้อความ RIP หวังทำลายขวัญกำลังใจ ยันจะต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ลูกน้อง ดูแลความปลอดภัยประชาชน ในการปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 28 ก.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า ภายหลังกัมพูชามีการรายงานและเผยแพร่รูปทหารถือภาพของตนเอง พร้อมข้อความ RIP ว่า เป็นข่าวปลอม หวังทำลายขวัญกำลังใจทหารแนวหน้าและคนไทย ยืนยันว่า ปัจจุบันนี้ตนยังต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่เจ้าหน้าที่ทหารทุกคนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ รวมถึงการปกป้องอธิปไตยของไทยต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย และประชาชนมีความปลอดภัยอย่างแท้จริง พล.ท.บุญสิน ระบุต่อว่า ที่ผ่านมา ฝ่ายกัมพูชาพยายามบิดเบือนข้อมูล โดยการปล่อยข่าวเท็จ สร้างความสับสนในหมู่ของคนไทย ดังนั้น อยากให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้.-313.-สำนักข่าวไทย

จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเร่งอพยพชาวบ้านกลางดึก

แพร่ 28 ก.ค.-จ.แพร่ น้ำป่าไหลหลากในช่วงกลางดึก พื้นที่ ม.9 และ ม.1 ต.ไผ่โทน อ.ร้องกวาง เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพประชาชน แต่ในระหว่างอพยพ กระแสน้ำไหลเชี่ยว ทำให้ชาวบ้านที่กำลังข้ามน้ำถูกพัดออกไปติดอยู่อีกฝั่ง โชคดีชาวบ้านโยนเชือกช่วยเหลือไว้ได้ทัน ขณะน้ำเมื่อคืนไหลแรงมาก ชาวบ้านเก็บของไม่ทัน มีรถยนต์ ของใช้ที่ได้ถูกน้ำท่วมเสียหายเป็นจำนวนมาก แต่ยังไม่ได้รับรายงานผู้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิต สำหรับฝนที่ตกลงมาใน จ.แพร่ โดยเฉพาะในพื้นที่ตำบลห้วยโรง และตำบลไผ่โทน เมื่อเวลา 20.00 น. มีปริมาณฝนสะสม 24 ชม. สูงสุด 130 มม. สำหรับแม่น้ำยมเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ที่บริเวณ Y20 สถานีวัดระดับน้ำบ้านห้วยสักวัดได้ 7.58 เมตร จากระดับตลิ่ง 9.00 ม. เมื่อตอนเวลา 22.00 น. หากฝนยังคงตกต่อเนื่องทำให้ปริมาณน้ำยมสูง อาจส่งผลให้น้ำท่วมระลอกที่ 2 ได้.-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” นำตักบาตรถวายพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

สนามหลวง 28 ก.ค.-“ภูมิธรรม” รักษาราชการแทนนายกฯ และภริยา เป็นประธานพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.00 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนางอภิญญา เวชยชัย ภริยา เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตร ถวายเครื่องไทยธรรมและผ้าไตรแด่สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ จำนวน 10 รูป ก่อนจะตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระสงฆ์และสามเณร 174 รูป เพื่อถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2568 บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง โดยมีคณะองคมนตรีและภริยา ประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญและภริยา คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และหน่วยราชการในพระองค์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมภริยา หัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรในครั้งนี้ด้วย จากนั้น เวลา 08.00 น. รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี […]