ทำเนียบ 15 ต.ค.-คลัง-คมนาคม เตรียมตั้งคณะทำงานร่วมศึกษารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย คาดตั้งกองทุนซื้อคืนรถไฟฟ้า พร้อมดูแหล่งเงินเสริม ย้ำเริ่มดำเนินการ ก.ย.68 ให้ได้
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ว่า นายกรัฐมนตรีสั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและกระทรวงการคลัง ไปร่วมกันศึกษาในเรื่องนี้ เพราะเรื่องนี้เป็นนโยบายสำคัญที่รัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา และถือเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายการเดินทางของประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล และเป็นการลดการใช้รถบนถนน เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม โดยจะต้องไปศึกษาว่าจะต้องใช้วิธีการอย่างไร มีความคุ้มค่าทางการเงินอย่างไร และแหล่งเงินจะมาจากที่ใด โดยกระทรวงจะรีบดำเนินการเรื่องนี้
ขณะที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเสริมว่า รถไฟฟ้าสายสีแดง และสายสีม่วง ได้เริ่มดำเนินการในราคา 20 บาทมาแล้ว ซึ่งทั้งสองสายเป็นการดำเนินงานของรัฐบาล จึงสามารถทำได้ทันที และทำให้มีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 50 โดยจะช่วยให้มลภาวะดีขึ้น และ ลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนโดยนายกนายกรัฐมนตรีต้องการที่จะให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และในทุกสาย ไม่ว่าจะเป็นของรัฐบาลหรือให้สัมปทานกับเอกชน ซึ่งแนวทางดำเนินการกระทรวงการคลัง จะไปศึกษาในเรื่องของการตั้งกองทุนเพื่อไปซื้อรถไฟฟ้าคืน ซึ่งเข้าใจว่ากระทรวงการคลังจะจ้างที่ปรึกษา เพื่อดูรายละเอียดทั้งหมด และแหล่งเงินเพิ่มเติมที่จะนำมาใช้
แต่ในส่วนของกระทรวงคมนาคมตนเองได้เคยพูดไปแล้วว่า อยากให้ประชาชนใช้รถไฟฟ้าในราคา 20 บาทได้ในเดือนกันยายน 2568 โดยตนเองได้ศึกษาแหล่งเงินที่จะมาชดเชยแล้ว ส่วนหนึ่งจะส่วนแบ่งที่ได้รับมาจากที่ รฟม.สายสายสีน้ำเงิน ซึ่งสามารถดำเนินการได้ทันที แต่หากกระบวนการศึกษาระหว่างคลังกับคมนาคมเสร็จก่อนก็จะใช้กระบวนการตรงนั้น
ส่วนจะต้องออกเป็นพระราชบัญญัติการเงินและนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรนั้น นายสุริยะกล่าวว่า การตั้งกองทุนจะต้องมีการหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา จำเป็นจะต้องศึกษาให้ดีเพราะจะต้องมีแหล่งเงินที่จะต้องจัดเก็บรายได้ และนำเงินไปซื้อรถไฟฟ้าคืน แต่ทั้งนี้ก็ต้องออกเป็นพระราชบัญญัติ เพื่อไปดำเนินการซึ่งเรื่องนี้พรรคร่วมรัฐบาลก็เห็นด้วยซึ่ง เป็นประโยชน์กับประชาชน ซึ่งเชื่อว่าพรรคร่วมจะไม่มีปัญหา เพราะถือว่าเป็นนโยบายของรัฐบาลที่ได้แถลงร่วมกัน.-314.-สำนักข่าวไทย