“ธีรยุทธ” ​ร้องศาลรธน. ชี้​ “ทักษิณ-เพื่อไทย” มีพฤติกรรมล้มล้างการปกครอง

สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ 10 ต.ค.- “ธีรยุทธ” ​หอบเอกสาร​ 5,080 แผ่น​ ร้องศาลรัฐธรรมนูญ​ 6 กรณี​ ชี้​ “ทักษิณ-เพื่อไทย” มีพฤติกรรมล้มล้างการปกครอง ขอสั่งหยุดการกระทำ​


นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร นำเอกสาร​ทั้งคำร้องและพยานหลักฐาน​ 5,080 แผ่น​ เดินทางมายื่นศาลรัฐธรรมนูญ​ ในฐานะประชาชน เพื่อขอให้วินิจฉัยสั่งการให้นายทักษิณ ชินวัตร ผู้ถูกร้องที่ 1 และพรรคเพื่อไทยผู้ถูกร้องที่ 2 เลิกการกระทำที่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพอันจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49​ หลังเคยไปยื่นกับอัยการสูงสุดมาแล้ว​ แต่ไม่ได้มีการดำเนินการใดและครบตามตลอดเวลา​ กฎหมายจึงเปิดช่องให้สามารถเดินทางมายื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญได้​

โดยนายธีรยุทธ​ กล่าวว่า​ ตนดำเนินการร้องใน​ 6 ประกอบด้วย​


  • กรณีที่ 1.เนื่องจากนายทักษิณได้รับพระราชทานพระมหากรุมาอภัยโทษ เหลือโทษจำคุก 1 ปี โดยพบว่านายทักษิณใช้พรรคเพื่อไทยเป็นเครื่องมือ​ควบคุมการบริหารรราชการแผ่นดินสั่งการรัฐบาลผ่านกระทรวงยุติธรรมเอื้อประโยชน์ให้ได้พักอาศัยชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อไม่ต้องรับโทษอยู่ในเรือนจำแม้แต่วันเดียว
  • กรณีที่ 2. นายทักษิณมีพฤติกรรมฝักใฝ่คบหาร่วมคิดกับสมเด็จฯฮุนเซน ซึ่งเป็นผู้นำทางการเมืองประเทศกัมพูชา ที่มีระบบการปกครองที่ฝ่ายการเมืองมีอำนาจเหนือสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งนายทักษิณมีพฤกกรณ์เป็นเจ้าของ ผู้ครอบครอง ผู้ครอบงำและเป็นผู้สั่งการ ใช้พรรคเพื่อไทย เป็นเครื่องมือควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน สั่งการรัฐบาลให้เอื้อประโยชน์กับสมเด็จฯฮุน เช่น ให้ประเทศกัม อธิปไตยทางทะเลของไทย โดยให้มีการเจรจาพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาอ้างว่าเป็นเขตพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล (MOUแบ่ง ผลประโยชน์ก๊าซธรรมชาติ และทรัพยากรใต้ทะเลในเขตอธิปไตย ทางทะเลของไทยให้แก่ประเทศกัมพูชา
  • กรณีที่ 3. นายทักษิณ สั่งการให้พรรคเพื่อไทย ร่วมมือเพื่อแก่รัฐธรรรรกับพรรคประชาชนซึ่งเป็นพรรคที่ก่อตั้งโดยกลุ่มการเมือง หรือ พรรคก้าวไกลเดิม ที่ต้องคำวินิจฉัยศาล รัฐธรรมนูญ 3/2567 ว่ามีพฤติการณ์ล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิบไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งนายทักษิณมีพฤติการณ์เป็นเจ้าของ ผู้ครอบครอง ผู้ครอบงำ และ เป็นผู้สังการให้พรรคเพื่อไทยรัฐธรรมนูญ เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อผู้ถูกร้องที่ 1 และพวก
  • กรณีที่ 4. นายทักษิณ มีพฤการณ์เป็นข้าของ ผู้ครอบครอง ผู้ครอบงำ และ เป็นผู้สิ่งการ ให้พรรคเพื่อไทย ในการเจรจากับแกนนำของพรรคการเมืองอื่นที่ร่วมรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรีหารือการเสนอบุคคคลผู้สมควรเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 สิ่งหาคม 2566 บ้านพักส่วนตัวของนายทักษิณ(บ้านจันทร์ส่องหล้า)
  • กรณีที่ 5. นายทักษิณ​ มีพฤติการณ์เป็นเจ้าของ เป็รผู้ครอบครอง ผู้ครอบงำ และเป็นผู้สั่งการ​ พรรคเพื่อไทย​ ให้มีมติขับพรรคพลังประชารัฐออกจากพรรคร่วมรัฐบาล​
  • กรณีที่ 6. นายทักษิณมีพฤการณ์เป็นเจ้าของ ผู้ครอบครอง ผู้ครอบงำ และเป็นผู้สั่งการ พรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นพรรคแกนนำรัฐบาล ให้นำนโยบายของ ที่ตัวเองแสดงวิสัยทัศน์ไว้ เมื่อวันที่22 สิงหาคม​ 2567 ไปดำเนินการให้เป็นบโรบายคณะรัฐมมเตรีที่แถลงต่อรัฐสถาในวันที่ 12 กันยายน 2557

จึงขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ​ โปรดพิจารณาวินิจฉัยว่า ทั้ง 6 กรณี​ ว่า​ นายทักษิณและพรรคเพื่อไทย มีการกระทำอันเป็นการเซาะกร่อนบ่อนทำลายพระเกียรติยศของสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นการทำให้สถาบันพระมหากษ์สูญเสียสถานะที่จะต้องอยู่เหนือการเมืองหรือดำรงความเป็นกลางทางการเมือง ย่อมเป็นการเซาะกร่อนสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นเหตุให้ชำรุดทรุดโทรม เสื่อมทราม หรืออ่อนแอลง และยังมีการกระทำเซาะกร่อนบ่อนทำลายระบบพรรคการเมือง​ ที่เป็นสถาบันทางการเมืองที่สำคัญของระบอบมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ให้ชำรุดทำรุดทรุดโทรม เสื่อมทราม หรืออ่อนแอลง การกระทำดั่งกล่าวเป็นการกระทำที่อาจนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น​ประมุขในที่สุดเพื่อป้องกันความเสียหายร้ายแรงที่อาจจะเกิดแก่สถาบันพระมหากษัตริย์ที่เป็นสถาบันหลักของประเทศและสถาบันพรรคการเมืองที่มีความสำคัญต่อระบอบการปกครองประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ให้ชำรุดสุดโทรมเสื่อมทรามหรืออ่อนแอ การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่อาจนำไปสู่การล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข

พร้อมขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ​ วินิจฉัยสั่งการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคสอง ดังนี้

  1. ให้นายทักษิณ ชินวัตร ผู้ถูกร้องที่ 1 เลิกกระทำการใช้พรรคเพื่อไทย ผู้ถูกร้องที่ 2 เป็นเครื่องมือกระทำการอันเป็นการเซาะกร่อนบ่อนทำลายพระเกียรติยศของสถาบันพระมหากษัตริย์
  2. ให้นายทักษิณ เลิกกระทำการเป็นเจ้าของ ผู้ครอบครอง ผู้ครอบจำ และเป็นผู้สั่งการ
    การดำเนินงานของพรรคเพื่อไทย
  3. ให้นายทักษิณเลิกใช้พรรคเพื่อไทยเป็นครื่อมือควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน สั่งการรัฐบาลให้ดำเนินการตามความต้องการของนายทักษิณ และให้เลิกใช้พรรคเพื่อไทยเครื่องมือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจปกครองประเทศโดยวิธีการที่มิได้บัญญัติไว้ในรัฐธธรรมนูญนี้
  4. ให้พรรคเพื่อไทย เลิกยินยอมให้นายทักษิณ ใช้เป็นเครื่องมือกระทำการอันเป็นการเซาะกร่อนบ่อนทำลายพระเกียรติยศของสถาบันพระมหากษัตริย์
  5. ให้พรรคเพื่อไทยเลิกยินยอมให้นายทักษิณ ใช้เป็นเครื่องมือกระทำการเป็นเจ้าของ ผู้ครอบครองผู้ครอบงำ และเป็นผู้สั่งการ การดำเนินงานของพรรคเพื่อไทย
  6. ให้พรรคเพื่อไทยเลิกยอมให้นายทักษิณใช้ เป็นเครื่องมือควบคุมการบริหารราชการแผ่นดินสั่งการรัฐบาลให้ดำเนินการตามความต้องการ
  7. ให้พรรคเพื่อไทย เลิกยินยอมให้นายทักษิณ ใช้เป็นเครื่องมือให้ได้มาซึ่งอำนาจปกครองประเทศโดยวิธีการที่มีได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญนี้

เมื่อถามว่าการยื่นร้อง ต่อศาลรัฐธรรมนูญ ครั้งนี้คาดหวังผล การยื่นยุบพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายธีรยุทธ กล่าวว่าในชั้นนี้เราคาดหวังตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่าขอให้โปรดสั่งการก่อน ส่วนท่านจะเมตตาไต่สวนและจะเห็นเหตุประการใดหรือไม่ถือเป็นอำนาจดุลพินิจของศาลซึ่งไม่อาจก้าวล่วงได้


เมื่อถามว่าได้มีการปรึกษาเรื่องข้อกฎหมายกับนายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ หรือไม่ เพราะนายไพบูลย์ เป็นผู้ที่ออกมาระบุจะแถลงข่าวและส่งหมายข่าวรายละเอียดเรื่องคดีให้กับผู้สื่อข่าว นายธีรยุทธ กล่าวว่า สืบเนื่องจากคำวินิจฉัยของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ศาลรัฐธรรมนูญย้ำว่าการกระทำของผู้ถูกฟ้องปรากฏชัดตามที่วิญญูชนหรือ สาธารณะชนรับทราบ เมื่อได้อ่านคำวินิจฉัยนั้นแล้วเรื่องแรก ก็ต้องวินิจฉัย ว่าสิ่งที่ตนเองคิดจะเป็นไปตามที่คิดหรือคาดการณ์เองแต่เพียงผู้เดียวหรือไม่ จึงจำเป็นต้องขอคำปรึกษาจากผู้ที่มีความรู้ มีประสบการณ์ มีคุณวุฒิ วัยวุฒิอันสมควร ซึ่งตนก็เห็นแต่นายไพบูลย์ เพราะเป็นคนหนึ่งที่ได้พบปะพูดคุยกันจึงได้โทรสอบถามในบางประเด็น

เมื่อถามว่านอกจากนายไพบูลย์ ได้ปรึกษานักกฎหมายคนอื่นคนอื่นๆอีกหรือไม่ นายธีรยุทธ กล่าวว่า นักกฎหมายคนอื่นตนขออนุญาตที่จะไม่นำเรียน

ส่วนหลักฐานที่เกี่ยวกับนายทักษิณชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรีระหว่างพักรักษาตัวอยู่ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ มีรูปภาพ หรือคลิปที่นำมายื่นเป็นหลักฐานด้วยหรือไม่ นายธีรยุทธ กล่าวว่า ตนจะกราบเรียนนำเสนอพยานบุคคล ซึ่งเป็นประจักษ์พยานที่น่าจะมี ความสำคัญยิ่งกว่าคลิปเสียง เพราะไม่ว่าจะคลิป รูปภาพหรือวิดีโอ ที่นายไพบูลย์ได้แสดงความเห็นไว้ว่าคลิปเหล่านั้นถ้าหากนำมาเผยแพร่โดยผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ได้อนุญาตก็จะผิดกฏหมาย และตนไม่ปรารถนาให้เกิดการกระทำผิดกฎหมายเกิดขึ้น

เมื่อถามว่าพยานบุคคลใช่พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ใช่หรือไม่เพราะเป็นผู้ออกมาเปิดเผยว่าได้ไปเยี่ยมนายทักษิณ ที่โรงพยาบาลนายธีรยุทธกล่าวว่าตนคงไม่อาจก้าวล่วงศาล เพราะบริบทหนึ่งศาลได้เห็นอยู่แล้วว่าพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ได้ออกมาดำเนินการตามวิถีของท่าน แต่สิ่งที่ตนใช้คือรายงานของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ซึ่งในรายงานนั้นจะมีพยานบุคคลมีรายละเอียด และพยานเอกสารอื่นที่มั่นคงตามระบบราชการอยู่แล้ว

เมื่อถามถึงพยานที่คณะกรรมการสิทธิฯอ้าง เมื่อได้ทำการยื่นร้องต่อศาลแล้วศาลรัฐธรรมนูญมีสิทธิ์ที่จะเรียกพยานบุคคลเหล่านั้นมาไต่สวนใช่หรือไม่ นายธีรยุทธ กล่าวว่า ระบบไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญมีความพิเศษยิ่งกว่าระบบของศาลยุติธรรมอย่างหนึ่ง คือ มีอำนาจโดยตรงที่เห็นควรเรียกพยานเอกสาร พยานวัตถุ พยาน ภาพถ่ายวิดีโอจากท่านใดก็ได้ที่ท่านเห็นสมควร โดยมีคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนฯ และเนื้อข่าวที่ปรากฏขึ้นอยู่กับว่าท่านจะใช้ดุลพินิจเห็นสมควรอย่างไร ทั้งนี้ตนได้นำเรียนพยานแต่ในชั้นยื่นคำร้องยังคงสงวนชื่ออยู่และชื่อจะเปิดเผยหลังจากนี้ และพยานที่หมายใจไว้อยู่ที่ 3-4 คน ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้มีการติดต่อทาบทามไปยังผู้ที่จะจะให้มาเป็นพยานเนื่องจากพยานลักษณะนี้ตนปรารถนาอยากจะให้เป็นพยานบริสุทธิ์ ที่จะขอให้ศาลมีเมตตาเรียก และการติดต่อก่อนล่วงหน้าจะทำให้เกิดความไม่บริสุทธิ์ขึ้น

เมื่อถามว่า จะให้ศาลใช้อำนาจในการเรียกพยาน ในการให้ข้อมูลใช่ นายธีรยุทธ กล่าวว่า คงอยู่ที่ดุลพินิจท่าน

ส่วนกรณีนี้ปลายทางถึงขั้นยุบพรรคใช่หรือไม่ นายธีรยุทธกล่าวว่าตนไม่อาจทราบได้ ซึ่งตนปรารถนาแค่ว่าบริบทบางอย่างที่เกิดขึ้นตอนนี้กระทบ กับสถาบันหลักทั้งสองสถาบัน จึงปรารถนาให้เกิดการหยุดเสียก่อน

เมื่อถามถึงหลักฐานที่เป็นคลิป หรือหลักฐานการไปที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ที่นายไพบูลย์เคยออกมาพูดก่อนหน้านี้ว่ามีหลักฐานหรือไม่ นายธีรยุทธ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบ

เมื่อถามว่าแปลว่ามีหลายส่วนที่ร่วมมือกันในการแยกกันยื่นเรื่องร้องเรียนต่างๆใช่หรือไม่ นายธีรยุทธ ระบุว่า ไม่ ท่านอื่นเป็นยังไงตนไม่ทราบ แต่ตนนั่งทำคนเดียว

ส่วนที่มีการตั้งคำถามว่าตัวของนายธีรยุทธ มีใครอยู่เบื้องหลังหรือไม่ นายธีรยุทธ ยืนยันว่า ไม่มี เพราะตนไม่ใช่สมาชิกของพรรคการเมืองใด การทำงาน ก็เป็นการทำงานเงียบเงียบอยู่คนเดียว และเริ่มจากที่เคยไปออกรายงานของสื่อโทรทัศน์ช่องหนึ่ง โดยมีคำถามว่าเรื่องที่ยื่นร้อง จุกจิกหยุมหยิมหรือไม่ ที่มายื่นคำร้องทีละคำร้องตนจึงตอบไปว่า การร้องของผู้ร้องแต่ละท่านก็ร้องกันไปในขณะที่เกิดเหตุปัจจุบัน หนึ่งถึงสองวันจึงยื่นเรื่อง และมีเพียงแค่ประเด็นเดียวที่จะยื่นจึงมองว่าเป็นเรื่องหยุมหยิม แต่หากมองเป็นจิ๊กซอว์ แล้วนำมาผูกรวมกันก็จะเห็นภาพหนึ่ง

เมื่อถามว่ามีออเดอร์ให้มายื่นคำร้องหรือไม่ นายธีรยุทธ ยืนยันว่า ไม่มี เพราะตนยื่นตั้งแต่ยังไม่มีข่าว ตนก็ทำของตนยื่นอัยการ และไม่ได้ปรารถนามาก เป็นเพียงการส่งสัญญาณ

ส่วนมองว่าเป็นการรับงานพลเอกประวิตร หรือไม่ นายธีรยุทธ กล่าวว่า “ตนยังไม่เคยเจอตัวท่านเลย และยังไม่เคยได้คุยสักครั้ง หน้าท่านก็ไม่เคยเห็น ก็เลยไม่ได้มีโอกาสเราก็อาจจะเป็นเพียงแค่คนตัวเล็กๆ“ แต่ได้เล่าให้นายไพบูลย์ฟังเรื่องจิ๊กซอว์ที่ตนเห็น โดยเฉพาะจากการเห็นการยุบพรรคไทยรักธรรม และพรรคก้าวไกล ซึ่งนายไพบูลย์ก็มองว่าเป็นไปได้

ขณะเดียวกันนายธีรยุทธ​ กล่าวว่า​ ใช้เวลาในการรวบรวมข้อมูลประมาณ 2-3 เดือน .-316 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“อนุทิน” โชว์ตัวว่าที่ รมต.ทีมเศรษฐกิจ ล้อมวงกินเค้กส้ม

พรรคภูมิใจไทย 6 ก.ย.- “อนุทิน” โชว์ตัว ว่าที่ 3 รมต.ทีมเศรษฐกิจป้ายแดง ล้อมวงกินเค้กส้ม “เอกนิติ” นั่งขุนคลัง เตรียมนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ชี้ปล่อยฟื้นคนละครึ่งกระแสเต็มฟีด ขณะ “สีหศักดิ์” เตรียมนั่ง รมว.กต. มั่นใจชื่อนี้นานาชาติยอมรับ รับเผือกร้อนแก้ปมชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะ “อรรถพล” อดีต CEO ปตท. นั่ง รมว.พลังงาน ทำงานได้เลยไม่ต้องรำมวย ยอมรับเก้าอี้กลาโหม ต้องมีความรู้ในวิชาชีพ ปัดตอบชิงดำ “บิ๊กป้อม-ธรรมนัส” นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีต ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงลอนดอน และอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ดื่มกาแฟร่วมกันที่ร้านจานิสตาร์ ชั้น 1 ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ภายหลังหารือร่วมกันที่บริเวณชั้นบน ทั้งนี้ คาดว่านายสีหศักดิ์ ถูกทาบทาม […]

“ธรรมนัส” ปัดแย่งเก้าอี้กลาโหม “บิ๊กป้อม” ไม่กังวลปมคุณสมบัติ

พรรคภูมิใจไทย 6 ก.ย.- “ธรรมนัส” ปัดแย่งเก้าอี้กลาโหม “บิ๊กป้อม” อุบตอบ “กล้าธรรม” ได้กระทรวงอะไรเพิ่ม ไม่กังวลปมคุณสมบัติ เหตุตัวเองเป็น “รมต.” มา 2 รอบแล้ว แย้ม เลขาฯ พรรค ต้องได้เก้าอี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา และประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม เดินทางมายังที่ทำการพรรคภูมิใจไทย เพื่อพบกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะว่าที่นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือเป็นการส่วนตัว จากนั้นเวลา 16.50 น. นายอนุทิน และ ร.อ.ธรรมนัส เดินลงจากที่ทำการพรรคมายังร้านกาแฟจาริสต้าร์ ซึ่งมี น.ส.ธนพร ศรีวิราช ภรรยาของ ร.อ.ธรรมนัส รออยู่ ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัส สั่งเครื่องดื่มอเมริกาโน่ร้อน ไม่หวาน ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า มาซื้อกาแฟวันนี้ หมายความว่าได้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแล้วใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ทราบ ตนมารับภรรยา เมื่อถามว่า พรรคกล้าธรรมมีการพูดคุยตำแหน่งรัฐมนตรีลงตัวแล้วหรือไม่ […]

พายุไต้ฝุ่น ‘เผ่ย์ผ่า’ ถล่มชิซูโอกะในญี่ปุ่น

โตเกียว 6 พ.ย. – พายุไต้ฝุ่น “เผ่ย์ผ่า” (Peipah) ได้สร้างความเสียหายอย่างหนักในจังหวัดชิซูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ในวันศุกร์ โดยมีรายงานว่าลมกระโชกแรงจากพายุลูกนี้ทำลายอาคารไปอย่างน้อย 220 หลัง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 23 คน เอ็นเอชเค สื่อสาธารณะของญี่ปุ่นรายงานว่า ตรวจพบกระแสลมแรงใน เขตเทศบาล 4 แห่งของจังหวัดชิซูโอกะ ซึ่งรวมถึงเมืองโยชิดะและเมืองมากิโนะฮาระ เจ้าหน้าที่เมืองมากิโนะฮาระระบุว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อย 20 ราย ณ เวลา 21:30 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 19.30 น. ตามเวลาในประเทศไทย นอกจากนี้ เอ็นเอชเค ยังรายงานด้วยว่า มีอาคารอย่างน้อย 43 หลังในเมืองมากิโนะฮาระถูกทำลายทั้งหมดหรือเสียหายครึ่งหนึ่งและอีก 184 หลังได้รับความเสียหายบางส่วน พายุ “เผ่ย์ผ่า” ได้ลดระดับลงเป็นพายุโซนร้อนเมื่อเวลาประมาณ 21:00 น. ของวันศุกร์ ตามเวลาท้องถิ่น […]

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กป้อม” สยบข่าวชิงเก้าอี้กลาโหม ประกาศไม่รับตำแหน่งในรัฐบาล

พรรคพลังประชารัฐ 8 ก.ย.-“บิ๊กป้อม” ประกาศไม่รับตำแหน่งในรัฐบาล – ไม่นั่ง รมว.กลาโหม ยืนยันยินดีสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง เมื่อเวลา 09:18 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ชี้แจงกรณีมีกระแสข่าวถึงการต่อรองและแย่งชิงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยมีตนเป็นหนึ่งในรายชื่อที่ทำให้สับสนวุ่นวาย ว่า ตนมีความตั้งใจที่จะสนับสนุนให้รัฐบาลและท่านนายกรัฐมนตรีได้ทำงานเพื่อแก้ปัญหาบ้านเมืองได้อย่างเต็มที่ภายในระยะเวลา 4 เดือนก่อนยุบสภาโดยไม่ต้องกังวลต่อการต่อรองหรือเรียกร้องใดๆ พร้อมทั้งขอประกาศเจตนารมณ์ของตัวเองที่จะไม่ขอรับตำแหน่งใดๆ ในรัฐบาล รวมถึงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมตามที่เป็นข่าว พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวว่า การตัดสินใจในครั้งนี้ เพื่อเปิดทางให้นายกรัฐมนตรีได้เร่งสรรหาบุคคลที่เหมาะสมที่จะแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และทะนุบำรุงไว้ซึ่งชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ที่สามารถทำงานได้จริงโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการต่อรองใดๆ โดยเอาประเทศชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง “ผมยินดีที่จะสนับสนุนอยู่เบื้องหลังและพร้อมใช้ความรู้ ประสบการณ์และเครือข่ายระหว่างประเทศด้านความมั่นคงของผมที่มี ถ้าสามารถจะเป็นประโยชน์ได้ไม่ว่าในด้านใดก็ตาม และต้องการที่จะเห็นประเทศชาติของเราเดินหน้าสู่การแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังโดยเร็ว” พล.อ.ประวิตร กล่าว .-316 -สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักมากบางพื้นที่ใน กทม.และปริมณฑล-ตะวันออก

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักมากบางพื้นที่ใน กทม.-ปริมณฑล และภาคตะวันออก บริเวณ จ.นครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมขัง น้ำรอการระบาย กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมขัง น้ำรอการระบาย โดยเฉพาะบริเวณชุมชนเมือง เช่น กรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมทั้งระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า […]

มทภ.2 วอนอย่าหลงเชื่อข่าวปั่นกระแสพูดโยงการเมือง

7 ก.ย. – แม่ทัพภาค 2 วอนอย่าหลงเชื่อ ข่าวปั่นกระแสพูดโยงการเมือง ยันทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตย ชาติ พระมหากษัตริย์ และประชาชน เท่านั้น เมื่อวันที่ 7 ก.ย.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีสื่อโซเชียล นำภาพของตนมาประกอบกับข้อความเรื่องโยงการเมืองว่า ขอพี่น้องประชาชนโปรดอย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เป็นการสร้างกระแส ยุยง ปลุกปั่น ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ตนพูดชัดอยู่แล้วว่า จะไม่ยุ่งเกี่ยวการเมือง ตนเป็นทหาร ไม่ยุ่งเรื่องการเมืองอยู่แล้ว การเมืองก็ให้เขาว่ากันไป เรามีหน้าที่ดูแลอธิปไตยของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน นี่คือหน้าที่ของทหาร “ถึงผมจะเกษียณอีกไม่กี่วัน แต่ผมก็คือทหาร จะไม่ยุ่งเกี่ยวทางการเมืองอย่างแน่นอน” พล.ท.บุญสิน กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

โคลนผุดบนถนนย่านวงเวียนใหญ่ ชาวบ้านหวั่นถนนทรุด

กทม. 7 ก.ย. – ดินโคลนผุดใต้พื้นถนนบริเวณจุดก่อสร้างรถไฟฟ้า ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินก่อนเข้าวงเวียนใหญ่ ชาวบ้านหวั่นพื้นทรุดตัว เจ้าหน้าที่เร่งถมยางมะตอย หลังจากฝนตกติดต่อกันหลายวัน ช่วงบ่ายของวันนี้ บริเวณจุดก่อสร้างรถไฟฟ้า ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินก่อนเข้าวงเวียนใหญ่ มีโคลนสีเหลือง ผุดขึ้นมาบนพื้นถนนจำนวนมาก จนทำให้การจราจรบริเวณนั้นติดขัด โดยพื้นที่บริเวณดังกล่าวกำลังมีการก่อสร้าง โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก ) ซึ่งสาเหตุที่มีโคลนสีเหลืองผุดขึ้นมาเป็นจำนวนมาก สันนิษฐานว่า ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นสาเหตุทำให้น้ำเข้าไปขังใต้พื้นถนนกลายเป็นดินโคลนที่ผุดขึ้นมา ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่โครงการรถไฟฟ้า ได้นำยางมะตอยเข้ามาถมจุดที่มีโคลนผุดขึ้นมา พร้อมกับจัดเจ้าหน้าที่คอยสอดส่องการทรุดตัวของพื้นถนน เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายกับประชาชนที่สัญจรเส้นทางดังกล่าว ฝากประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนที่จะสัญจรเส้นทางดังกล่าว หากไม่มีกรณีเร่งด่วนให้หลีกเลี่ยง หรือเปลี่ยนเส้นทางสัญจร เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน.-สำนักข่าวไทย