รัฐสภา 9 ต.ค.-“กมลศักดิ์” ชี้เป็นเรื่องจิตสำนึก “พล.อ.พิศาล” จะลาออกจาก สส. หรือไม่ หลังหนีคดีตากใบ จนหมดอายุความ
นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สส.นราธิวาส พรรคประชาชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน แถลงการถึงผลการประชุมคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ครั้งที่ 35 ที่ประชุมการกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ได้พิจารณาศึกษาการติดตามจับกุมจำเลยและผู้ต้องหาตามหมายจับของศาล คดีการสลายการชุมนุมที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส และแนวทางการเตรียมรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นเมื่อคดีหมดอายุความในวันที่ 25 ต.ค. 2567 โดยระบุว่าจากการที่ได้เชิญ ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจง ได้ข้อสรุปว่าคดีดังกล่าวมีผู้ต้องหาจำนวน 14 คน โดยผู้ต้องหาที่ยังอยู่ในประเทศไทย 12 คน และ 2 คนเป็นข้าราชการ ยังรับราชการ ซึ่งทางตำรวจได้ประสานงานกับผู้บังคับบัญชาขอของผู้ต้องหาทั้ง 2 คนแล้ว และคาดว่ามีผู้ต้องหาอีก 2 คนอยู่ต่างประเทศ โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการสืบสวนติดตามไปตามภูมิลำเนา แต่ไม่พบตัว โดยจะมีการติดตามจับกุมต่อไป รวมทั้งได้มีการประสานไปยังกองการต่างประเทศเพื่อออกหมายติดตามตัวแล้ว
นายกมลศักดิ์ กล่าวว่าหากสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ก่อนวันที่ 25 ต.ค.นี้ ทางสำนักงานอัยการสูงสุดก็พร้อมในการดำเนินคดี
ทั้งนี้ทางกรรมาธิการฯ เห็นควรให้มีการบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมรับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อคดีหมดอายุความ เนื่องจากคดีดังกล่าวมีความละเอียดอ่อนและเกี่ยวข้องกับประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
เมื่อถามอีกว่าจำเลยกับผู้ต้องหาที่หนีคดี และไม่ยอมไปขึ้นศาลจนกระทั่งหมดอายุความ เช่น พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 จะต้องลาออกจากตำแหน่ง สส.หรือไม่ นายกมลศักดิ์ กล่าวว่าขึ้นอยู่กับความสำนึกของแต่ละบุคคล ไม่มีข้อกฎหมายใดที่จะตอบแทนได้ ตนขอย้ำว่าต้องอยู่ที่สำนึกของบุคคลคนนั้น ว่าเขาจะแสดงความรับผิดชอบอย่างไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หาก พล.อ.พิศาล ทราบอยู่แล้วว่ามีหมายจับ แทนที่จะมามอบตัวสู่คดีตามกระบวนการยุติธรรม แต่กลับหันหลังให้กับกระบวนการเพื่อให้ขาดอายุความ สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของบุคคลนั้นๆ.-314.-สำนักข่าวไทย