สปป ลาว 9 ตค.-“วันนอร์” เตรียมให้ตรวจกล้องวงจรปิด หาข้อเท็จจริงกรณีใส่ชุดขาวข้าราชการแอบอ้างหาประโยชน์ แต่ไม่ถึงขั้นต้องยกระดับรักษาความปลอดภัย เหมือนทำเนียบ เพราะเป็นที่เปิดรับความเห็นประชาชน
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึง กรณีที่มีบุคคลสวมใส่ชุดปกติขาว อ้างยศนาวาตรี และถ่ายรูปบริเวณป้ายสำนักประธานสภาผู้แทนราษฎร นำไปแอบอ้างหาประโยชน์ว่า ตนเดินทางมาประชุม สมัชชารัฐสภาอาเซียนจึงยังไม่ได้รับรายงาน แต่หลังกลับไปคงต้องตรวจสอบว่ามีการแอบอ้างอย่างไร ซึ่งโดยปกติจะมีกล้องวงจรปิดอยู่แล้ว คงจะรู้ว่าเกิดขึ้นตอนไหนและจะต้องไปตรวจสอบในรายละเอียด แต่อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่ารัฐสภาไม่เหมือนกับทำเนียบรัฐบาลหรือหน่วยราชการอื่น เพราะสภาเป็นที่ของประชาชน ที่สามารถมาเยี่ยมชมและพบประธานสภาได้ เนื่องจากประธาน รองประธานและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้แทนของปวงชน จึงต้องเปิดให้บุคคลภายนอก เข้ามาพบเพื่อยื่นเรื่องราวร้องทุกข์ต่างๆ หรือเข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น จึงมีประชาชนมาพบสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและกรรมาธิการเป็นจำนวนมาก ดังนั้น เราต้องระมัดระวังมากยิ่งขึ้น
“เรื่องของการแอบอ้าง ผมก็ไม่ทราบว่าจะไปแอบอ้างเรื่องอะไร เนื่องจากสภาไม่ได้มีผลประโยชน์ แต่ก็ไม่ ควรที่จะวางใจมาก ซึ่งก็มีกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับบุคคลหนึ่งใส่ชุดขาวมาที่สภา และอ้างกับตำรวจว่าลองสวมใส่ชุดขาวราชการดูซึ่งทราบว่าบุคคลดังกล่าวถูกจับมาหลายครั้งแล้ว ซึ่งอาจจะเป็นกรณีนี้ และเมื่อดูจากภาพ เดินอยู่หน้าห้องประธาน หรือหน้าบัลลังก์ก็เข้าไม่ได้อยู่แล้ว คงเป็นกรณีที่ตอนเดินเข้ามาที่เดินเข้ามาในสภา ซึ่งสภาคนเยอะและมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 500 คน ก็ไม่ทราบว่าเป็นข้าราชการจากที่ไหนก็ข้าราชการมาชี้แจง และกรณีนี้สภาตามมาพอสมควรแล้วจนมาจับได้ที่สภา ซึ่งกรณีดังกล่าวอาจจะ มาด้วยความไม่สุจริตหรือสติไม่ดี เพราะยากที่จะมีคนใส่ชุดขาวมาทำเช่นนี้”ประธานรัฐสภา กล่าว
ประธานรัฐสภากล่าวว่า หลังจากนี้จะไปดูว่ามีสิ่งใดที่จะต้องกลับไปแก้ไข ในมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัย แต่การจะไปเข้มงวดการเข้าออกมากจนเกินไปก็จะกระทบกับประชาชนที่จะมาหาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แต่บางครั้งที่บางชั้นโดยปกติก็ไม่ได้อนุญาตให้ประชาชนเข้าไปแล้วเข้าไปยกเว้นมีการมีการขอมาเป็นกรณีพิเศษและมีและมีบัตรให้สามารถผ่านได้
ส่วนจะถึงขั้นยกระดับการรักษาความปลอดภัยหรือไม่นั้นประธานสภาผู้แทนราษฎรกล่าวว่ายังไม่ถึงขั้นนั้น แต่ก็ต้องไปปรึกษาหารือกันเรื่องการดูเรื่องการดูแลสถานที่และความปลอดภัยนั้นมอบหมายให้นายนายพิเชษฐ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่งไปดูแล ก็ต้องไปพูดคุยกัน เพื่อออกมาตรการ แต่กระชับแต่จะเข้มงวดเหมือนสถานที่สถานก็มียากส่วนราชการอื่นก็คงยาก เพราะรัฐสภา เป็นสถานที่ที่อยากให้ประชาชนแสดงการแสดงความคิดเห็น และการสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและกรรมาธิการแม้กระทั่งประธานสภาตนก็ไม่ขัดข้องหากแจ้งล่วงหน้าที่จะพบ.-312.-สำนักข่าวไทย