กมธ.คมนาคม เล็งแก้กฎหมายกำหนดอายุรถโดยสารสาธารณะ

รัฐสภา 7 ต.ค.-กมธ.คมนาคม เล็งแก้กฎหมายกำหนดอายุรถโดยสารสาธารณะ และเงื่อนไขการจัดทัศนศึกษาตามเกณฑ์อายุ ชี้ปัญหาอยู่ที่การบังคับใช้กฎหมาย ยืนยันเดินหน้าบูรณาการมอนิเตอร์ถี่ยิบ พร้อมเผยประกันจ่ายเงินเยียวยาให้ครอบครัวผู้เสียหายแล้ว 90% แต่ยังติดปัญหารถขนผู้โดยสารมากกว่าจำนวนที่ทำประกัน ยันผู้ประกอบการต้องรับผิดชอบ

ภายหลังจากการประชุมคณะกรรมาธิการการคมนาคมเสร็จสิ้น นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร สมาชิกวุฒิสภา ประธานคณะกรรมาธิการฯ เป็นประธานการประชุม มีวาระเพื่อพิจารณากรณีเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษานักเรียน โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จังหวัดอุทัยธานี เปิดเผยผลการประชุมว่า เบื้องต้นได้ให้กรมขนส่งทางบกรายงานถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยคณะกรรมาธิการได้มีการตั้งข้อสังเกตและมีการพูดถึงประเด็นในเรื่องของเชื้อเพลิง ที่ต้องมีการกำกับดูแลมาตรฐานให้ตรงตามข้อเท็จจริง ไม่ใช่แจ้งอีกอย่าง แต่กลับไปติดตั้งเพิ่ม เชิงรุก เพื่อป้องกันไม่ให้มีการไปติดตั้งถังเพิ่ม และปรับเป็นมาตรการเชิงรุก ซึ่งทางกรมขนส่งทางบกได้มีการเรียกประชุม เพื่อกำหนดมาตรการอย่างเข้มงวด ซึ่งเรา เห็นตรงกันว่าจะใช้วิกฤตนี้ให้เป็นโอกาสในเรื่องของการปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยให้สูงขึ้น มีความปลอดภัยมากขึ้นลดการสูญเสียที่จะเกิดขึ้นในอนาคตให้น้อยที่สุด


ส่วนประเด็นประตูฉุกเฉินด้านนอก อาจจะต้องไปปรับให้ อยู่ในลักษณะที่บุคคลภายนอกสามารถเข้าไปเปิดได้ด้วย ซึ่งปัจจุบันมีความสูงเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2 เมตร ซึ่งควรจะลดมาตรฐานความสูงให้เหลือ 1.20 เมตร หรือไม่เกิน 1.50 เมตร เพื่อให้สามารถบุคคลภายนอกสามารถเปิดได้ทันท่วงที

สำหรับการกำหนดอายุการใช้งานของรถ แม้รถบัสจะมีข้อแตกต่างจากรถโดยสาร และรถส่วนบุคคลทั่วไป จะมีในเรื่องของการเปลี่ยนตัวถังใหม่แต่ยังใช้คัสซีเดิม ก็ควรกำหนดว่าคัสซีควรมีอายุการใช้งานเท่าไหร่เปลี่ยนตัวถังได้ไม่เกินกี่ครั้ง ซึ่งจากการตรวจสอบเรื่องนี้รถมีอายุการใช้งานถึง 54 ปี และผ่านการใช้งานมาตลอด สภาพภายนอกอาจจะดูใหม่ แต่อาจจะไม่สอดคล้องกับสภาพอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งทางกรมการขนส่งทางบก มีมาตรการว่าต่อไปจะมีปฏิบัติการเชิงรุก ออกคำสั่ง ให้รถโดยสารเข้ามาตรวจสภาพ10,000กว่าคันภายใน 60 วัน โดยให้ขนส่งจังหวัดเข้าตรวจสอบรถก่อน เพื่อป้องกันการ ดัดแปลงสภาพหรือการไปถอดถังแก๊ส ซึ่งการถอดถังแก๊สเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะจะมีร่องรอยอยู่


ส่วนการยกเลิก หรือพักใช้ใบอนุญาตของผู้ประกอบการรายนี้ เพราะสิ่งที่มีเจตนาไม่บริสุทธิ์คือการนำรถไปถอดถังแก๊สที่จังหวัดนครราชสีมา ทั้งที่ถูกเรียกเข้าไปตรวจสภาพที่ จ.อ่างทอง แต่ยังดีที่ยังมี GPS ที่สามารถติดตามสถานการณ์ได้ทันท่วงที ซึ่งทางกรรมาธิการมองว่าเรื่องนี้ไม่ตรงประเด็นแม้จะมีการปฏิบัติการเชิงรุก แต่ควรจะมีการติดตามกันทุกเดือน เพื่อที่จะดูว่ามีการดัดแปลงหรือเปลี่ยนแปลงสภาพอย่างไร

ในเรื่องของสมาคมขนส่งฯ ตอนนี้มีการสอดส่องและมีการตรวจเช็คสภาพกันเอง เพื่อสร้างมาตรฐานว่าถ้าอะไร ไม่ตรงมาตรฐาน ก็คงต้องแจ้งกรมการขนส่งทางบกเพื่อไปตรวจ เพื่อให้เห็นว่าเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด

สำหรับศูนย์วิชาการความปลอดภัยเห็นตรงกันว่า ความปลอดภัยซื้อไม่ได้ด้วยราคา ฉะนั้นด้วยงบประมาณที่มีข้อจำกัด ในเรื่องของการว่าจ้างรถ เช่นมาตรฐานของรถ ในการว่าจ้างในระยะ 300 กิโลเมตรไปกลับ คิดค่าบริการที่ 10,000 บาทแต่งบประมาณที่ได้รับมาเพียงแค่ 8,000 บาท ก็ต้องอาจจะลดกันคนละครึ่งเช่นราคานี้อาจจะ ลดระยะทางลงมา และในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ ก็ควรที่จะมีการแยกประเภทของ นักเรียนที่จะไปทัศนศึกษา ว่าเด็กอายุเท่าไหร่ควรเดินทางระยะไหนและควรมีการอบรม หรือบรรจุในหลักสูตรการเรียนสำหรับการช่วยเหลือเอาตัวรอดในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน


อย่างไรก็ตามในวันที่ 16 ตุลาคมนี้ คณะกรรมาธิการคมนาคมจะไปตรวจเยี่ยมกระทรวงคมนาคมโดยจะนำเรื่องนี้ไปหารือกัน จึงอยากเห็นแผนบูรณาการร่วมกันว่าต่อไปหากเกิดเหตุเหล่านี้ขึ้นจะมีการแก้ไขปัญหาเพื่อลดความสูญเสียได้อย่างไร และการบูรณาการภาพรวมว่ามีแผนการพัฒนาการขนส่งอย่างไร เพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันไม่ใช่ต่างคนต่างทำ

นายวุฒิชาติ กล่าวว่าข้อเสนอทั้งหมด ของคณะกรรมาธิการจะรวบรวม เสนอ ต่อสภาเพื่อส่งต่อให้รัฐบาลรับไปดำเนินการ ซึ่งในวันนี้ก็ได้มีการเสนอญัติด่วนและรวบรวมข้อเสนอจากสว. ไปแล้ว และยืนยันเรื่องนี้คงไม่ปล่อยผ่านเลย โดยจะต้องมีการ Monitor ติดตาม ต่อไปนี้ ตั้งผู้เชี่ยววชาญเลขานุการและผู้ที่จะเข้ามาช่วยงาน จะบูรณาการ ในภาพรวมร่วมกัน ขับเคลื่อนร่วมกันโดยหน่วยงานไหนมีส่วนเกี่ยวข้องอาทิ มูลนิธิต่างๆ กรมการขนส่งทางบก สมาคมผู้ประกอบการจะต้องส่งตัวแทนมาช่วยคณะกรรมาธิการจะได้คุยกันเป็นภาพรวมเลยทีเดียวไม่ใช่ว่าพอเกิดเหตุก็เรียกคนนู้นมาที คนนี้มาที วันนี้เราจะไม่โทษกันเพียงแต่ว่าใครทำอะไรไว้ก็ต้องรับผิดชอบ ซึ่งทางรองอธิบดีกรมการขนส่งทางบกก็รับปากว่า กรณีของการตรวจสภาพรถถ้าเป็นการตรวจทิพย์ ก็คงต้องมีบทลงโทษกับผู้ที่รับผิดชอบ

ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นช่องโหว่ทางข้อกฎหมายหรือทางปฏิบัตินั้นนายวุฒิชาติกล่าวว่า ข้อกฎหมายค่อนข้างจะครอบคลุมอย่างน้อย 80-90% แต่ช่องโหว่ของการปฏิบัติต่างหากที่ตนและทุกคนมองตรงกัน ว่าน่าจะเป็นสาเหตุของการไม่ปฏิบัติตามกฎข้อบังคับ จนทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้นทางกรรมาธิการยืนยันจะติดตามและ Monitor เรื่องเหล่านี้โดยจะไม่ปล่อยอย่างแน่นอน ซึ่งในกรรมาธิการได้พูดคุยกันแล้วว่าวันนี้เราจะสร้างมิติใหม่ของการทำงาน โดยจะทำตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำให้ได้ข้อสรุปผลการศึกษาออกมา ซึ่งตรงนี้ ถือเป็นบทบัญญัติและธรรมนูญในการทำงานร่วมกัน

เมื่อถามว่าจะให้เวลานานแค่ไหนในการติดตามนั้น นายวุฒิชาติกล่าวว่า อันนี้คงต้องให้ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องได้ทำงาน ซึ่ง เราอาจจะต้องประเมินและติดตามเป็นระยะๆ และจะแถลงต่อสื่อมวลชน ระยะระยะว่าสิ่งที่เราตามวันนี้อีก 1 เดือนอีก 45 วัน มีความคืบหน้าคืออะไร และการปรับปรุงยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบมีการบูรณาการไปถึงไหน
สำหรับเรื่องการเยียวยา ให้กับผู้ได้รับผลกระทบนั้น นายวุฒิชาติ กล่าวว่า จากการที่สอบถามมาไม่ว่าจะเป็นการทำประกันภาคบังคับหรือภาคสมัครใจ ส่วนใหญ่เป็นไปตามกฎหมายหมดแล้วแต่มีประเด็นว่า ประกันภัยผู้รับผิดชอบนั้นได้รับแจ้งจากผู้ประกอบการว่า ในรถคันนั้นมีผู้โดยสาร 20 ที่นั่ง แต่ผู้โดยสารมีมากกว่านั้น คงเป็นประเด็นที่ต้องไปติดตามดู ซึ่งเราก็คงยอมไม่ได้ โดยในส่วนที่นอกเหนือความรับผิดชอบของประกันก็ต้องเป็นความรับผิดชอบที่ผู้ประกอบการต้องรับไป

เมื่อถามว่าที่มีการจ่ายเงินเยียวยาช้า เป็นเพราะเหตุผลข้างต้นใช่หรือไม่ นายวุฒิชาติ กล่าวว่า ส่วนใหญ่ที่ทำประกันภัย กลับทิพยประกันภัยและมิตรแท้ประกันภัยภาคสมัครใจ ภาคบังคับ 90% จ่ายกันไปหมดแล้ว เหลือแต่เฉพาะที่ไม่ลงตัว อันในเรื่องของประกันว่าจำนวนผู้โดยสาร ทั้งหมดกี่คนแล้วจริงๆแล้ว เกิดอุบัติเหตุมีจำนวนผู้โดยสารมากกว่าที่ทำประกันไว้ ดังนั้นทั้งหมดนี้คงต้องไปดูกันในแง่ของกฎหมาย เพราะการทำประกัน ที่ผู้ประกอบการทำ การแจ้งจำนวนผู้โดยสาร มีผลต่อค่าเบี้ยประกัน

เมื่อถามว่าในที่ประชุมได้รับทราบข้อมูลหรือไม่ว่า มีการเปลี่ยนสเปครถจากดีเซลมาเป็นก๊าซเมื่อปีไหน นายวุฒิชาติกล่าวว่า เป็นช่วงที่รัฐบาลได้มีการรณรงค์ จากดีเซลมาเป็น NGV ซึ่งขอยืนยันว่าทุกอย่างที่มีการตรวจสอบตามมาตรฐานแล้ว ไม่ได้เกิดอันตรายและก่อให้เกิดความเสียหายถ้าไม่ได้มีการไปดัดแปลง ลงไว้ว่ามีถังแก๊ส 3-4 ถัง แต่ ไปเพิ่มเป็น 11 ถังซึ่งตรงนี้ต่างหากที่ก่อให้เกิดปัญหาความปลอดภัย เพราะไม่ได้ปฏิบัติตามมาตรฐาน ที่เกิดขึ้นซึ่งเรื่องนี้เป็นประเด็นเมื่อเจอแล้ว ฝากว่ากรมการขนส่งทางบกต้องลงโทษให้หนักต้องยกเลิกใบอนุญาตประกอบการ ซึ่งกรณีเช่นนี้เราปล่อยไว้ไม่ได้แน่นอน

ด้านนายนายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมขนส่งทางบก กล่าวว่รถแต่ละคันมีถังแก๊สได้กี่ถังนั้นขึ้นอยู่กับสมรรถนะรถซึ่ง ในการจดทะเบียนจะมีระบุไว้ว่ารถแต่ฉันละชนิดมีการติดตั้งถังแก๊สได้กี่ถัง ซึ่งหากเป็นสเปคของรถลักษณะนี้จะมีถังแก๊สได้ประมาณ 5-6 ถังเท่านั้น

สำหรับสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ ในครั้งนี้นั้นรองอธิบดีกรมการขนส่งทางบกกล่าวว่า จากวัตถุพยานและจากตัวรถเราพบว่า เอาหักและขณะนี้อยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวนของพนักงานสอบสวนและกองพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งน่าจะเกิดจากการบรรทุกน้ำหนักเกินแต่ทั้งหมดขอให้รอผลการพิสูจน์หลักฐาน

เมื่อถามว่าตัวท่อที่หลุดออกมาก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุนั้นหลุดออกมานานหรือยังรองอธิบดีกรมการขนส่งทางบกกล่าวว่า ผลการสอบสวนยังไม่ออกมาแต่ตอนนี้ ทางกองพิสูจน์หลักฐานไปเก็บข้อมูลมาหมดแล้ว ได้ตรวจสอบรถทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว
และจากข้อมูลจำนวนผู้โดยสารสอดคล้องกับรถที่จดทะเบียน.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลังทิ้งกลางไร่อ้อย

กาญจนบุรี 18 พ.ค. – พบแล้วศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลัง นำศพทิ้งกลางไร่อ้อย เมืองกาญจน์ หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 14 พ.ค. ตั้งปมสังหารเรื่องชู้สาว ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มขึ้นรถหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ได้ออกมาอัดคลิปลงเฟซ บุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชายที่หายตัวไป ก่อนที่ล่าสุดจะพบว่า กลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อยเชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล เสือส่าน กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนที่ไปเจอ เป็นน้าชายของนายกอล์ฟคนในหมู่บ้าน ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ ในสภาพนอนตะแคง ถูกมือถูกมัดไขว้หลัง แล้วมาบอกหลานชายคือนายกอล์ฟไปดูด้วยกัน แล้วนายกอล์ฟจึงแจ้งให้กำนันทราบ ทางกำนันก็แจ้งเรื่องต่อไปยังตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเบื้องต้นศพสวมเสื้อผ้าตรงกับที่เป็นข่าว […]

หาความจริง “แก๊งแม่ชีพันล้าน” ยันไม่ใช่เรื่องจริง

สมุทรสาคร 18 พ.ค. – วงการสงฆ์ยังไม่แผ่ว กระแสแก๊งแม่ชีพันล้านโผล่อีก สำนักพุทธลงตรวจสอบแล้ว แม่ชีที่ถูกกล่าวหา ตอบได้ทุกคำถาม ยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง จากกระแสเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) มีเพจหนึ่งนำภาพกลุ่มแม่ชีหลายภาพพร้อมกองธนบัตร และภาพแม่ชีที่แอดมินระบุอ้างว่าเป็นการใส่วิกผม มาโพสต์ลงโซเชียล พร้อข้อความเขียนแจงอย่างละเอียดว่า กรณีมีเพจดังโพสต์ภาพแม่ชีพร้อมข้อความระบุข้อความเด็ดว่า ทำนองว่า “แก๊งแม่ชีพันล้านคุมวัดเบ็ดเสร็จไร้เงาพระ! 1. แม่ชี 2 พี่น้องบริหารวัดลำพังไม่มีไวยาวัจกร ไม่มีกรรมการ ไม่มีมัคทายก ครอบครองที่ดินนับพันไร่แต่ชื่อเจ้าของไม่ใช่วัด บางแปลงเป็นชื่อแม่ชี อาจเข้าข่าย “ถือครองแทน” หรือใช้วัดบังหน้า? ยอดกฐินปีละเกือบ 100 ล้าน! รายชื่อผู้บริจาคซ้ำๆ เดิมๆ ส่วนใหญ่เป็นแม่ชี-คนในวัด ไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจ แต่ “บริจาคเป็นล้านทุกปี” ระบบโบนัสแม่ชีสาวช่วยหาทุนได้มาก พาเที่ยวรีสอร์ตหรูปีละครั้ง ใส่วิกเต็มยศ นั้น วันนี้ผู้สื่อข่าวพร้อม นส.สวาท แซ่ตัน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสาคร นายอิทธิธร สีเหลือง นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ เดินทางไปที่วัดที่แม่ชีในภาพบวชอยู่ ต.บางโทรัด […]

รวบแม่บ้านควบตำแหน่งกรรมการบริษัท เลี่ยงภาษีกว่า 180 ล้าน

กทม. 18 พ.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง รวบแม่บ้านควบตำแหน่งกรรมการบริษัทชิปปิ้ง เลี่ยงภาษีกว่า 180 ล้านบาท พบก่อเหตุคล้ายกันในบริษัทฯ อีก 2 แห่ง รวมรัฐเสียหายกว่า 430 ล้านบาท ตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) นำเจ้าหน้าเข้าจับกุม นางสมบุญ อายุ 54 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1051/2568 ลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์2568 ในความผิดฐาน “ร่วมกันเจตนาหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่มกระทำการใดๆ โดยความเท็จ โดยฉ้อโกงหรืออุบาย หรือโดยวิธีการอื่นใดทำนองเดียวกัน ที่ลานจอดรถหน้าอพาร์ทเมนต์ พื้นที่ ม.2 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พฤติการณ์ ของ น.ส.สมบุญ ผู้ต้องหา ตรวจสอบพบว่า เป็นหนึ่งในกรรมการ บริษัท แห่งหนึ่งประกอบกิจการเป็นตัวแทนนำเข้าสินค้าและดำเนินพิธีการศุลกากรเพื่อนำสินค้าออกจากท่าเรือ แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบว่าบริษัทฯดังกล่าวมีพฤติการณ์ปิดบังซ่อนเร้นที่มาของรายได้ รวมถึงค่าใช้จ่ายของบริษัทฯ โดย บริษัทมักจะไม่มีการออกใบกำกับภาษีขายและใบเสร็จรับเงินสำหรับค่าบริการให้แก่ลูกค้าแต่อย่างใด และการจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างของบริษัทฯ มักจะจ่ายเป็นเงินสดให้ลูกจ้างเป็นรายสัปดาห์ […]

สาวใจเด็ด โดดจยย.รับจ้าง วิ่งตามรถตัวเองหลังตามหา 1 ปี

กทม. 18 พ.ค. – สาวใจเด็ด โดดลงจากมอเตอร์ไซค์รับจ้าง วิ่งไล่รถตัวเอง หลังตามหาและผ่อนกุญแจเปล่ามานานกว่า 1 ปี พบเพื่อนสนิทนำรถไปค้ำประกันกับเจ้าหนี้ จากกรณีคลิปที่มีการแชร์ในโซเซียล ขณะผู้หญิงใส่เสื้อลายกำลังวิ่งไล่ตามรถเก๋งสีขาว พร้อมตะโกนให้คนช่วย จนพลเมืองดี ช่วยกันเข้ามารายล้อมรถและคนขับรถเก๋งต้องเลี้ยวเข้าซอย เพื่อลงมาเคลียร์ ก่อนเกิดเหตุชุลมุนขึ้น เมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) ล่าสุดทีมข่าวเปิดใจ สาวที่ปรากฏในคลิป เล่าถึงสาเหตุที่ต้องเข้าไปขวางรถยนต์คันนี้ เพราะว่าเมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม ปี 2567 ตนเองได้ซื้อรถเก๋งคันนี้ ทะเบียนขอนแก่น และนำรถไปฝากจอดไว้ที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านห้วยขวาง ซึ่งเป็นห้องของแฟนเพื่อนสนิท แต่หลังจากที่นำรถไปฝาก ก็ไม่เคยได้พบรถตัวเองอีกเลย โดยเพื่อนสนิท อ้างว่าแฟนเอาไปขับ ทุกครั้งที่ทวงถามหารถ จะมีการบ่ายเบี่ยงต่างๆ นานา จนในที่สุด ตนเองก็เข้าแจ้งความ ลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.ห้วยขวาง ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตามหารถ เวลาผ่านไปประมาณ 1 ปี ก็ยังตามหาไม่ได้ ตนเองจึงต้องผ่อนกุญแจเปล่า มาเป็นระยะเวลา 1 ปีเต็ม […]

ข่าวแนะนำ

ออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการอุ้มฆ่า “ดีเจเตเต้”

กาญจนบุรี 19 พ.ค. – ออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการแล้ว 4 ราย อุ้มฆ่า “ดีเจเตเต้” ตั้งข้อหาหนักหลายกระทง ล่าสุด ครอบครัวรับศพแล้ว เผยผลชันสูตร กระสุนเจาะศีรษะ 2 นัด เป็นเหตุเสียชีวิต พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เดินทางลงพื้นที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนคลี่คลายคดีล่าตัวแก๊งอุ้มฆ่า นายวราพงษ์ ขุนศรีจตุรงค์ หรือ ดีเจเตเต้ อายุ 33 ปี โดยภายหลังการประชุม พล.ต.ต.พรชัย ชลอเดช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้จับกุม นายธนเดช หนึ่งในผู้ร่วมขบวนการอุ้มฆ่า ดีเจเตเต้ แล้ว ส่วนอีก 4 คน ศาลอนุมัติหมายจับ ประกอบด้วย นายณรงค์เดช, นายภคณัท, นายนพพิจิตร และนายธราเทพ ทั้งหมดมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ใน 5 ข้อหาหนัก ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่น […]

ขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย

กทม. 19 พ.ค.-ทีมค้นหาฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เพื่อขุดค้นหาผู้ประสบเหตุ ซึ่งขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ทีมค้นหา ทั้ง กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) Usar Thailand เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และบริษัทรับเหมาเจาะเสาเข็ม ได้ใช้แบคโฮ เริ่มฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ ความยาวประมาณ 16 เมตร รอบหลุมเสาเข็ม 4 ด้าน เพื่อป้องกันดินสไลด์ปิดทับปากหลุมที่รถแบ็คโฮจะทำการขุด เพื่อค้นหาผู้ประสบเหตุ โดยการฝั่งแผ่นชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เนื่องจากการประเมินของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรม พบว่าดินที่สไลด์ลงมาส่งผลกระทบรุนแรงต่อโครงสร้างอาคาร และเสาไฟฟ้า ในบริเวณที่เกิดเหตุ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาอาคารทรุดตัว เอน และ พังถล่ม จึงจำเป็นต้องนำแผ่นชีทไพล์มากั้น ก่อนทำการขุดดิน และเริ่มค้นหาผู้ประสบเหตุ และหลังจากฝังชีทไพล์ เสร็จสิ้นในเวลา 18.30 น. โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องโซน่า ลงไปในหลุม เพื่อค้นหาร่างผู้ประสบเหตุ ซึ่งจากการใช้ โซน่าสแกน ร่างของผู้ประสบเหตุ ฝังอยู่ในหลุมลึก […]

“บิ๊กเต่า” นำทีมตรวจเงินวัดไร่ขิง พบบัญชีวัดเพิ่มอีกรวม 49 บัญชี

นครปฐม 19 พ.ค. – “บิ๊กเต่า” นำทีมตรวจเงินวัดไร่ขิง พบตู้บริจาค 185 ตู้ บัญชีวัดรวม 49 บัญชี รอตรวจสอบเส้นเงินที่ชัดเจน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้นำกำลังตำรวจ เจ้าหน้าที่ สตง. และเจ้าหน้าที่สำนักพระพุทธศาสนา เข้าตรวจสอบข้อมูลการเงินเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม ภายในห้องการเงิน วัดไร่ขิง ก่อนที่ในช่วงบ่ายพระครูปฐมธีรวัฒน์ (บัญชา ฐิตธมฺโม) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ได้เป็นตัวแทนนำ จนท.ออกมาชี้จุดตั้งตู้บริจาคปัจจัยที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณวัด พบว่ามีตู้บริจาคทั้งหมด 185 ตู้ ซึ่งหลังจากใช้เวลาตรวจสอบบัญชีเพิ่มเติมกว่า 8 ชั่วโมง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่าการตรวจสอบในวันนี้ ไม่ได้ เป็นการสอบปากคำ แต่เป็นเพียงการเรียกทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบัญชีการเงินของวัดประมาณ 10 คน รวมถึงเจ้าหน้าที่ธนาคารจาก 4 ธนาคาร เข้ามาให้ข้อมูล เพื่อหาข้อสรุปว่า บัญชีของวัดมีกี่บัญชี ซึ่งทำให้พบบัญชีวัดเพิ่มขึ้นจากที่พบก่อนหน้านี้ 20 กว่าบัญชี (ใน 20 กว่า มีบัญชีส่วนตัวของอดีตเจ้าอาวาส […]

เร่งช่วยคนพลัดตกหลุมก่อสร้างรถไฟฟ้า ลึกกว่า 10 ม.

กทม. 19 พ.ค. – เร่งช่วยคนพลัดตกหลุมลึกกว่า 10 ม. โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม เกิดเหตุคนพลัดตกลงไปในหลุมซึ่งกำลังอยู่ระหว่างก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า ใกล้เคียงซอยหลานหลวง 8 ขนาดความลึกประมาณ 15-19 เมตร ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างช่วยเหลือ โดยโรยตัวลงไปช่วยผู้ติดอยู่ภายในหลุม สำหรับโครงการดังกล่าว เป็นโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เบื้องต้นคาดว่าอุบัติเหตุน่าจะเกิดระหว่างขั้นตอนก่อสร้าง ซึ่งเป็นช่วงที่ดันปลอกเหล็กขึ้นลงเพื่อขุดดินก่อสร้างสถานีหลานหลวง ส่วนสาเหตุที่แน่ชัดต้องตรวจสอบต่อไป.-สำนักข่าวไทย