“ธนาธร” บรรยายในหัวข้อ 48 ปี 6 ตุลา กระจกส่องสังคมไทย

ม.ธรรมศาสตร์​ 6 ต.ค.- “ธนาธร” รำลึกเหตุ 6 ตุลา ยกเคสพลทหารถูกซ้อมจนตาย-คดีตากไบ สะท้อนความล้มเหลวไม่สามารถเอาผิดได้สักครั้ง ชวน ปชช. เดินหน้าต่อเพื่อสังคม ”เสรีภาพ อิสรภาพ ภราดรภาพ”


นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และประธานคณะก้าวหน้า บรรยายในหัวข้อ 48 ปี 6 ตุลาฯ กระจกส่องสังคมไทย ว่า ตอนแรก ตนมีอาการ 2 จิต 2 ใจ ไม่อยากจะมา เพราะสิ่งที่ต้องพูดได้เคยถูกพูดไปหมดแล้ว สิ่งที่พูดไม่ได้ก็ยังพูดไม่ได้เหมือนเดิม แต่ท้ายที่สุดก็คิดว่ามาเติมความหวังมาเติมกำลังใจให้กันและกันได้ดีกว่า

นายธนาธร เล่าว่า เมื่อหลายปีที่แล้ว ได้มีโอกาสไปเยือนอุทยานประวัติศาสตร์ถังแดง จ.พัทลุง เป็นครั้งแรกที่ตนได้รับฟังเรื่องราวโหดร้ายจากประสบการณ์ตรงเป็นครั้งแรก ตั้งแต่ปี พ.ศ.2515 ทหารเข้ามาตั้งถิ่นฐาน เพื่อกวาดล้างคนที่ต้องสงสัยว่าเป็นคอมมิวนิสต์ มีการจัดคนมาสอบสวน ซ้อมร่างกายจนหมดสติ จับยัดใส่ถังแดงแล้วเผา จึงเป็นที่มาของชื่ออุทยานถังแดง ตัวเลขดังกล่าวระบุไว้ว่ามีจำนวนถึง 3,000 คน จะน่าสนใจว่ารัฐเลือกใช้วิธีจัดการกับผู้เห็นต่างโดยสร้างความหวาดกลัว โดยหวังลึกๆ ว่าประชาชนจะหวังก็ออกห่าง ไม่สนับสนุนการทำงานของพรรคคอมมิวนิสต์ แต่เหตุการณ์กลับพลิกกลับ เมื่อประชาชนโกรธ และเกิดเหตุการณ์สังหารขึ้น


“ผมอยากให้ลองจินตนาการดูครับ ถ้าพ่อแม่พี่น้องของเราเป็นคนที่ถูกเผาในถังแดง น้ำมันร้อนๆ ท่านจะรู้สึกอย่างไร ปัจจุบันครอบครัวของผู้สูญเสียยังไม่ได้รับการเยียวยา มีเพียงอนุสาวรีย์ที่ประชาชนก่อสร้างกันเอง เป็นที่เตือนความจำให้กับผู้พบเห็นและเป็นตัวแทนของผู้สูญเสีย ประวัติศาสตร์ถังแดงไม่เคยถูกบรรจุในวันที่เล่าหลักของชาติ ไม่เคยปิดเลยคดีกับผู้มีส่วน” นายธนาธร กล่าว

นายธนาธร ระบุต่อว่า 1 ในข้อเรียกร้องของนักศึกษาแห่งประเทศไทย คืออยากให้ยุบกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ตนมองว่าข้อเรียกร้องยังทันสมัยจนถึงทุกวันนี้ จนถึงทุกวันนี้ยังไม่มีผู้ก่อเหตุในเหตุการณ์ถังแดงถูกลงโทษเลยสักคนเดียว ยังไม่มีประชาชนได้รับการเยียวยาจากรัฐ

นายธนาธร เล่าเรื่องที่ 2 ว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีช่วงหนึ่ง ที่ตนทำงานไม่ได้ ตนรู้สึกโกรธ ตนรู้สึกคับแค้น เมื่อได้ยินข่าวของ ศิริวัฒน์ ใจดี พลทหาร สังกัดสารวัตรทหารเรือ อายุ 21 ปี ที่เสียเมื่อ 2 ก.ค. แต่เพิ่งเป็นข่าวเมื่อช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากเพื่อนออกมาเปิดเผยว่าฝึกหนักมาก มีการสั่งให้วิ่งหลายรอบ ครูฝึกเตะขาด้วยรองเท้าคอมเแบทเข้าที่หน้า เพราะมองว่าสำออย นอกจากนี้ยังให้เพื่อนเอาไปวางไว้ที่กลางสนาม ไม่มีการปฐมพยาบาล จนพลทหารศิริวัฒน์เสียชีวิต​ จากการบอกเล่าของพี่สาวพลทหารศิริวัฒน์เป็นคนเรียนดี แต่ที่บ้านไม่มีเงิน จึงไปสมัครเป็นทหารเกณฑ์ หวังว่าจะสร้างเนื้อสร้างตัวได้ด้วยการรับราชการทหาร พี่สาวบอกด้วยว่าจากการชันสูตรของแพทย์ พบว่ากระดูกซี่โครงหัก และเพื่อนทหารหลายคนก็พร้อมเป็นพยานว่าเสียชีวิตจากการฝึก


“การจะเลี้ยงคนคนหนึ่งให้มีอายุถึง 21 ปี ท่านคิดว่าครอบครัวคุณพ่อคุณแม่ใช้เงินไปเท่าไหร่ครับ สังคมทั้งสังคมใช้เงินไปเท่าไหร่ ผมเป็นพ่อคนเหมือนกัน ผมนึกไม่ออกว่าถ้าเหตุการณ์แบบนี้เกิดกับลูกของผม ผมจะทำใจได้อย่างไร ผมจะมีแรงมีกำลังจิตกำลังใจใช้ชีวิตต่อไปหรือไม่ ถ้าเกิดขึ้นกับตัวผมเองผมไม่แน่ใจ” นายธนาธร กล่าว

นายธนาธร เล่าเรื่องที่ 3 คือเหตุการณ์ตากใบ ว่า เรื่องนี้เริ่มต้นจากการชุมนุมเพื่อประท้วง กรณีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน 8 คน ที่ถูกจับกุมในข้อหาส่งปืนให้กับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ผู้ชุมนุมประมาณ 1,000 คน มาชุมนุมด้วยมือเปล่า แต่รัฐกลับใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุม ทหารผู้บังคับบัญชาให้ผู้ชุมนุมนอนทับกันไปบนรถกว่า 3 ชั่วโมง มีคนเสียชีวิตกว่า 70 ราย ศาลชี้ให้เห็นว่าเกิดจากการขาดอากาศหายใจ ขณะอยู่ระหว่างการดำเนินคดีของเจ้าหน้าที่รัฐ ขณะที่ภาคประชาชนเรียกร้องครั้งแล้วครั้งเล่า กลับไม่มีความคืบหน้า จนกระทั่งคดีใกล้หมดอายุความ กลุ่มผู้สูญเสียจึงฟ้องใหม่อีกครั้ง มีการออกหมายจับทหารและตำรวจระดับสูง 7 คน แต่จนถึงวันนี้ อีก 19 วันจะหมดอายุความ ยังตามจับจำเลยมาขึ้นศาลไม่ได้แม้แต่คนเดียว 1 ในจำนวนนั้นคือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เป็นอดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ในขณะนั้น ซึ่งส่งหนังสือลาประธานสภาฯ ตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค. ถึง 31 ต.ค. อ้างว่าไปรักษามะเร็งที่ต่างประเทศ

นายธนาธร กล่าวว่า ตนยกตัวอย่าง 3 เรื่องนี้มาพูด เรายอมรับเหตุการณ์แบบนี้ได้อย่างไร 3 เหตุการณ์นี้มีความเหมือนกัน คือการดำรงอยู่ของวัฒนธรรมพ้นผิดลอยนวลในสังคมไทย คนที่ทำผิดไม่เคยถูกดำเนินคดีเลยสักครั้ง

“ผมคิดว่านี่เป็นความล้มเหลวทางสามัญสำนึกครั้งใหญ่ของสังคมไทย เจ้าหน้าที่รัฐที่ริดรอนสิทธิเสรีภาพประชาชน จนเข่นฆ่าชีวิตประชาชน ดำเนินคดีไม่ได้ นี่เป็นความล้มเหลวทางสามัญสำนึกครั้งใหญ่มากของสังคม” นายธนาธร กล่าว

นายธนาธร กล่าวอีกว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ความล้มเหลวของระบบ แต่เป็นความจำเป็นที่ระบบจะต้องมีวัฒนธรรมแบบนี้อยู่ ตนพยายามอย่างยิ่งที่จะมีส่วนร่วมในการสร้างประเทศไทยที่เป็นประชาธิปไตยที่มีสิทธิเสรีภาพ มีความเจริญก้าวหน้า มีความเสมอภาค เท่าเทียม ที่ผ่านมาตั้งแต่ตั้งพรรคการเมืองขึ้นมา วันนี้ถูกตัดสิทธิ์ไปแล้ว ตนเป็นจำเลยคดี ม.112 จำนวน 2 คดี แต่นี่ไม่ใช่เวลาของการท้อถอย

“สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2563-2564 แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเพดานความคิดของประเทศไทยก้าวหน้าไปมาก การเลือกตั้งปี 2566 ชัดเจนว่าเรื่องการแก้ไข ม.112 กลายเป็นเรื่องที่พูดกันได้อย่างแพร่หลายในสื่อหลัก ในการดีเบตครั้งสำคัญของการเลือกตั้ง แสดงให้เห็นว่าสังคมมันขึ้นไปไกลมาก มีความก้าวหน้า ดังนั้น นี่เป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นที่สุดในประวัติศาสตร์ ไม่เคยมีช่วงเวลาไหนในประวัติศาสตร์ ที่วาระก้าวหน้าแบบนี้จะถูกพูดอย่างแพร่หลายและถูกทำให้เป็นเรื่องสามัญ” นายธนาธร กล่าว

นายธนาธร กล่าวทิ้งท้ายว่า หลายคนผ่าน 6 ตุลาฯ มาแล้ว หลายคนผ่านอีกหลายเหตุการณ์ ถ้าที่ผ่านมาคิดว่าทำได้ดีที่สุดแล้ว ตนคิดว่ายังไม่พอ ตนเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญจะมาถึง ตนเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าการตื่นตัวทางการเมืองของประชาชนในวันนี้ไม่สามารถลบเลือนออกไปได้ง่ายๆ อยากให้ทุกคนเข้มแข็งและมีกำลังใจเดินหน้าต่อไป เพื่อสร้างสังคมที่มีเสรีภาพ มีอิสรภาพ มีภราดรภาพ.-319-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ ถึงอุบลฯ แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้ชาวบ้าน

อุบลราชธานี 20 มิ.ย.-นายกฯ ถึงอุบลราชธานี แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้จากประชาชน ก่อนขึ้น ฮ.ไปฐานมรกต ให้กำลังใจทหารแนวหน้า ขำสื่อรุมถาม “ไมค์เขกหัวนายกฯ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี โดยมี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 รอรับ และเดินทางต่อไปที่สนามกีฬานานาชาติ อบต.โดมประดิษฐ์ มีว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมว.มหาดไทย และ สส.พรรคเพื่อไทย มารอต้อนรับ น.ส.แพทองธาร ได้มอบสิ่งของให้แก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง โดยชาวบ้านหลายคนนำดอกกุหลาบ และผ้าขาวม้า มามอบให้เป็นกำลังใจแก่นายกฯ ในระหว่างที่ประชาชนมอบดอกไม้ให้ นายกฯ ชวนแม่ทัพภาคที่ 2 มารับดอกไม้และถ่ายภาพร่วมกัน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ได้เคลียร์ใจแล้วหรือไม่ […]

พรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน

รัฐสภา 20 มิ.ย.-เลขาธิการสภาฯ แจงพรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน แม้จะมีชื่อในบัญชี ก็ไม่เป็นผล ว่าที่ร้องตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หากต้องมีการเลือกนายกฯ ใหม่ ว่า บุคคลที่สามารถได้รับการเสนอชื่อจะต้องเป็นบุคคลที่มีรายชื่อในบัญชีที่เสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง โดยพรรคที่สามารถเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯได้ จะต้องมี สส.จำนวน 5% ของสส. 500 คน คือมี สส. 25 คน ตามมาตรา 159 วรรค 1 ซึ่งในขณะนี้มี สส.ในสภาฯ จำนวน 495 คน 5% คือ 24.75 ซึ่งพรรคพลังประชารัฐขณะนี้มี สส.เหลือไม่ถึง 20 คน จึงไม่สามารถเสนอบุคคลในบัญชีรายชื่อคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกฯ ได้ ตามมาตรา 159 […]

ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ยิงข้างห้องดับ 1 เจ็บ 1

ชุมพร 20 มิ.ย. – ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ฉุนข้างห้องติดเครื่องรถกระบะจอดแช่นาน เกิดมีปากเสียง คว้าปืนยิงสามีเข้าที่คอบาดเจ็บ ส่วนภรรยาโดนยิงเข้าเบ้าตาเสียชีวิต ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุยิงกัน บริเวณห้องเช่า ริมถนนซอยสุขาภิบาล 17 – วัดเขาปุก ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวเช่าติดกัน 4 ห้อง บริเวณหน้าห้องซ้ายสุด มีรถกระบะสีดำจอดอยู่ พร้อมกองเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อ น.ส.จิราวรรณ อายุ 54 ปี ถูกยิงเข้าที่ตาข้างขวา อาการสาหัส หน่วยกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาล ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนั้นยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คน คือ นายสุรพจน์ อายุ 53 ปี ถูกยิงเข้าที่ไหปลาร้า ใกล้ลำคอด้านขวา แต่กระสุนถากไป ได้รับบาดเจ็บไม่มาก นายสุรพจน์ ให้ข้อมูลว่า คนก่อเหตุยิงเป็นเพื่อนบ้านห้องเช่าใกล้กัน ชอบตะโกนต่อว่าตนว่าติดเครื่องยนต์จอดแช่ไว้นาน ทำให้รำคาญ ซึ่งตนก็บอกไปว่า รถยนต์ตนต้องติดเครื่องวอร์มแช่ไว้ก่อนทุกครั้ง […]

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ข่าวแนะนำ

“แพทองธาร” โพสต์พรรคร่วมฯ มีมติหนุนรัฐบาล ร่วมสร้างเสถียรภาพการเมือง

โรงแรมโรสวูด 22 มิ.ย.- นายกฯ โพสต์พรรคร่วมรัฐบาลมีมติหนุนรัฐบาล ร่วมกันสร้างเสถียรภาพทางการเมือง ชี้ ความเป็นหนึ่งเดียว ช่วยก้าวผ่านสถานการณ์อ่อนไหว เดินหน้ารับมือภัยคุกคามและความมั่นคง ภายหลัง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เชิญพรรคร่วมรัฐบาล หารือ ปรับคณะรัฐมนตรี แทนตำแหน่งที่ว่าง 8 ตำแหน่ง หลังภูมิใจไทยถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล โดยใช้เวลาในการหารือประมาณ 1 ชั่วโมง ล่าสุด เมื่อเวลา 15.30 น. รถบรรดาหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลและเลขาธิการพรรคได้เดินทางออกจากโรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ ขณะที่ นายกรัฐมนตรีได้ ยังอยู่ภายในโรงแรม ก่อนที่ นายกรัฐมนตรี จะโพสต์ภาพถ่ายผ่านโซเชียลร่วมกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล พร้อมระบุข้อความว่า “ประเทศชาติต้องเดินไปข้างหน้า สามัคคีประเทศไทย รวมพลังผลักดันนโยบาย แก้ไขปัญหาเพื่อประชาชน ขอขอบคุณคณะกรรมการบริหารและสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลทุกท่าน ที่มีมติและประกาศแนวทางสนับสนุนรัฐบาล ร่วมกันสร้างเสถียรภาพทางการเมือง เพื่อรับมือต่อภัยคุกคามความมั่นคงของชาติจากภายนอก และขับเคลื่อนนโยบายแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน ในช่วงเวลาที่รัฐบาลกับกองทัพมีจุดยืนร่วมกัน ยืนยันหลักการประชาธิปไตย ปฏิบัติหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและรวมพลังสามัคคี ความเป็นหนึ่งเดียวของพรรคร่วมรัฐบาล จะเป็นหมุดหมายสำคัญในการผนึกกำลังกันของคนไทย ก้าวผ่านสถานการณ์อ่อนไหวนี้ด้วยความมั่นคง และประสบผลสำเร็จในการปกป้องอธิปไตย ธำรงไว้ซึ่งเกียรติยศศักดิ์ศรีของประเทศชาติและประชาชน ดิฉันเชื่อมั่นว่าไม่มีภัยคุกคามใดจะเหนือกว่าพลังสามัคคีของคนไทย […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

จับตานายกฯ นัดคุยหัวหน้าพรรคร่วม ปรับ ครม.

กรุงเทพฯ 22 มิ.ย. – จับตานายกฯ เชิญแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่เหลืออยู่หารือเป็นการภายใน คาดจะมีการพูดคุยเกลี่ยโควตาเพิ่มให้กับพรรคร่วมรัฐบาลตามความเหมาะสม ความเคลื่อนไหวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังมีรายงานว่า วันนี้ (22 มิ.ย.68) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเชิญแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่เหลืออยู่หารือเป็นการภายใน ภายหลังพรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล ทำให้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่างลง 8 ตำแหน่ง คาดว่าจะมีการพูดคุยเกลี่ยโควตาเพิ่มให้กับพรรคร่วมรัฐบาลตามความเหมาะสม โดยเมื่อเวลา 12.26 น. รถยนต์ของนายกรัฐมนตรีได้เลี้ยวเข้าโรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ.-316-สำนักข่าวไทย

“ฮุน มาเนต” สั่งปิดด่าน 2 แห่ง ตอบโต้ไทยปิดด่านช่องสายตะกู

22 มิ.ย.- “ฮุน มาเนต” นายกฯ กัมพูชา ออกคำสั่งปิดด่าน 2 แห่ง ตอบโต้ทางการไทยปิดด่าน “ช่องสายตะกู” เมื่อเวลา 07.00 น. “ฮุน มาเนต” นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โพสต์หนังสือคำสั่ง โดยระบุว่า ให้ปิดด่านบ้านจุ๊บโกกี อ.บันเตียอำปึล จ.อุดรมีชัย จนกว่าไทยจะเปิดด่านช่องสายตะกู พร้อมระบุว่า เมื่อคืนวานนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย ของกัมพูชา ได้รับแจ้งจากกองทัพภาคที่ 2 ของไทย ว่า จะมีการปิดด่านชายแดนช่องสายตะกูอย่างไม่มีกำหนด นอกจากนี้ ผู้นำกัมพูชา ยังได้อนุมัติให้ปิดด่านช่องจวม อ.อัลลองเวง จ.อุดรมีชัย และจะแจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ และผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ของไทย รับทราบ สำหรับคำสั่งปิด 2 ด่านดังกล่าว เป็นจุดที่อยู่ฝั่งตรงข้ามด่านช่องสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ และด่านช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ -สำนักข่าวไทย