“ธนาธร” บรรยายในหัวข้อ 48 ปี 6 ตุลา กระจกส่องสังคมไทย

ม.ธรรมศาสตร์​ 6 ต.ค.- “ธนาธร” รำลึกเหตุ 6 ตุลา ยกเคสพลทหารถูกซ้อมจนตาย-คดีตากไบ สะท้อนความล้มเหลวไม่สามารถเอาผิดได้สักครั้ง ชวน ปชช. เดินหน้าต่อเพื่อสังคม ”เสรีภาพ อิสรภาพ ภราดรภาพ”


นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และประธานคณะก้าวหน้า บรรยายในหัวข้อ 48 ปี 6 ตุลาฯ กระจกส่องสังคมไทย ว่า ตอนแรก ตนมีอาการ 2 จิต 2 ใจ ไม่อยากจะมา เพราะสิ่งที่ต้องพูดได้เคยถูกพูดไปหมดแล้ว สิ่งที่พูดไม่ได้ก็ยังพูดไม่ได้เหมือนเดิม แต่ท้ายที่สุดก็คิดว่ามาเติมความหวังมาเติมกำลังใจให้กันและกันได้ดีกว่า

นายธนาธร เล่าว่า เมื่อหลายปีที่แล้ว ได้มีโอกาสไปเยือนอุทยานประวัติศาสตร์ถังแดง จ.พัทลุง เป็นครั้งแรกที่ตนได้รับฟังเรื่องราวโหดร้ายจากประสบการณ์ตรงเป็นครั้งแรก ตั้งแต่ปี พ.ศ.2515 ทหารเข้ามาตั้งถิ่นฐาน เพื่อกวาดล้างคนที่ต้องสงสัยว่าเป็นคอมมิวนิสต์ มีการจัดคนมาสอบสวน ซ้อมร่างกายจนหมดสติ จับยัดใส่ถังแดงแล้วเผา จึงเป็นที่มาของชื่ออุทยานถังแดง ตัวเลขดังกล่าวระบุไว้ว่ามีจำนวนถึง 3,000 คน จะน่าสนใจว่ารัฐเลือกใช้วิธีจัดการกับผู้เห็นต่างโดยสร้างความหวาดกลัว โดยหวังลึกๆ ว่าประชาชนจะหวังก็ออกห่าง ไม่สนับสนุนการทำงานของพรรคคอมมิวนิสต์ แต่เหตุการณ์กลับพลิกกลับ เมื่อประชาชนโกรธ และเกิดเหตุการณ์สังหารขึ้น


“ผมอยากให้ลองจินตนาการดูครับ ถ้าพ่อแม่พี่น้องของเราเป็นคนที่ถูกเผาในถังแดง น้ำมันร้อนๆ ท่านจะรู้สึกอย่างไร ปัจจุบันครอบครัวของผู้สูญเสียยังไม่ได้รับการเยียวยา มีเพียงอนุสาวรีย์ที่ประชาชนก่อสร้างกันเอง เป็นที่เตือนความจำให้กับผู้พบเห็นและเป็นตัวแทนของผู้สูญเสีย ประวัติศาสตร์ถังแดงไม่เคยถูกบรรจุในวันที่เล่าหลักของชาติ ไม่เคยปิดเลยคดีกับผู้มีส่วน” นายธนาธร กล่าว

นายธนาธร ระบุต่อว่า 1 ในข้อเรียกร้องของนักศึกษาแห่งประเทศไทย คืออยากให้ยุบกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ตนมองว่าข้อเรียกร้องยังทันสมัยจนถึงทุกวันนี้ จนถึงทุกวันนี้ยังไม่มีผู้ก่อเหตุในเหตุการณ์ถังแดงถูกลงโทษเลยสักคนเดียว ยังไม่มีประชาชนได้รับการเยียวยาจากรัฐ

นายธนาธร เล่าเรื่องที่ 2 ว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีช่วงหนึ่ง ที่ตนทำงานไม่ได้ ตนรู้สึกโกรธ ตนรู้สึกคับแค้น เมื่อได้ยินข่าวของ ศิริวัฒน์ ใจดี พลทหาร สังกัดสารวัตรทหารเรือ อายุ 21 ปี ที่เสียเมื่อ 2 ก.ค. แต่เพิ่งเป็นข่าวเมื่อช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากเพื่อนออกมาเปิดเผยว่าฝึกหนักมาก มีการสั่งให้วิ่งหลายรอบ ครูฝึกเตะขาด้วยรองเท้าคอมเแบทเข้าที่หน้า เพราะมองว่าสำออย นอกจากนี้ยังให้เพื่อนเอาไปวางไว้ที่กลางสนาม ไม่มีการปฐมพยาบาล จนพลทหารศิริวัฒน์เสียชีวิต​ จากการบอกเล่าของพี่สาวพลทหารศิริวัฒน์เป็นคนเรียนดี แต่ที่บ้านไม่มีเงิน จึงไปสมัครเป็นทหารเกณฑ์ หวังว่าจะสร้างเนื้อสร้างตัวได้ด้วยการรับราชการทหาร พี่สาวบอกด้วยว่าจากการชันสูตรของแพทย์ พบว่ากระดูกซี่โครงหัก และเพื่อนทหารหลายคนก็พร้อมเป็นพยานว่าเสียชีวิตจากการฝึก


“การจะเลี้ยงคนคนหนึ่งให้มีอายุถึง 21 ปี ท่านคิดว่าครอบครัวคุณพ่อคุณแม่ใช้เงินไปเท่าไหร่ครับ สังคมทั้งสังคมใช้เงินไปเท่าไหร่ ผมเป็นพ่อคนเหมือนกัน ผมนึกไม่ออกว่าถ้าเหตุการณ์แบบนี้เกิดกับลูกของผม ผมจะทำใจได้อย่างไร ผมจะมีแรงมีกำลังจิตกำลังใจใช้ชีวิตต่อไปหรือไม่ ถ้าเกิดขึ้นกับตัวผมเองผมไม่แน่ใจ” นายธนาธร กล่าว

นายธนาธร เล่าเรื่องที่ 3 คือเหตุการณ์ตากใบ ว่า เรื่องนี้เริ่มต้นจากการชุมนุมเพื่อประท้วง กรณีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน 8 คน ที่ถูกจับกุมในข้อหาส่งปืนให้กับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ผู้ชุมนุมประมาณ 1,000 คน มาชุมนุมด้วยมือเปล่า แต่รัฐกลับใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุม ทหารผู้บังคับบัญชาให้ผู้ชุมนุมนอนทับกันไปบนรถกว่า 3 ชั่วโมง มีคนเสียชีวิตกว่า 70 ราย ศาลชี้ให้เห็นว่าเกิดจากการขาดอากาศหายใจ ขณะอยู่ระหว่างการดำเนินคดีของเจ้าหน้าที่รัฐ ขณะที่ภาคประชาชนเรียกร้องครั้งแล้วครั้งเล่า กลับไม่มีความคืบหน้า จนกระทั่งคดีใกล้หมดอายุความ กลุ่มผู้สูญเสียจึงฟ้องใหม่อีกครั้ง มีการออกหมายจับทหารและตำรวจระดับสูง 7 คน แต่จนถึงวันนี้ อีก 19 วันจะหมดอายุความ ยังตามจับจำเลยมาขึ้นศาลไม่ได้แม้แต่คนเดียว 1 ในจำนวนนั้นคือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เป็นอดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ในขณะนั้น ซึ่งส่งหนังสือลาประธานสภาฯ ตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค. ถึง 31 ต.ค. อ้างว่าไปรักษามะเร็งที่ต่างประเทศ

นายธนาธร กล่าวว่า ตนยกตัวอย่าง 3 เรื่องนี้มาพูด เรายอมรับเหตุการณ์แบบนี้ได้อย่างไร 3 เหตุการณ์นี้มีความเหมือนกัน คือการดำรงอยู่ของวัฒนธรรมพ้นผิดลอยนวลในสังคมไทย คนที่ทำผิดไม่เคยถูกดำเนินคดีเลยสักครั้ง

“ผมคิดว่านี่เป็นความล้มเหลวทางสามัญสำนึกครั้งใหญ่ของสังคมไทย เจ้าหน้าที่รัฐที่ริดรอนสิทธิเสรีภาพประชาชน จนเข่นฆ่าชีวิตประชาชน ดำเนินคดีไม่ได้ นี่เป็นความล้มเหลวทางสามัญสำนึกครั้งใหญ่มากของสังคม” นายธนาธร กล่าว

นายธนาธร กล่าวอีกว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ความล้มเหลวของระบบ แต่เป็นความจำเป็นที่ระบบจะต้องมีวัฒนธรรมแบบนี้อยู่ ตนพยายามอย่างยิ่งที่จะมีส่วนร่วมในการสร้างประเทศไทยที่เป็นประชาธิปไตยที่มีสิทธิเสรีภาพ มีความเจริญก้าวหน้า มีความเสมอภาค เท่าเทียม ที่ผ่านมาตั้งแต่ตั้งพรรคการเมืองขึ้นมา วันนี้ถูกตัดสิทธิ์ไปแล้ว ตนเป็นจำเลยคดี ม.112 จำนวน 2 คดี แต่นี่ไม่ใช่เวลาของการท้อถอย

“สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2563-2564 แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเพดานความคิดของประเทศไทยก้าวหน้าไปมาก การเลือกตั้งปี 2566 ชัดเจนว่าเรื่องการแก้ไข ม.112 กลายเป็นเรื่องที่พูดกันได้อย่างแพร่หลายในสื่อหลัก ในการดีเบตครั้งสำคัญของการเลือกตั้ง แสดงให้เห็นว่าสังคมมันขึ้นไปไกลมาก มีความก้าวหน้า ดังนั้น นี่เป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นที่สุดในประวัติศาสตร์ ไม่เคยมีช่วงเวลาไหนในประวัติศาสตร์ ที่วาระก้าวหน้าแบบนี้จะถูกพูดอย่างแพร่หลายและถูกทำให้เป็นเรื่องสามัญ” นายธนาธร กล่าว

นายธนาธร กล่าวทิ้งท้ายว่า หลายคนผ่าน 6 ตุลาฯ มาแล้ว หลายคนผ่านอีกหลายเหตุการณ์ ถ้าที่ผ่านมาคิดว่าทำได้ดีที่สุดแล้ว ตนคิดว่ายังไม่พอ ตนเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญจะมาถึง ตนเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าการตื่นตัวทางการเมืองของประชาชนในวันนี้ไม่สามารถลบเลือนออกไปได้ง่ายๆ อยากให้ทุกคนเข้มแข็งและมีกำลังใจเดินหน้าต่อไป เพื่อสร้างสังคมที่มีเสรีภาพ มีอิสรภาพ มีภราดรภาพ.-319-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด

10 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ จากการตรวจสอบพบเป็นทุ่นใหม่ ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยภายหลังการรับมอบสิ่งของช่วยเหลือทหารและเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดน จากภาครัฐและเอกชน ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจ้าหน้าที่ทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ เมื่อวานว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นทุ่นใหม่ที่ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานเพื่อป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ก่อนที่จะถอนกำลังออกไป ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง จึงสั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความระมัดระวัง พร้อมใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักร เช่น รถไถ รถตักในการเคลียร์เส้นทางและค้นหาทุ่นระเบิดบุคคล เพื่อป้องกันไม่ให้กำลังพลได้รับอันตรายซ้ำ สำหรับพื้นที่แนวปะทะที่มีการวางกำลังของทหารกัมพูชายังถือว่าไม่ปลอดภัยสำหรับทหาร เนื่องจากมีการวางระเบิดไว้มาก ส่วนพื้นที่ชาวบ้านซึ่งอยู่นอกแนวชายแดนลึกเข้ามา ไม่น่าเป็นห่วงจากทุ่นระเบิดบุคคล แต่ยังมีความเสี่ยงจากจรวดที่ยิงเข้ามาแล้วไม่ระเบิด หากประชาชนพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ห้ามเข้าไปจับ ดึง หรือเก็บเอง อย่างไรก็ตาม พื้นที่ส่วนใหญ่ เช่น ภูมะเขือ อานม้า ซำแปร และตาเมือนธม ไทยสามารถครอบครองได้ […]

นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องชาติมากถึง 75%

กทม. 10 ส.ค.-นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องผลประโยชน์ชาติ จากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา มากถึง 75% แนะเปิดเจรจาทางการทูตสองฝ่ายจริงจัง รวมทั้งเห็นว่าไม่ควรรับผู้ป่วยชาวกัมพูชาทุกคน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไปต่อแบบไหนดี” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เกี่ยวกับความไว้วางใจและความพอใจต่อบทบาทของภาคส่วนต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา พบว่า -กองทัพ ตัวอย่าง ร้อยละ 75.73 ระบุว่า ไว้วางใจมาก รองลงมา ร้อยละ 19.31 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ ร้อยละ 3.66 ระบุว่า ไม่ค่อยไว้วางใจ ร้อยละ 1.07 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจเลย และร้อยละ 0.23 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ -กระทรวงการต่างประเทศ ตัวอย่าง ร้อยละ 41.76 […]

พบหลุมระเบิดที่กัมพูชายิงใส่ไทย 824 หลุม ใน 4 จังหวัดชายแดน

กทม. 10 ส.ค.-เพจกองทัพบก ทันกระแส โพสต์เจ้าหน้าที่ EOD เข้าเก็บกู้ระเบิด พบหลุมระเบิดที่เกิดจากฝีมือกัมพูชามากถึง 824 หลุม ใน 4 จังหวัดชายแดนไทย ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล เพจเฟซบุ๊ก “กองทัพบก ทันกระแส” โพสต์ว่า เจ้าหน้าที่ EOD เข้าพื้นที่เก็บกู้ระเบิด พบหลุมระเบิดที่เกิดจากฝีมือกัมพูชามากถึง 824 หลุม ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล ซึ่งสร้างความเสียหายและความหวาดกลัวให้ประชาชน ที่กำลังทยอยกลับเข้าพื้นที่เพื่อสำรวจความเสียหายของบ้านพักอาศัย ข้อมูลที่เพจโพสต์แสดงให้เห็นถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นใน 4 จังหวัดชายแดน ได้แก่ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ซึ่งเป็นผลจากการยิงอาวุธของกัมพูชาใส่เป้าหมายพลเรือน ทำให้ประชาชนในพื้นที่ต้องอพยพหนีภัยสงคราม และหากสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง ประชาชนเริ่มกลับเข้าสู่พื้นที่ตนเอง แต่ต้องเผชิญกับอันตรายจากระเบิดที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ EOD ทำงานอย่างหนัก เพื่อเร่งเก็บกู้ระเบิดให้แล้วเสร็จ เพื่อให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยในบ้านของตนเองอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ชวนชมดวงไฟประดับรอบกรุงเทพฯ วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม

ทำเนียบ 10 ส.ค.-รัฐบาลเชิญชวนชมความงดงามของดวงไฟประดับรอบกรุงเทพฯ ในโอกาสเฉลิมพระเกียรติ วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง วันที่ 12 สิงหาคมของทุกปี (วันแม่แห่งชาติ) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง ร่วมใจกัน ติดตั้งไฟประดับทั้ง 2 ข้างทาง เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ขอเชิญชวนประชาชนได้ร่วมสัมผัสความงดงามของดวงไฟประดับ เนื่องในโอกาสมหามงคลนี้ โดยการไฟฟ้านครหลวง ได้ดำเนินการติดตั้งไฟประดับจำนวนกว่า 2 ล้านดวง เพื่อประดับในสถานที่ต่าง ๆ ได้แก่ พระที่นั่งอัมพรสถาน วังศุโขทัย พระบรมมหาราชวัง บริเวณท้องสนามหลวง รอบพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วังสระปทุม พระที่นั่งอนันตสมาคม ลานพระบรมรูปทรงม้า สนามเสือป่า ทำเนียบองคมนตรี กระทรวงมหาดไทย ถนนราชดำเนินใน ถนนราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินนอก ถนนศรีอยุธยา ตั้งแต่วันนี้ – […]