นายกฯ เผยผลสำเร็จเวที ACD ครั้งที่ 3

กาตาร์ 3 ต.ค.- นายกฯ เผยผลสำเร็จประชุม ACD ครั้งที่ 3 หลายประเทศยกไทยมีระบบบริการสุขภาพที่ดี เดินหน้าสานต่อการค้าการลงทุน ประเทศสมาชิกยินดีไทยเป็นประธานปี 68 พร้อมประกาศจุดยืนความเป็นกลาง-เกิดสันติสุขในสถานการณ์ตะวันออกกลาง ชี้ไม่อยากให้ชีวิตที่บริสุทธิ์ต้องสูญเสีย


เมื่อเวลา 13.50 น. ตามเวลาท้องถิ่นรัฐกาตาร์ ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผลความสำเร็จการประชุมระดับผู้นำกรอบความร่วมมือเอเชีย Asia Cooperation Dialogue หรือ ACD ครั้งที่ 3 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในเวทีต่างประเทศภายหลังเข้ารับตำแหน่ง ว่า ได้รับการต้อนรับอย่างดีมาก และได้พูดคุยกับผู้นำหลายประเทศ ซึ่งทุกคนได้พูดถึงว่าประเทศไทยเป็นผู้ริเริ่มการประชุม ACD โดยการประชุมเคยเกิดขึ้นแล้วเมื่อหลาย 10 ปี ซึ่งการประชุมในครั้งนี้ทำให้ประเทศในภูมิภาคเอเชียได้มาพบปะพูดคุยและได้ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยทุกคนมีความมุ่งมั่น และอยากร่วมลงทุนกับประเทศไทย รวมถึงหลายประเทศ ยังบอกว่า ไม่ได้การลงทุนโครงการ ใหญ่ๆ ร่วมกันมานานแล้ว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ผู้นำหลายประเทศได้สอบถาม ว่าประเทศไทยสนใจเรื่องเทคโนโลยีและ AI อย่างไร ซึ่งหลายประเทศพูดถึงการที่บริษัท Google มาลงทุนกับประเทศไทย เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ซึ่งพบว่าประเทศในภูมิภาคเอเชียมีความสนใจเรื่อง AI เป็นหลัก รวมถึงจะนำ AI เข้าสู่ระบบการศึกษา


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมได้รองรับปริญญาโดฮา ซึ่งวันนี้ตนได้กล่าวถึง กรอบความร่วมมือ ACD โดยประเทศสมาชิกต้องเผชิญกับความท้าทายทางภูมิรัฐศาสตร์ ในฐานะผู้ริเริ่ม มีความประสงค์ให้พัฒนา จากการสนทนาแลกเปลี่ยน ให้เป็นในระดับเวทีการประชุมของเอเชีย พร้อมยึดหลักเดิม สำหรับประเทศที่มีความไม่สงบเกิดขึ้น

“ไทยได้ยืนยันตัวตน ว่าเป็นผู้ส่งเสริมสันติภาพ และความมั่งคั่งร่วมกัน เพื่อยืนยันว่าไทยไม่ได้สนับสนุนความรุนแรง และมีกฎนานาชาติที่ต้องเคารพ พร้อมอยากให้เกิดสันติภาพในทุกประเทศทั่วโลก หากเราเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้เกิดสันติภาพในโลกนี้ได้ ก็พร้อมที่จะสนับสนุน รวมถึงเน้นการปกป้องชีวิตที่บริสุทธิ์ ให้เป็นไปตามกฎบัตรสหประชาชาติระหว่างประเทศ ถือเป็นข้อความที่เราส่งถึงทุกประเทศสมาชิก” นางสาวแพทองธาร กล่าว

ทั้งนี้ ในระหว่างงานเลี้ยงรับรองอาหารกลางวัน ให้กับผู้นำประเทศที่เข้าร่วมการประชุม เป็นเวทีที่เปิดกว้างอย่างไม่เป็นทางการให้กับผู้นำประเทศ ได้มาแลกเปลี่ยนและและนำเสนอความคิด โดยไทยได้เสนอ ความพร้อม เรื่องความมั่นคงทางด้านอาหาร หรือ food security ซึ่งหลายประเทศ ได้บอกเป็นเสียงเดียวกัน ว่าประเทศไทยมีระบบบริการสุขภาพ หรือ wellness ที่ดี จึงอยากให้ไทยไปลงทุน


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเทศสมาชิกได้แสดงความยินดีที่ไทยจะเป็นประธาน ACD ในปี 2568 ซึ่งไทยจะทำอย่างเป็นเต็มที่

ส่วนการหารือทวิภาคีกับประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน โดยหารือการค้า การลงทุน ระหว่างกัน โดยอิหร่านสนใจเรื่องเทคโนโลยี โดย ผู้นำอิหร่านได้พูดคุยถึงสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง โดยประเทศไทยได้แสดงจุดยืน ว่าไม่อยากให้มีชีวิตที่บริสุทธิ์ต้องสูญเสียไป และอยากให้โลกสงบสุข และตนได้ พูดคุยกับประธานาธิบดีอิหลานว่าการประชุม ACD ได้แสดงให้เห็นถึงพลังความช่วยเหลือกัน เรื่องเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ที่แต่ละประเทศมี และตนได้สะท้อนว่า ความช่วยเหลือแบบนี้ที่อยากให้เกิดกับทั่วโลก เพื่อจะได้เกิดความสงบสุข โดยได้แสดงจุดยืนว่าไทย ไม่ได้ไปเข้าข้าง ประเทศใดประเทศหนึ่ง และพร้อมที่จะเป็นตัวกลาง หากจะมีการพูดคุยให้เกิดสันติ

นอกจากนี้ ยังได้พูดคุยกับผู้ครองรัฐกาตาร์ โดยเฉพาะเรื่องความมั่นคงทางอาหาร ที่ไทยมีความพร้อมเรื่องสถานที่ ในการเก็บรักษาอาหาร หากกาตาร์มีความสนใจสั่งซื้ออาหารจากไทย โดยเฉพาะในช่วงเกิดสถานการณ์ที่เกิดความไม่สงบ ไทยพร้อมที่จะส่งอาหารได้ทันที ทำให้หลายประเทศเองก็สนใจ ซึ่งจะให้กระทรวงพาณิชย์ไปดำเนินการต่อ รวมถึงต้องการให้ไทยสนับสนุนอาหารฮาลาล รายการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ

นายกรัฐมนตรี ระบุว่าได้พบปะกับประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐทาจิกิสถาน ซึ่งอยากยกระดับความสัมพันธ์การค้าการลงทุนกับไทย การท่องเที่ยว และชื่นชมระบบสาธารณสุขของไทย อีกทั้ง ประธานาธิบดีทาจิกิสถาน ได้ชื่นชอบอาหารซีฟู้ดของไทย เนื่องจากเคยเดินทางไปที่จังหวัดกระบี่

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีโอกาสเข้สเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท มกูฎราชกุมารและรองเจ้าผู้ครองรัฐคูเวต ซึ่งได้แสดงความยินดีกับไทยจะเป็นประธาน ACD โดยไทยได้เชิญชวนให้ประเทศคูเวตมาลงทุนโครงการแลนด์บริด รไทยแล้วคูเวตไม่ได้มีการลงทุน โครงการใหญ่ๆ ร่วมกันมานานแล้ว

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าเวทีนี้ไทยได้รับประโยชน์ อย่างมาก และยกระดับความสัมพันธ์ กับประเทศสมาชิก ทั้งเรื่องงานและได้พูดคุยเปิดใจ ในระดับผู้นำ ทำให้มีความใกล้ชิดกัน

“เชื่อว่าจะทำให้เข้าใจกันได้มากขึ้น และเป็นประโยชน์ หากต้องขอความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพราะได้มองเห็นความตั้งใจ ที่มีให้ประเทศของตัวเอง และเป็นเวทีที่ดีมาก หากประเมินทีมทั้งหมดในการพูดคุยกับประเทศต่างๆ อย่างเต็มที่ เป็นโอกาสที่ดีมาก ซึ่งผู้นำได้เชิญให้ตนเดินทางเยือนในหลายประเทศ และได้เร่งรัดอยากให้มีการลงทุนร่วมกัน และเมื่อกลับที่ประเทศไทยจะต้องวางแผนให้ชัดเจนและสานต่อทันที โดยเน้นเรื่องเทคโนโลยี ที่ทุกประเทศให้ความสนใจเป็นอันดับแรก แล้วเรื่องของอาหารที่ไทยมีความพร้อมอยู่แล้ว ซึ่งต้องมีการจัดระเบียบเพื่อหารายได้ เข้าประเทศเพิ่มขึ้น” นางสาวแพทองธาร กล่าว .315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สื่อเกาะติด! นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก ถกผลประชุม JBC

บ้านพิษณุโลก 16 มิ.ย.- นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก เรียกถกหน่วยงานความมั่นคง หารือผลประชุม JBC กำหนดแนวทางแก้ปัญหาข้อพิพาทพื้นที่ชายแดน ท่ามกลางสื่อมวลชนเกาะติดสถานการณ์ใกล้ชิด ความเคลื่อนไหวของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เช้าวันนี้ (16 มิ.ย.) ได้แจ้งเลื่อนภารกิจการให้ นางสาวสุชาตา ช่วงศรี Miss World 2025 และคณะ Miss World เข้าคาราวะ ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 10.00 น. ไปเป็นวันพรุ่งนี้ (17 มิ.ย. 68) โดยนายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมด่วนหน่วยงานด้านความมั่นคง ถึงกรณีผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 หรือ The Sixth Meeting of The Cambodian-Thai Joint Commission on Demarcation for […]

‘รองแม่ทัพภาค 2’ โพสต์ 5 หมายเหตุ สะท้อนปมชายแดน

16 มิ.ย.- ‘รองแม่ทัพภาค 2’ โพสต์หมายเหตุ 5 ข้อ สะท้อนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจรจา JBC พร้อมตั้งคำถาม “คุยกันดีๆ แล้วทำไมต้องฟ้องศาลโลก?” พลตรี ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 โพสต์หมายเหตุ 5 ประเด็น สะท้อนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา

กต.แถลงผิดหวังกัมพูชาไม่ร่วมมือไทย ขาดความตั้งใจแก้ปัญหา

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กต.แถลงผิดหวังกัมพูชาไม่ร่วมมือไทย แก้ปัญหาลดความตึงเครียด ขาดความตั้งใจจริงในการใช้กลไกทวิภาคี บนพื้นฐานเพื่อนบ้านที่ดี พร้อมโต้ทุกประเด็นที่ถูกกล่าวหา เมื่อ 22.30 น. กระทรวงการต่างประเทศของไทย ออกแถลงการณ์ผลการประชุม JBC ทั้งที่เดิมนัดสื่อเเถลงวันนี้ (16 มิ.ย.) ระบุว่าการหารือมีความคืบหน้าสำคัญ 4 เรื่อง ซึ่งหลักๆ ทั้ง 4 เรื่องในคำเเถลงออกมาตรงกัน ซึ่งการรับรองผลการประชุม JTSC ครั้งที่ 4 สองฝ่ายเห็นตรงกันต่อตำแหน่งที่ตั้งของหลักเขตถึง 45 หลัก และเห็นชอบให้นำเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ในการจัดทำภาพถ่ายทางอากาศเพื่อความรวดเร็วในการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน ซึ่งในการเห็นชอบให้เเก้ไขแผนแม่บทว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างไทยกับกัมพูชา จัดทำขึ้นเมื่อปี 2546 (TOR 2003) ก็นำเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ในการจัดทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศเช่นกัน ส่วนในข้อ 4 เห็นชอบให้มีการจัดทำข้อกำหนดทางเทคนิคการเดินสำรวจในพื้นที่ตอนที่ 6 ไทยลงรายละเอียดว่า เป็นพื้นที่จากเขาสัตตะโสม จนถึงหลักเขตแดนที่ 1 ช่องสะงำ จังหวัดศรีสะเกษ โดยมอบหมาย JTSC […]

อุตุฯ เผยไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 40%

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 40% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส .-สำนักข่าวไทย