“โรม” ตั้งกระทู้ถาม “ภูมิธรรม” แสดงความจริงใจคดีตากใบ

รัฐสภา 3 ต.ค.- “โรม” ตั้งกระทู้เดือดถาม “ภูมิธรรม” ซัดแรง อย่างน้อยช่วยเสแสร้งแสดงความจริงใจคดีตากใบ ปูดตำรวจพยายามเป่าคดีจนหมดอายุความ ด้าน “ภูมิธรรม” ตอกกลับอย่าใช้ความรู้สึกรุนแรง สร้างความแตกแยกต่อ ไม่ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ยันรัฐบาลเสียใจต่อเหตุที่เกิดขึ้น-เร่งรัดตามจับกุมผู้ต้องหา-ไม่มีแทรกแซงกระบวนการ


การประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ (3ต.ค.) มีนายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาถามสดของนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ที่ถามนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถึงคดีตากใบที่กำลังจะหมดอายุความในวันที่ 25 ตุลาคม 2567 เรื่องนี้ส่งผลต่อความเชื่อมั่น รัฐบาลจะมีการสร้างความเชื่อมั่นอย่างไรเพราะระหว่างให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเรื่องนี้ ยังปรี๊ดแตก!

นายภูมิธรรมชี้แจงว่า ปัญหาชายแดนใต้การแก้ไขต้องเริ่มต้นจากการใช้เหตุผลและต้องดูปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างครบมิติ ไม่ใช่เริ่มต้นจากความดุเดือดเผ็ดร้อน หรือมองประเด็นด้านลบด้านเดียวเพราะทุกเรื่องไม่ได้มีเฉพาะแค่ว่าเจ้าหน้าที่ทำแบบนี้ ตรงนี้ตายแบบนี้แต่มีองค์ประกอบหลายเรื่อง จึงอยากให้ท่านใจเย็น ดูเหตุผล และเรื่องราวให้ชัดเจน


ส่วนเรื่องที่หาว่าตนปรี๊ดแตก ตนมองว่าใช้คำรุนแรงเกินไป ตอนนั้นตนกำลังแถลงข่าวเรื่องความเสียหายน้ำท่วมอยู่และผู้สื่อข่าวพยายามที่จะถามเรื่องนี้ ตนจึงขอคุยเรื่องน้ำท่วมให้จบก่อน ไม่ได้หมายความว่าเรื่องไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องตากใบ ทุกเรื่องมีความสำคัญแต่รัฐบาลต้องทำเรื่องเร่งด่วน ขณะนั้นน้ำกำลังท่วมโคลนกำลังถล่มบ้านเรือนประชาชนจึงอยากจะเคลียร์เรื่องนั้นให้ชัดเจนก่อน จึงอยากให้เข้าใจว่าตนไม่ได้มีอาการปรี๊ดแตกหรือรู้สึกเกิดโกรธกับคำถามเหล่านั้น ดังนั้นหากเป็นไปได้อยากให้ใช้คำพูด หรือการมองอย่างมีเหตุผล ไม่ใช่มองอารมณ์ความเป็นฝ่ายค้านอย่างเดียว

นายภูมิธรรม กล่าวว่าสำหรับเหตุการณ์ตากใบ เราทุนคน ตนเองก็เสียใจไม่อยากมีใครเห็นประชาชนหรือผู้ชุมนุมเสียชีวิตมากขนาดนี้ เสียใจกับเหตุการณ์เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นและคงต้องนำบทเรียนนั้นมาดูว่าอะไรที่มีปัญหา ไม่ใช่เสียใจเพราะว่าตนเองไปกระทำผิด ตากใบเกิดเมื่อปี 2547 จะครบ 20 ปีแล้ว จริงๆแล้วมันมีความจริงในหลายมิติเข้ามาเกี่ยวข้อง มีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในรายละเอียดอีกมาก หากไปอ่านรายงานจริงๆ และรายงานก็สรุปว่าทุกคนที่อยู่บนรถนั้นเสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจเป็นหลักจำนวน 78 ราย เป็นเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์เราไม่อยากให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ควรที่จะให้ความเป็นธรรมเ พราะไม่ใช่ว่าเป็นเหตุการณ์ที่ตั้งใจจะฆ่ากัน และไม่มีเจตนา แต่เป็นความสับสนอลม่าน แต่อย่างไรก็ตามรัฐบาลต้องยอมรับในสิ่งเหล่านี้และจะต้องแก้ปัญหาต่อไป

ส่วนเรื่องการดำเนินคดี ที่มองว่าญาติผู้เสียชีวิตต้องเสี่ยงชีวิตขึ้นมาร้องขอความเป็นธรรมนั้นอยากให้ มองโลกมองสังคมให้มันเบานิดนึง และมองตามความเป็นจริงแล้วปัญหาภาคใต้จะแก้ไขได้มากกว่านี้ และในสมัยรัฐบาลนส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้มีการเยียวยาไปแล้ว ทั้งหมดนี้เรามองว่าไม่ควรจะเกิดขึ้นและควรใช้เป็นอุทาหรณ์มากกว่าเป็นใช้เครื่องมือและมองว่ารัฐบาลตั้งใจจะฆ่าประชาชน หรือรัฐบาลเห็นใจเห็นคุณค่าในชีวิตประชาชน ยืนยันว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราเสียใจ เราไม่อยากให้เกิดขึ้นแต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจากความสับสนอลม่าน เมื่อเกิดขึ้นแล้วการเดินทางกฎหมายก็ต้องว่ากันไป แต่ผู้ถูกกล่าวหาในขณะนี้ยังหาตัวไม่ได้ แต่ยอมรับว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องให้กระบวนการยุติธรรมได้ทำหน้าที่ และให้บรรลุเร็วที่สุด


นายภูมิธรรม กล่าวว่าขณะนี้เราได้มีการปรับนโยบายเพื่อไม่ให้เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้น เพราะเมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นก็มีผู้ไม่ปรารถนาดีมีการหยิบประเด็นนี้ขึ้นมาพูดจนเกินจริง แต่สิ่งสำคัญคือจะทำอย่างไรไม่ให้เกิดขึ้นอีกแล้วมาช่วยกันดูมาตรการมากกว่านำประเด็นนี้มาโจมตีรัฐบาลหรือนำไปพูดจนเกิดความแตกแยกกว่านี้ ถ้าเราช่วยกันได้ก็อยากขอร้องมาช่วยกันและมองอย่างสร้างสรรค์ในการแก้ปัญหาเพราะวันนี้รัฐบาลพยามปรับหลายด้านเนื่องจากเหตุการณ์นี้มีการหยิบไปพูดเกินเลยกว่าความเป็นจริงทำให้ความเข้าใจประชาชนเกินเลย สิ่งที่รัฐบาลพยามทำคือพยามปรับวิธีการทำงานไปสู่ความสันติสุขมีการเจรจากับผู้ก่อการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ปัญหามันยังมีอีกมาก ยืนยันว่ากระบวนการดำเนินคดีตนได้กำชับทุกส่วนที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินดำเนินการตามกฏหมาย อยากให้ประเด็นนี้ทำให้เกิดความสร้างสรรค์เพื่อช่วยกันแก้ปัญหาในพื้นที่สามจังหวัดดัดแดนภาคใต้ที่มันทวีความรุนแรงดีกว่าใช้ประเด็นนี้มาพูดและพยามที่จะเขียนหาคำตอบและโยงไปตั้งแต่พรรคในโบราณมาจนถึงปัจจุบันทำให้เกิดความขัดแย้งโดยเปล่าประโยชน์ขอให้มีแต่ความสร้างสรรค์

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า หากวันนี้ยังไม่แสดงถึงความจริงใจให้คนในพื้นที่รู้สึกได้วันนี้จะแก้ปัญหาได้อย่างไร 20 ปีคนตายขณะนี้จะอยู่เฉยได้อย่างไรกับเวลาที่เหลืออยู่ 22 วัน “ประธานโทษครับท่านยังมีหัวใจอยู่หรือเปล่า” พร้อมกันนี้ยังได้เปรียบเทียบเหตุการณ์ตากใบ ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2547 กับเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 และรู้สึกเจ็บปวดต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผมรู้ดีว่าเหตุการณ์หกตุลายังไม่ได้รับความเป็นธรรมเป็นสิ่งที่ต้องทวงกันต่อไป แต่เราจะทำให้เหตุการณ์ตากใบเกิดขึ้นแบบนี้ด้วยหรือ “ท่านมองกระจกแล้วท่านยังจำตนเองได้อยู่หรือเปล่า” วันนี้คำถามสำคัญคือมีความพยายามเป่าคดี วันนี้มันมีความพยายามในการช่วยกันและคนที่ช่วยกันคือตำรวจท่านจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร ในฐานะที่กำกับดูแลตำรวจ

นายภูมิธรรมชี้แจงว่าถ้าบอกว่าหัวใจท่านรู้สึกเจ็บปวดวันนี้ตนก็รู้สึกไม่แตกต่างจากท่านเพียงแต่วันนี้ผมมีความรู้สึกที่ต้องคำนึงถึง อาจจะเพราะประสบการณ์มากกว่า แก่กว่าท่าน ถึงได้มองเรื่องนี้ไม่ได้มองเพียงจุดเดียว แต่มองหลายจุดประกอบกันและมองอย่างเป็นธรรมถึงจะแก้ปัญหาได้ ตนเข้าใจดีถึงอารมณ์ความรู้สึกรุนแรง แต่ตนอยากจะบอกว่าความรู้สึกรุนแรงที่พูดออกมามันไม่ช่วยแก้ปัญหาความรุนแรงความขัดแย้งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แค่การแสดงออกต่อหน้าแล้วให้สื่อมวลชนรับทราบไม่ได้ทำให้ปัญหาความรุนแรงขึ้นได้ แต่ต้องใช้สติเรื่องนี้ เรายอมรับกับเหตุการณ์เศร้าสลดและเสียใจถามว่าเราดูแลเยียวยาหรือไม่เราดูแล มีการดูแลเยียวยาแต่เงินไม่ได้สำคัญกับชีวิตคนที่เสียไปแต่มันแสดงว่าเราพยายามได้ดูแลแก้ไข แต่กระบวนการทั้งหมดไม่ได้มีเฉพาะตำรวจอย่างเดียวและการที่ที่ตนมาดูตำรวจก็ไม่ได้หมายความว่าจะปกป้องตำรวจ สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นไปตามกระบวนการ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็เป็นไปตามที่แพทย์นิติเวชรายงาน แต่ความรับผิดชอบก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการทางกฎหมาย ถ้าจัดการตามอารมณ์ทุกเรื่องในประเทศก็อลวนไปหมดเพราะฉะนั้นต้องให้ศาลตัดสินให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฏหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็เร่งดำเนินการอยู่ขอให้ท่านใจเย็นๆนิดหนึ่งและมาดูว่าเรื่องนี้จะคลี่คลายให้เกิดความเป็นธรรมอย่างไรและความเป็นธรรมนั้นก็มีทั้งสองฝ่ายทั้งญาติผู้เสียชีวิตและผู้ที่ถูกกล่าวหาและยังไม่แน่ใจว่าเขาจะเป็นผู้ที่จะต้องรับผิดชอบจริงๆหรือไม่ทั้งหมด ก็อยู่ที่กระบวนการยุติธรรมหย่าด่วนเอาตัวเองเป็นคนตัดสิน

นายรังสิมันต์โรม กล่าวว่า ถ้าผมเป็นท่านผมจะไม่เอาเรื่องประสบการณ์และอายุมาพูด เพราะ ไม่มีนัยยะอะไร แค่ท่านแสดงความเป็นเป็นผู้ใหญ่กดหัวเด็กคิดแค่นี้ ซึ่งสะท้อนถึงวิธีคิดของท่านจริงๆและตนไม่แปลกใจจริงๆว่าเหตุการณ์หลายหลายเหตุการณ์ในประเทศนี้ยังเป็นแบบนี้ ส่วนเรื่องเงินเยียวยาคือเงินภาษีของประชาชนทั้งประเทศตนสนับสนุนให้มีการเยียวยาแต่ต้องไม่ลืมสถานะความเจ็บปวดเท่ากับว่าประชาชนทั้งประเทศต้องแบกรับจ่ายเงินให้กับความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ คนเราอยู่ๆไม่ได้ขาดอากาศหายใจเองและเอกสารในรายงานชัดเจนว่าการขาดอากาศหายใจไม่ได้มีใครเอาถุงไปครอบแต่เกิดจากการซ้อนทับกันไปเรื่อยๆ

ตนทราบดีว่าวันนี้มีการดำเนินคดีในศาลมีสส.บัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทยถูกดำเนินคดีด้วยตนทราบดีว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นและทราบดีว่ากระบวนการวันนี้ยังไม่ถึงไหนยังมีการบังคับใช้กฎหมายที่จะนำตัวใครก็ตามมาดำเนินคดีทางกฎหมาย แต่ตนอยากจะฝากว่าวันนี้ประชาชนคิดอยู่อย่างว่าท่านและพรรคการเมืองของท่านที่เป็นรัฐบาลก็ต้องการให้เรื่องมันจบแบบนี้ จบแบบขาดอายุความ เพราะเมื่อไหร่ที่ขาดอายุความ ก็จะไม่มีการสืบพยานไม่มีคำให้การถ้ามีกระบวนการเหล่านี้เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นการสืบพยานและคำให้การสุดท้ายจะชี้ไปที่บุคคลที่ใหญ่กว่านั้นหรือไม่ตนอยากจะฟังทัศนะของท่านรองนายกรัฐมนตรีว่าตกลงแล้วท่านอยากจะให้คดีจบแบบนี้หรือไม่

นายภูมิธรรมชี้แจงคำถามสุดท้าย ว่า คำถามที่อภิปรายมีเรื่องน่าตอบมากกว่าคำถามจริงๆของท่านเพราะคำถามจริงๆของท่านดูเหมือนท่านไม่ค่อยใส่ใจที่จะถามท่านมัวแต่สนใจที่จะดิสเครดิตพรรคการเมืองของรัฐบาลสนใจที่จะดิสเครดิตผู้ใหญ่ตนมองว่าตรงนี้ไม่เหมาะสม และที่ท่านบอกว่าตนชอบอ้างประสบการณ์ ตนพูดถึงประสบการณ์เรื่องอารมณ์ไม่ได้พูดถึงเนื้อหาเพราะถ้าพูดถึงเนื้อหาเราก็ตัดสินได้ตามเนื้อหาแต่ไม่ใช่ใช้อารมณ์ฉุนเฉียวพูดถึงปัญหาที่ก่อให้เกิดความแตกแยกต่อไปซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งที่น่าห่วงและอีกอย่างอยากจะบอกท่านว่าจริงใจหรือไม่จริงใจไม่ได้ดูจากการอภิปรายตามที่ท่านพูด แต่จริงใจหรือไม่จริงใจดูที่การกระทำ และเรื่องนี้เป็นกระบวนการยุติธรรม ไม่ได้เกี่ยวกับตำรวจแต่เกี่ยวกับทุกฝ่าย และเรื่องขณะนี้อยู่ในศาลเราพยามทำหน้าที่อย่างดีที่สุดทำได้ก็คือเร่งรัดการตามจับกุมตัวให้ได้แต่ก็ต้องยอมรับว่าไม่ใช่ง่าย และหากท่านมีหลักฐานชัดเจนว่าตำรวจดึงเรื่องก็ขอให้ว่ามาตนจะตรวจสอบให้แต่อย่าไปคิดเองว่าศาลจะเป็นอย่างนั้นอัยการจะเป็นอย่างนี้ตำรวจจะเป็นอย่างนั้นและพรรคการเมืองของตนจะเป็นแบบนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ควรควรจะเอาเรื่องที่เป็นสาระจริงๆมาคุยกันตนไม่อยากจะคุยเรื่องอารมณ์ และเรื่องการกล่าวหาโดยไม่มีเหตุผล

อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่นายรังสิมันต์ ได้ตั้งกระทู้ถามนายภูมิธรรมนั้น ทันตแพทย์หญิงศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้ประท้วงเป็นระยะโดยอ้างว่า นายรังสิมันต์ อภิปรายมากกว่าการตั้งคำถาม พยายามเสียดสีพาดพิงกล่าวหาถึงพรรคการเมืองไม่มีความจริงใจในการแก้ปัญหา ทั้งที่ตนก็เป็นกรรมาธิการการกฎหมายฯ และได้รับฟังเรื่องคดีตากใบ ฉะนั้น จะกล่าวหาพรรคการเมืองของรัฐบาลไม่จริงใจไม่ได้ เพราะความจริงใจเป็นสาธารณะ ไม่ใช่ที่นายรังสิมันต์จะเอาความจริงใจไว้คนเดียว ดังนั้น จะกล่าวหาใครไม่จริงใจไม่ได้ และขอให้ตั้งกระทู้ถามให้อยู่ในคำถามด้วย

ขณะที่ประธานในที่ประชุม ก็ได้มีการตักเตือนนายรังสิมันต์หลายครั้งเนื่องจากผิดข้อบังคับ และภายหลังการตั้งกระทู้ถามเสร็จสิ้น นายรังสิมันต์ ได้พยายามประท้วงการตอบกระทู้ถามของนายภูมิธรรม เพราะเห็นว่า การตอบกระทู้ถามของนายภูมิธรรม พาดพิงถึงตนเอง แต่นายภราดร ได้พยายามตัดบทเพื่อเข้าสู่วาระกระทู้ถามถัดไป จนทำให้นายรังสิมันต์ ได้ประท้วงการทำหน้าที่ของนายภราดรว่า ไม่มีความเป็นกลาง ก่อนที่นายภราดร จะย้อนว่า “ไม่เป็นกลางเพราะตนเอื้อให้นายรังสิมันต์มากเกินไป หรืออย่างไร” และย้ำว่า เวลาการตั้งกระทู้ถามของนายรังสิมันต์หมดแล้ว.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ถอยหนีชนดะ

ขอนแก่น 3 มิ.ย. – ระทึก ผู้ต้องหาถอยรถหนี ชนจยย.สายตำรวจ ขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนจนมุมรถไถลข้ามเลนพลิกตะแคง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์สีขาวจอดคุยกับชายคนหนึ่งที่ยืนริมถนนกสิกรทุ่งสร้าง หน้าตลาดจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหลังล้ม 2 คัน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนีจนไปชนกับรถคันอื่นอย่างแรง แล้วไถลข้ามเลนพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง เมื่อเวลา 22.45 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) คนขับปีนออกจากหน้าต่าง มีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากรถ หลังจากนั้นตำรวจพาเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และมีชายอีกคนออกมาจากหน้าเป็นรายที่สอง ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ข้างทาง ต่อมา รถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุและทำการปฐมพยาบาลทั้งชายสองคนและสายลับที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ภายในรถมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ ก่อนจะคุมตัวขึ้นรถกระบะไป สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งานดี ผู้กำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนนายณัฐพล อายุ 37 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านเฟซบุ๊กให้กับลูกค้าทั่วไปที่สั่งซื้อ จึงวางแผนล่อซื้อ […]

ทรงพระเจริญ

ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี ร่วมแปรอักษร แสดงพลังความจงรักภักดี

สงขลา 2 มิ.ย. – จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” ประชาชนกว่า 5,000 คน ร่วมแปรอักษร “ทรงพระเจริญ คนสงขลารักพระราชินีฯ” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ย้ำรัฐบาลยึดหลักอธิปไตย-ประโยชน์สูงสุดของประเทศ

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – นายกฯ ย้ำรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ วันนี้ (4 มิ.ย.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ “ดิฉันขอย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และได้บูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานความมั่นคง เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้าน” นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เรารวบรวมข้อมูลจากทั้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ภาพแผนที่จากเทคโนโลยีและการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนพิจารณาอย่างเคร่งครัดภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายคือการปกป้องอธิปไตยของชาติและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ หากมีความคืบหน้า รัฐบาลจะมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดเป็นระยะ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้านต่อไป.-314-สำนักข่าวไทย

ม็อบรถบัส 2 ชั้น ขู่บุกกรุง ค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า

ตรัง 4 มิ.ย. – ม็อบรถบัส 2 ชั้น ชุมนุมคัดค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า อ้างไม่ชอบ กม.-เส้นทางไม่เข้าหลักเกณฑ์กำหนด ขู่เคลื่อนขบวนพันคันบุกกรุง หากไม่ได้รับแก้ไข บริเวณอันดามันเกตเวย์ บนเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 เขาพับผ้า เครือข่ายผู้ประกอบการรถบัส 2 ชั้น ในนามสมาคมรถโดยสารสองชั้นไทย กว่า 100 คัน พร้อมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ราว 200 คน ชุมนุมคัดค้านคำสั่ง กรมการขนส่งทางบกที่ห้ามรถบัส 2 ชั้นใช้เส้นทาง 7 แห่งทั่วประเทศ การชุมนุมครั้งนี้ เป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการจากทั้งภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออก เพื่อประท้วงคำสั่งที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.68 สำหรับรถทัวร์ และวันที่ 1 มิ.ย.68 สำหรับรถประจำทาง โดยชูป้ายข้อความต่างๆ รวมถึงการเรียกร้องให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและอธิบดีกรมการขนส่งทางบกลาออกจากตำแหน่ง นายสุริยะ แกล้วทนงค์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นไทย เปิดเผยว่า การสำรวจเส้นทางเขาพับผ้า พบว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ต้องประกาศห้าม เนื่องจากมีความลาดชัน 8% […]

หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้า กลับลำ ยันไม่มีคนในชี้เป้า

กทม. 4 มิ.ย. – คุมตัว “แบงค์” หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลางกรมศุลฯ ทำแผน เจ้าตัวกลับลำอ้างลงมือครั้งแรก ไม่มีใครชี้เป้า ปัดเจตนาชน รปภ.ดับ กลางดึกที่ผ่านมาตำรวจ สน.ท่าเรือ พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ กว่า 20 นาย ควบคุม 5 ผู้ต้องหาแก๊งปล้นบุหรี่ไฟฟ้า ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณ ตู้คอนเทนเนอร์ ในโกดังสเตเตียม ถนนท่าเรือ 1 เขตคลองเตย จากนั้นในช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนไปฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ส่วนนายแบงค์ หัวโจก พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอย่างเงียบๆ เพราะเกรงว่านายแบงค์จะถูกญาติ รภป. ผู้เสียชีวิต รุมประชาทัณฑ์ ภายหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้นแล้ว พนักงานสอบสวนได้คุมตัวนายแบงค์กลับมา คุมขังที่ สน.ท่าเรือ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวได้พยายามซักถามว่านายแบงค์ก่อเหตุมาแล้วกี่ครั้ง นายแบงค์ อ้างว่าก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้ามาเพียงครั้งเดียว ส่วนนำไปขายใครนั้น นายแบงค์ไม่ตอบ และยืนยันว่าการก่อเหตุนี้ ไม่มีคนในมาชี้เป้า เพราะบริเวณนั้นใครก็รู้ว่าเป็นพื้นที่เก็บสินค้าที่ต้องการทำลาย พร้อมยกมือไหว้ขอโทษครอบครัว รปภ.ที่เสียชีวิต และยอมรับว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจถอยรถชน […]

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ชายแดนติดตามสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

อุบลราชธานี 4 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำกองทัพไม่ขัดแย้งรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดกรณีการปะทะกันที่ช่องบก โดยระบุว่า การมาครั้งนี้ตั้งใจมาให้กำลังใจกำลังพลที่อยู่แนวหน้า ซึ่งกำลังเตรียมความพร้อมในการดูแลและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น รวมถึงดูพื้นที่จริง ซึ่งเบื้องต้นพบว่า ข่าวทหารกัมพูชาวางกับระเบิดเป็นของเก่า เวลานี้เรากำลังใช้ทางออกที่โลกอยากเห็น และเรายังไม่ได้เสียอธิปไตยตรงไหนไป สิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละจุด เราอยากให้มันค่อยๆ คลายไป เรากำลังใช้มาตรการทางการทูตเชิงรุก เริ่มต้นจากเล็กไปหาใหญ่ และมาตรการต่างๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้น เราตกลงกันแล้วว่า จะคุยด้วยกันตลอด ไม่ได้มีปัญหาอะไร มันไม่ได้ถึงขั้นนั้น เพราะยังไม่มีอะไร เราคำนึงถึงชีวิตของพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน เราจะใช้กระบวนการสันติวิธีให้ถึงที่สุด ถ้ามีอะไรเกินเลย ฝ่ายที่อยู่แนวหน้าจะต้องแจ้งเรา ซึ่งจะดำเนินการโดยทันทีทันใด ยืนยันกองทัพกับฝ่ายการเมืองไม่มีปัญหากัน .-สำนักข่าวไทย