“โรม” ตั้งกระทู้ถาม “ภูมิธรรม” แสดงความจริงใจคดีตากใบ

รัฐสภา 3 ต.ค.- “โรม” ตั้งกระทู้เดือดถาม “ภูมิธรรม” ซัดแรง อย่างน้อยช่วยเสแสร้งแสดงความจริงใจคดีตากใบ ปูดตำรวจพยายามเป่าคดีจนหมดอายุความ ด้าน “ภูมิธรรม” ตอกกลับอย่าใช้ความรู้สึกรุนแรง สร้างความแตกแยกต่อ ไม่ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ยันรัฐบาลเสียใจต่อเหตุที่เกิดขึ้น-เร่งรัดตามจับกุมผู้ต้องหา-ไม่มีแทรกแซงกระบวนการ


การประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ (3ต.ค.) มีนายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาถามสดของนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ที่ถามนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถึงคดีตากใบที่กำลังจะหมดอายุความในวันที่ 25 ตุลาคม 2567 เรื่องนี้ส่งผลต่อความเชื่อมั่น รัฐบาลจะมีการสร้างความเชื่อมั่นอย่างไรเพราะระหว่างให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเรื่องนี้ ยังปรี๊ดแตก!

นายภูมิธรรมชี้แจงว่า ปัญหาชายแดนใต้การแก้ไขต้องเริ่มต้นจากการใช้เหตุผลและต้องดูปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างครบมิติ ไม่ใช่เริ่มต้นจากความดุเดือดเผ็ดร้อน หรือมองประเด็นด้านลบด้านเดียวเพราะทุกเรื่องไม่ได้มีเฉพาะแค่ว่าเจ้าหน้าที่ทำแบบนี้ ตรงนี้ตายแบบนี้แต่มีองค์ประกอบหลายเรื่อง จึงอยากให้ท่านใจเย็น ดูเหตุผล และเรื่องราวให้ชัดเจน


ส่วนเรื่องที่หาว่าตนปรี๊ดแตก ตนมองว่าใช้คำรุนแรงเกินไป ตอนนั้นตนกำลังแถลงข่าวเรื่องความเสียหายน้ำท่วมอยู่และผู้สื่อข่าวพยายามที่จะถามเรื่องนี้ ตนจึงขอคุยเรื่องน้ำท่วมให้จบก่อน ไม่ได้หมายความว่าเรื่องไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องตากใบ ทุกเรื่องมีความสำคัญแต่รัฐบาลต้องทำเรื่องเร่งด่วน ขณะนั้นน้ำกำลังท่วมโคลนกำลังถล่มบ้านเรือนประชาชนจึงอยากจะเคลียร์เรื่องนั้นให้ชัดเจนก่อน จึงอยากให้เข้าใจว่าตนไม่ได้มีอาการปรี๊ดแตกหรือรู้สึกเกิดโกรธกับคำถามเหล่านั้น ดังนั้นหากเป็นไปได้อยากให้ใช้คำพูด หรือการมองอย่างมีเหตุผล ไม่ใช่มองอารมณ์ความเป็นฝ่ายค้านอย่างเดียว

นายภูมิธรรม กล่าวว่าสำหรับเหตุการณ์ตากใบ เราทุนคน ตนเองก็เสียใจไม่อยากมีใครเห็นประชาชนหรือผู้ชุมนุมเสียชีวิตมากขนาดนี้ เสียใจกับเหตุการณ์เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นและคงต้องนำบทเรียนนั้นมาดูว่าอะไรที่มีปัญหา ไม่ใช่เสียใจเพราะว่าตนเองไปกระทำผิด ตากใบเกิดเมื่อปี 2547 จะครบ 20 ปีแล้ว จริงๆแล้วมันมีความจริงในหลายมิติเข้ามาเกี่ยวข้อง มีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในรายละเอียดอีกมาก หากไปอ่านรายงานจริงๆ และรายงานก็สรุปว่าทุกคนที่อยู่บนรถนั้นเสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจเป็นหลักจำนวน 78 ราย เป็นเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์เราไม่อยากให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ควรที่จะให้ความเป็นธรรมเ พราะไม่ใช่ว่าเป็นเหตุการณ์ที่ตั้งใจจะฆ่ากัน และไม่มีเจตนา แต่เป็นความสับสนอลม่าน แต่อย่างไรก็ตามรัฐบาลต้องยอมรับในสิ่งเหล่านี้และจะต้องแก้ปัญหาต่อไป

ส่วนเรื่องการดำเนินคดี ที่มองว่าญาติผู้เสียชีวิตต้องเสี่ยงชีวิตขึ้นมาร้องขอความเป็นธรรมนั้นอยากให้ มองโลกมองสังคมให้มันเบานิดนึง และมองตามความเป็นจริงแล้วปัญหาภาคใต้จะแก้ไขได้มากกว่านี้ และในสมัยรัฐบาลนส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้มีการเยียวยาไปแล้ว ทั้งหมดนี้เรามองว่าไม่ควรจะเกิดขึ้นและควรใช้เป็นอุทาหรณ์มากกว่าเป็นใช้เครื่องมือและมองว่ารัฐบาลตั้งใจจะฆ่าประชาชน หรือรัฐบาลเห็นใจเห็นคุณค่าในชีวิตประชาชน ยืนยันว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราเสียใจ เราไม่อยากให้เกิดขึ้นแต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจากความสับสนอลม่าน เมื่อเกิดขึ้นแล้วการเดินทางกฎหมายก็ต้องว่ากันไป แต่ผู้ถูกกล่าวหาในขณะนี้ยังหาตัวไม่ได้ แต่ยอมรับว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องให้กระบวนการยุติธรรมได้ทำหน้าที่ และให้บรรลุเร็วที่สุด


นายภูมิธรรม กล่าวว่าขณะนี้เราได้มีการปรับนโยบายเพื่อไม่ให้เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้น เพราะเมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นก็มีผู้ไม่ปรารถนาดีมีการหยิบประเด็นนี้ขึ้นมาพูดจนเกินจริง แต่สิ่งสำคัญคือจะทำอย่างไรไม่ให้เกิดขึ้นอีกแล้วมาช่วยกันดูมาตรการมากกว่านำประเด็นนี้มาโจมตีรัฐบาลหรือนำไปพูดจนเกิดความแตกแยกกว่านี้ ถ้าเราช่วยกันได้ก็อยากขอร้องมาช่วยกันและมองอย่างสร้างสรรค์ในการแก้ปัญหาเพราะวันนี้รัฐบาลพยามปรับหลายด้านเนื่องจากเหตุการณ์นี้มีการหยิบไปพูดเกินเลยกว่าความเป็นจริงทำให้ความเข้าใจประชาชนเกินเลย สิ่งที่รัฐบาลพยามทำคือพยามปรับวิธีการทำงานไปสู่ความสันติสุขมีการเจรจากับผู้ก่อการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ปัญหามันยังมีอีกมาก ยืนยันว่ากระบวนการดำเนินคดีตนได้กำชับทุกส่วนที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินดำเนินการตามกฏหมาย อยากให้ประเด็นนี้ทำให้เกิดความสร้างสรรค์เพื่อช่วยกันแก้ปัญหาในพื้นที่สามจังหวัดดัดแดนภาคใต้ที่มันทวีความรุนแรงดีกว่าใช้ประเด็นนี้มาพูดและพยามที่จะเขียนหาคำตอบและโยงไปตั้งแต่พรรคในโบราณมาจนถึงปัจจุบันทำให้เกิดความขัดแย้งโดยเปล่าประโยชน์ขอให้มีแต่ความสร้างสรรค์

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า หากวันนี้ยังไม่แสดงถึงความจริงใจให้คนในพื้นที่รู้สึกได้วันนี้จะแก้ปัญหาได้อย่างไร 20 ปีคนตายขณะนี้จะอยู่เฉยได้อย่างไรกับเวลาที่เหลืออยู่ 22 วัน “ประธานโทษครับท่านยังมีหัวใจอยู่หรือเปล่า” พร้อมกันนี้ยังได้เปรียบเทียบเหตุการณ์ตากใบ ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2547 กับเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 และรู้สึกเจ็บปวดต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผมรู้ดีว่าเหตุการณ์หกตุลายังไม่ได้รับความเป็นธรรมเป็นสิ่งที่ต้องทวงกันต่อไป แต่เราจะทำให้เหตุการณ์ตากใบเกิดขึ้นแบบนี้ด้วยหรือ “ท่านมองกระจกแล้วท่านยังจำตนเองได้อยู่หรือเปล่า” วันนี้คำถามสำคัญคือมีความพยายามเป่าคดี วันนี้มันมีความพยายามในการช่วยกันและคนที่ช่วยกันคือตำรวจท่านจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร ในฐานะที่กำกับดูแลตำรวจ

นายภูมิธรรมชี้แจงว่าถ้าบอกว่าหัวใจท่านรู้สึกเจ็บปวดวันนี้ตนก็รู้สึกไม่แตกต่างจากท่านเพียงแต่วันนี้ผมมีความรู้สึกที่ต้องคำนึงถึง อาจจะเพราะประสบการณ์มากกว่า แก่กว่าท่าน ถึงได้มองเรื่องนี้ไม่ได้มองเพียงจุดเดียว แต่มองหลายจุดประกอบกันและมองอย่างเป็นธรรมถึงจะแก้ปัญหาได้ ตนเข้าใจดีถึงอารมณ์ความรู้สึกรุนแรง แต่ตนอยากจะบอกว่าความรู้สึกรุนแรงที่พูดออกมามันไม่ช่วยแก้ปัญหาความรุนแรงความขัดแย้งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แค่การแสดงออกต่อหน้าแล้วให้สื่อมวลชนรับทราบไม่ได้ทำให้ปัญหาความรุนแรงขึ้นได้ แต่ต้องใช้สติเรื่องนี้ เรายอมรับกับเหตุการณ์เศร้าสลดและเสียใจถามว่าเราดูแลเยียวยาหรือไม่เราดูแล มีการดูแลเยียวยาแต่เงินไม่ได้สำคัญกับชีวิตคนที่เสียไปแต่มันแสดงว่าเราพยายามได้ดูแลแก้ไข แต่กระบวนการทั้งหมดไม่ได้มีเฉพาะตำรวจอย่างเดียวและการที่ที่ตนมาดูตำรวจก็ไม่ได้หมายความว่าจะปกป้องตำรวจ สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นไปตามกระบวนการ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็เป็นไปตามที่แพทย์นิติเวชรายงาน แต่ความรับผิดชอบก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการทางกฎหมาย ถ้าจัดการตามอารมณ์ทุกเรื่องในประเทศก็อลวนไปหมดเพราะฉะนั้นต้องให้ศาลตัดสินให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฏหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็เร่งดำเนินการอยู่ขอให้ท่านใจเย็นๆนิดหนึ่งและมาดูว่าเรื่องนี้จะคลี่คลายให้เกิดความเป็นธรรมอย่างไรและความเป็นธรรมนั้นก็มีทั้งสองฝ่ายทั้งญาติผู้เสียชีวิตและผู้ที่ถูกกล่าวหาและยังไม่แน่ใจว่าเขาจะเป็นผู้ที่จะต้องรับผิดชอบจริงๆหรือไม่ทั้งหมด ก็อยู่ที่กระบวนการยุติธรรมหย่าด่วนเอาตัวเองเป็นคนตัดสิน

นายรังสิมันต์โรม กล่าวว่า ถ้าผมเป็นท่านผมจะไม่เอาเรื่องประสบการณ์และอายุมาพูด เพราะ ไม่มีนัยยะอะไร แค่ท่านแสดงความเป็นเป็นผู้ใหญ่กดหัวเด็กคิดแค่นี้ ซึ่งสะท้อนถึงวิธีคิดของท่านจริงๆและตนไม่แปลกใจจริงๆว่าเหตุการณ์หลายหลายเหตุการณ์ในประเทศนี้ยังเป็นแบบนี้ ส่วนเรื่องเงินเยียวยาคือเงินภาษีของประชาชนทั้งประเทศตนสนับสนุนให้มีการเยียวยาแต่ต้องไม่ลืมสถานะความเจ็บปวดเท่ากับว่าประชาชนทั้งประเทศต้องแบกรับจ่ายเงินให้กับความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ คนเราอยู่ๆไม่ได้ขาดอากาศหายใจเองและเอกสารในรายงานชัดเจนว่าการขาดอากาศหายใจไม่ได้มีใครเอาถุงไปครอบแต่เกิดจากการซ้อนทับกันไปเรื่อยๆ

ตนทราบดีว่าวันนี้มีการดำเนินคดีในศาลมีสส.บัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทยถูกดำเนินคดีด้วยตนทราบดีว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นและทราบดีว่ากระบวนการวันนี้ยังไม่ถึงไหนยังมีการบังคับใช้กฎหมายที่จะนำตัวใครก็ตามมาดำเนินคดีทางกฎหมาย แต่ตนอยากจะฝากว่าวันนี้ประชาชนคิดอยู่อย่างว่าท่านและพรรคการเมืองของท่านที่เป็นรัฐบาลก็ต้องการให้เรื่องมันจบแบบนี้ จบแบบขาดอายุความ เพราะเมื่อไหร่ที่ขาดอายุความ ก็จะไม่มีการสืบพยานไม่มีคำให้การถ้ามีกระบวนการเหล่านี้เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นการสืบพยานและคำให้การสุดท้ายจะชี้ไปที่บุคคลที่ใหญ่กว่านั้นหรือไม่ตนอยากจะฟังทัศนะของท่านรองนายกรัฐมนตรีว่าตกลงแล้วท่านอยากจะให้คดีจบแบบนี้หรือไม่

นายภูมิธรรมชี้แจงคำถามสุดท้าย ว่า คำถามที่อภิปรายมีเรื่องน่าตอบมากกว่าคำถามจริงๆของท่านเพราะคำถามจริงๆของท่านดูเหมือนท่านไม่ค่อยใส่ใจที่จะถามท่านมัวแต่สนใจที่จะดิสเครดิตพรรคการเมืองของรัฐบาลสนใจที่จะดิสเครดิตผู้ใหญ่ตนมองว่าตรงนี้ไม่เหมาะสม และที่ท่านบอกว่าตนชอบอ้างประสบการณ์ ตนพูดถึงประสบการณ์เรื่องอารมณ์ไม่ได้พูดถึงเนื้อหาเพราะถ้าพูดถึงเนื้อหาเราก็ตัดสินได้ตามเนื้อหาแต่ไม่ใช่ใช้อารมณ์ฉุนเฉียวพูดถึงปัญหาที่ก่อให้เกิดความแตกแยกต่อไปซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งที่น่าห่วงและอีกอย่างอยากจะบอกท่านว่าจริงใจหรือไม่จริงใจไม่ได้ดูจากการอภิปรายตามที่ท่านพูด แต่จริงใจหรือไม่จริงใจดูที่การกระทำ และเรื่องนี้เป็นกระบวนการยุติธรรม ไม่ได้เกี่ยวกับตำรวจแต่เกี่ยวกับทุกฝ่าย และเรื่องขณะนี้อยู่ในศาลเราพยามทำหน้าที่อย่างดีที่สุดทำได้ก็คือเร่งรัดการตามจับกุมตัวให้ได้แต่ก็ต้องยอมรับว่าไม่ใช่ง่าย และหากท่านมีหลักฐานชัดเจนว่าตำรวจดึงเรื่องก็ขอให้ว่ามาตนจะตรวจสอบให้แต่อย่าไปคิดเองว่าศาลจะเป็นอย่างนั้นอัยการจะเป็นอย่างนี้ตำรวจจะเป็นอย่างนั้นและพรรคการเมืองของตนจะเป็นแบบนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ควรควรจะเอาเรื่องที่เป็นสาระจริงๆมาคุยกันตนไม่อยากจะคุยเรื่องอารมณ์ และเรื่องการกล่าวหาโดยไม่มีเหตุผล

อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่นายรังสิมันต์ ได้ตั้งกระทู้ถามนายภูมิธรรมนั้น ทันตแพทย์หญิงศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้ประท้วงเป็นระยะโดยอ้างว่า นายรังสิมันต์ อภิปรายมากกว่าการตั้งคำถาม พยายามเสียดสีพาดพิงกล่าวหาถึงพรรคการเมืองไม่มีความจริงใจในการแก้ปัญหา ทั้งที่ตนก็เป็นกรรมาธิการการกฎหมายฯ และได้รับฟังเรื่องคดีตากใบ ฉะนั้น จะกล่าวหาพรรคการเมืองของรัฐบาลไม่จริงใจไม่ได้ เพราะความจริงใจเป็นสาธารณะ ไม่ใช่ที่นายรังสิมันต์จะเอาความจริงใจไว้คนเดียว ดังนั้น จะกล่าวหาใครไม่จริงใจไม่ได้ และขอให้ตั้งกระทู้ถามให้อยู่ในคำถามด้วย

ขณะที่ประธานในที่ประชุม ก็ได้มีการตักเตือนนายรังสิมันต์หลายครั้งเนื่องจากผิดข้อบังคับ และภายหลังการตั้งกระทู้ถามเสร็จสิ้น นายรังสิมันต์ ได้พยายามประท้วงการตอบกระทู้ถามของนายภูมิธรรม เพราะเห็นว่า การตอบกระทู้ถามของนายภูมิธรรม พาดพิงถึงตนเอง แต่นายภราดร ได้พยายามตัดบทเพื่อเข้าสู่วาระกระทู้ถามถัดไป จนทำให้นายรังสิมันต์ ได้ประท้วงการทำหน้าที่ของนายภราดรว่า ไม่มีความเป็นกลาง ก่อนที่นายภราดร จะย้อนว่า “ไม่เป็นกลางเพราะตนเอื้อให้นายรังสิมันต์มากเกินไป หรืออย่างไร” และย้ำว่า เวลาการตั้งกระทู้ถามของนายรังสิมันต์หมดแล้ว.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ปิดล้อมกว่า 8 ชม. จับหนุ่มคลั่งควงปืนสงครามขู่ยิง ตร.

ศรีสะเกษ 17 ก.ย. – พ่อค้ายาเสพติดคลุ้มคลั่ง ควงปืนสงคราม AK-47 ขู่ยิงเจ้าหน้าที่ หลังถูกชุดปฏิบัติการ 238 พิทักษ์นครลำดวน สนธิกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบ้านเป้าหมายพื้นที่ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ เกลี้ยกล่อมนานกว่า 8 ชั่วโมง สุดท้ายทนแรงกดดันไม่ไหว ยอมวางอาวุธมอบตัวแต่โดยดี เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อมนายวีระศักดิ์ อายุ 35 ปี มีประวัติพัวพันการค้ายาเสพติด ครอบครองอาวุธสงคราม และยังเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งวิ่งเข้าไปหลบภายในบ้าน ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ หลังตำรวจแสดงตัวเข้าตรวจค้น เพราะได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ มีพฤติกรรมอุกอาจ แต่นายวีระศักดิ์กลับวิ่งไปหยิบอาวุธปืนสงคราม AK-47 ออกมาขู่เจ้าหน้าที่ พร้อมตะโกนด้วยเสียงดุดันว่าถ้าเข้ามาจะยิง จากนั้นรีบหลบกลับเข้าไปในบ้าน เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบริเวณโดยรอบอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันเหตุร้าย บรรยากาศตึงเครียด เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อม ทั้งให้พ่อแม่และญาติสื่อสารทางโทรศัพท์ หวังให้ผู้ต้องหายอมมอบตัวแต่ไม่เป็นผล เนื่องจากนายวีระศักดิ์ยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาบ้า ถือปืนพร้อมยิงตลอดเวลา นานกว่า 8 ชั่วโมง […]

ช่องโดนเอาว์เจอ PMN-2 อีก 8 ทุ่น ทบ.ชี้เขมรยังละเมิดข้อตกลง

17 ก.ย.- ทบ. แจงตรวจพบ PMN-2 เพิ่มเติมอีก 8 ทุ่นบริเวณช่องโดนเอาว์ จ.ศรีสะเกษ ชี้กัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ย้ำควรรับผิดชอบและร่วมแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจ วันนี้ (17 ก.ย.68) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่ากองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ภายหลังจากที่กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 132 ฐานปฏิบัติการชนะศึก ได้ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อเสริมภารกิจด้านความมั่นคงในพื้นที่ช่องโดนเอาว์ ฐานปฏิบัติการชนะศึก อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ วานนี้ (16 ก.ย.68) โดยได้ตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN-2 จำนวน 8 ลูก มีสภาพใหม่ ติดตั้งในลักษณะพร้อมทำงาน ซึ่งทางหน่วยได้ทำการเก็บกู้รื้อถอนและนำเก็บเพื่อรอการทำลายเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการตรวจพบระเบิดดังกล่าว เป็นเครื่องยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชายังคงมีความพยายามอย่างไม่ลดละในการใช้อาวุธต่อกำลังของฝ่ายไทย ซึ่งถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน และเป็นพฤติกรรมที่สวนทางกับข้อตกลงที่กัมพูชาได้ให้ไว้ในที่ประชุม GBC เมื่อวันที่ 10 ส.ค.68 ที่ผ่านมา ในเรื่องความร่วมมือที่จะดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งจากนี้กองทัพบกจะนำหลักฐานที่ได้ตรวจพบทั้งหมดในพื้นที่ รวบรวมนำส่งให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อร้องเรียนตามกระบวนการในเวทีสากลต่างๆ ต่อไป รวมทั้งขอความร่วมมือกัมพูชา […]

ไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เขมรป่วนไม่เลิก

17 ก.ย.- เปิดไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง หลังชาวเขมรชุมนุมประท้วง ก่อความวุ่นวาย ล่าสุดสถานการณ์ทั่วไปอยู่ในความควบคุม แต่กลุ่มชาวกัมพูชายังคงปักหลักใกล้แนวชายแดน.-สำนักข่าวไทย

ทำเนียบฯ เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่

ทำเนียบ 17 ก.ย.- ทำเนียบรัฐบาล เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่ ถ่ายรูปติดบัตร ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับถ่ายรูปติดบัตรประจำตัวของคณะรัฐมนตรี ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน และยังมีการตัดแต่งต้นไม้ บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล และตัดหญ้าด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการถ่ายรูปหมู่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวที่ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเป็นห้องทำงานของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา และวันนี้มีการส่งทีมงานเข้ามาดูห้องทำงานภายในตึกบัญชาการ 1 ด้วย สำหรับตำแหน่งว่าที่รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลอนุทิน มีชื่อทั้งหมด 7 คน ได้แก่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี และนายโสภณ​ ​ซา​รัมย์​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​ ขณะที่ตำแหน่งว่าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี […]