“พิเชษฐ์” เชิญทุกภาคส่วนหามาตรการป้องกันโศกนาฏกรรมบนท้องถนนซ้ำ

รัฐสภา 2 ต.ค.-“พิเชษฐ์” รองประธานสภาฯ เชิญทุกภาคส่วนร่วมบูรณาการกฎหมายและหามาตรการป้องกันโศกนาฏกรรมบนท้องถนนซ้ำ ตั้งเป้าลดการสูญเสียบนท้องถนนลงทุกปี จี้รื้อระบียบ ปรับมาตรฐานรถสาธารณะ แต่ค้านเลิกทัศนศึกษา

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ในฐานะประธานคณะกรรมการป้องกันและลดอุบัติเหตุ เพื่อสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนของประเทศไทย แถลงว่า จากเหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้(1 ต.ค.) ที่รถทัศนศึกษาของนักเรียนจากจังหวัดอุทัยธานี ประสบอุบัติเหตุ และเกิดเพลิงลุกไหม้ ตนต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว และชาวจังหวัดอุทัยธานีด้วย เห็นว่าในฐานะสภาผู้แทนราษฎรมีหลายประเด็นที่ต้องเข้าไปเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกฎระเบียบกฎหมายและมาตรฐานอุตสาหกรรม และในฐานะประธานคณะกรรมการป้องกันและลดอุบัติเหตุฯเพื่อตั้งเป้าที่จะลดการสูญเสีย เพราะ ในแต่ละปี เกิดการสูญเสียจากอุบัติเหตุบนท้องถนน 17,000-20,000คน ดังนั้นคณะกรรมการชุดนี้จะพยายามจลดอุบัติเหตุและลดจำนวนการสูญเสียให้น้อยลงทุกๆปีให้ได้ โดยในวันที่ 25 ต.ค.นี้คณะกรรมการจะเชิญหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกว่า 50คน มาพูดคุยบูรณาการหามาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาร่วมกัน


นายพิเชษฐ์ กล่าวว่าสิ่งที่จะต้องพิจารณาคือ รถสาธารณะ เช่นรถแท็กซี่รถตู้ รถบัส เป็นรถที่ จะต้องดูแลอย่างรอบคอบ ซึ่งรถแท็กซี่ มีอายุการใช้งาน 7 ปี รถตู้ขอผ่อนผันได้ถึง 10ปี ส่วนรถบัสข้อกำหนดที่ใช้งาน จำเป็นจะต้องมีเหมือนแท็กซี่ไม่ใช่ว่ารถอายุ 50 ปี แล้วมาดัดแปลงส่วนประกอบใหม่ จึงต้องมีมาตรฐานอุตสาหกรรม เช่น การรับจดแจ้งขึ้นทะเบียนรถประกอบที่นำหลายชิ้นส่วนมาประกอบและขอจดทะเบียน จะต้องมีมาตรฐาน โดยทางกระทรวงคมนาคมจะต้องสร้างมาตรฐานอุตสาหกรรมรถยนต์ใหม่ให้ได้มาตรฐานกว่านี้ ไม่ใช่ว่าพอเข้าองค์ประกอบแล้วผ่าน และ ที่จะต้องกำหนดมาตรฐานสูงสุดคือเด็กและเยาวชน เวลาจะทัศนศึกษาข้ามจังหวัด จะต้องดูว่ามีรถนำหรือไม่ ขับขี่ใช้ความเร็วเท่าไหร่ ซึ่งจะต้องมีความเข้มงวด

โดยสภาผู้แทนราษฎรในฐานะที่เป็นผู้ออกกฎหมายจะต้องเข้มงวดและนำโศกนาฎกรรมครั้งนี้เป็นบทเรียนสำคัญที่จะต้องนำมาปรับปรุงมาตรฐานการใช้งานของรถบนท้องถนนและอายุการใช้งาน และจากนี้ไปในพื้นที่กรุงเทพฯ จะต้อง มีการดับเพลิง ที่ทันท่วงที เวลาเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน จะต้องมี อุปกรณ์ ดับเพลิงประจำรถให้ได้มาตรฐานและควรทำอย่างรวดเร็ว ดังนั้นเมื่อเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาแล้วก็จะ เน้นเรื่องโดรน ดับเพลิง เพราะบางครั้งอาคารสูงหรือบนท้องถนน ไม่สามารถเข้าไป ดับเพลิงได้ทันท่วงที ดังนั้นจึงต้องผลักดันในเรื่องการใช้โดรนสำหรับดับเพลิงขึ้นมาในเมืองหลวง รวมถึงการตรวจสอบสภาพของรถที่จะเดินทางสำหรับการทัศนศึกษา ไม่ใช่เฉพาะเด็กๆต้องรวมถึงประชาชนทั่วไปหากเดินทางข้ามจังหวัดในพื้นที่ห่างไกลควรต้องตรวจเช็ครถให้ได้มาตรฐานและมีกระบวนการที่จะปฏิบัติตามกฎหมายให้เคร่งครัดเช่นมีรถนำ เพราะหากเกิดการสูญเสียแบบนี้ไม่คุ้มค่าซึ่งพวกเรามีลูกมีหลานก็ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง


ส่วนที่กระแสสังคมให้ยกเลิกการทัศนศึกษานั้นนายพิเชษฐ์ กล่าวว่า ไม่ควรยกเลิกการทัศนศึกษา เพราะเป็นกระบวนการที่จะเสริมสร้างความรู้และประสบการณ์ ไม่ว่าเด็กนักเรียน หรือประชาชนจำเป็นจะต้องเดินทางดังนั้น ในวันที่ 25 ต.ค.นี้ ก็คงจะได้มีการพูดคุยเพื่อหามาตรการร่วมกัน ทั้งมาตรการด้านกฎหมายก็จะรีบทำเพราะถือเป็นเรื่องสำคัญก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุซ้ำและหัวใจสำคัญคือกฎหมายที่จะบังคับใช้กับผู้ประกอบการ.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึง ส.ค.นี้

ทำเนียบ 14 พ.ค.-รัฐบาลเชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึงสิ้นเดือนสิงหาคมปีนี้ ทุกสถานพยาบาลทั่วประเทศ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ารัฐบาลโดย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการจัดเตรียมวัคซีนเพื่อป้องกันสายพันธุ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ตามการประกาศขององค์การอนามัยโลก (WHO) โดยจัดเตรียมวัคซีนรองรับ 4,570,000 ล้านโดส กระจายหน่วยบริการให้บริการฉีดกลุ่มเป้าหมาย ระบุเป็นวัคซีนป้องกัน 3 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ A(H1N1), สายพันธุ์ A (H3N2) และ สายพันธุ์ B วิคตอเรีย ที่มีประสิทธิผลและมีความปลอดภัย สปสช. กำหนดเป้าหมายเพื่อฉีดให้กับประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ที่แนะนำ 12 -20 สัปดาห์ (สามารถให้ได้ตลอดการตั้งครรภ์) 2. เด็กอายุ 6 เดือน – 2 ปี 3. ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 […]

เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 14 พ.ค.-“ชัยชนะ” เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง ย้ำพร้อมช่วยเหลือทุกกรณี หากไม่ได้รับความเป็นธรรม นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางเข้าเยี่ยมด.ต.นิสาธิต คงเทพ ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้ง ณ เรือนรับรองตำรวจชายแดนที่ 43 จังหวัดสงขลา โดยในโอกาสนี้ นายชัยชนะได้มอบกระเช้าและเงินจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับครอบครัว นายชัยชนะ ได้พูดคุยกับ ด.ต.นิสาธิต ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าในฐานะประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร หากมีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นหรือมีความต้องการความช่วยเหลือในเรื่องใด กรรมาธิการตำรวจพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ นอกจากนี้ นายชัยชนะ ยังได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอโทษประชาชนที่เกิดความไม่สบายใจที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าพรรคให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบและการแก้ไขสถานการณ์อย่างเหมาะสม.-312.-สำนักข่าวไทย

ปูพรมค้น 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง

ตรัง 14 พ.ค. – ตำรวจปูพรมปิดล้อม 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ล่าสุดตามยึดรถกระบะของกลางที่คนร้ายใช้ไปซื้อยางรถยนต์มาก่อเหตุ เมื่อวานนี้ (13 พ.ค.) ตำรวจสอบสวนกลางนำกำลังร่วมกันตรวจยึดรถกระบะโตโยต้า สีเทาดำ (สงวนหมายเลขทะเบียน) และสิ่งของอื่น ๆ อีกหลายรายการ ที่บ้านแห่งหนึ่ง ใน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 4 คน คือ นายศุภกรณ์ รักวิวัฒน์ หรือ “บิน ควนกุน” อายุ 37 ปี หัวหน้าแก๊งและเป็นผู้มีอิทธิพล, นายจรณชัย สมาธิ หรือ แต้ม อายุ 32 ปี, นายปิยะศักดิ์ สุวรรณมณี หรือ แจ๊ค อายุ 33 ปี และนายรพีพันธ์ บุญเกื้อ […]

แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายยื่นขอความเป็นธรรมปมมติแพทยสภา

สธ. 13 พ.ค. – แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายความส่วนตัวยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อสภานายกพิเศษ กรณีมติที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นายเนติธร หลินหะตระกูล ทนายความส่วนตัวที่ได้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะนายกสภาพิเศษ กรณีที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภามีมติการพิจารณาคดีจริยธรรมของแพทย์ที่อยู่ในความสนใจของประชาชนในกรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ ผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม ปม “ทักษิณ ชินวัตร” รักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งมีมติลงโทษแพทย์ 3 คน โดยเป็นการว่ากล่าวตักเตือน 1 คน ในกรณีประกอบวิชาชีพและเวชกรรมที่ไม่ได้มาตรฐาน เกี่ยวกับการออกใบส่งตัว และพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 คน ในกรณีให้ข้อมูล หรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง ทั้งนี้ มีนายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับเรื่อง นายกองตรี […]

ข่าวแนะนำ

ส่งตัวพลทหารขับแกร็บ กลับต้นสังกัดกองทัพอากาศ

พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ 15 พ.ค.-ส่งตัวพลทหารขับแกร็บ กลับต้นสังกัดกองทัพอากาศ รับรองความปลอดภัย ขณะตัวผู้พันบินตรงจากอุดรธานี มารับด้วยตัวเอง แต่สุดท้ายเจ้าตัวขออยู่กรุงเทพฯ ก่อน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี รองผู้บังคับกองพันนายหนึ่งในสังกัดกองบิน 23 จังหวัดอุดรธานี ถูกกล่าวหาว่าใช้ทหารกองประจำการจากจังหวัดอุดรธานีไปขับรถรับส่งผู้โดยสาร (แกร็บ) เพื่อประโยชน์ส่วนตนนั้น และทางผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ให้ความสำคัญกับประเด็นดังกล่าว และได้มีคำสั่งให้ดำเนินการย้ายรองผู้บังคับกองพันรายดังกล่าว ออกจากตำแหน่งเดิม โดยในวันนี้ได้มีการส่งตัว พลทหารกองประจำการ หรือพลทหารรายดังกล่าว โดยเพจ สายไหมต้องรอด ให้กับกองทัพอากาศ ที่พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ โดยพลอากาศโทประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ ร่วมรับตัวทหารกองประจำการ หรือพลทหารคนดังกล่าวที่พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ และมีการรับรองความปลอดภัยจากนั้นตัวผู้บังคับการกองบินจากจังหวัดอุดรธานีซึ่งเดินทางเข้ากรุงเทพมหานครในวันนี้ เพื่อรับตัวพลทหารดังกล่าวเพื่อกลับไปทำงานตามสังกัดปกติที่จังหวัดอุดรธานีต่อไป ทั้งนี้สำหรับความคืบหน้าการสอบสวนตัว นายทหารที่นำพลทหารมาขับแกร็บนั้น ตามระเบียบมีกรอบเวลาอยู่แล้ว แต่เชื่อว่าจะมีการดำเนินการอย่างรวดเร็ว เพราะเป็นนโยบายที่ทางผู้บัญชาการทหารอากาศ ได้ให้ความสำคัญและย้ำมาตลอดในเรื่องของการดูแลทหารกองประจำการหรือพลทหาร ให้เป็นไปตามกฎระเบียบและไม่ให้มีการนำตัวไปใช้งานในลักษณะที่ขัดต่อระเบียบอยู่แล้ว อย่างไร ก็ตาม น.อ.วุฒิกร สุวารี รองโฆษก ทอ.และรองเสนาธิการ หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน ซึ่งมาร่วมในการรับตัวทหารกองประจำการ ยืนยันความปลอดภัยพร้อมระบุ เพื่อความสบายใจทหารรายดังกล่าว จะให้พักภายในกองบัญชาการทหารอากาศโยธินกรุงเทพมหานครไปก่อน จนกว่าจะมีความสบายใจ และมั่นใจในความปลอดภัย […]

ปิดล้อมพื้นที่ “ชายคลุ้มคลั่ง” ยิงปืนขึ้นฟ้า ยิงใส่ตำรวจ 3 นัด

กทม. 15 พ.ค.-ชายเมายาคลุ้มคลั่ง ยิงปืนขึ้นฟ้า 6 นัด ย่านอิสรภาพ 44 เขตบางกอกน้อย ขังตัวเองอยู่ภายในบ้าน พร้อมยิงปืนใส่ตำรวจ 3 นัด เจ้าหน้าที่ยังคงปิดล้อมพื้นที่ เมื่อเวลา 06.00.น วันนี้ (15 พ.ค.68) เกิดเหตุชายเมายาคลุ้มคลั่ง ยิงปืนขึ้นฟ้า 6 นัดซ้อน ย่านอิสรภาพ 44 แขวงบางช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย ชาวบ้านในพื้นที่หวั่นไม่ปลอดภัย แจ้งตำรวจ สน.บางกอกน้อย เข้าระงับเหตุ แต่ไม่เป็นผล ชายคนดังกล่าว หลบหนีเข้าบ้านพัก และขังตัวเองอยู่ภายในบ้าน พร้อมยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 3 นัด ทำให้ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงปิดล้อมพื้นที่ ต่อมา พลตำรวจโทสยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ลงพื้นที่เกิดเหตุหลังได้รับการรายงาน เพื่อเข้าไปควบคุมการปฏิบัติงานด้วยตนเอง ซึ่งขณะนี้ตำรวจยังคงปฏิบัติการปิดล้อมพื้นที่ และไม่ให้บุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด ป้องกันอันตรายจากลูกหลง.-414.-สำนักข่าวไทย

ฤดูฝนมา จับตาความพร้อม Cell Broadcast

14 พ.ค. – ประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูฝนในวันพรุ่งนี้ (15 พ.ค. 68) กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ว่า ปริมาณฝนปีนี้จะมากกว่าค่าปกติ 5% ในระยะนี้ต้องติดตามพายุไซโคลนที่อาจก่อตัวในทะเลอันดามัน ขณะที่ปลายฤดูอาจเจอพายุโซนร้อน 1-2 ลูก ล่าสุดภาครัฐยกระดับการแจ้งเตือนภัย แต่ต้องรอลุ้นว่า Cell Broadcast จะใช้ได้เต็มระบบทั่วประเทศทันฤดูฝนนี้หรือไม่.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ชวนอุดหนุนผลไม้ไทย เล็งจัด Thai Fruits Festival

ทำเนียบ 14 พ.ค.- “นายกฯ แพทองธาร” ชวนประชาชนอุดหนุนผลไม้ไทย เตรียมจัดกิจกรรม Thai Fruits Festival กระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ เร่งเจรจา FTA ดันการส่งออกนำผลไม้ไทยร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติ ขยายตลาดสร้างโอกาสให้เกษตรกร น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์คลิปวิดีโอผ่าน TikTok ชื่อบัญชี ingshin21 เชิญชวนประชาชนอุดหนุนและรับประทานผลไม้ไทย โดยกล่าวว่า “เป็นคลิปแรกที่มาอยากมาขายของเป็นแม่ค้าหนึ่งวัน ผลไม้ไทยมีเยอะมากที่อร่อย พร้อมนำผลไม้ที่จัดใส่จาน ทั้ง มังคุด เงาะ ทุเรียน รวมถึงข้าวเหนียวมะม่วง แล้วจะมาเชิญชวนให้ พี่น้องคนไทยทุกคนให้ทานผลไม้ไทย และสองปีที่แล้ว ข้าวเหนียวมะม่วงของเราดังไปทั่วโลก ซึ่งมะม่วงของเราอร่อยจริงๆ ไปเจอที่เมืองนอกแพง แต่ที่เมืองไทยราคาดี เพราะฉะนั้นอดอุดหนุนผลไม้ไทยกันหน่อยนะคะ อร่อยด้วยราคาดีด้วย ไม่อย่างนั้นเวลาไปอยู่เมืองนอกนานๆ ซื้อที่เมืองนอกแพง ตอนนี้เมืองไทย มะม่วงราคาดีมากผลไม้ทุกอย่างก็ราคาดี และอากาศปีนี้ดีทำให้ผลไม้ค่อนข้างหวาน หาซื้อได้ง่าย ดังนั้นขอให้อุดหนุนผลไม้ไทยกันเยอะๆ” นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังระบุข้อความ ด้วยว่า “สวัสดีค่ะ ทุกคน หน้าผลไม้แล้วค่ะ ปีนี้ผลไม้ไทยผลผลิตเพิ่มขึ้นประมาณ 15% […]