มติวุฒิสภาให้ใช้เสียงลงมติ 2 ชั้นแก้ รธน.

รัฐสภา 30 ก.ย.- วุฒิสภามีมติแก้ร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ให้ใช้เสียงลงมติ 2 ชั้นแก้รัฐธรรมนูญ สวนร่าง สส. ที่ใช้เสียงข้างมาก ด้าน กมธ.เสียงข้างน้อยห่วงแก้รัฐธรรมนูญ ทั้งฉบับไม่ทันสภาชุดนี้ และทำประชามติไม่ทันช่วงเลือก อบจ. ส่งผลเสียงบเพิ่มอื้อ


การประชุมวุฒิสภาวันนี้มีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภาเป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติซึ่งคณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว ประเด็นที่มีการอภิปรายกันมากคือมาตรา 13ได้ปรับแก้ไขร่างกฎหมายจากสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเกณฑ์การออกเสียงประชามติ ที่จะถือมีข้อยุติในมาตราที่ 13 จากเดิมที่ให้ใช้เสียงข้างมากของผู้มาออกเสียง โดยคะแนนเสียงข้างมาก ต้องสูงกว่าคะแนนเสียงงดออกเสียงในเรื่องที่จัดการออกเสียงประชามตินั้น ๆ แต่กรรมาธิการมาแก้เป็นว่า การจัดการออกเสียงประชามติที่เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญ จะต้องมีผู้ออกมาใช้สิทธิออกเสียง เป็นจำนวนเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิออกเสียง และมีจำนวนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิออกเสียงในเรื่องที่จัดทำประชามตินั้น หรือ Double Majority เสียงข้างมาก 2 ชั้น

นางสาวนันทนา นันทวโรภาส สว. ในฐานะกรรมาธิการเสียงข้างน้อย อภิปราย คัดค้านมติของกรรมาธิการเสียงข้างมากโดยระบุว่า ตลอดการประชุมกรรมาธิการฯ 4 ครั้งแรก คณะกรรมาธิการเสียงข้างมากต่างพูดถึงข้อข้อดีและประโยชน์แนวทางของการลงมติชั้นเดียวอย่างชัดเจน แต่ในการประชุมครั้งที่ 5 กลับมีการเสนอให้ที่ประชุมทบทวนมติ ในการประชุมครั้งที่ 4 และน่ามหัศจรรย์ ใจที่ สว.เห็นชอบให้แก้ไขในมาตรา 13 ให้การทำประชามติรัฐธรรมนูญต้องใช้เสียงข้างมาก 2 ชั้น คือ ต้องให้มีผู้มาใช้สิทธิ์มากกว่ากึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง และเป็นที่สังเกตว่า ในวันอังคารที่ 24 ก.ย. มีนักการเมืองท่านหนึ่งให้สัมภาษณ์ ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตรงนี้เป็นเหตุให้มีการกลับมติหรือไม่ การกลับมติโดยพร้อมเพียงกัน 17 ต่อ 1 เสียงมันไม่งาม เดี๋ยวชาวบ้านจะนินทาว่าการลงมตินี้เป็นไปตามใบสั่ง


นางสาวนันทนา ดังนั้นตนในฐานะกรรมาธิการฯ เสียงข้างน้อยขอปกป้องสิทธิในการอภิปรายให้สว. และประชาชน ทราบว่า
การเลือกตั้งทุกประเภทในประเทศไทยใช้เสียงข้างมากชั้นเดียว เหตุใดจึงไม่ใช้มาตรฐานเดียวกับการเลือกตั้งทั่วไปทุกประเภท ซึ่งการทำประชามติรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับปี 2550 และปี 2559 ก็ใช้มติชั้นเดียวก็ผ่านมาโดยปกติ ไม่จำเป็นต้องไปเปลี่ยนกติกาใดๆและการทำประชามติเกือบร้อยประเทศในโลกนี้ก็ใช้มติชั้นเดียว และการทำประชามตินั้นควรเป็นเรื่องที่ง่าย ประชาชนเข้าถึงได้ไม่ซับซ้อน ไม่จำเป็นจะต้องระดมคนกันมาทั้งประเทศ จึงจะใช้เสียงข้างมากชั้นเดียวในทุกการทำประชามติ จึงอยากให้การทำประชามติเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนเข้าถึงได้เหมือนกันเลือกตั้งทุกประเภทและเราจะสามารถหาข้อยุติในความขัดแย้งหลายๆเรื่องว่าเสียงข้างมากของประชาชนต้องการอะไร โดยที่ไม่ต้องมาลงถนนกัน และการทำประชามติแบบเสียงข้างมาก 2 ชั้น จะทำให้คนไม่ออกมาใช้สิทธิมีอำนาจเหนือคนที่ออกมา หากคนไม่อยากให้ประชามติผ่านก็แค่ไม่ออกมาจากบ้านเท่านั้นจึงง่าย ทำให้คนไม่ออกมาและการทำประชามตินั้นจะไม่สำเร็จ

นางสาวนันทนา กล่าวด้วยว่าหากวุฒิสภาไม่เห็นชอบตามร่างของสภาผู้แทนราษฎร จะถือเป็นการหน่วงเวลาให้ยืดเยื้อและในที่สุดไม่สามารถทำประชามติ พ่วงกับการเลือก อบจ.ได้ จะทำให้เราต้องเสียงบประมาณมากเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว หลายพันล้านบาทในการทำมติแบบเดี่ยวๆ ซึ่งสว.ก็จะตกเป็นจำเลยของสังคมในการถ่วงเวลาและใช้งบประมาณอย่างสิ้นเปลือง จึงขอเรียกร้องให้สว.แสดงความกล้าหาญในการตัดสินใจด้วยวิจารณญาณของตัวเองโดยไม่ต้องเกรงอำนาจอิทธิพลใดๆ โดยตัดสินใจโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง อย่าทำตัวเป็นสวความจำสั้นเมื่อ 27 สิงหาคมณที่ประชุมสภาแห่งนี้ได้ลงมติรับร่างพ.ร.บ.นี้ในวาระหนึ่งอย่างท่วมท้นถึง 179 เสียง หวังว่ายังจำได้

“รัฐธรรมนูญที่มีปัญหาย่อมนำมาซึ่งการเมืองที่ไร้เสถียรภาพ การเมืองที่ไร้เสื่อมสภาพย่อมนำมาซึ่งเศรษฐกิจที่ล้มเหลว การแก้รัฐธรรมนูญ คือคำตอบของการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เรามาช่วยกันปลดล็อก พ.ร.บ.ประชามติ เพื่อเป็นหินก้อนแรกที่จะสร้างถนนแห่งประชาธิปไตยกันเถอะค่ะ” น.ส.นันทนา กล่าว


นายกฤช เอื้อวงศ์ กรรมาธิการเสียงข้างน้อย อภิปรายว่า ไม่เห็นด้วยการแก้ไขของกรรมาธิการฯ และเห็นควรให้กลับไปใช้ตามร่างของสภาผู้แทนราษฎรที่ ให้ใช้หลักเกณฑ์เสียงข้างมากโดยที่ จะต้องมีเสียงมากกว่า งดออกเสียงลงคะแนน และการทำประชามติ 2 ชั้นมักจะใช้กับประเทศที่มีหลายรัฐและที่ผ่านมาประเทศไทยก็ใช้การลงมติแบบชั้นเดียวมาก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร และตอนรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ยังใช้การทำประชามติชั้นเดียวดังนั้น ควรใช้มติชั้นเดียวเหมือนกับที่มาของรัฐธรรมนูญปี 60 และการลงมติร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านมาก็ใช้การทำประชามติแบบชั้นเดียว โดยใช้หลักเกณฑ์เดียวกันเสียงข้างมากธรรมดาและหากเทียบตัวอย่าง งบประมาณที่ใช้ในการออกเสียงประชามติแต่ละครั้ง 3,000 กว่าล้านจะทำให้สูญเปล่า

นายนิกร จำนง กรรมาธิการเสียงข้างน้อย ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไข ไปใช้ Double majority ในการลงมติ เพราะถือว่าเป็นการแก้ไขหัวใจสำคัญที่สุด และหากดูเงื่อนเวลาแล้วจะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ทันในสภาชุดนี้แน่ และอยากถามว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งที่เรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นนโยบาย ของรัฐบาลที่แล้วและรัฐบาลนี้ด้วย ดังนั้นตนจึงขอเสนอความเห็นต่อที่ประชุมว่า ณ ขณะนี้แม้ว่าจะโหวตตามที่แก้มาแต่สุดท้าย ก็จะกลับไปที่สภาผู้แทนราษฎรหากไม่เห็นชอบก็ต้องกลับมาที่กรรมาธิการร่วม2 สภา ถึงตรงนั้นก็คงต้องหาทางออกร่วมกัน 2 สภา ซึ่งประเด็นปัญหาไม่ได้อยู่ที่พรรคการเมืองไหนแต่อยู่ที่เราจะมี รัฐธรรมนูญที่เป็นของประชาชนใน ยุคของเรา

นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สว. อภิปรายยืนยันว่าไม่มีการเตะถ่วงแต่เข้ามาทำหน้าที่ในฐานะคนไทยเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศและประชาชนเท่านั้น ซึ่งในการ ลงมติรับร่างรัฐธรรมนูญหากดูจำนวนเสียงเห็นชอบแล้ว แม้ใช้การทำประชามติ 2 ชั้น ก็ยังผ่าน เพราะประชาชนมาลงคะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่งและให้เสียงเห็นชอบเกินกึ่งหนึ่ง แต่ที่ตนเห็นในข่าวกำลังแก้เรื่องจริยธรรมนักการเมือง อยากถามว่าเห็นว่าถูกต้องหรือไม่ แล้วเกี่ยวอะไรกับประชาชน

หลังจากอภิปรายกันอย่างกว้างขวางแล้วที่ประชุมมีมติให้เห็นชอบตามคณะกรรมาธิการฯแก้ไข ด้วยคะแนนเสียง160 ต่อ 21 เสียงงดออกเสียง 9 เสียง เท่ากับกลับไปใช้ การลงมติแบบ 2 ชั้น ซึ่งเป็นการแก้ไข ร่างของสภาผู้แทนราษฎร จากนั้นที่ประชุมมีมติให้ความเห็นชอบกับร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติที่แก้ไขแล้วด้วยคะแนน 163 ต่อ 19 เสียง งดออกเสียง 7 เสียง ไม่ลงคะแนน 2เสียง ทั้งนี้ เมื่อมีการแก้ไขเช่นนี้จะต้องส่งกลับไปให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาและตั้งคณะกรรมาธิการร่วมสองสภา เพื่อหาข้อยุติต่อไป.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ ข่าว สส.ดังนครศรีฯ ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา

กทม. 30 พ.ค.-“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ-ไม่รู้ ข่าว สส.ดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมากลางงานบวช ยืนยันไม่เป็นความจริง นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว สส.ชื่อดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา กลางงานบวชลูกชายของนายก อบต. ต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยคน โดยนายชัยชนะ ได้ปฏิเสธข่าวบอก ไม่รู้ ไม่ทราบข่าว พร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อถามว่า เป็นคนรู้จัก หรือคนใกล้ชิดหรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนไม่ทราบเหมือนกัน เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบข่าวเลย ก่อนย้ำอีกครั้งว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ตอบว่า “ครับผม” เมื่อถามว่า ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เลยใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนลงพื้นที่วันละหลายงาน และเมื่อถามทิ้งท้ายว่า ไม่มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ยืนยันว่า “ไม่มี“.-315.-สำนักข่าวไทย

รวบพระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกดับ

นครราชสีมา 30 พ.ค. – รวบแล้ว พระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกเสียชีวิต และล่วงละเมิดลูกเลี้ยงผู้หญิงคนเล็กอายุ 11 ขวบ เจ้าตัวยังปากแข็ง แต่จำนนด้วยหลักฐาน ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา บุกรวบตัว นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเก “ลักยิ้มทับทิมสยาม” ได้คาบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยขณะนี้คุมตัวอยู่ในห้องขัง สภ.เมืองนครราชสีมา ขณะจับกุมตัวผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” และ “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี” ขณะนี้กำลังเค้นสอบปากคำ เนื่องจากผู้ต้องหายังปากแข็ง แต่จำนวนด้วยหลักฐาน ก่อนเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คาดว่าเป็นช่วงบ่ายวันนี้ คดีนี้สืบเนื่องจาก น.ส.หมิว อายุ 46 ปี นางเอกลิเก พาลูกสาวอายุ 11 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังลูกชายคนโต อายุ 18 ปี ซึ่งป่วยออทิสติก […]

“สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 หมอ คดีชั้น 14

สธ. 29 พ.ค. – “สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เผย “สมศักดิ์” สภานายกพิเศษ ส่งคำตอบให้มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 แพทย์ กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจเมื่อวานนี้ ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ให้ใช้คำว่าเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ได้ยื่นรายงานความเห็นจากคณะกรรมการฯ ต่อมติแพทยสภาให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) สภานายกพิเศษฯ ได้ทำหนังสือตอบกลับไปยังแพทยสภาแล้ว เมื่อเวลา 16.00 น. โดยที่ตนเองก็ยังไม่ทราบว่า มีเนื้อหาบ้าง แต่ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ขอให้ใช้คำว่ามีส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เบื้องต้นเป็นความส่งความเห็นกลับต่อมติของแพทยสภา ซึ่งมีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนแพทย์จำนวน 4 […]

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]

ข่าวแนะนำ

ฝนตกหนักบางแห่ง ภาคเหนือ-อีสานตอนบน

กทม. 1 มิ.ย.-กรมอุตุฯ รายงานฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ และอีสานตอนบน ส่วนภาคใต้ฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดตาก พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส […]

ภูมิต้านภัย : จับตาทุจริตงบซ่อม ฮ.ตำรวจ

กรุงเทพฯ 31 พ.ค. – คอลัมน์ “ภูมิต้านภัย” ตรวจสอบหาสาเหตุเฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตก 2 เหตุการณ์ในรอบ 1 เดือน หลังถูกตั้งข้อสังเกตถึงการนำ ฮ.ที่เสีย มาตั้งงบซ่อมแบบไม่ได้มาตรฐาน ทำให้นักบินต้องเสี่ยงชีวิตทุกครั้งที่ยก ฮ.ขึ้นน่านฟ้า. – สำนักข่าวไทย

นายกฯ บอกวันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ลั่นปรับ ครม. อะไรก็เกิดขึ้นได้

รัฐสภา 31 พ.ค.-นายกฯ บอกวันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ลั่นปรับ ครม. อะไรก็เกิดขึ้นได้ ส่วนโยกกระทรวงให้ถาม “ทักษิณ” คนพูด ปมดึง มท. มาดูเอง ย้ำครอบงำไม่ได้ แต่พ่อให้คำปรึกษา ลูกรับไว้พิจารณา เผยยกหูหากลางห้องประชุมแล้ว นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ว่า วันนี้ยังเหมือนเดิมไม่มีอะไร ถ้าจะมีการปรับเปลี่ยนอะไร หากเป็นรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยเดี๋ยวตนจะคุยเอง เห็นเป็นกระแสข่าวออกไปหลายอย่างมาก ทำให้รัฐมนตรีทุกคนรู้สึกหวั่นไหวและท้อใจ ซึ่งตนไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น ซึ่งตนพยายามสื่อสารในพรรคเพื่อไทยว่าอย่างไรเดี๋ยวจะคุยเอง ส่วนคำพูดของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้บั่นทอนจิตใจพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น นายกฯ กล่าวว่า ไม่ เมื่อสักครู่ก็นั่งอยู่ข้างๆ กันไม่ได้มีอะไร ไม่มีใครถามถึงเรื่องนี้เลย เมื่อถามว่ากระทรวงมหาดไทยทำงานไม่ดีจริงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นั่นเป็นความคิดเห็นของนายทักษิณ แต่ตนยังไม่ได้ประเมินอะไร เดี๋ยวก็รอดู ส่วนมีการพูดคุยกับนายทักษิณ หรือไม่ว่าเหตุใดจึงให้สัมภาษณ์ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า คุยกันทุกวัน หากถ่ายรูปมา เมื่อสักครู่ได้ตนก็คุยโทรศัพท์กับคุณพ่อ ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่าตอนนี้ถูกมองว่าเป็นการครอบงำพรรคเพื่อไทย นายกรัฐมนตรี […]

สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 นายกฯ เชื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย

รัฐสภา 31 พ.ค.-สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 วาระแรก เสียงท่วม 322 เสียง ตั้ง กมธ. 73 คน พบ “อนุดิษฐ์” โผล่เป็น กมธ.โควตารัฐบาล ด้านนายกฯ ขอบคุณสภาฯ ยันรัฐบาลจัดลำดับความสำคัญงบฯ ตามสถานการณ์ เชื่องบประมาณที่เสนอไปจะยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนคนไทยทุกคน ตั้งใจใช้เป็นเครื่องมือสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันสุดท้ายของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม โดยหลังจากใช้เวลากว่า 3 วัน รวม 41 ชั่วโมง ที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ด้วยคะแนน 322 ต่อ 158 เสียง ไม่ลงคะแนน 2 เสียง และตั้งคณะกรรมาธิการ จำนวน 73 คน ทั้งนี้ เป็นที่สังเกตว่า มีชื่อ […]