“แสวง” ชี้คำวินิจฉัยคดีศักดิ์สยาม ไม่เป็นเหตุยุบ ภท.

29 ก.ย.- ภท.ลุ้นรอดยุบพรรค “แสวง” ชี้คำวินิจฉัยคดีศักดิ์สยาม ไม่เป็นเหตุยุบพรรค ซ้ำคำวินิจฉัยศาลฎีกา “ทำงานให้หลวงต้องได้เงิน” ส่วนเรื่อง “ฮั้ว” ต้องแยกคดี คาดภายใน 1 เดือนรู้ผล พ้อแค่เป็นคนบุรีรัมย์ถูกด่าฟรี 1 ปี เผยสั่งยุติคดียุบ “พปชร.” หลังพิสูจน์ไม่ได้ว่า “เงินบริจาคตู้ห่าว” เป็นเงินไม่ชอบด้วยกฎหมาย


นายแสวง บุญมี เลขาธิการกกต.กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาคำร้องยุบพรรคภูมิใจไทยจากเหตุรับเงินบริจาคจากห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ถือหุ้นอยู่ ว่า ประเด็นนี้ทำให้ตนเองถูกด่าฟรีมาปีกว่าๆ เพียงเพราะว่าตนเองเป็นคนบุรีรัมย์ จนมีคนไปฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริต ว่าเหตุใดกกต.ถึงมีคำสั่งยื่นศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคก้าวไกล แต่กลับไม่ยื่นยุบพรรคภูมิใจไทย จึงขอชี้แจงว่า ด้วยความที่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของนายทะเบียนพรรคการเมืองไปตรวจสอบ และตนได้มีคำสั่งขยายระยะเวลาการทำงาน เพราะขณะกรรมการอยากจะได้ข้อเท็จจริงเป็นที่ยุติ ทั้งที่จริงๆ แล้วอยากจะให้วินิจฉัยให้แล้วเสร็จภายใน 1-2 เดือน แต่ขยายเวลาออกไปจนคนอื่นรู้สึกว่า เพราะเลขาธิการกกต. เป็นคนบุรีรัมย์ ซึ่งสัมพันธ์กันอย่างไรตนก็ไม่เข้าใจ ทำให้ตนเองกลายเป็นจำเลยของสังคม ทั้งๆ ที่ตนไม่เคยเข้าไปยุ่ง

ทั้งนี้ ถ้าถามข้อกฎหมายจริงๆ อย่างกรณีของพรรคก้าวไกลมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยเป็นแนวเอาไว้แล้ว ซึ่งก็ผูกพันกับกกตทำให้ต้องใช้อำนาจในการยื่นต่อศาล รัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัย แต่คดีของพรรคภูมิใจไทยนั้นเป็นการร้องว่าผิดหรือไม่ ซึ่งคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ในกรณีของนายศักดิ์สยาม ไม่ได้เป็นความผิดแห่งการยุบพรรคการเมืองเลย ไม่เป็นเหตุแห่งการยุบพรรคการเมือง แต่เราก็พยายามหา ว่า สิ่งที่เขามาร้องนั้นเป็นเหตุที่จะโยงไปสู่การยุบพรรคการเมืองได้หรือไม่ เพราะสิ่งที่นายศักดิ์สยามทำผิดตามคำ วินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนั้นไม่ใช่เหตุแห่งการยุบพรรคการเมือง ซึ่งตนไม่เคยไปสอบถามหรือแทรกแซงการทำงานของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง เป็นเรื่องของอำนาจใครอำนาจมัน แต่วันนี้ฟังได้ว่าเขาเสนอเรื่องมาแล้ว ตนก็จะได้สบายใจว่ามันจะได้จบเสียที ผลจะเป็นอย่างไรก็ต้องรอดู ว่าที่เสนอมานั้นเป็นอย่างไร บางทีสังคมเข้าใจไปว่า เมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยก็ต้องยุบพรรคเหมือนกัน แต่ความรู้สึกของคนไปไกลแล้ว ว่าลักษณะเหมือนกันแต่เรื่องของพรรคการเมืองหนึ่งถึงทำได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่เรื่องของอีกพรรคการเมืองหนึ่งกลับทำได้อย่างล่าช้า แต่จริงๆ ต้องดูข้อกฎหมาย ดูที่คำร้อง


นายแสวง กล่าวต่อว่า หลังจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเสนอเรื่องเข้ามาแล้ว ตนก็จะส่งเรื่องให้กับกรรมการที่ปรึกษาของนายทะเบียนพรรคการเมืองซึ่งมีนายสมคิด เลิศไพฑูรย์ เป็นประธาน ได้ให้ความเห็นก่อน ก่อนที่จะเสนอให้นายทะเบียนฯ พิจารณาให้ความเห็น ว่าผิดกฎหมายต้องมีการยุบพรรคหรือไม่ ถ้านายทะเบียนเห็นว่าไม่ผิดก็จบเลย แต่ถ้าเห็นว่าผิดก็เสนอต่อกกต. คาดว่าไม่เกินเดือนต.ค.ก็จบแล้ว

เลขาธิการ กกต. กล่าวอีกว่า เรื่องของพรรคภูมิใจไทยก็เหมือนกับเรื่องร้องเรียนให้ยุคพรรคพลังประชารัฐ เนื่อจากกรณีการรับเงินบริจาคไม่ชอบด้วยกฎหมายจากนายตู้ห่าว ซึ่งการพิสูจน์ว่า เงินที่เขานำมาบริจาคนั้นเป็นเงินสีเทา ได้มาจากธุรกิจผิดกฎหมายเช่นเปิดบ่อนการพนัน ค้ายาเสพติด ซึ่งการจะดูว่าเงินนั้นชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ถ้ามีหน่วยงาน ที่รับผิดชอบไปบอกว่าเงินนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย และถูกยึดก็จะชัดเจน ว่าเป็นที่มาของเงินที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ เงินที่ไม่ชอบตามกฎหมายอื่น เช่น สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) หรือสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) ทางกกต.ไม่มีอำนาจที่จะไปวินิจฉัย ต้องเป็นผู้มีอำนาจตามกฎหมายนั้นเป็นผู้วินิจฉัยเสียก่อน ซึ่งถ้าเงินที่ไม่ชอบตามกฎหมายนั้นเอามาบริจาค นั่นจะทำให้เขาถูกยุบพรรค แต่ถ้าเป็นเงินที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายพรรคการเมืองโดยตรง ก็อย่างเช่นกรณี เงินกู้ ที่เป็นเหตุยุบพรรคอนาคตใหม่ กกต.มีอำนาจวินิจฉัยด้วยตัวเอง

“กรณีเงินบริจาคของนายตู้ห่าว ไม่มีหน่วยงานไหนวินิจฉัยว่าเงินนั้น ได้จากอะไร เมื่อมันเป็นไปตามกฎหมายอื่นแล้วไม่มีหน่วยงานไหนมาวินิจฉัย และเราก็ไม่มีอำนาจที่จะไปวินิจฉัยตามกฎหมายอื่น กกต.ก็ต้องยุติเรื่องไป พอมาถึงเงินของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งมีบริษัทหนึ่งเอาเงินมาบริจาค เงินนั้นคือเงินหลวง ที่บริษัทประมูลงานได้ ศาลฎีกาเคยมีคำพิพากษา ในคดีหนึ่งที่มีบริษัทเขาไปฮั้วประมูล และผู้มีอำนาจไม่ให้เงินค่างานเขา ศาลบอกว่าต้องแยกให้ถูกเขาทำงานก็ต้องได้ค่างาน ฮั้วประมูล ไม่เกี่ยวกัน นั่นหมายความว่า เงินค่างาน เป็นเงินที่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะเขาทำงานก็ต้องได้เงิน ส่วนเรื่องหัวประมูลก็ต้องไปดำเนินคดีอีกคดีหนึ่ง ไม่เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ ซึ่งถ้าคิดดีๆจะใกล้เคียงขึ้นมาทันทีว่า เงินที่พรรคการเมืองได้รับจาก บริษัทที่ไปทำงานให้หลวง นั่นคือเงินค่างานที่เขาได้รับ จากการประมูลงานจากหลวง มีระบบบัญชีถูกต้อง เงินมันถึงเข้ามาอยู่ในบริษัทได้ ถ้าเป็นเงินฮั้ว มันเข้ามาอยู่ในบริษัทไม่ได้ ไม่รู้เงินนั้นจะไปอยู่ตรงไหน ดังนั้นถ้าตามกฎหมายแล้วมีความซับซ้อน คนจะคิดว่า ฮั้วประมูลแล้วจะต้องยุบพรรค แล้วฮั้วจริงหรือเปล่าก็ยังไม่มีใครรู้ในตอนนี้ หรือมีใครตัดสินอย่างไร แต่สุดท้ายเขาก็คงเสนอขึ้นมาให้นายทะเบียนพิจารณา” นายแสวงกล่าว และว่าตอนนี้ตนได้ย้ายทะเบียนมาเป็นคนกรุงเทพฯแล้ว


เมื่อถามถึงกรณี ร้องเรียนการยุบพรรคพลังประชารัฐจากกรณีเงินของนายตู้ห่าวแสดงว่า นายทะเบียนมีความเห็นยุติเรื่องแล้วใช่หรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า ยุติไปแล้ว เพราะเพราะเงินนั้นเป็นเงินตามกฎหมายอื่น ซึ่งไม่มีใครมาวินิจฉัยว่ามันเป็นเงินที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งเราก็จะเอามาเป็นเหตุให้ยุบพรรคไม่ได้ มันเหมือนกับว่าเราพิสูจน์และฟังเขาจะจริงมาได้เท่านี้ เราไม่มีหน่วยงานไหนมาพิสูจน์และยืนยันได้ว่าเงินที่นายตู้ห่าวเอามาบริจาคนั้นมีที่มาที่ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย .314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีต ผกก.ขับรถปาดหน้า-ชัก M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง

สงขลา 11 พ.ค. – การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี เดือด ลูกชาย สส.สงขลา ทำร้ายตำรวจคุมหน่วย ส่วน จ.นครศรีธรรมราช อดีตผู้กำกับขับรถปาดหน้าและชักปืน M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เดือด นายชวลิต เจริญพงษ์ อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง และปัจจุบันเป็นผู้สมัครรองนายกเทศมนตรีที่วัง เบอร์ 2 เข้าแจ้งความที่ สภ.กะปาง ว่าถูก พ.ต.อ.พิรุณ อดีต ผกก.ที่ปรึกษาผู้สมัครนายกเทศมนตรีอีกทีม ขับรถไล่ตามและใช้ปืน M16 ข่มขู่ โดยก่อนเกิดเหตุได้ไปกินข้าวที่ร้านอาหารกับผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.ที่วัง ได้เจ้อกับลูกน้องคนสนิทของ พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก เข้ามาพูดจาข่มขู่ พวกตนจึงหนีขึ้นรถเพื่อตัดปัญหา แต่ปรากฏว่าเมื่ออกจากร้านได้เพียง 10 เมตร พ.ต.อ.พิรุณ ได้ขับรถแวนเชฟโรเลตสีขาวปาดหน้า และลงจากรถพร้อมปืน M16 วิ่งมาที่รถของตน เห็นท่าไม่ดี จึงหักพวงมาลัยขับรถหนีและเข้ามาแจ้งความ ระหว่างนั้น พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

ผบ.ตร. สั่งกองวินัยเตรียมสอบ ปมมติแพทยสภาลงโทษหมอ

ผบ.ตร. รับทราบกรณีแพทยสภาลงโทษหมอ ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 สั่งกองวินัยเตรียมสอบ หากเป็นแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”

ข่าวแนะนำ

ตร.ตรัง เร่งขอศาลออกหมายจับ มือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ

ตรัง 12 พ.ค.- ตร.ตรัง เร่งขอศาลออกหมายจับมือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ ขณะที่ญาตินิมนต์พระทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณกลับบ้าน วันที่ 12 พฤษภาคม 2568 เมื่อเวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดตรัง ลงพื้นที่สวนปาล์มน้ำมัน เนื้อที่ 170 ไร่ จุดเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายยิงและเผานั่งยางผู้จัดการสวน เพื่อนร่วมงาน และลูกน้องรวม 3 ศพ และจุดพบศพปริศนาถูกเผาและฝังดินอีก 1 ศพ ในพื้นใกล้กัน รวมทั้งหมดเป็น 4 ศพ โดยเป็นการลงพื้นที่ซ้ำ เพื่อตรวจหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมในบริเวณที่เกิดเหตุ โดยเฉพาะบริเวณขนำจุดยิงผู้ตายทั้ง 3 ราย ก่อนนำไปจุดไฟเผา โดยตำรวจพบหัวกระสุนปืนขนาด 11 มม.เพิ่มเติมอีก 1 หัว แต่ทั้งนี้ พบอุปสรรคสำคัญในการทำงานเก็บพยานหลักฐาน เนื่องจากในพื้นที่ได้เกิดฝนตกลงมาเป็นระยะ ๆ ทำให้ร่องรอยพยานหลักฐานบางอย่างถูกทำลาย ซึ่งขณะนี้ทำให้ทราบว่าขณะเกิดเหตุมีการใช้อาวุธปืนหลายขนาด เพราะพบหัวกระสุนปืนในที่เกิดเหตุ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดียังคงกระจายกำลังกันลงพื้นที่เพื่อสืบสวนหาข่าวในพื้นที่ อ.สิเกา อ.วังวิเศษ จ.ตรัง และต.ทรายขาว […]

ออกหมายจับ สจ.คนดังพร้อมพวก รุมทำร้าย ตร.คาหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 12 พ.ค.- ศาลจังหวัดสงขลาออกหมายจับ สจ.คนดัง พร้อมพวกรวม 7 คน หลังก่อเหตุรุมทำร้าย ‘ด.ต.’ คาหน่วยเลือกตั้ง จ.สงขลา ขณะที่ ผบ.ตร.สั่งเอาผิด พวกทำตัวเหนือกฎหมาย จากกรณีสมาชิกสภา อบจ.สงขลา บุตรชาย สส.สงขลา ก่อเหตุสั่งให้ลูกน้อง 6 คน รุมทำร้ายร่างกาย ด.ต.นิสาธิต สังกัด ตชด.43 ปฏิบัติหน้าที่เจ้าพนักงานรักษาความสงบเรียบร้อยหน่วยเลือกตั้ง บริเวณหน้าหน่วยเลือกตั้งที่ 7 หมู่ 2 ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลาหลัง ส.อบจ.คนดังกล่าว เข้ามาใช้สิทธิที่หน่วย และให้ลูกน้องถ่ายรูป ซึ่งผิดกฎหมายเลือกตั้ง ด.ต.นิสาธิต จึงได้เข้าไปตักเตือน สร้างความไม่พอใจ ก่อนขับรถออกจากหน่วยเลือกตั้ง จากนั้นมีกลุ่มชายชกรรจ์ 5-7 คน เข้ามาที่หน่วยเลือกตั้ง และรุมทำร้าย ด.ต.นิสาธิต บาดเจ็บ ต่อหน้าต่อตาชาวบ้านที่มาใช้สิทธิเลือกตั้ง อ้างว่าลูกพี่ใหญ่ ไม่มีใครกล้าทำอะไร ล่าสุด ศาลจังหวัดสงขลาอนุมัติหมายจับผู้ก่อเหตุทั้งหมด 7 […]

เพลิงไหม้มาราธอน โหมโรงงานเฟอร์นิเจอร์ ยังคุมไม่ได้

12 พ.ค.- ยังไม่ดับ! ไฟไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ ย่านลาดกระบัง ต้นเพลิงอยู่ที่ชั้นใต้ดิน ยังไม่สามารถลงไปได้ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ รุดลงพื้นที่ สั่งอพยพชาวบ้านใกล้เคียง เร่งช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ ยืนยันสถานการณ์จะคลี่คลายภายในวันนี้ เพลิงไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ ซอยฉลองกรุง 55 แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ ลุกโหมมาตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ ก่อนเจ้าหน้าที่ระดมรถดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์ ตลอดทั้งคืน ยังมีไฟปะทุออกจากชั้นใต้ดินของโครงสร้างอาคาร     ล่าสุดเช้าวันนี้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมทีมวิศวกรผู้ เชี่ยวชาญด้านอาคารโรงงานอุตสาหกรรม ตำรวจ และทีมกู้ภัย เร่งเข้าตรวจสอบความเสียหายรอบพื้นที่โรงงาน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เผยว่า มอบหมายให้ ดร.สุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา(ดร.จอร์น) ประธานสภากรุงเทพมหานคร และนายธราพงษ์ เพ็ชรคง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตลาดกระบัง ลงพื้นที่ตั้งศูนย์บัญชาการเหตุยังจุดเกิดเหตุ ส่วนแนวทางปฏิบัติการ เตรียมใช้โฟมประกอบน้ำ ฉีดเข้าจุดที่ยังคงมีเพลิงปะทุคาดว่าจะควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในวงจำกัดได้ภายในช่วงเที่ยงวันนี้   ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระบุว่า ต้นเพลิงอยู่ที่ชั้นใต้ดิน แต่ยังไม่สามารถลงไปได้ เนื่องจากมีกลุ่มควันและความร้อนสูง จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ หน้ากากออกซิเจน […]

กทม.ประกาศยุติค้นหาผู้สูญหายใต้ซากตึก สตง.

กรุงเทพฯ 12 พ.ค. – กทม. ประกาศยุติการค้นหาผู้สูญหายใต้ซากตึก สตง. ด้านรองผู้ว่าฯ กทม. สั่งลดระดับกองปูนซากตึกข้างศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง จาก 9 เมตร เหลือ 6 เมตร ป้องกันอันตรายและง่ายต่อการค้นหาหากมีชิ้นส่วนที่เหลือติดค้างอยู่ เมื่อเวลา 10.30 น.ที่ผ่านมา (12 พ.ค. 68) ที่กองอำนวยกาารร่วม สน.บางซื่อ ห้างสรรพสินค้าเจเจมอลล์ ถ.กำแพงเพชร 2 แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประกาศยุติค้นหาผู้สูญหายจากเหตุอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ถล่ม รศ.ทวิดา เปิดเผยว่า วันนี้การค้นหาผู้ติดค้างภายในซากอาคารดังกล่าวยุติทั้งหมดแล้ว และเวลา 17.00 น. วันนี้ ทีมสุนัข K9 จะเข้าสำรวจความชัดเจนบริเวณกองซากวัสดุอาคาร สตง. หลังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เพื่อให้เเน่ใจว่าจะไม่มีชิ้นส่วนมนุษย์หลงเหลืออยู่แล้ว ส่วนด้านเครื่องจักรในพื้นที่จะยังคงทำงานอยู่ เนื่องจากจะมีการขนซากเศษปูนที่อยู่ตรงโซน A ทั้งหมด ย้ายออกไปหลังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง โดยในเวลา […]