ปภ. รายงานสถานการณ์น้ำท่วม 18 จังหวัด

28 ก.ย. – ปภ. รายงานมีสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 18 จังหวัด เร่งระดมสรรพกำลังให้ความช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และฟื้นฟูพื้นที่ที่คลี่คลายให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว


28 ก.ย. 67 เวลา 10.45 น. ปภ. รายงานมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 18 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ น่าน ลำปาง ลำพูน แพร่ ตาก เพชรบูรณ์ พิษณุโลก สุโขทัย เลย หนองคาย อุดรธานี ชัยภูมิ มหาสารคาม อุบลราชธานี ปราจีนบุรี และพระนครศรีอยุธยา รวม 73 อำเภอ 284 ตำบล 1,408 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 32,973 ครัวเรือน ส่งเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัย ระบายน้ำออกจากพื้นที่พร้อมดูแลให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงเร่งฟื้นฟูพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายให้กลับคืนสู่สภาพปกติอย่างต่อเนื่องและเต็มกำลัง

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานว่าในระหว่างวันที่ 16 ส.ค. – 27 ก.ย. 67 เกิดสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 37 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก พะเยา น่าน ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ เลย อุดรธานี หนองคาย นครพนม ขอนแก่น ชัยภูมิ มหาสารคาม บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุบลราชธานี ปราจีนบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี ระยอง ชุมพร สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต ยะลา นครศรีธรรมราช พังงา ตรัง และสตูล รวมพื้นที่ได้รับผลกระทบ 213 อำเภอ 926 ตำบล 4,930 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 175,955 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิตรวม 49 ราย และได้รับบาดเจ็บรวม 28 คน ซึ่งปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 18 จังหวัด ได้แก่เชียงราย เชียงใหม่ น่าน ลำปาง ลำพูน แพร่ ตาก เพชรบูรณ์ พิษณุโลก สุโขทัย เลย หนองคาย อุดรธานี ชัยภูมิ มหาสารคาม อุบลราชธานี ปราจีนบุรี และพระนครศรีอยุธยา รวมพื้นที่ได้รับผลกระทบ 73 อำเภอ 284 ตำบล 1,408 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 32,973 ครัวเรือน รายละเอียด ดังนี้


  • ภาคเหนือ รวม 10 จังหวัด 43 อำเภอ 142 ตำบล 739 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 16,926 ครัวเรือน
  1. เชียงราย เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองฯ อ.เวียงป่าเป้า อ.แม่สรวย และ อ.แม่ลาว รวม 12 ตำบล 108 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,892 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
  2. เชียงใหม่ เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองฯ อ.แม่อาย และ อ.แม่ออน รวม 10 ตำบล 25 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 7 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
  3. น่าน เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.นาน้อย อ.นาหมื่น และ อ.เวียงสา รวม 9 ตำบล 10 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 96 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
  4. ลำปาง เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อ.แม่พริก อ.สบปราบ อ.เถิน อ.เกาะคา และ อ.แจ้ห่ม รวม 21 ตำบล 129 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,571 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
  5. ลำพูน เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองฯ อ.ป่าซาง อ.บ้านธิ อ.ทุ่งหัวช้าง อ.แม่ทา อ.เวียงหนองล่อง และ อ.บ้านโฮ่ง รวม 29 ตำบล 234 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,113 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
  6. แพร่ เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.ลอง อ.วังชิ้น อ.สูงเม่น และ อ.เมืองฯ รวม 11 ตำบล 27 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 819 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
  7. ตาก เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.สามเงา และ อ.บ้านตาก รวม 5 ตำบล 39 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,445 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
  8. เพชรบูรณ์ เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อ.ชนแดน อ.ศรีเทพ อ.หล่มเก่า อ.หนองไผ่ และ อ.หล่มสัก รวม 7 ตำบล 21 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 738 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
  9. พิษณุโลก เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อ.พรหมพิราม อ.บางระกำ อ.เมืองฯ อ.บางกระทุ่ม อ.วังทอง อ.นครไทย และ อ.วัดโบสถ์ รวม 26 ตำบล 103 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,694 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
  10. สุโขทัย เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.สวรรคโลก อ.ศรีสำโรง และ อ.เมืองฯ รวม 12 ตำบล 43 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,551 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวม 6 จังหวัด 20 อำเภอ 72 ตำบล 361 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 8,491 ครัวเรือน

1) เลย เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ อ.เมืองฯ รวม 2 ตำบล 4 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 112 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

2) หนองคาย เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.ศรีเชียงใหม่ อ.ท่าบ่อ อ.เมืองฯ และ อ.โพนพิสัย รวม 26 ตำบล 146 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 7,717 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

3) อุดรธานี เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองฯ และ อ.สร้างคอม รวม 6 ตำบล 23 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 270 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว


4) ชัยภูมิ เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.คอนสวรรค์ อ.บ้านแท่น อ.ภูเขียว และ อ.จัตุรัส รวม 10 ตำบล 42 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 66 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

5) มหาสารคาม เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองฯ อ.กันทรวิชัย อ.โกสุมพิสัย อ.เชียงยืน รวม 19 ตำบล 123 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 23 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

6) อุบลราชธานี เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อ.เขมราฐ อ.โพธิ์ไทร อ.นาตาล อ.โขงเจียม และ อ.เมืองฯ รวม 9 ตำบล 23 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 303 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

  • ภาคตะวันออก รวม 1 จังหวัด 4 อำเภอ 6 ตำบล 21 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 639 ครัวเรือน

1) ปราจีนบุรี เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.ประจันตคาม อ.กบินทร์บุรี อ.ศรีมหาโพธิ และ อ.นาดี รวม 6 ตำบล 21 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 639 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว

  • ภาคกลาง รวม 1 จังหวัด 6 อำเภอ 64 ตำบล 287 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 6,917 ครัวเรือน

1) พระนครศรีอยุธยา เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อ.บางบาล อ.ผักไห่ อ.เสนา อ.พระนครศรีอยุธยา อ.บางปะอิน และ อ.บางไทร รวม 64 ตำบล 287 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 6,917 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ระดมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการและเครื่องจักรกลสาธารณภัย อาทิ เฮลิคอปเตอร์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย KA-32 เครื่องสูบส่งน้ำระยะไกล เครื่องสูบน้ำ รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย รถกู้ภัยเคลื่อนที่เร็ว รถผลิตน้ำดื่ม รถไฟฟ้าส่องสว่างขนาด 200 KVA รถบรรทุกเล็ก รถลากเรือเคลื่อนที่เร็ว เรือท้องแบน อุปกรณ์กู้ภัยทางน้ำ จากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่ พื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในภาคอื่นที่ไม่มีสถานการณ์ภัย เข้าร่วมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ที่เกิดสถานการณ์ภัย รวมถึงช่วยฟื้นฟูถนนหนทาง อาคารบ้านเรือน ในพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วเพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รายงานเหตุการณ์อย่างต่อเนื่อง และปักหลักช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลังจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยประชาชนสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์ ข่าวสารสาธารณภัย ได้ทาง Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM และ X @DDPMNews ติดตามการประกาศแจ้งเตือนภัยได้ทางแอปพลิเคชัน “Thai Disaster Alert” ทั้งระบบ IOS และ Android และหากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง .-317-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

ไล่ล่าโจรชิงทอง 123 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 15 ส.ค. – ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง แกะรอยหาเบาะแส ไล่ล่าโจรชิงทองห้างย่านบางบ่อ ยืนยันจำนวนทอง 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้าน ขณะที่พนักงานยังผวาทุกครั้งที่เห็นคนใส่ชุดไรเดอร์เดินเข้าห้าง จากเหตุการณ์คนร้ายแต่งกายด้วยชุดไรเดอร์ สวมกางกางยีนขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว เดินเท้าบุกเดี่ยวมาที่ร้านทอง แล้วชักอาวุธปืนพกแบบออโตเมติก สีบอร์นซ์ ขู่บังคับให้พนักงานขายทองซึ่งเป็นหญิง 3 คน หยิบทองรูปพรรณส่งให้คนร้าย แต่พนักงานขายทองไม่หยิบส่งให้ และหมอบลงกับพื้น คนร้ายจึงกระโดดข้ามตู้ทองด้านหน้าร้าน ไปเลื่อนกระจกตู้ทองด้านหลัง หยิบเอาทองคำรูปพรรณ มีสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท น้ำหนัก 3 บาท 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท 24 เส้น รวม 48 บาท […]

สส.เพื่อไทย ให้กำลังใจ “แพทองธาร” ผ่านอุปสรรคกลับมารับใช้ประชาชน

รัฐสภา 15 ส.ค.-สส.เพื่อไทย ให้กำลังใจ “แพทองธาร” ผ่านอุปสรรคกลับมารับใช้ประชาชน ด้านเจ้าตัวยิ้มสู้-ยังเข้มแข็ง กำชับ สส.ทำงานสภาเต็มที่ ลงพื้นที่ดูแลประชาชนใกล้ชิด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร​ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 วาระที่สอง วันสุดท้าย ซึ่ง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางเข้ามาติดตามการประชุม ตลอด 3 วันที่ผ่านมา โดยในช่วงเช้า สส.พรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะ สส.เขต ได้มีการเข้าพบหารือกับนางสาวแพทองธาร ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพื่อปรึกษาปัญหาในพื้นที่ รวมถึงเรื่องการผลักดันนโยบายต่างๆ ที่จะลงในพื้นที่ เนื่องจากในหลายจังหวัดมีโครงสร้างพื้นฐานพร้อมทุกด้าน แต่ยังขาดเรื่องการประชาสัมพันธ์ จึงอยากให้นางสาวแพทองธาร ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมผลักดันเกี่ยวกับซอฟพาวเวอร์ และจัดกิจกรรมอีเวนท์ต่างๆเพื่อ ให้จังหวัดนั้นๆเป็นที่รู้จักมากขึ้น นอกจากนี้ บรรดา สส. ของพรรคยังได้ให้กำลังใจนางสาวแพทองธาร เนื่องจากกลัวว่า อาจมีความเครียดและกังวลเรื่องคดีความ พร้อมขอให้นายกฯสู้ๆ เข้มแข็ง ผ่านอุปสรรคไปได้และได้กลับมาทำงานเพื่อประชาชน ขณะที่นางสาวแพทองธาร ยังคงยิ้มแย้ม แสดงความเข้มแข็ง และขอให้ สส.ทุกคน เดินหน้าทำหน้าทำงานในสภาอย่างเข้มแข็งเช่นกัน […]

ภาพเขมรรื้อถอน “ลวดหนาม-ธงชาติ” เป็นเฟคนิวส์

กทม. 15 ส.ค.-“ทบ.-ทภ.2” ยืนยันภาพเขมรรื้อถอน “ลวดหนาม-ธงชาติ” เป็นเฟคนิวส์ คาดฝ่ายกัมพูชาทำคอนเทนต์สร้างกระแส ให้เห็นว่าไม่ยอมฝ่ายไทย เตรียมประท้วงขัดข้อตกลง “จีบีซี” แม่ทัพภาค 2 ยันทุกอย่างอยู่ที่เดิม เมื่อวันที่ 15 ส.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีคลิปทหารกัมพูชาอ้างถึงการรื้อลวดหนามหีบเพลงใกล้ฐานปฏิบัติการซำแต ใกล้ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ว่า อาจจะเป็นการทำภาพวิดีโอ เพื่อนำเสนอให้คนกัมพูชาเห็นการปฏิบัติการตอบโต้ไทยตามแนวชายแดน แต่หลายอย่างไม่ได้ตรงกับพื้นที่จริง อาจจะเป็นเรื่องของการใช้กราฟิกในเรื่องของสีธง ซึ่งไม่ใช่พื้นที่ตรงนั้น มุ่งหวังสร้างขวัญกำลังใจกับฝ่ายกัมพูชามากกว่า เพื่อแสดงท่าทีว่าได้ทำอย่างหนึ่งอย่างใด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องลวดหนาม หรือธง ในพื้นที่บริเวณแนวชายแดน เมื่อดูจากสภาพแวดล้อม ไม่ใช่พื้นที่ที่มีการอ้างถึง “อาจจะมาทำเป็นลักษณะของการทำคอนเทนต์ ให้คนกัมพูชาเห็นว่ามีปฏิกิริยาที่ไม่เอารั้วลวดหนาม ไม่ใช่ภาพที่อยู่ในพื้นที่ของประเทศไทย ยืนยันไม่ใช่ภาพจริงที่เขาอ้างถึง ส่วนการละเมิดข้อตกลงจีบีซี ในเรื่องการบิดเบือนข่าวสารนั้น เราก็คงต้องประท้วงและแสดงให้เห็นว่าไม่ควรเกิดขึ้น” พล.ต.วินธัย ระบุ พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กองทัพบกชี้แจงกรณีสื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่ภาพอ้างว่าเป็นการรื้อถอนลวดหนามในพื้นที่จุ๊บตะโมก บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ โดยจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับหน่วยทหารในพื้นที่ประจำปราสาทตาเมือนธม ยืนยันว่าไม่ปรากฏเหตุการณ์หรือการปฏิบัติใดๆ ของทหารกัมพูชาตามที่มีการกล่าวอ้าง ทั้งนี้ […]

ไทยย้ำกัมพูชาละเมิดทุกกฎกติกา วางทุ่นระเบิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า

กระทรวงการต่างประเทศ 15 ส.ค.- กต. เชิญคณะทูตกลุ่มรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ชี้ “กัมพูชา” ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ลอบวางทุ่นระเบิดสังหารซ้ำแล้วซ้ำเล่า จงใจละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ขอผู้บริจาคสนับสนุนกัมพูชา ดำเนินทุกทางให้กัมพูชาหยุดวางทุ่นฯ อย่างไร้มนุษยธรรม พร้อมโชว์ทุ่นระเบิด PMN-2 ของกัมพูชา เก็บกู้ที่ช่องโดนเอาว์-กฤษณา และจุ๊บตาโมก กระทรวงการต่างประเทศ เชิญคณะทูตกลุ่มรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา รับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับเหตุการณ์การใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลของกัมพูชา โดยมีผู้เข้าร่วม 67 คน จาก 41 ประเทศ 1 องค์กร และ 4 องค์การ ในจำนวนนี้ยังมีเจ้าหน้าที่สถานทูตกัมพูชาเข้าร่วมรับฟังด้วย โดยนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวเปิดการบรรยายผ่านบันทึกวิดีทัศน์ เนื่องจากอยู่ระหว่างการเดินทางเพื่อเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ ตามกรอบความร่วมมือแม่โขง – ล้านช้าง (Mekong – Lancang Cooperation) หรือ MLC ครั้งที่ 10 และเข้าร่วมการหารือกับประเทศสมาชิก ณ เมืองอันหนิง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ […]