“นพดล” ยกเครดิตทุกหน่วยงานการปราบซิมผี-บัญชีม้า

กรุงเทพฯ 27 ก.ย.-“นพดล” ชี้ความสำเร็จในการปราบซิมผี-บัญชีม้า ยกเครดิตทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมหนุนรัฐบาล “แพทองธาร” แก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แนะรีบคืนเงินเหยื่อมิจฉาชีพ

นายนพดล กรรณิกา นักวิชาการด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์แห่งวิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม แสดงความเห็นชื่นชมการทำงานอย่างแข็งขันของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) ที่สามารถระดมกำลังร่วมกับหน่วยงานต่างๆ จับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับซิมผีและบัญชีม้าได้กว่า 2,100 ราย ภายในเวลาเพียง 16 วัน ระหว่างวันที่ 10-25 กันยายน 2567 ซึ่งเกินเป้าหมายที่วางไว้ถึงสี่เท่าตัว


นายนพดล กล่าวว่า การทำงานของหน่วยงานต่างๆ เช่น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.), กสทช., ธนาคารแห่งประเทศไทย และบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือและประสิทธิภาพของการดำเนินการด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ ซึ่งส่งผลกระทบในทางบวกต่อสังคมไทย โดยเฉพาะในการจัดการกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอย่างเด็ดขาด

นายนพดล ยังได้เสนอแนะว่า เพื่อยกระดับการดำเนินงานในอนาคต ควรพัฒนาเทคโนโลยีการตรวจสอบข้อมูลแบบเรียลไทม์ เพื่อวิเคราะห์และตรวจจับการใช้ซิมการ์ดและบัญชีธนาคารที่ผิดปกติ พร้อมแนะนำให้มีการสร้างความตระหนักรู้ในหมู่ประชาชนเกี่ยวกับความเสี่ยงของการให้ผู้อื่นใช้หมายเลขโทรศัพท์หรือบัญชีธนาคาร


ทั้งนี้เมื่อวันที่ 26 กันยายน ที่ผ่านมา พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. ได้ออกมากล่าวประชาสัมพันธ์ถึงประชาชน ให้ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์และบัญชี Mobile Banking ของตน หากมีหมายเลขหรือบัญชีที่ไม่ได้ใช้งาน ควรรีบแจ้งยกเลิกทันที เพราะหากถูกใช้เป็นบัญชีม้า เจ้าของหมายเลขจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

เช่นเดียวกับ พล.ต.ต.เอกธนัช ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการ ปปง. ระบุว่า ปัจจุบันมีบัญชีเสี่ยงที่จะเป็นบัญชีม้ากว่า 500,000 บัญชี และกำลังร่างกฎหมายเพื่อคืนเงินแก่ผู้เสียหายจากบัญชีเหล่านี้ คาดว่าจะเริ่มกระบวนการคืนเงินได้ภายในต้นปี 2568

นายนพดล กล่าวเพิ่มเติมว่า ปปง. ควรเร่งพัฒนากฎหมายให้เสร็จสมบูรณ์โดยเร็ว พร้อมพัฒนาเครื่องมือการตรวจจับบัญชีม้าอัตโนมัติ และสร้างความร่วมมือกับธนาคารและผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ เพื่อเพิ่มความเข้มงวดในการยืนยันตัวตน และป้องกันการเปิดบัญชีหรือซิมการ์ดที่ไม่ได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียด


อย่างไรก็ตามการปราบปรามซิมผีและบัญชีม้ายังต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนตุลาคมนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติวางแผนเปิดยุทธการปราบปรามครั้งใหม่เพื่อกวาดล้างปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีต่อไป.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือ นายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับในโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในประเทศไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข

หวยอลวน12ล้าน

หวย 12 ล้านพาวุ่น “ผู้กองเข้ม” แจ้งความ “ยายแหล่”

หวยอลวนมาอีกแล้ว หลังยายแหล่ แม่ค้าร้านลาบก้อย ที่เพิ่งถูกสลากฯ เป็นเศรษฐีใหม่ 12 ล้านบาท แต่มีตำรวจรายหนึ่ง ไปแจ้งความ ว่าถูกยายแหล่ ยักยอกทรัพย์

แอปฯ “ล่าเหรียญ” ฟีเวอร์ ทำชาวบ้านเดือดร้อน

แอปพลิเคชัน “Jagat” ฟีเวอร์ ทำวัยรุ่นว้าวุ่น แห่ล่าเหรียญแลกเงินที่กระจายอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ทำชาวบ้านและผู้ประกอบการเดือดร้อน ตำรวจเตือนการแชร์พิกัดตำแหน่งอาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพเฝ้าติดตามและฉวยโอกาสขโมยทรัพย์สินได้ และอาจเสี่ยงเจอข้อหาบุกรุก