“ภูมิธรรม” ยันจ่ายเยียวยาก้อนแรก ครอบครัวละ 5 พัน

ทำเนียบ 26 ก.ย.- “ภูมิธรรม” ยันจ่ายเงินเยียวยาก้อนแรก ครอบครัวละ 5,000 บาท เร็วสุดลดขั้นตอนจาก 30 วัน เหลือ 5 วัน เผยต้องการเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง เร่งเคลียร์โคลนให้หมด 29 ก.ย.นี้ รับตำรวจจับอาสาช่วยน้ำท่วม เพราะห่วงใยน้ำหนักเกินจะเป็นอันตราย จากนี้ประสานให้ดีขึ้น


นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แถลงผลการประชุม คณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบ อุทกภัย วาตภัย และ ดินโคลนถล่ม (ศปช.) ครั้งที่ 2 ว่า เวลานี้ทุกหน่วยราชการทั้งหมดมีความพร้อม ใช้เครื่องมืออุปกรณ์ทุกส่วนในการทำหน้าที่อย่างเต็มที่ แต่อุทกภัยดินโคลน ดินถล่ม น้ำท่วมปัจจุบันทันด่วนครั้งนี้ ไม่เหมือนครั้งที่ผ่านมา ก็เป็นเครื่องสะท้อนให้เห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ จึงทำให้มีการปรับเปลี่ยนของพายุ ของร่องอากาศ เพราะฉะนั้นก็ต้องรับมือ สิ่งสำคัญน้ำมาครั้งนี้ ไม่เคยเกิดมาก่อนก็ทิ้งโคลนไว้ ซึ่งหนักมากที่เชียงราย ตอนนี้ปัญหาหลังน้ำท่วมคือ ดินโคลนที่อยู่ตามถนน ซอกซอย และในบ้านเรือนของประชาชน ก็กำลังวางแผนบูรณาการ โดยขณะนี้เป็นช่วงรอยต่อที่ผู้ว่าฯเชียงราย กำลังจะเกษียณอายุราชการ ทางกระทรวงมหาดไทยจึงส่ง นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทยคนใหม่ และ นายชัยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) ไปเซ็นเตอร์หน้างาน ประสานงานกับทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ส่วนเรื่องอาหารสด และปัญหาถุงยังชีพ มีมากพอ แต่ตอนนี้ต้องการสิ่งที่จะฟื้นฟูจัดการเรื่องโคลน ซึ่งต้องใช้รถดูดโคลน รถน้ำ แลเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง และกำลังคน เวลานี้ได้มีการประสานงานกับหน่วยต่างๆแล้ว ให้เคลียร์ถนนใหญ่ให้เสร็จก่อน แล้วค่อยเข้าซอยต่างๆ เพื่อไปช่วยชาวบ้าน ไม่เช่นนั้นจะมีความยากลำบากในการใช้เครื่องมือเล็กในการเข้าพื้นที่ โดยมีการมอบหมายแต่กระทรวงรับผิดชอบแบ่งพื้นที่ให้ชัดเจน

สำหรับการเข้าฟื้นฟูบ้านเรือน บ้านหลังหนึ่งมีโคลน 1-2 เมตร ใช้กำลังพลประมาณ 30 คน ในการดำเนินการ ซึ่งตอนนี้มีอาสาสมัครจาก ปภ. อส. ทหาร และนักโทษชั้นดีจากกรมราชทัฑณ์ มาช่วย นอกจากนี้ยังมีมูลนิธิเอกชน เข้ามาเสริม แต่สิ่งที่อยากได้ในขณะนี้คือเครื่องมืออย่างเช่น จอบ เสียม เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง รถแบ็คโฮ รถคูโบต้า เพราะโคลนเหล่านี้หากอยู่ตามท่อ และในบ้าน ทิ้งไว้นานจะเป็นหินปูนได้


นอกจากนี้ อยากให้ทุกฝ่ายจดบันทึกเป็นบทเรียนไว้ เพราะเรายังต้องเผชิญกับภาวะแบบนี้อีก จึงต้องเตรียมหาอุปกรณ์ต่างๆ รองรับ ซึ่งหลังจากนี้ก็คงจะมีการพูดต่อไป ส่วนวันพรุ่งนี้ น.ส.แพทิงธาร ชินวัตร นายกฯ และ รองนายกฯ ที่เกี่ยวข้อง จะลงพื้นที่เชียงราย และค้างคืน เพื่อรับทราบสถานการณ์ และแก้ปัญหาในพื้นที่ ส่วนวันรุ่งขึ้นนายกจะเดินทางต่อไปที่ จ.เชียงใหม่ ขณะที่รองนายกฯคนอื่น จะกระจายลงพื้นที่ โดยตนและนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจษฐกิจและสังคม จะเดินทางไปที่ จ.ลำปาง เพื่อดูเขื่อน พี่ตอนนี้ระดับน้ำอยู่ในภาวะวิกฤต

ส่วนระบบเตือนภัย ตอนนี้ทำได้ดีมากขึ้นกว่าเดิม สามารถเตือนภัยผ่าน SMS ทางโทรศัพท์ถึงประชาชนได้โดยตรง นอกจากนี้ ที่ประชุม ศปส. แต่งตั้ง นายปลอดประสพ สุรัสวดี เป็นที่ปรึกษา ศปส. เนื่องจากต้องใช้ความรู้ทางเทคนิค และนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ เป็นโฆษก ศปส. เพื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร

สำหรับการจ่ายเงินเยียวยา วันพรุ่งนี้ (27 ก.ย.) หลังนายกฯ ลงพื้นที่ จะสั่งการให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยเงิน 3,000 ล้านบาท ที่ ครม. อนุมัติ ได้โอนไปที่ ปภ. แล้ว แต่ยังมีปัญหาเรื่องกฎระเบียบการใช้เงิน ซึ่งจะลดขั่นตอนจาก 30 วัน ให้เหลือ 5 วัน โดยเงินก้อนแรกจะจ่ายให้ครอบครัวละ 5,000 บาท ซึ่งผู้ว่าฯ สามารถจ่ายได้เลย เพราะมีงบจังหวัดละ 200 ล้านบาทอยู่แล้ว เบื้องต้นพยายามจะจ่ายให้ทั่วถึงก่อน จากนั้นจะพิจารณาเพิ่มเติม


นายภูมิธรรม ยังชี้แจงถึงการตั้ง นายอรรษิษฐ์ ไปดูแลพื้นที่เชียงราย ว่า เป็นเพราะผู้ว่าฯเชียงรายป่วย และใกล้จะเกษียณแล้ว ก็พยายามไม่ให้ขาดช่วง แม้เจ้าตัวจะปฏิบัติงานได้แต่ก็ไม่เต็มที่ จึงแก้จุดอ่อนด้วยการให้นายอนุทินช่วยแก้ปัญหาแล้ว เพราะฉะนั้นเซ็นเตอร์ตอนนี้อยู่ที่อธิบดี ปภ. ส่วนภาคเอกชนที่มาช่วย ขอให้มีการประสานงานให้ชัดเจน เพราะการระดมรถบรรทุกมาช่วย ซึ่งมีบางส่วนที่ผิดกฎหมาย เช่น บรรทุกน้ำหนักเกิน เกรงจะมีอันตรายถึงชีวิต จึงขอให้เป็นไปตามข้อบังคับทางกฎหมาย

ส่วนกรณีอาสาสมัครที่นำรถมาช่วยน้ำท่วม เมื่อเดินทางกลับ ถูกกรมทางหลวง และตำรวจจับ ดำเนินคดีนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ในที่ประชุมได้มีการพูดคุยกันอยากให้มีการประสานงานก่อน ในการนำอุปกรณ์ไปช่วย เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน แทนที่จะช่วยกลายเป็นเอาอุปกรณ์ไปกองรวมกัน กลายเป็นอุปสรรคในการทำงาน อีกทั้งการนำอุปกรณ์มาบางครั้งก็บรรทุกน้ำหนักเกิน ทำให้ตำรวจทางหลวงห่วงใย เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายและกระทบต่อผู้อื่นที่ใช้เส้นทาง จึงขอดูข้อกฎหมายให้ดี และจะขอให้ช่วยผ่อนปรนอำนวยความสะดวก เพื่อแก้ปัญหาช่วงวิกฤตนี้ ในการหาทางออกร่วมร่วมกัน

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมที่เชียงใหม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า พรุ่งนี้(27 ก.ย.) จะมีการเสนอนายกฯ แก้ปัญหา ซึ่งกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ยินดีคืนพื้นที่ให้ เพื่อให้ระบายน้ำคล่องตัวมากขึ้น ตรงไหนมีสะพาน มีตอหม้อขวางอยู่ ก็จะยกสะพานขึ้น เมื่อน้ำไหลคล่องตัวขึ้น การเอ่อล้นท่วมในเมืองก็จะลดลง โดยจะทำงานแข่งกับเวลาเพื่อไม่ให้เป็นปัญหาในอนาคต ให้ครอบคลุมทุกพื้นที โดยในพื้นที่ อ.เมือง จ.เชียงราย กำหนดดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 29 กันยายน 2567 ส่วนการดำเนินการในพื้นที่อำเภอแม่สาย แบ่งการดำเนินการเป็น 5 โซน กำหนดดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 30 วัน หรือประมาณวันที่ 20 ตุลาคม 2567

ขณะที่ภาคอีสาน สถานการณ์ยังไม่วิกฤต แต่มีหน่วยงาน ปภ. และกองทัพภาคที่ 2 ดูแลอยู่แล้ว.-315 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือด “ไทย-กัมพูชา”

24 ก.ค. – ไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (24 ก.ค.) มีที่มาที่ไปอย่างไร พลันที่ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 เหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเย็นวานนี้ (23 ก.ค.) ทำให้ทหาร 1 นาย บาดเจ็บสาหัสขาขาด อีก 4 นาย บาดเจ็บ ซ้ำรอยเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดถึงขีดสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยกระดับมาตรการตอบโต้สั่งปิดด่าน 4 แห่ง คือ ช่องอานม้า, ช่องสะงำ, ช่องจอม และช่องสายตะกู พร้อมปิดสถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายทันที 07.35 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ความรุนแรงเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม รายงานว่าได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ […]

ไม่พลาดเป้า! เอฟ-16 ทิ้งบอมบ์รอบ 2 กลับฐานปลอดภัย

24 ก.ค.- ทอ.เปิดปฏิบัติการ ส่งเอฟ-16 ทิ้งบอมบ์ฝั่งกัมพูชาไม่พลาดเป้า กลับฐานแล้วอย่างปลอดภัย เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ก.ค.68 กองทัพอากาศ เปิดปฏิบัติการ ส่ง F-16 รอบ 2 ของวันนี้ 4 เครื่อง ในการโจมตีทางอากาศตอบโต้กองทัพกัมพูชา ในจุดสำคัญ ทางทิศใต้ของปราสาทตาเมือนธม ไม่พลาดเป้า โดยล่าสุด 17.00 น. F-16 ทั้ง 4 เครื่อง กลับฐานบิน ปลอดภัย หลังสนับสนุน เปิดปฏิบัติการ “ยุทธบดินทร์” -สำนักข่าวไทย