ปชน.เสียดายสภาฯ ถอนร่างกฎหมายเฆี่ยนตีเด็ก ทบทวนใหม่

รัฐสภา 25 ก.ย.-ปชน. เสียดายสภาฯ ถอนร่างกฎหมายเฆี่ยนตีเด็ก กลับไปทบทวนใหม่ “ณัฐวุฒิ” บอกเหมือนอภิปรายวนกลับไปวาระแรก ทั้งที่ฉลุยรับหลักการมาแล้ว ยันเนื้อหาไม่ขัดหลักการ รับอาจสื่อสารผิดพลาด ถ้อยคำไม่ชัดเจน ขอกลับไปเร่งทำการบ้านมาใหม่ เชื่อไม่ใช่เกมการเมือง มั่นใจดันเข้าสู่การพิจารณาทัน “วันเด็ก” ปีหน้า

นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) พร้อมคณะ แถลงกรณีที่ต้องถอนร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ที่กมธ.วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว ที่มีสาระสำคัญเกี่ยวกับความเสี่ยงในการเลี้ยงดูบุตรโดยมิชอบ จนเกิดความรุนแรงของผู้ปกครองที่กระทำต่อบุตร อันมาจากภาวะครอบครัวที่สับสนวุ่นวาย หรือมีปัญหาทางสังคม กลับไปทบทวนว่า เหตุผลมาจากการอภิปรายของสมาชิก มีการตั้งคำถามว่าการแก้ไขร่างฯฉบับนี้เป็นไปเพื่อเหตุใด ทำให้เหมือนกลับไปอภิปรายวาระแรกอีกครั้ง ทั้งที่วาระแรกทุกพรรค ลงมติรับหลักการจำนวน401เสียง เห็นด้วยกับการแก้ไขเรื่องสิทธิ์การลงโทษบุตรของผู้ปกครอง จะต้องไม่เปิดช่องให้พิจารณาโดยดุลยพินิจว่าการดำเนินการอย่างสมควรเป็นอย่างไร และต้องไม่เป็นทารุณกรรมที่ส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจ ซึ่งในชั้นกมธ.มีการปรับแก้แล้ว ยืนยันว่าเนื้อหาที่พิจารณาในวันนี้ไม่ขัดต่อหลักการ


นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีถ้อยคำ กมธ.มีการปรับแก้3ประเด็น 1.เพิ่มเรื่องการทำโทษ ที่แต่เดิมทำเพื่อว่ากล่าวสั่งสอน เปลี่ยนเป็นการทำเพื่อปรับพฤติกรรม ซึ่งเป็นคำเชิงบวก 2.เปลี่ยนคำว่าทารุณกรรม หรือทำร้าย เป็นคำว่าใช้ความรุนแรง ที่เป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก และ3.ปรับคำว่าด้อยค่า เป็นการกระทำโดยมิชอบ ยืนยันว่าเนื้อหาสาระยังเป็นคำที่สอดคล้อง มุ่งเน้นการสนับสนุนพ่อแม่ผู้ปกครอง ในการหาวิธีการที่เหมาะสม ในการทำโทษบุตร ไม่ใช่การที่ถูกกล่าวอ้างว่า ต่อไปนี้พ่อแม่ผู้ปกครอง จะไม่สามารถลงโทษหรือกระทำใดๆต่อบุตรได้ หรือไม่ใช่ที่ถูกกล่าวอ้างว่าจะนำไปสู่ความแตกแยกในครอบครัวจนถึงขั้นฟ้องร้องดำเนินคดีพ่อแม่ ทั้งหมดไม่มีประเด็นใดที่เกี่ยวข้องกับร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้

นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ขณะที่การเฆี่ยนตี กมธ.ไม่ได้ใส่คำเข้าไปใหม่ เป็นคำที่ปรากฎอยู่ในชั้นรับหลักการจากสภาฯวาระแรกอยู่แล้ว คำนี้มีความหมายอยู่ในตัวจึงสะท้อนถึงความรุนแรงในระดับหนึ่ง ซึ่งคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ที่ประเทศไทยกำลังจะขอมีที่นั่ง ได้ท้วงติงใหเระบุชัดเจนบ่าเป็นข้อห้ามในกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ได้หรือไม่ กมธ.ก็ยืนตามนั้น ดังนั้น เหตุผลทั้งหมดที่กล่าวมา จึงไม่มีเหตุผลที่วันนี้จะพิจารณาในลักษณะเพิกถอนหรือไม่เห็นด้วยในการผ่านวาระ 2-3 พรรคประชาชนตระหนักดีว่าอาจจะยังไม่สามารถสื่อสารได้มากพอ เข้าใจว่าสังคมมีความก้าวหน้า มีความเข้าใจเรื่องเหล่านี้มากยิ่งขึ้น ทุกคนมีความห่วงใยปัญหาดี หากมีทางเลือกก็จะไม่ใช่ความรุนแรง จึงเป็นข้อสะท้อนว่าการพิจารณาในสภาฯวันนี้ เสมือนยังมีความไม่เข้าใจจำนวนมาก


“ถือเป็นความผิดพลาดของพวกเรา เราต้องทำการบ้านให้หนักขึ้น เพื่อสื่อสารความเข้าใจที่ถูกต้องว่า แม้กฎหมายฉบับนี้จะเป็นของฝ่ายค้านเพียงพรรคเดียวฉบับเดียว ใน2สมัยประชุมที่ผ่านมา เราก็เสียดายที่ไม่มีกฎหมายของพรรคร่วมรัฐบาลมาประกบ แต่ไม่ควรนำเรื่องนี้มาเป็นประเด็นทางการเมือง ที่ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายฉบับนี้ ควรพิจารณาบนเนื้อหาสาระ หรือเป้าหมายที่เราประกาศมุ่งเน้นในการปกป้องคุ้มครองสิทธิเด็ก แต่คงต้องยอมรับ สิ่งที่สมาชิกท้วงติงในห้องประชุม จึงต้องถอนร่างออกไปเพื่อพิจารณาทบทวน จากนั้นทาง กมธ.จะมีการนัดประชุมอย่างเร่งด่วนในต้นสัปดาห์หน้า เพื่อปรับแก้ข้อทบทวนที่ถูกกล่าวอ้าง แล้วจะรีบส่งกลับเข้าสู่สภาฯ”

นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ในสมัยประชุมอีก1เดือนที่เหลืออยู่ เราขอความร่วมมือไปยังวิปรัฐบาล หากเห็นตรงกันว่ากฎหมายฉบับนี้ มีหลักประกันสำคัญในการคุ้มครองเด็ก ก็ควรถูกพิจารณาในสมัยประชุมนี้ ถ้าไม่ทันในสมัยประชุมนี้ คงต้องตั้งคำถามว่ามีกระบวนการผิดพลาดในสภาฯอย่างไร ถึงทำให้กฎหมายดีๆหลายฉบับต้องพิจารณาล่าช้า

เมื่อถามว่า มองว่าเป็นเหตุผลทางการเมืองมากกว่าการสื่อสารของพรรคประชาชนหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนไม่สามารถตอบแทนคนที่ไม่เห็นด้วยได้ การอภิปรายในสภาฯวันนี้เหมือนเป็นการอภิปรายย้อนกลับไปในวาระแรก แล้วทำไมจะต้องอภิปรายซ้ำในวาระ2 ตนคาดหวังว่าเวลาที่เราพูดถึงเป้าหมายทางการเมืองควรใช้กับเรื่องอื่น คงไม่เกี่ยวกับเรื่องเด็ก หรือครอบครัว ตนยังเชื่อมั่นจากการที่มีการสื่อสารกับพรรคการเมือง เขาอาจติดในเรื่องถ้อยคำที่ยังคลุมเครือจริงๆ เชื่อว่าไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่เสียดายที่ทำให้การบังคับใช้กฎหมายล่าช้าออกไป แต่ยังมั่นใจว่าจะพิจารณาได้ทันก่อนถึงวันเด็กแห่งชาติในปีหน้า.-312.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

แจ้งข้อหาเพิ่ม “ทนายตั้ม” คดี 39 ล้านบาท รวม 7 ข้อหา

แจ้งข้อหาเพิ่ม “ทนายตั้ม” คดี 39 ล้านบาท รวม 7 ข้อหา จ่อแจ้งข้อหา “นุ-แซน” เพิ่มเติม และเชื่อว่ามีบุคคลอื่นที่ต้องถูกดำเนินคดีอีก ส่วน “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ยังไม่ประสานเข้าพบหลังออกหมายเรียก

วิสามัญมือยิงประธานสภา อบต.โพนจาน ยิงสู้ จนท.

วิสามัญมือยิงประธานสภา อบต.โพนจาน จ.นครพนม หลังหนีข้ามมา จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ปิดล้อมเกลี้ยกล่อมให้วางอาวุธ แต่ไม่สำเร็จ คนร้ายยิงต่อสู้

ขู่ยื่นเอาผิด รมว.ดีอี ปล่อยโฆษณาหลอกหลวง ปชช.

รัฐสภา 3 ธ.ค. – กมธ.ไอซีที สว. ขู่ ยื่น ม.157 เอาผิด รมว.ดีอี ฉุนเกียร์ว่าง ปล่อยโฆษณาหลอกหลวง ประชาชน – ปล่อย “หมอบุญ” หนีลอยนวล จี้รัฐยกปราบหลอกลวงออนไลน์เป็นวาระแห่งชาติ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. ฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม คนที่หก วุฒิสภา แถลงผลการประชุมกมธ. เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ซึ่งตรวจสอบกรณีการโฆษณาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ให้ลงทุนในสินทรัพย์ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงอาทิ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กรณีของนพ.บุญ วนาสิน ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี ที่พบกรณีฉ้อโกงและฟอกเงิน เป็นมูลค่าสูงกว่า 7,500 ล้านบาท อย่างไรก็ดีในคดีดังกล่าวถูกแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.ห้วยขวาง แล้วปี 2566 แต่ไม่มีการดำเนินการใดๆ จนกระทั่งนพ.บุญเดินทางออกไปนอกประเทศและไม่มีการอายัดทรัพย์ ทั้งนี้ในการหลอกหลวงผ่านโฆษณาชวนเชื่อนั้น ทำผ่านโบรกเกอร์ที่หลอกลงทุน ทั้งนี้เชื่อว่าจะเป็นนักลงทุนที่เคยลงทุนที่คุ้นเคยกับเครือโรงพยาบาลธนบุรี “จากการชี้แจงกรณี นพ.บุญของหน่วยงานที่ชี้แจง พบเป็นการโยนกลองกันไปมา ไม่มีหน่วยงานใดที่รับผิดชอบจริงจัง […]

ข่าวแนะนำ

“ชูศักดิ์” ลงนามอัญเชิญพระเขี้ยวแก้ว ประดิษฐานชั่วคราวสนามหลวง

“ชูศักดิ์” รมต.ประจำสำนักนายกฯ ลงนามอัญเชิญพระเขี้ยวแก้ว จากวัดหลิงกวง ประเทศจีน ประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง 4 ธ.ค.67 ถึง 14 ก.พ.68 พร้อมร่วมงานวันชาติไทย ณ กรุงปักกิ่ง

จุดยืนกองทัพเรือ ปม “เกาะกูด”

นับตั้งแต่มีการโต้เถียงปม “เกาะกูด” มาระยะหนึ่ง วันนี้ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ จัดบรรยายพิเศษ “หลักกฎหมายว่าด้วยอาณาเขตทางทะเล” ที่สถาบันวิชาการทหารเรือชั้นสูง มีกำลังพลที่เรียนหลายหลักสูตรเข้าร่วมรับฟัง รวมถึงประชาชนและสื่อมวลชน

จับ 5 ผู้ต้องหา อ้างมีโควตาลอตเตอรี่ราคาถูก เสียหาย 400 ล้าน

ตำรวจไซเบอร์จับ 5 ผู้ต้องหา อ้างเป็นตัวแทนจำหน่ายมีโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลราคาถูกพิเศษกว่าท้องตลาดทั่วไป พบผู้เสียหายทั่วประเทศกว่า 100 คน มูลค่าความเสียหาย 400 ล้านบาท

แจ้งข้อหาเพิ่ม “ทนายตั้ม” คดี 39 ล้านบาท รวม 7 ข้อหา

แจ้งข้อหาเพิ่ม “ทนายตั้ม” คดี 39 ล้านบาท รวม 7 ข้อหา จ่อแจ้งข้อหา “นุ-แซน” เพิ่มเติม และเชื่อว่ามีบุคคลอื่นที่ต้องถูกดำเนินคดีอีก ส่วน “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ยังไม่ประสานเข้าพบหลังออกหมายเรียก