ปชน.เสียดายสภาฯ ถอนร่างกฎหมายเฆี่ยนตีเด็ก ทบทวนใหม่

รัฐสภา 25 ก.ย.-ปชน. เสียดายสภาฯ ถอนร่างกฎหมายเฆี่ยนตีเด็ก กลับไปทบทวนใหม่ “ณัฐวุฒิ” บอกเหมือนอภิปรายวนกลับไปวาระแรก ทั้งที่ฉลุยรับหลักการมาแล้ว ยันเนื้อหาไม่ขัดหลักการ รับอาจสื่อสารผิดพลาด ถ้อยคำไม่ชัดเจน ขอกลับไปเร่งทำการบ้านมาใหม่ เชื่อไม่ใช่เกมการเมือง มั่นใจดันเข้าสู่การพิจารณาทัน “วันเด็ก” ปีหน้า

นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) พร้อมคณะ แถลงกรณีที่ต้องถอนร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ที่กมธ.วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว ที่มีสาระสำคัญเกี่ยวกับความเสี่ยงในการเลี้ยงดูบุตรโดยมิชอบ จนเกิดความรุนแรงของผู้ปกครองที่กระทำต่อบุตร อันมาจากภาวะครอบครัวที่สับสนวุ่นวาย หรือมีปัญหาทางสังคม กลับไปทบทวนว่า เหตุผลมาจากการอภิปรายของสมาชิก มีการตั้งคำถามว่าการแก้ไขร่างฯฉบับนี้เป็นไปเพื่อเหตุใด ทำให้เหมือนกลับไปอภิปรายวาระแรกอีกครั้ง ทั้งที่วาระแรกทุกพรรค ลงมติรับหลักการจำนวน401เสียง เห็นด้วยกับการแก้ไขเรื่องสิทธิ์การลงโทษบุตรของผู้ปกครอง จะต้องไม่เปิดช่องให้พิจารณาโดยดุลยพินิจว่าการดำเนินการอย่างสมควรเป็นอย่างไร และต้องไม่เป็นทารุณกรรมที่ส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจ ซึ่งในชั้นกมธ.มีการปรับแก้แล้ว ยืนยันว่าเนื้อหาที่พิจารณาในวันนี้ไม่ขัดต่อหลักการ


นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีถ้อยคำ กมธ.มีการปรับแก้3ประเด็น 1.เพิ่มเรื่องการทำโทษ ที่แต่เดิมทำเพื่อว่ากล่าวสั่งสอน เปลี่ยนเป็นการทำเพื่อปรับพฤติกรรม ซึ่งเป็นคำเชิงบวก 2.เปลี่ยนคำว่าทารุณกรรม หรือทำร้าย เป็นคำว่าใช้ความรุนแรง ที่เป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก และ3.ปรับคำว่าด้อยค่า เป็นการกระทำโดยมิชอบ ยืนยันว่าเนื้อหาสาระยังเป็นคำที่สอดคล้อง มุ่งเน้นการสนับสนุนพ่อแม่ผู้ปกครอง ในการหาวิธีการที่เหมาะสม ในการทำโทษบุตร ไม่ใช่การที่ถูกกล่าวอ้างว่า ต่อไปนี้พ่อแม่ผู้ปกครอง จะไม่สามารถลงโทษหรือกระทำใดๆต่อบุตรได้ หรือไม่ใช่ที่ถูกกล่าวอ้างว่าจะนำไปสู่ความแตกแยกในครอบครัวจนถึงขั้นฟ้องร้องดำเนินคดีพ่อแม่ ทั้งหมดไม่มีประเด็นใดที่เกี่ยวข้องกับร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้

นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ขณะที่การเฆี่ยนตี กมธ.ไม่ได้ใส่คำเข้าไปใหม่ เป็นคำที่ปรากฎอยู่ในชั้นรับหลักการจากสภาฯวาระแรกอยู่แล้ว คำนี้มีความหมายอยู่ในตัวจึงสะท้อนถึงความรุนแรงในระดับหนึ่ง ซึ่งคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ที่ประเทศไทยกำลังจะขอมีที่นั่ง ได้ท้วงติงใหเระบุชัดเจนบ่าเป็นข้อห้ามในกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ได้หรือไม่ กมธ.ก็ยืนตามนั้น ดังนั้น เหตุผลทั้งหมดที่กล่าวมา จึงไม่มีเหตุผลที่วันนี้จะพิจารณาในลักษณะเพิกถอนหรือไม่เห็นด้วยในการผ่านวาระ 2-3 พรรคประชาชนตระหนักดีว่าอาจจะยังไม่สามารถสื่อสารได้มากพอ เข้าใจว่าสังคมมีความก้าวหน้า มีความเข้าใจเรื่องเหล่านี้มากยิ่งขึ้น ทุกคนมีความห่วงใยปัญหาดี หากมีทางเลือกก็จะไม่ใช่ความรุนแรง จึงเป็นข้อสะท้อนว่าการพิจารณาในสภาฯวันนี้ เสมือนยังมีความไม่เข้าใจจำนวนมาก


“ถือเป็นความผิดพลาดของพวกเรา เราต้องทำการบ้านให้หนักขึ้น เพื่อสื่อสารความเข้าใจที่ถูกต้องว่า แม้กฎหมายฉบับนี้จะเป็นของฝ่ายค้านเพียงพรรคเดียวฉบับเดียว ใน2สมัยประชุมที่ผ่านมา เราก็เสียดายที่ไม่มีกฎหมายของพรรคร่วมรัฐบาลมาประกบ แต่ไม่ควรนำเรื่องนี้มาเป็นประเด็นทางการเมือง ที่ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายฉบับนี้ ควรพิจารณาบนเนื้อหาสาระ หรือเป้าหมายที่เราประกาศมุ่งเน้นในการปกป้องคุ้มครองสิทธิเด็ก แต่คงต้องยอมรับ สิ่งที่สมาชิกท้วงติงในห้องประชุม จึงต้องถอนร่างออกไปเพื่อพิจารณาทบทวน จากนั้นทาง กมธ.จะมีการนัดประชุมอย่างเร่งด่วนในต้นสัปดาห์หน้า เพื่อปรับแก้ข้อทบทวนที่ถูกกล่าวอ้าง แล้วจะรีบส่งกลับเข้าสู่สภาฯ”

นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ในสมัยประชุมอีก1เดือนที่เหลืออยู่ เราขอความร่วมมือไปยังวิปรัฐบาล หากเห็นตรงกันว่ากฎหมายฉบับนี้ มีหลักประกันสำคัญในการคุ้มครองเด็ก ก็ควรถูกพิจารณาในสมัยประชุมนี้ ถ้าไม่ทันในสมัยประชุมนี้ คงต้องตั้งคำถามว่ามีกระบวนการผิดพลาดในสภาฯอย่างไร ถึงทำให้กฎหมายดีๆหลายฉบับต้องพิจารณาล่าช้า

เมื่อถามว่า มองว่าเป็นเหตุผลทางการเมืองมากกว่าการสื่อสารของพรรคประชาชนหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนไม่สามารถตอบแทนคนที่ไม่เห็นด้วยได้ การอภิปรายในสภาฯวันนี้เหมือนเป็นการอภิปรายย้อนกลับไปในวาระแรก แล้วทำไมจะต้องอภิปรายซ้ำในวาระ2 ตนคาดหวังว่าเวลาที่เราพูดถึงเป้าหมายทางการเมืองควรใช้กับเรื่องอื่น คงไม่เกี่ยวกับเรื่องเด็ก หรือครอบครัว ตนยังเชื่อมั่นจากการที่มีการสื่อสารกับพรรคการเมือง เขาอาจติดในเรื่องถ้อยคำที่ยังคลุมเครือจริงๆ เชื่อว่าไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่เสียดายที่ทำให้การบังคับใช้กฎหมายล่าช้าออกไป แต่ยังมั่นใจว่าจะพิจารณาได้ทันก่อนถึงวันเด็กแห่งชาติในปีหน้า.-312.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

โรงงานพลุระเบิด เสียชีวิต 9 ราย เจ็บสาหัสอีกจำนวนหนึ่ง

สุพรรณบุรี 30 ก.ค. – เหตุโรงงานพลุระเบิด ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี พบผู้เสียชีวิต 9 ราย และบาดเจ็บสาหัสอีกจำนวนหนึ่ง ความคืบหน้าเหตุโรงงานพลุระเบิด ที่บ้านหลังหนึ่ง พื้นที่บ้านโพธิ์ทราย ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิต 9 ราย และผู้บาดเจ็บสาหัสอีกจำนวนหนึ่ง บ้านเรือนเสียหาย 2 หลัง รถยนต์ 1 คัน เบื้องต้นไม่พบใบอนุญาตทำพลุ เจ้าหน้าที่ EOD และพิสูจน์หลักฐานเร่งดำเนินการตรวจสอบ ขณะที่ดินปืนยังปะทุไม่หยุด ลูกสาวของคนงานรายหนึ่งที่เข้าไปทำงานในบ้านหลังดังกล่าว เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า แม่ของตนปกติทำงานที่ไร่แตงโม เพิ่งมารับจ้างทำพลุลูกนกได้ประมาณ 2 วัน ตอนนี้พยายามโทรติดต่อแม่ แต่ติดต่อไม่ได้ ภาวนาขอให้แม่ปลอดภัย สำหรับเหตุการณ์พลุระเบิดในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี เกิดขึ้นหลายครั้ง แต่เฉพาะที่ ต.บ้านโพธิ์ เกิดขึ้นมาแล้ว 2 ครั้ง ปี 2549 ปี 2558 รวมครั้งนี้เป็นครั้งที่ […]

“พล.อ.ณัฐพล” สั่ง ทบ.เชิญ ผช.ทูตทหารต่างชาติ ลงชายแดน

กลาโหม 30 ก.ค.- “พล.อ.ณัฐพล” สั่ง ทบ.เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ ลงพื้นที่ดูความเสียหายประชาชนจากการปฏิบัติของกัมพูชา พร้อมยืนยันประท้วงแน่ ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ต้องบอกนานาชาติ ชี้เป็นธรรมชาติ “กัมพูชา” บิดเบือน แต่ไทยมีหลักฐานหมด ทั้งภาพถ่ายทางอากาศ-เทคโนโลยี เข้าสู่กระบวนการเจรจา ยอมรับทำงานภายใต้แรงกดดัน วอนสื่อทำความเข้าใจ ชี้แจง ปชช. (30 ก.ค.68) เวลา 08.15 น. พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนเป็นประธานการประชุมสภากลาโหม ถึงกรณีฝ่ายไทยเตรียมให้กองทัพบกประสานผู้ช่วยทูตทหารนานาประเทศ ประจำประเทศไทยลงพื้นที่ชายแดนว่า จะพาไปดูความสูญเสียของพลเรือนที่ได้รับการปฏิบัติจากฝ่ายทหารกัมพูชา ซึ่งเพิ่งได้สั่งการไปที่กองทัพบกเมื่อคืนนี้ ขณะนี้ยังไม่ทราบว่า จะมีประเทศใดบ้างเข้าร่วม ทั้งนี้พยายามประสานงานกับประเทศมาเลเซียให้มาดูเรื่องของสถานการณ์ในพื้นที่ด้วย ส่วนกรณีเรื่องการละเมิดข้อตกลงของกัมพูชาที่มีการยิงตามแนวชายแดน เรื่องนี้ต้องมีการประท้วง และสื่อสารให้นานาชาติรับทราบ โดยได้ย้ำกับกองทัพบกให้สื่อสารทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ซึ่งโฆษกทุกเหล่าทัพต้องช่วยกัน รวมทั้งของศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา หรือ ศบ.ทก. พร้อมย้ำว่า หลักของการหยุดยิงตามข้อตกลงคือ ทุกหน่วยต้องหยุด อยู่กับที่ และรอจนกว่า จะมีผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา หรือ จีบีซี ส่วนที่ฝ่ายกัมพูชาปฏิเสธการละเมิดข้อตกลงการหยุดยิงนั้น […]

สภาฯ ยืนไว้อาลัยแด่ผู้เสียชีวิตจากเหตุสู้รบชายแดน

รัฐสภา 30 ก.ค.- “สภาฯ” ยืนไว้อาลัย ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน “ครูมานิตย์” ชื่นชมทหารกล้า ลั่นถ้าไม่มีอาวุธที่ทันสมัยคนสุรินทร์ตายเป็นเบือ ดีไม่ดีรวมตัวเอง เผย ไปนั่งเฝ้าที่ศูนย์อพยพ มีทั้งจิตตก ซึมเศร้า กินข้าวไม่ได้ ต้องกินกาแฟแทน เพราะคิดถึงบ้าน พร้อมเสนอลดค่าน้ำ ค่าไฟ บ้านที่ผู้อพยพไปอยู่ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม โดยในช่วงหารือ นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย หารือถึงปัญหาการสู่รายแดนไทย กัมพูชา ว่า ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.จนถึงปัจจุบัน ที่เกิดเหตุรุนแรงการสู่รบในหลายจังหวัด ซึ่ง จังหวัดที่โดนรุนแรงมากที่สุดคือจ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นเป้าหมายเพราะมีประสาทต่างๆแและอันดับสองคือจังหวัดศรีสะเกษซึ่งมีหลายมิติ แต่มิติแรกที่จบไปโดยตัวมันเองว่าทหารมีไว้ทำไม ถ้าไม่มีทหารไม่มีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยคนสุรินทร์ตายเป็นเบือ ดีไม่ดีรวมตนด้วย เพระายุทธวิธีในวันนั้นเห็นได้ชัด ก่อนที่จะชะลอการหยุดยิง เพราะตนยังไม่เชื่อว่าจะยุติโดยสิ้นเชิง เพราะตนอยู่ในพื้นที่ แต่ทหารเรามีความกล้าหาญและมียุทธวิธีที่ดีประคับประคองคิดพื้นที่ไม่ให้พี่น้องเราเดือดร้อนไปมากกว่านี้ “เสียใจกับ 15 วีรบุรุษ จึงขอฝากทางราชการว่าอะไรที่มอบให้เขาได้ใหญ่ก็มอบให้เถอะไม่ว่าจะเป็นการชดเชยให้กับครอบครัว หรือเพิ่มยศให้กับเขาให้โอกาสลูกของเขา ผมเกิดมาก็เพิ่งเห็นเที่ยวนี้ว่าเอฟ […]

ทบ.ออกแถลงการณ์กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

30 ก.ค.- กองทัพบกออกแถลงการณ์ กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิงเป็นครั้งที่สอง บ่อนทำลายการคลี่คลายสถานการณ์ด้วยสันติวิธี ขอประณามการกระทำอันไม่รับผิดชอบ ย้ำจะดำเนินการอย่างเหมาะสม เด็ดขาด เพื่อปกป้องอธิปไตยไทย ตามที่รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาได้ตกลงร่วมกันในการประกาศหยุดยิง เพื่อยุติการปะทะทางทหารบริเวณแนวชายแดน โดยข้อตกลงดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 24.00 นาฬิกา ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 นั้น กองทัพบกขอยืนยันว่า ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด โดยได้ระงับการใช้กำลังทุกรูปแบบ และลดกิจกรรมทางทหารในพื้นที่ เพื่อเปิดโอกาสให้เกิดบรรยากาศแห่งสันติภาพ ความไว้เนื้อเชื่อใจ และความร่วมมือที่สร้างสรรค์ระหว่างทั้งสองประเทศ อย่างไรก็ตาม กองทัพบกได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ว่า ในวันที่ 29 – 30 กรกฎาคม 2568 กองทัพกัมพูชาได้กระทำการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอีกครั้ง โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ การกระทำของกองทัพกัมพูชาในครั้งนี้ ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอย่างร้ายแรง นับเป็นครั้งที่สองภายหลังจากที่ข้อตกลงมีผลบังคับใช้ และสะท้อนถึงพฤติกรรมที่ไม่เคารพต่อพันธกรณีระหว่างประเทศ ตลอดจนเป็นการบ่อนทำลายความพยายามในการคลี่คลายสถานการณ์ด้วยสันติวิธี อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพและความไว้วางใจที่ควรมีระหว่างสองประเทศ กองทัพบกขอประณามการกระทำอันไม่รับผิดชอบของกองทัพกัมพูชาอย่างถึงที่สุด และขอแจ้งให้ทราบว่า ฝ่ายไทยจะยังคงดำรงตนอยู่บนหลักแห่งความอดกลั้น สันติภาพ และมนุษยธรรมอย่างสูงสุด อย่างไรก็ดี หากมีการละเมิดต่อเนื่อง กองทัพบกจะดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสมและจำเป็นอย่างเด็ดขาด เพื่อปกป้องอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชนไทยโดยไม่ละเว้น จึงเรียนมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน -สำนักข่าวไทย