ปชน.เสียดายสภาฯ ถอนร่างกฎหมายเฆี่ยนตีเด็ก ทบทวนใหม่

รัฐสภา 25 ก.ย.-ปชน. เสียดายสภาฯ ถอนร่างกฎหมายเฆี่ยนตีเด็ก กลับไปทบทวนใหม่ “ณัฐวุฒิ” บอกเหมือนอภิปรายวนกลับไปวาระแรก ทั้งที่ฉลุยรับหลักการมาแล้ว ยันเนื้อหาไม่ขัดหลักการ รับอาจสื่อสารผิดพลาด ถ้อยคำไม่ชัดเจน ขอกลับไปเร่งทำการบ้านมาใหม่ เชื่อไม่ใช่เกมการเมือง มั่นใจดันเข้าสู่การพิจารณาทัน “วันเด็ก” ปีหน้า

นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) พร้อมคณะ แถลงกรณีที่ต้องถอนร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ที่กมธ.วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว ที่มีสาระสำคัญเกี่ยวกับความเสี่ยงในการเลี้ยงดูบุตรโดยมิชอบ จนเกิดความรุนแรงของผู้ปกครองที่กระทำต่อบุตร อันมาจากภาวะครอบครัวที่สับสนวุ่นวาย หรือมีปัญหาทางสังคม กลับไปทบทวนว่า เหตุผลมาจากการอภิปรายของสมาชิก มีการตั้งคำถามว่าการแก้ไขร่างฯฉบับนี้เป็นไปเพื่อเหตุใด ทำให้เหมือนกลับไปอภิปรายวาระแรกอีกครั้ง ทั้งที่วาระแรกทุกพรรค ลงมติรับหลักการจำนวน401เสียง เห็นด้วยกับการแก้ไขเรื่องสิทธิ์การลงโทษบุตรของผู้ปกครอง จะต้องไม่เปิดช่องให้พิจารณาโดยดุลยพินิจว่าการดำเนินการอย่างสมควรเป็นอย่างไร และต้องไม่เป็นทารุณกรรมที่ส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจ ซึ่งในชั้นกมธ.มีการปรับแก้แล้ว ยืนยันว่าเนื้อหาที่พิจารณาในวันนี้ไม่ขัดต่อหลักการ


นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีถ้อยคำ กมธ.มีการปรับแก้3ประเด็น 1.เพิ่มเรื่องการทำโทษ ที่แต่เดิมทำเพื่อว่ากล่าวสั่งสอน เปลี่ยนเป็นการทำเพื่อปรับพฤติกรรม ซึ่งเป็นคำเชิงบวก 2.เปลี่ยนคำว่าทารุณกรรม หรือทำร้าย เป็นคำว่าใช้ความรุนแรง ที่เป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก และ3.ปรับคำว่าด้อยค่า เป็นการกระทำโดยมิชอบ ยืนยันว่าเนื้อหาสาระยังเป็นคำที่สอดคล้อง มุ่งเน้นการสนับสนุนพ่อแม่ผู้ปกครอง ในการหาวิธีการที่เหมาะสม ในการทำโทษบุตร ไม่ใช่การที่ถูกกล่าวอ้างว่า ต่อไปนี้พ่อแม่ผู้ปกครอง จะไม่สามารถลงโทษหรือกระทำใดๆต่อบุตรได้ หรือไม่ใช่ที่ถูกกล่าวอ้างว่าจะนำไปสู่ความแตกแยกในครอบครัวจนถึงขั้นฟ้องร้องดำเนินคดีพ่อแม่ ทั้งหมดไม่มีประเด็นใดที่เกี่ยวข้องกับร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้

นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ขณะที่การเฆี่ยนตี กมธ.ไม่ได้ใส่คำเข้าไปใหม่ เป็นคำที่ปรากฎอยู่ในชั้นรับหลักการจากสภาฯวาระแรกอยู่แล้ว คำนี้มีความหมายอยู่ในตัวจึงสะท้อนถึงความรุนแรงในระดับหนึ่ง ซึ่งคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ที่ประเทศไทยกำลังจะขอมีที่นั่ง ได้ท้วงติงใหเระบุชัดเจนบ่าเป็นข้อห้ามในกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ได้หรือไม่ กมธ.ก็ยืนตามนั้น ดังนั้น เหตุผลทั้งหมดที่กล่าวมา จึงไม่มีเหตุผลที่วันนี้จะพิจารณาในลักษณะเพิกถอนหรือไม่เห็นด้วยในการผ่านวาระ 2-3 พรรคประชาชนตระหนักดีว่าอาจจะยังไม่สามารถสื่อสารได้มากพอ เข้าใจว่าสังคมมีความก้าวหน้า มีความเข้าใจเรื่องเหล่านี้มากยิ่งขึ้น ทุกคนมีความห่วงใยปัญหาดี หากมีทางเลือกก็จะไม่ใช่ความรุนแรง จึงเป็นข้อสะท้อนว่าการพิจารณาในสภาฯวันนี้ เสมือนยังมีความไม่เข้าใจจำนวนมาก


“ถือเป็นความผิดพลาดของพวกเรา เราต้องทำการบ้านให้หนักขึ้น เพื่อสื่อสารความเข้าใจที่ถูกต้องว่า แม้กฎหมายฉบับนี้จะเป็นของฝ่ายค้านเพียงพรรคเดียวฉบับเดียว ใน2สมัยประชุมที่ผ่านมา เราก็เสียดายที่ไม่มีกฎหมายของพรรคร่วมรัฐบาลมาประกบ แต่ไม่ควรนำเรื่องนี้มาเป็นประเด็นทางการเมือง ที่ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายฉบับนี้ ควรพิจารณาบนเนื้อหาสาระ หรือเป้าหมายที่เราประกาศมุ่งเน้นในการปกป้องคุ้มครองสิทธิเด็ก แต่คงต้องยอมรับ สิ่งที่สมาชิกท้วงติงในห้องประชุม จึงต้องถอนร่างออกไปเพื่อพิจารณาทบทวน จากนั้นทาง กมธ.จะมีการนัดประชุมอย่างเร่งด่วนในต้นสัปดาห์หน้า เพื่อปรับแก้ข้อทบทวนที่ถูกกล่าวอ้าง แล้วจะรีบส่งกลับเข้าสู่สภาฯ”

นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ในสมัยประชุมอีก1เดือนที่เหลืออยู่ เราขอความร่วมมือไปยังวิปรัฐบาล หากเห็นตรงกันว่ากฎหมายฉบับนี้ มีหลักประกันสำคัญในการคุ้มครองเด็ก ก็ควรถูกพิจารณาในสมัยประชุมนี้ ถ้าไม่ทันในสมัยประชุมนี้ คงต้องตั้งคำถามว่ามีกระบวนการผิดพลาดในสภาฯอย่างไร ถึงทำให้กฎหมายดีๆหลายฉบับต้องพิจารณาล่าช้า

เมื่อถามว่า มองว่าเป็นเหตุผลทางการเมืองมากกว่าการสื่อสารของพรรคประชาชนหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนไม่สามารถตอบแทนคนที่ไม่เห็นด้วยได้ การอภิปรายในสภาฯวันนี้เหมือนเป็นการอภิปรายย้อนกลับไปในวาระแรก แล้วทำไมจะต้องอภิปรายซ้ำในวาระ2 ตนคาดหวังว่าเวลาที่เราพูดถึงเป้าหมายทางการเมืองควรใช้กับเรื่องอื่น คงไม่เกี่ยวกับเรื่องเด็ก หรือครอบครัว ตนยังเชื่อมั่นจากการที่มีการสื่อสารกับพรรคการเมือง เขาอาจติดในเรื่องถ้อยคำที่ยังคลุมเครือจริงๆ เชื่อว่าไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่เสียดายที่ทำให้การบังคับใช้กฎหมายล่าช้าออกไป แต่ยังมั่นใจว่าจะพิจารณาได้ทันก่อนถึงวันเด็กแห่งชาติในปีหน้า.-312.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

“สุริยะ” นำ 14 รมต.ใหม่ เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ

3 ก.ค. – “สุริยะ” นำ 14 รมต.ใหม่ เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งใหม่ จำนวน 14 คน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนเข้ารับหน้าที่ .-สำนักข่าวไทย

ชื่นมื่น! 5 พรรคร่วมฝ่ายค้านประสานมือ ต้อนรับน้องใหม่ “ภท.”

รัฐสภา 3 ก.ค.- “พรรคร่วมฝ่ายค้าน” ชื่นมื่น ประสานมือ 5 พรรค ต้อนร้บน้องใหม่ “ภูมิใจไทย” ด้าน “ณัฐพงษ์” ถกแนวทางแสวงหาจุดร่วมเพื่อผลักดัน ย้ำ ไม่ก้าวก่ายจุดยืนข้อแตกต่าง “อนุทิน” ปลื้ม ถูกต้อนรับอบอุ่น ยัน พร้อมตรวจสอบรัฐบาลเต็มที่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุมแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านนัดแรก ภายหลังเปิดสมัยประชุมสภาฯ เพื่อหารือทิศทางการทำงาน โดยแกนนำแต่ละพรรคที่เข้าร่วม มีดังนี้ แกนนำพรรคประชาชน ประกอบด้วยนายณัฐพงษ์ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ กรรมการบริหารพรรค และนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรค แกนนำพรรคภูมิใจไทย ประกอบด้วยนายอนุทิน […]

14 รมต.ใหม่ เข้าทำเนียบถ่ายรูป ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ

ทำเนียบ 3 ก.ค.- ชื่นมื่น! 14 รมต.ใหม่ เข้าทำเนียบฯ ตั้งแต่ช่วงเช้า ถ่ายรูปทำบัตรประจำตัว ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ “อรรถกร” มาถึงคนแรก ปิดท้ายด้วย “นายกฯ แพทองธาร” เตรียมประชุม ครม. นัดพิเศษในช่วงบ่าย แบ่งงานรองนายกฯ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาล รัฐมนตรีใหม่ 14 คน ทยอยเดินทางมายังตึกสันติไมตรี เพื่อตรวจเอทีเค ถ่ายรูปทำบัตรประจำตัว ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ โดยเวลา 07.40 น. รัฐมนตรีที่เดินทางมาเป็นคนแรก คือ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรสหกรณ์ และ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จากนั้น นายชัยชนะ เดชเดโช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตามด้วย นายอนุชา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคเหนือ-อีสานตอนบน-ตะวันออก

กรุงเทพฯ 3 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน ภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดต่างๆ ตามที่ระบุไว้ในรายภาค ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนล่างและเวียดนามตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง […]