รมว.กต.เล็งดึงสหรัฐ-เกาหลีใต้-ญี่ปุ่นผ่านกลไก ”แม่โขง’

21 ก.ย.- รมว.กต.เล็งดึงสหรัฐ-เกาหลีใต้-ญี่ปุ่นผ่านกลไก ”แม่โขง” สนับสนุนองค์ความรู้แก้ปัญหาท่วม-แล้งซ้ำซากให้สัมฤทธิผล – พร้อมเผยผลคุยทูต 5 ประเทศกลุ่ม ACMECS เห็นพ้องแผนระยะสั้น-ยาวแก้ปัญหาลุ่มน้ำโขง ครอบคลุมน้ำท่วม-น้ำแล้ง


นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับเอกอัครราชทูตกลุ่มสมาชิกยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง: Ayeyawady-Chao Phraya-Mekong Economic Cooperation Strategy หรือ ACMECS (แอ็กเม็กส์) จำนวน 5 ประเทศประจำประเทศไทย ประกอบด้วย กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา เวียดนาม และไทย ที่กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อริ่เริ่มความร่วมมือเพื่อแก้ปัญหาอุทกภัยลุ่มน้ำโขง ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน ตามที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ แสวงหาความร่วมมือกับกลุ่มประเทศที่ได้รับผลกระทบต่อแม่น้ำโขงโดยเร็วที่สุดว่า ได้มีการพูดคุยถึงแผนระยะสั้น และระยะยาวในการแก้ปัญหาแม่น้ำโขง ทั้งจากภาวะน้ำท่วม และน้ำแล้งร่วมกัน

โดยแผนระยะสั้นนั้น นายมาริษ เปิดเผยว่า จะอยู่บนพื้นฐานการวางระบบเตือนภัย ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่สืบเนื่องจากอุทกภัยที่เกิดขึ้น และแม้แต่ละประเทศ จะมีความแตกต่างทางสภาพแวดล้อม และการพัฒนา แต่ก็จะต้องมั่นใจได้ว่า แผนการเตือนภัยนั้น จะต้องสอดรับกับทั้งประเทศไทย เมียนมา และประเทศเพื่อนบ้านอื่น ๆ ใช้กลไกลองค์กรระหว่างประเทศ 2 องค์กรที่มีอยู่แล้ว ได้แก่ สถาบันแม่โขง หรือ Mekong Institute ที่ตั้อยู่ในจังหวัดขอนแก่น และเกิดขึ้นมานานแล้ว แต่ยังไม่มีการพูดคุยถึงบทบาทเท่าใดนัก ทั้งที่มีองค์ความรู้ในการบริหารจัดการน้ำ ร่วมกับองค์กร Mekong River Commission หรือ MRC ซึ่งมีประเทศที่พัฒนาแล้วหลายประเทศเข้าร่วมเป็นสมาชิก และพร้อมให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา และจัดการแม่น้ำโขง โดยประเทศไทย จะรวบรวมองค์ความรู้เกี่ยวกับแม่น้ำโขงมาใช้ประโยชน์ เพื่อให้กลุ่มประเทศสมาชิกได้ประโยชน์ร่วมกัน


นายมาริษ ยังเปิดเผยแผนในระยะยาวว่า กระทรวงการต่างประเทศ จะรีบจัดการประชุมกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง โดยใช้กลไกที่ประเทศไทยมีอยู่แล้ว ได้แก่ ยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง: Ayeyawady-Chao Phraya-Mekong Economic Cooperation Strategy หรือ ACMECS (แอ็กเม็กส์) ที่ประเทศไทย เป็นประเทศผู้ริเริ่ม และเป็นประสานงานอยู่แล่ว มาใช้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยการเพิ่มบทบาท และความรับผิดชอบในการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งเอกอัครราชทูตประเทศสมาชิกในประเทศไทยทั้ง 4 ประเทศ ที่มาร่วมประชุมด้วยก็เห็นพ้องด้วย ซึ่งนอกจาก จะแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในระยะยาวแล้ว ยังจะต้องแก้ไขปัญหาน้ำแล้งด้วย โดยจะเรียกประชุมร่วมกันให้ได้โดยเร็วที่สุด เพื่อหาทางแก้ไขอย่างเป็นระบบที่ชัดเจน

นอกจากกลไก และองค์กรทั้ง สถาบันแม่โขง, MRC และแอ็กเม็กส์ แล้ว นายมาริษ ยังเปิดเผยว่า ยังมีกลไกความร่วมมืออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง: Mekong-Lancang Cooperation หรือ MLC ซึ่งมีประเทศจีนเป็นสมาชิกด้วย และยังมีกรอบความร่วมมือ แม่โขง- สหรัฐฯ, แม่โขง-ญี่ปุ่น และแม่โขง-เกาหลีใต้ มาใช้ เพื่อรับช่วงต่อในการนำเอาองค์ความรู้ของสถาบันแม่โขง และ MRC มาบูรณาการร่วมกันในการจัดการแม่น้ำโขง เพื่อนำไปสู่การทำความเข้าใจในการนำไปใช้ประโยชน์ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ ซึ่งทั้งสหรัฐอเมริกา, ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ก็พร้อมสนับสนุนองค์ความรู้ และจะนำไปสู่อีกจุดหนึ่ง ที่ประเทศเหล่านี้ สามารถให้ความช่วยเหลือกลุ่มประเทศแม่น้ำโขงในการวางโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อป้องกันอุทกภัยในอนาคตในระยะยาวด้วย หรือหากยังต้องการองค์ความรู้อื่น ๆ เพิ่มเติมจากกลไกความร่วมมือเหล่านี้ ประเทศไทย ก็พร้อมประสานกับเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นประเทศที่มีความโดดเด่นในการป้องกันระบบน้ำท่วม มาสนับสนุนองค์ความรู้ในการบริหารจัดการครั้งนี้ด้วย

นายมาริษ ยังเปิดเผยอีกว่า ภายหลังการประชุมร่วมกับเอกอัครราชทูตกลุ่มประเทศ ACMECS (แอ็กเม็กส์) เสร็จสิ้น ตนเองได้มีโอกาส โทรศัพท์พูดคุยกับนายสะเหลิมไซ กมมะสิด รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ สปป.ลาว เพื่อพูดคุยถึงการแก้ไขปัญหา และการจัดการอุทกภัย และสถานการณ์แม่น้ำโขง ซึ่งทั้งไทย และ สปป.ลาว ต่างมีความห่วงกังวลต่อสถานการณ์อุทกภัยรุนแรงที่เกิดขึ้น เพราะส่งผลกระทบต่อทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งฝ่าย สปป.ลาว ได้ตอบรับ และพร้อมส่งเสริมความร่วมมือให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้นในระดับทวิภาคี และใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากกรอบความร่วมมือเกี่ยวกับอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถ ในการป้องกันผลกระทบจากภัยพิบัติ และการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน และในระยะสั้น สปป.ลาวพร้อมที่จะขยายการติดตั้งโทรมาตรวัดน้ำไปยังลำน้ำสาขา พร้อมซ่อมแซมในส่วนที่เสียหายจากน้ำท่วม ในระยะยาวนั้น ฝ่าย สปป.ลาว พร้อมที่จะประสาน และบูรณาการข้อมูลกับฝ่ายไทย เพื่อให้เกิดระบบการเตือนฉุกเฉินในภาพใหญ่ด้วย ดังนั้น จึงมั่นใจว่า ความร่วมมือในระดับทวิภาคีนี้ จะเป็นตัวเสริมให้ความร่วมมือในระดับอนุภูมิภาคให้แข็งแรงยิ่งขึ้นด้วย


นายมาริษ ยังเปิดเผยอีกว่า หลังจากนี้ตนเอง จะหารือกับผู้นำของเวียดนาม และกัมพูชาต่อไปด้วย ซึ่งในการพูดคุยดังกล่าวที่เกิดขึ้น นอกเหนือจากการแก้ไขปัญหาแม่น้ำโขงแล้ ตนเองยังได้ นำเสนอเรื่องอื่น ๆ ในการแก้ไขปัญหาพรมแดนร่วมกันด้วย ทั้งการแก้ไขปัญหายาเสพติด, การค้ามนุษย์, แก๊งส์คอลเซ็นเตอร์ และฝุ่น PM2.5 เป็นต้น .313.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก