“วราวุธ” ลงพื้นที่เชียงราย-เชียงใหม่ เยียวยากลุ่มเปราะบาง

21 ก.ย. – “วราวุธ” นำทีม พม. จับมือ “มท.1-มท.4” ลงพื้นที่เชียงราย-เชียงใหม่ ฟื้นฟูเยียวยา กลุ่มเปราะบาง


นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมด้วย นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมคณะของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งประกอบด้วย นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล โฆษกกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจติดตามและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในการฟื้นฟูช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงราย 4 จุด ได้แก่ จุดที่ 1 เทศบาลตำบลแม่อาย ต.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เพื่อร่วมกิจกรรม Big Cleaning จุดที่ 2 บ้านใหม่หมอกจ๋าม ต.แม่อาย อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เยี่ยมให้กำลังใจศูนย์บริการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า จุดที่ 3 วัดเหมืองแดง เทศบาลตำบลแม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย เยี่ยมให้กำลังใจประชาชนในพื้นที่ที่ประสบภัย และจุดที่ 4 ชุมชนป่าแดง ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย เพื่อตรวจเยี่ยมการกู้คืนระบบประปา ไฟฟ้า และระบบการระบายน้ำในเขตเทศบาลนครเชียงราย

นายวราวุธ กล่าวว่าจากรายงานเรื่องการบริหารจัดการสถานการณ์ภัยพิบัติ กระทรวง พม. พบว่ามีกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ 8,870 ครัวเรือน 15,116 ราย แบ่งเป็น เด็ก 3,845 ราย เยาวชน 681 ราย คนพิการ 986 ราย ผู้สูงอายุ 8,780 ราย และผู้มีรายได้น้อย 824 ราย ขณะนี้กระทรวง พม.ได้เข้าให้การช่วยเหลือแล้ว 1,325 ราย โดยในส่วนของกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติในพื้นที่อำเภอฝางและแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่นั้น มีจำนวน 13,611 ราย แบ่งเป็น เด็กเล็ก 3,845 รายคนพิการ 986 ราย และผู้สูงอายุ 8,780 ราย


ทั้งนี้ ทีม พม.หนึ่งเดียว จังหวัดเชียงใหม่ ได้ทำงานร่วมกับภาคีเครือข่าย ให้ความช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ผู้ประสบภัยพิบัติพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และจัดทำข้อมูลผู้ประสบภัยน้ำท่วม ดินถล่ม ในพื้นที่อำเภอฝาง 50 ครอบครัว อำเภอแม่อาย 100 ครอบครัว เพื่อช่วยเหลือครอบครัวละ 3,000 บาท ภายใน 30 กันยายน 2567 และส่งมอบเสื้อผ้า ถุงยังชีพ จากสมาคมคนตาบอดให้แก่ผู้ประสบภัยพิบัติ พร้อมเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาล และเยี่ยมบ้านครอบครัวผู้เสียชีวิต รวม 9 ราย

นายวราวุธ ยังกล่าวว่า ศูนย์ปฏิบัติการ ศรส. พม. รายงานเรื่องการบริหารจัดการสถานการณ์ภัยพิบัติ กระทรวง พม. พบว่า มีกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติในพื้นที่จังหวัดเชียงราย 1,993 ครัวเรือน 3,716 ราย แบ่งเป็น เด็ก 390 ราย คนพิการ 353 ราย ผู้สูงอายุ 1,741 ราย ผู้ป่วยติดเตียง 54 ราย และผู้มีรายได้น้อย 678 ราย ซึ่งขณะนี้ กระทรวง พม.ได้เข้าให้การช่วยเหลือแล้ว 1,712 ราย ทีม พม.หนึ่งเดียวจังหวัดเชียงราย ได้ทำงานร่วมกับภาคีเครือข่าย จุดบริการประชาชนให้คำปรึกษา ความช่วยเหลือตามสิทธิของกลุ่มเปราะบาง

สำหรับการฟื้นฟูและเยียวยาผู้ประสบภัยของกระทรวง พม. ประกอบด้วย 1. ประเภทการสงเคราะห์ (เงินสงเคราะห์) ได้แก่ เงินอุดหนุนเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมกรณีฉุกเฉิน เป็นเงินหรือสิ่งของไม่เกิน 3,000 บาทต่อครอบครัว การสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและไร้ที่พึ่ง ช่วยเหลือเป็นเงินหรือสิ่งของ 3,000 บาทต่อครอบครัว ตามหลักเกณฑ์ เงินสงเคราะห์และฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ ช่วยเหลือเป็นเงินหรือสิ่งของ 3,000 บาทต่อครอบครัว ตามหลักเกณฑ์ เงินอุดหนุนผู้สูงอายุประสบภาวะยากลำบาก ช่วยเหลือเป็นเงินหรือสิ่งของ 3,000 บาทต่อครอบครัว ตามหลักเกณฑ์ การคุ้มครอง การส่งเสริมและสนับสนุนการจัดที่พักอาศัย อาหารและเครื่องนุ่งห่มให้ผู้สูงอายุตามความจำเป็นอย่างทั่วถึง หรือเข้ารับบริการหรืออุปการะในศูนย์บริการผู้สูงอายุ สถานสงเคราะห์ เรื่องอาหารและเครื่องนุ่งห่ม 3,000 บาทต่อคน การสงเคราะห์เด็กในครอบครัวยากจน ช่วยเหลือเป็นเงิน 1,000-3,000 บาทต่อครอบครัว ตามหลักเกณฑ์ การสงเคราะห์เด็กแบบครอบครัวอุปถัมภ์ ช่วยเหลือเป็นเงินค่าเลี้ยงดูเด็ก 2,000-4,000 บาทต่อเดือน ตามหลักเกณฑ์หรือช่วยเหลือเป็นสิ่งของ 500-1,000 บาท ตามหลักเกณฑ์ เงินสนับสนุนจากกองทุนคุ้มครองเด็ก เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับกายอุปกรณ์ กรณีเด็กพิการ ค่าเครื่องอุปโภคบริโภคสำหรับเด็ก และการสงเคราะห์เด็กแบบครอบครัวอุปถัมภ์ โดยวงเงินการช่วยเหลือแล้วแต่กรณีตามหลักเกณฑ์ เงินสงเคราะห์สตรีและครอบครัวเฉพาะกรณีสตรีที่ผ่านการฝึกอาชีพ ช่วยเหลือเป็นเงินไม่เกิน 3,000 บาทต่อครอบครัว


2.ประเภทบริการปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย การปรับสภาพแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกของผู้สูงอายุหลังละไม่เกิน 40,000 บาท การปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยสำหรับคนพิการหลังละไม่เกิน 40,000 บาท โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชั่วคราว กรณีภัยพิบัติของ พอช. ช่วยเหลือกลุ่มผู้ด้อยโอกาสไม่เกิน 18,000 บาทต่อครัวเรือน และ 3.ประเภทบริการให้เงินกู้ยืม กองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการชำระชำระคืนภายใน 5 ปี ไม่มีดอกเบี้ย รายบุคคลรายละไม่เกิน 60,000 บาท รายกลุ่มกลุ่มละไม่เกินหนึ่งล้านบาท กองทุนผู้สูงอายุชำระคืนภายใน 3 ปี ไม่มีดอกเบี้ย รายบุคคลรายละไม่เกิน 30,000 บาท .-314-สำนักข่าวไทย

    ดูข่าวเพิ่มเติม

    Top Viewed • อ่านมากสุด

    ดูทั้งหมด

    ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

    กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

    ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

    กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

    “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

    บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

    บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

    กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

    ข่าวแนะนำ

    ปิดล้อมกว่า 8 ชม. จับหนุ่มคลั่งควงปืนสงครามขู่ยิง ตร.

    ศรีสะเกษ 17 ก.ย. – พ่อค้ายาเสพติดคลุ้มคลั่ง ควงปืนสงคราม AK-47 ขู่ยิงเจ้าหน้าที่ หลังถูกชุดปฏิบัติการ 238 พิทักษ์นครลำดวน สนธิกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบ้านเป้าหมายพื้นที่ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ เกลี้ยกล่อมนานกว่า 8 ชั่วโมง สุดท้ายทนแรงกดดันไม่ไหว ยอมวางอาวุธมอบตัวแต่โดยดี เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อมนายวีระศักดิ์ อายุ 35 ปี มีประวัติพัวพันการค้ายาเสพติด ครอบครองอาวุธสงคราม และยังเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งวิ่งเข้าไปหลบภายในบ้าน ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ หลังตำรวจแสดงตัวเข้าตรวจค้น เพราะได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ มีพฤติกรรมอุกอาจ แต่นายวีระศักดิ์กลับวิ่งไปหยิบอาวุธปืนสงคราม AK-47 ออกมาขู่เจ้าหน้าที่ พร้อมตะโกนด้วยเสียงดุดันว่าถ้าเข้ามาจะยิง จากนั้นรีบหลบกลับเข้าไปในบ้าน เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบริเวณโดยรอบอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันเหตุร้าย บรรยากาศตึงเครียด เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อม ทั้งให้พ่อแม่และญาติสื่อสารทางโทรศัพท์ หวังให้ผู้ต้องหายอมมอบตัวแต่ไม่เป็นผล เนื่องจากนายวีระศักดิ์ยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาบ้า ถือปืนพร้อมยิงตลอดเวลา นานกว่า 8 ชั่วโมง […]

    ช่องโดนเอาว์เจอ PMN-2 อีก 8 ทุ่น ทบ.ชี้เขมรยังละเมิดข้อตกลง

    17 ก.ย.- ทบ. แจงตรวจพบ PMN-2 เพิ่มเติมอีก 8 ทุ่นบริเวณช่องโดนเอาว์ จ.ศรีสะเกษ ชี้กัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ย้ำควรรับผิดชอบและร่วมแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจ วันนี้ (17 ก.ย.68) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่ากองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ภายหลังจากที่กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 132 ฐานปฏิบัติการชนะศึก ได้ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อเสริมภารกิจด้านความมั่นคงในพื้นที่ช่องโดนเอาว์ ฐานปฏิบัติการชนะศึก อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ วานนี้ (16 ก.ย.68) โดยได้ตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN-2 จำนวน 8 ลูก มีสภาพใหม่ ติดตั้งในลักษณะพร้อมทำงาน ซึ่งทางหน่วยได้ทำการเก็บกู้รื้อถอนและนำเก็บเพื่อรอการทำลายเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการตรวจพบระเบิดดังกล่าว เป็นเครื่องยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชายังคงมีความพยายามอย่างไม่ลดละในการใช้อาวุธต่อกำลังของฝ่ายไทย ซึ่งถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน และเป็นพฤติกรรมที่สวนทางกับข้อตกลงที่กัมพูชาได้ให้ไว้ในที่ประชุม GBC เมื่อวันที่ 10 ส.ค.68 ที่ผ่านมา ในเรื่องความร่วมมือที่จะดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งจากนี้กองทัพบกจะนำหลักฐานที่ได้ตรวจพบทั้งหมดในพื้นที่ รวบรวมนำส่งให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อร้องเรียนตามกระบวนการในเวทีสากลต่างๆ ต่อไป รวมทั้งขอความร่วมมือกัมพูชา […]

    ไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เขมรป่วนไม่เลิก

    17 ก.ย.- เปิดไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง หลังชาวเขมรชุมนุมประท้วง ก่อความวุ่นวาย ล่าสุดสถานการณ์ทั่วไปอยู่ในความควบคุม แต่กลุ่มชาวกัมพูชายังคงปักหลักใกล้แนวชายแดน.-สำนักข่าวไทย

    ทำเนียบฯ เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่

    ทำเนียบ 17 ก.ย.- ทำเนียบรัฐบาล เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่ ถ่ายรูปติดบัตร ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับถ่ายรูปติดบัตรประจำตัวของคณะรัฐมนตรี ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน และยังมีการตัดแต่งต้นไม้ บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล และตัดหญ้าด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการถ่ายรูปหมู่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวที่ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเป็นห้องทำงานของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา และวันนี้มีการส่งทีมงานเข้ามาดูห้องทำงานภายในตึกบัญชาการ 1 ด้วย สำหรับตำแหน่งว่าที่รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลอนุทิน มีชื่อทั้งหมด 7 คน ได้แก่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี และนายโสภณ​ ​ซา​รัมย์​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​ ขณะที่ตำแหน่งว่าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี […]