“วราวุธ” ลงพื้นที่เชียงราย-เชียงใหม่ เยียวยากลุ่มเปราะบาง

21 ก.ย. – “วราวุธ” นำทีม พม. จับมือ “มท.1-มท.4” ลงพื้นที่เชียงราย-เชียงใหม่ ฟื้นฟูเยียวยา กลุ่มเปราะบาง


นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมด้วย นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมคณะของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งประกอบด้วย นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล โฆษกกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจติดตามและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในการฟื้นฟูช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงราย 4 จุด ได้แก่ จุดที่ 1 เทศบาลตำบลแม่อาย ต.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เพื่อร่วมกิจกรรม Big Cleaning จุดที่ 2 บ้านใหม่หมอกจ๋าม ต.แม่อาย อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เยี่ยมให้กำลังใจศูนย์บริการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า จุดที่ 3 วัดเหมืองแดง เทศบาลตำบลแม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย เยี่ยมให้กำลังใจประชาชนในพื้นที่ที่ประสบภัย และจุดที่ 4 ชุมชนป่าแดง ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย เพื่อตรวจเยี่ยมการกู้คืนระบบประปา ไฟฟ้า และระบบการระบายน้ำในเขตเทศบาลนครเชียงราย

นายวราวุธ กล่าวว่าจากรายงานเรื่องการบริหารจัดการสถานการณ์ภัยพิบัติ กระทรวง พม. พบว่ามีกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ 8,870 ครัวเรือน 15,116 ราย แบ่งเป็น เด็ก 3,845 ราย เยาวชน 681 ราย คนพิการ 986 ราย ผู้สูงอายุ 8,780 ราย และผู้มีรายได้น้อย 824 ราย ขณะนี้กระทรวง พม.ได้เข้าให้การช่วยเหลือแล้ว 1,325 ราย โดยในส่วนของกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติในพื้นที่อำเภอฝางและแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่นั้น มีจำนวน 13,611 ราย แบ่งเป็น เด็กเล็ก 3,845 รายคนพิการ 986 ราย และผู้สูงอายุ 8,780 ราย


ทั้งนี้ ทีม พม.หนึ่งเดียว จังหวัดเชียงใหม่ ได้ทำงานร่วมกับภาคีเครือข่าย ให้ความช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ผู้ประสบภัยพิบัติพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และจัดทำข้อมูลผู้ประสบภัยน้ำท่วม ดินถล่ม ในพื้นที่อำเภอฝาง 50 ครอบครัว อำเภอแม่อาย 100 ครอบครัว เพื่อช่วยเหลือครอบครัวละ 3,000 บาท ภายใน 30 กันยายน 2567 และส่งมอบเสื้อผ้า ถุงยังชีพ จากสมาคมคนตาบอดให้แก่ผู้ประสบภัยพิบัติ พร้อมเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาล และเยี่ยมบ้านครอบครัวผู้เสียชีวิต รวม 9 ราย

นายวราวุธ ยังกล่าวว่า ศูนย์ปฏิบัติการ ศรส. พม. รายงานเรื่องการบริหารจัดการสถานการณ์ภัยพิบัติ กระทรวง พม. พบว่า มีกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติในพื้นที่จังหวัดเชียงราย 1,993 ครัวเรือน 3,716 ราย แบ่งเป็น เด็ก 390 ราย คนพิการ 353 ราย ผู้สูงอายุ 1,741 ราย ผู้ป่วยติดเตียง 54 ราย และผู้มีรายได้น้อย 678 ราย ซึ่งขณะนี้ กระทรวง พม.ได้เข้าให้การช่วยเหลือแล้ว 1,712 ราย ทีม พม.หนึ่งเดียวจังหวัดเชียงราย ได้ทำงานร่วมกับภาคีเครือข่าย จุดบริการประชาชนให้คำปรึกษา ความช่วยเหลือตามสิทธิของกลุ่มเปราะบาง

สำหรับการฟื้นฟูและเยียวยาผู้ประสบภัยของกระทรวง พม. ประกอบด้วย 1. ประเภทการสงเคราะห์ (เงินสงเคราะห์) ได้แก่ เงินอุดหนุนเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมกรณีฉุกเฉิน เป็นเงินหรือสิ่งของไม่เกิน 3,000 บาทต่อครอบครัว การสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและไร้ที่พึ่ง ช่วยเหลือเป็นเงินหรือสิ่งของ 3,000 บาทต่อครอบครัว ตามหลักเกณฑ์ เงินสงเคราะห์และฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ ช่วยเหลือเป็นเงินหรือสิ่งของ 3,000 บาทต่อครอบครัว ตามหลักเกณฑ์ เงินอุดหนุนผู้สูงอายุประสบภาวะยากลำบาก ช่วยเหลือเป็นเงินหรือสิ่งของ 3,000 บาทต่อครอบครัว ตามหลักเกณฑ์ การคุ้มครอง การส่งเสริมและสนับสนุนการจัดที่พักอาศัย อาหารและเครื่องนุ่งห่มให้ผู้สูงอายุตามความจำเป็นอย่างทั่วถึง หรือเข้ารับบริการหรืออุปการะในศูนย์บริการผู้สูงอายุ สถานสงเคราะห์ เรื่องอาหารและเครื่องนุ่งห่ม 3,000 บาทต่อคน การสงเคราะห์เด็กในครอบครัวยากจน ช่วยเหลือเป็นเงิน 1,000-3,000 บาทต่อครอบครัว ตามหลักเกณฑ์ การสงเคราะห์เด็กแบบครอบครัวอุปถัมภ์ ช่วยเหลือเป็นเงินค่าเลี้ยงดูเด็ก 2,000-4,000 บาทต่อเดือน ตามหลักเกณฑ์หรือช่วยเหลือเป็นสิ่งของ 500-1,000 บาท ตามหลักเกณฑ์ เงินสนับสนุนจากกองทุนคุ้มครองเด็ก เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับกายอุปกรณ์ กรณีเด็กพิการ ค่าเครื่องอุปโภคบริโภคสำหรับเด็ก และการสงเคราะห์เด็กแบบครอบครัวอุปถัมภ์ โดยวงเงินการช่วยเหลือแล้วแต่กรณีตามหลักเกณฑ์ เงินสงเคราะห์สตรีและครอบครัวเฉพาะกรณีสตรีที่ผ่านการฝึกอาชีพ ช่วยเหลือเป็นเงินไม่เกิน 3,000 บาทต่อครอบครัว


2.ประเภทบริการปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย การปรับสภาพแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกของผู้สูงอายุหลังละไม่เกิน 40,000 บาท การปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยสำหรับคนพิการหลังละไม่เกิน 40,000 บาท โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชั่วคราว กรณีภัยพิบัติของ พอช. ช่วยเหลือกลุ่มผู้ด้อยโอกาสไม่เกิน 18,000 บาทต่อครัวเรือน และ 3.ประเภทบริการให้เงินกู้ยืม กองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการชำระชำระคืนภายใน 5 ปี ไม่มีดอกเบี้ย รายบุคคลรายละไม่เกิน 60,000 บาท รายกลุ่มกลุ่มละไม่เกินหนึ่งล้านบาท กองทุนผู้สูงอายุชำระคืนภายใน 3 ปี ไม่มีดอกเบี้ย รายบุคคลรายละไม่เกิน 30,000 บาท .-314-สำนักข่าวไทย

    ดูข่าวเพิ่มเติม

    Top Viewed • อ่านมากสุด

    ดูทั้งหมด

    ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

    26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

    ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

    ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

    “แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

    กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

    ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

    ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

    ข่าวแนะนำ

    อุตุฯ เผยภาคเหนือฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 40%

    กรุงเทพฯ 28 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย และน่าน ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 40% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย และน่าน ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา ตอนบนของภาคเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาว และเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน มีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ […]

    กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

    สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

    ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

    เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

    “มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

    สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]